พระอาจารย์เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
...
เหมือนอย่างคนทำผิดกฎหมายแล้วก็ฟ้องร้องศาลตัดสินติดคุกติดตะราง
ก็ได้ไปอยู่ในที่จำกัดแหละ นอนก็ไม่ได้นอนดี นั่งก็ไม่ได้นั่งดีแล้ว
เขาใช้ทำการทำงานอยู่อย่างนั้นแหละ ถ้าทำไม่ดีไปเขาก็ทุบเอาตีเอาอย่างนี้
ตนเองไม่มีอิสระอะไรเลย ไปฟ้องร้องกับใครก็ไม่ได้เพราะตนเป็นนักโทษ
ไอ้ผู้ทำบาปทำกรรมใส่ตัวเองแล้ว บาปกรรมมันก็บังคับให้อยู่ในที่จำกัด
ก็อย่างคนคุกคนตะรางนั่นแหละ อย่างที่ "พระพุทธเจ้า" กล่าวไว้ว่า
สัตว์ที่ไปตกนรกนะเหมือนกับข้าวสารยัดไถ้*
ข้าวสารยัดไถ้นั้นมันเป็นยังไงอะ เอ้า มันก็ยัดเยียดกันอยู่แล้
สัตว์นรกก็เป็นเช่นนั้นตามว่านะ เมื่อไปตกนรกแล้วมันก็ไปยัดเยียดอยู่
แออัดกันอยู่ในนรกนั้นน่ะมันมากต่อมาก
เพราะว่าทั่วโลกนี้นะทำบาปทุกวั๊น..ทุกวัน น่ะลองคิดเฉลี่ยดู
ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม กล่าวมุสาวาท
ดื่มสุราเมรัยอย่างนี้ทุกวันเลยนะ จะไม่ทุกวันยังไงเล่า
ฆ่าสัตว์ขาย ชำแหละเนื้อมันขายให้คนซื้อไปกินหมู่นั้น
พวกที่ลักฆ่าโดยผิดกฎหมายก็มี แล้วฆ่าโดยถูกกฎหมาย
เช่น ชาวประมงหมู่นี้ แล้วชาวประมงแล้วก็พวกพรานล่าเนื้อในป่าหมู่นี้
มันมีอยู่อย่างนั้น เรียกว่า มนุษย์ทำบาปอยู่ตลอด ๒๔ ชั่วโมงก็แล้วกันแหละ
ถ้าคิดถัวทั่วโลกนี้แล้วนะ บัดนี้พวกทำบาปเหล่านั้นหมดอายุ
ก็ตายทุกนาทีไปเลย นี่ไม่ใช่ตายชั่วโมงนะ ตายทุกนาที ทั่วโลกนี้นะ
คิดถัวเป็นนาทีเข้าไปแล้วเป็นเวลาเข้าไปแล้วนะ
แล้วจะไม่ให้มันไปแออัดอยู่ในนรกยังไงเล่า มันมากต่อมาก
หลายต่อล้น
ให้พากันพิจารณาดู ให้เกิดความสังเวชสลดใจ
ถ้ามันไม่เกิดความสังเวชสลดใจ มันไม่เบื่อไม่หน่าย
ต่อบาปกรรมเหล่านั้นหรอก มันไม่ละ...เรื่องมันน่ะ
แต่บางคนก็อาจไม่เชื่อก็ได้แหละ
เฮ้อ หาเอาปั้นเรื่องเอาดอกเพื่อไม่ให้คนทำความชั่ว
ในปัจจุบันนี้เท่านั้นแหละ ไปโลกหน้าแล้วมันไม่มีหรอกอย่างที่ว่า
บางคนก็อาจจะพูดไปอย่างนั้นแหละ
ผู้พูดเช่นนั้นก็แสดงว่า ไม่เคารพในพระพุทธเจ้า
ไม่เคารพในพระธรรมคำสอนของพระองค์
ไม่เคารพในพระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า
ที่นำเอาคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้ามาถ่ายทอด
ให้พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ผู้เช่นนั้นน่ะไม่เคารพไม่นับถือ
เพราะฉะนั้นจึงไม่เชื่อเรื่องนรก เรื่องสวรรค์
...
*ไถ้ หมายถึง ถุงยาวๆ ใช้คาดเอว สำหรับใส่เงินหรือสิ่งของ
ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ
"วิถีของบุคคลเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย"
แสดงไว้เมื่อวันที่ ๒๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๔
ไม่เคารพพระพุทธเจ้าจึงไม่เชื่อนรก-สวรรค์ : หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
พระอาจารย์เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
...
เหมือนอย่างคนทำผิดกฎหมายแล้วก็ฟ้องร้องศาลตัดสินติดคุกติดตะราง
ก็ได้ไปอยู่ในที่จำกัดแหละ นอนก็ไม่ได้นอนดี นั่งก็ไม่ได้นั่งดีแล้ว
เขาใช้ทำการทำงานอยู่อย่างนั้นแหละ ถ้าทำไม่ดีไปเขาก็ทุบเอาตีเอาอย่างนี้
ตนเองไม่มีอิสระอะไรเลย ไปฟ้องร้องกับใครก็ไม่ได้เพราะตนเป็นนักโทษ
ไอ้ผู้ทำบาปทำกรรมใส่ตัวเองแล้ว บาปกรรมมันก็บังคับให้อยู่ในที่จำกัด
ก็อย่างคนคุกคนตะรางนั่นแหละ อย่างที่ "พระพุทธเจ้า" กล่าวไว้ว่า
สัตว์ที่ไปตกนรกนะเหมือนกับข้าวสารยัดไถ้*
ข้าวสารยัดไถ้นั้นมันเป็นยังไงอะ เอ้า มันก็ยัดเยียดกันอยู่แล้
สัตว์นรกก็เป็นเช่นนั้นตามว่านะ เมื่อไปตกนรกแล้วมันก็ไปยัดเยียดอยู่
แออัดกันอยู่ในนรกนั้นน่ะมันมากต่อมาก
เพราะว่าทั่วโลกนี้นะทำบาปทุกวั๊น..ทุกวัน น่ะลองคิดเฉลี่ยดู
ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม กล่าวมุสาวาท
ดื่มสุราเมรัยอย่างนี้ทุกวันเลยนะ จะไม่ทุกวันยังไงเล่า
ฆ่าสัตว์ขาย ชำแหละเนื้อมันขายให้คนซื้อไปกินหมู่นั้น
พวกที่ลักฆ่าโดยผิดกฎหมายก็มี แล้วฆ่าโดยถูกกฎหมาย
เช่น ชาวประมงหมู่นี้ แล้วชาวประมงแล้วก็พวกพรานล่าเนื้อในป่าหมู่นี้
มันมีอยู่อย่างนั้น เรียกว่า มนุษย์ทำบาปอยู่ตลอด ๒๔ ชั่วโมงก็แล้วกันแหละ
ถ้าคิดถัวทั่วโลกนี้แล้วนะ บัดนี้พวกทำบาปเหล่านั้นหมดอายุ
ก็ตายทุกนาทีไปเลย นี่ไม่ใช่ตายชั่วโมงนะ ตายทุกนาที ทั่วโลกนี้นะ
คิดถัวเป็นนาทีเข้าไปแล้วเป็นเวลาเข้าไปแล้วนะ
แล้วจะไม่ให้มันไปแออัดอยู่ในนรกยังไงเล่า มันมากต่อมาก
หลายต่อล้น ให้พากันพิจารณาดู ให้เกิดความสังเวชสลดใจ
ถ้ามันไม่เกิดความสังเวชสลดใจ มันไม่เบื่อไม่หน่าย
ต่อบาปกรรมเหล่านั้นหรอก มันไม่ละ...เรื่องมันน่ะ
แต่บางคนก็อาจไม่เชื่อก็ได้แหละ
เฮ้อ หาเอาปั้นเรื่องเอาดอกเพื่อไม่ให้คนทำความชั่ว
ในปัจจุบันนี้เท่านั้นแหละ ไปโลกหน้าแล้วมันไม่มีหรอกอย่างที่ว่า
บางคนก็อาจจะพูดไปอย่างนั้นแหละ
ผู้พูดเช่นนั้นก็แสดงว่า ไม่เคารพในพระพุทธเจ้า
ไม่เคารพในพระธรรมคำสอนของพระองค์
ไม่เคารพในพระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า
ที่นำเอาคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้ามาถ่ายทอด
ให้พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ผู้เช่นนั้นน่ะไม่เคารพไม่นับถือ
เพราะฉะนั้นจึงไม่เชื่อเรื่องนรก เรื่องสวรรค์
...
*ไถ้ หมายถึง ถุงยาวๆ ใช้คาดเอว สำหรับใส่เงินหรือสิ่งของ
ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ
"วิถีของบุคคลเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย"
แสดงไว้เมื่อวันที่ ๒๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๔