รีวิวการท่องเที่ยวสำหรับหน้าหนาวนี้กันหน่อย เริ่มเล่ากันตั้งแต่เดินทางเลย go go go
เมื่อวันที่ 13-16 พ.ย.58 ได้มีโอกาสไปเที่ยวน้ำตกทีลอซูกับรีสอร์ท อุ้งผาง คันทรี่ ฮัท พวกเราไปกันทั้งหมด 9คน ทางรีสอร์ทเอารถตู้วีไอพีมารับที่บริษัทเลยค่ะ รถออกประมาณ สามทุ่ม คนขับรถตู้ชื่อพี่อ้วน แกบอกว่าทำกับรีสอร์ทมานานแล้วเปลี่ยนรถมาหลายคัน คุยว่าชำนาญเส้นทางอุ้งผางมากๆ แต่ดูจากอายุแกก็คงอย่างที่แกว่านั่นแหละ ระหว่างทางแกก็จะคุยโน่นนั่นเนี่ยเกี่ยวกับอุ้งผางให้เราฟังตลอดเส้นทาง เหมือนเป็นเพื่อนแกตอนขับรถจนเราหลับแล้วหลับอีกก็ยังไม่ถึงที่หมายสักที จนกระทั่งเช้าตรู่สักเจ็ดโมงเช้า พี่อ้วนบอกถึงแล้ว "อุ้งผาง" พวกเรางัวเงียตื่นขึ้นมา แกบอกให้เราเที่ยวตลาดเช้าที่อุ้งผาง หาอาหารเช้าทานกันแบบ ง่ายๆ ตามอัธยาศรัย หลังจากนั้นเดินทางต่อสักแปดโมงกว่าๆ ถึงที่พัก "อุ้งผาง คันทรี่ ฮัท" พอรถจอดมีน้องๆ มาต้อนรับพาไปเข้าห้องพักโดยแบ่งให้เรานอน 3ห้อง ห้องละ 3คน ห้องพักติดลำธาร บรรยากาศเป็นธรรมชาติ ถึงห้องแล้วขอนอนเอาแรงก่อนจะไปเที่ยวต่อ ประมาณเที่ยงๆ มีน้องมาเคาะห้องเรียกว่า "พี่ๆ ไปกินข้าวเที่ยงกัน" และแนะนำตัวเองว่าเป็นไกด์ท้องถิ่นชื่อน้องวัน จะพาเราไปเที่ยวตลอดที่อยู่ที่นี่ อาหารเที่ยงก็มี ต้มยำไก่ + ไข่เจียว + ผักกูดน้ำมันหอย + ผัดเปรี้ยวหวาน เข้าตั้งโต๊ะให้เรา 2วง หลังอาหารเที่ยงบ่ายกว่าๆ พาพวกเรานั่งสองแถวมีหลังคาไปเที่ยวถ้ำตะโค๊ะบิ๊ ไกด์บอกให้เตรียมไฟฉายไปด้วย ถ้ำเป็นถ้ำโล่งๆ อากาศเย็นสบายไกด์บรรยายว่าเคยเป็นที่หลบซ่อนตัวของพวกพรรคคอมมูนิสต์ในอดีต จากนั้นนั่งรถต่อไปวัดหนองหลวงไปดูโบสถไม้สักทอง พวกเราได้มาร่วมทำบุญกับวัดนี้ด้วยค่ะ จากนั้นพาเรามาดูวิถีชีวิตของคนอุ้งผาง เราสังเกตุเห็นคนท้องถิ่นที่นี่จะเป็นกระเหรี่ยงเสียส่วนใหญ่เพราะบางทีคุยกับเราไม่รู้เรื่องเลยค่ะ ของส่วนใหญ่จะถูกมากๆ เลยค่ะ เราได้กล้วยน้ำมา 2หวีๆ ละ 10บาทและกล้วยทอดขอบอกว่าอร่อยมากๆ ค่ะ
เที่ยวจนเย็นสักห้าโมงเย็นก็กลับรีสอร์ทถึงรีสอร์ท ไกด์วันบอกทานอาหารเย็นทุ่มตรงนะครับ มีการแสดงของชาวเขาเผ่ากระเหรี่ยงให้ดูระหว่างทานข้าวด้วย
อาหารเย็นตั้งโต๊ะให้เหมือนเดิมมีกับข้าว 5อย่างแถมผลไม้ให้ด้วย หลังอาหารเย็นทางรีสอร์ทบอกว่าใครจะร้องคาราโอเกะก็เชิญแต่มีเวลาให้ถึงสี่ทุ่มเพื่อให้ทุกคนได้พักผ่อนเตรียมตัวเที่ยวต่อในวันรุ่งขึ้น แต่กลุ่มของเราขอสละสิทธิ์ไปนอนเอาแรงดีกว่า
เช้ารุ่งขึ้น กินอาหารเช้ากันเป็นข้าวต้มขาวมีกับข้าวกุนเชียงทอด+ผัดผักบุ้ง+ปลาเล็กปลาน้อย+ยำผักกาด+ไข่เจียว ตบท้ายด้วยกาแฟ  สักแปดโมงพวกเราก็ล่องเรือยางจากรีสอร์ทเลย ขอบอกประทับใจมากๆๆ สวยสุดๆ เลยค่ะ เขาแวะให้ถ่ายรูปน้ำตก ทีลอจ่อ มีรุ้งกินน้ำด้วย แวะบ่อน้ำร้อนเป็นบ่อเล็กๆ เราสามารถลงแช่มือแช่เท้าได้ ตรงนี้มีชาวบ้านมาขายของด้วยเราได้ซื้อเสบียงตุนที่นี่กัน มีห้องน้ำให้เราได้ใช้ด้วยค่ะ แล้วเราก็นั่งชมธรรมชาติไปเรื่อยๆ เจอพันธุ์ไม้เยอะมากๆเลยค่ะ นถึงผาเลือดไกด์วัน บอกให้เราขึ้นจากเรือไปต่อรถเข้าน้ำตกทีลอซู รถที่เรานั่งเป็นรถสองแถวนั่งสัก40นาที ถึงที่ทำการน้ำตกทีลอซู ไกด์บอกให้เรากินข้าวเที่ยงที่นี่ก่อนเข้าน้ำตกทีลอซู มือนี้เป็นข้าวกล่องค่ะ จากนั้นเดินเท้าเข้าน้ำตกประมาณกิโลกว่าๆ สัก20นาที เราก็ถึงน้ำตก ทีลอซูแล้วค่ะ ขอบอกว่าอลังการณ์มากๆ ไม่ผิดผวังเลยค่ะพวกเราได้เล่นน้ำตกและไกด์วันใจดีพาพวกเราลุยจนถึงชั้นบนสุดเขาบอกน้อยคนนักที่จะได้มาถึงที่นี่
เราอยู่ที่น้ำตกจนเย็นแล้วนั่งรถกลับมานอนที่รีสอร์ท ถึงรีสอร์ทเกือบมืดเลยทางกลับค่อนข้างลำบากมากๆๆๆ หลังจากอาบน้ำเสร็จเราก็มาทานข้าวเย็นกันขอบอกมื้อนี้อร่อยมากๆ โดยเฉพาะน้ำพริกอ่องกับต้มฝักหอม พวกเราเติมน้ำพริกอ่องไปหลายรอยเลย คืนนี้พวกเรานอนหลับสลบไสลเลยประมาณตีห้าครึ่งไกด์วันบอกให้เตรียมไฟฉายไปดอยหัวหมดนั่งรถสองแถวคันเดิมไป นั่งไปสักครึ่งชั่วโมงถึงแล้วดอยหัวหมดเดินขึ้นไปอีกนิดหน่อยไกด์วันบอกพวกเราต่อว่าดอยหัวหมดที่นิยมขึ้นไปดูมีหลายจุดมีทั้งยากและง่าย พวกเราบอกขอแบบง่ายๆ ก็แล้วกันตั้งแต่ดูหมอกที่อื่นมาหลายที่แล้วที่อุ้งผางสวยมากๆ เลยค่ะ พวกเรารอจนพระอาทิตย์ขึ้นแล้วจึงกลับที่รีสอร์ท มื้อเช้าเขาบริการข้าวต้มหมู+ปาท่องโก๋+ขนมพื้นเมือง+กาแฟ หลังจากนั้นพวกเรารีบเตรียมตัวกลับแม่สอดไปเที่ยวน้ำตกพาเจริญ ตลาดริมเมยและวัดไทยวัฒนาราม พวกเราถึงกรุงเทพประมาณห้าทุ่มค่ะ
ขอบอกว่าคุ้มค่ามากๆ เลยค่ะสำหรับทริปนี้ พวกเราจ่ายไปคนละ 3,900บาท มาดูรูปถ่ายรีวิวกันดีกว่า