คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
ยี่ห้อสีเขียวยอดนิยมสินะ........TEINเป็นยี่ห้อที่คนใช้คุยถึงประสิทธิภาพไปอย่างเกินจริงมากและปั่นราคาไปมาก ขายมาเป็นสิบปีแล้วยังใช้twin tubeที่น้ำมันเป็นฟองย้วยง่ายอยู่เลย วัสดุก็ยังคงเป็นเหล็กหนักสร้างภาระในด้านunsprung weightเข้าไปใหญ่และเกิดสนิมง่ายมากเพราะกระบอกเป็นเหล็ก ส่วนนึงที่ขายต่อเยอะเพราะว่ามีคนจำนวนมากอยากทำให้รถเกาะถนนขึ้นแต่ไม่ได้ศึกษาถึงความแข็งกระด้างของรถหลังติดไปแล้ว ความแตกต่างของความแข็งของโช๊คแต่งหนืดกว่าปกติกับสตรัทมันมีมาก คนที่ใช้ของเดิมๆมาแล้วโดดมาสตรัทเลยน้อยคนมากที่จะรับมันไหว ผลก็เลยเป็นอย่างที่เห็นคือขายต่อมือสองกันเกลื่อนกลาด แต่ถ้าคุณสนใจมือสองอยากให้ระวังให้ดี ไแ้ประเภทที่บอกมาว่าใช้มา3เดือน6เดือนแต่ความจริงใส่มาเป็นปีแล้วมาโกหกมีเยอะนะ ปีนึงถ้าขับไม่ระวังแกนโช๊คก็โดนทารุณไปมากแล้วกับถนนในประเทศไทย TEINยี่ห้อยอดนิยมที่คนแต่งรถชอบเอามาข่มทับกันพอเอามาวางขายโกหกว่าใส่ไม่นานถ้าใครไม่เอะใจก็โดนหลอกไป แล้วด้วยความที่คนรู้จักมากเวลาขายต่อก็จะโก่งราคากันสูงเกินจริง เคยเจอคนนึงเอาSSมาขายสภาพสนิมกรังกระบอกทุกต้นในราคา30000บาท สภาพสนิมกรังแบบนี้ซื้อมากขยะเพราะถ้าจะใช้จริงก็ต้องเสียเงินเปลี่ยนชิ้นส่วนที่ขึ้นสนิมไปอีก ช่างซ่อมTEINก็ชอบฟันราคาเสียด้วย ค่าเปิดกระบอกต้นละ2500ไม่รวมค่าอะไหล่....จะซื้อมือสองหารายที่มีใบเสร็จรองรับวันที่ซื้อจริงๆและมีความน่าเชื่อถือไม่งั้นโดนหลอกแน่นอน
สตรัทไม่มีคำว่านุ่มหนึบครับ ขนาดกระบอกโช๊ค แกนโช๊ค ลูกสูบภายในใหญ่กว่าของจากโรงงานมากปรับให้อ่อนที่สุดยังไงก็แข็งกว่าของเดิมติดรถ"มาก"ย้ำเลยนะว่า"มาก"
แตกต่างจากของเดิมไหม?แตกต่างแน่นอน อย่างที่บอกว่าชิ้นส่วนต่างๆมันใหญ่ขึ้นยามที่คุณเปลี่ยนเลนเร็วๆต่อเนื่องหรือเข้าโค้งรุนแรงรถก็จะเอียงตัวน้อยลง เมื่อ body roll น้อยลงความเสถียรภาพในโค้งก็จะเพิ่มมากขึ้น ใส่ความเร็วได้มากขึ้นเก็บอาการเสียหลักได้ดีขึ้น ไม่ใช่อย่างที่ข้างบนมั่วบอกนะครับว่าไม่ต่าง ต่างกันมากเลยล่ะ สตรัทแม้จะปรับสูงสุดยังไงมันก็เตี้ยกว่าของเดิม รถเตี้ยกว่าเดิม center of gravity ต่ำลงจุดศูนย์ถ่วงต่ำลงรถก็จะเสียหลักได้ยากขึ้น ยามที่ใช้ความเร็วสูงท้องรถที่เตี้ยลงลมลอดใต้ท้องลดลงรถก็จะนิ่งมากขึ้น และในหมู่ของสตรัทด้วยกันเองก็จะมีความแตกต่างทางด้านประสิทธิภาพอีกนั่นแหละ หลักๆเลยคือแตกต่างกันด้านการออกแบบระบบวาล์วที่ควบคุมการเข้าออกของน้ำมันในกระบอก ไม่ใช่ว่ามันเหมือนๆกันอย่างที่ข้างบนมั่วมาอีกนั่นแหละ แต่ราคาที่สูงขึ้นก็จะมาพร้อมกับการปรับแต่งที่ละเอียดมากขึ้นเช่นระดับความหนืดที่ปรับได้มากกว่า เบ้าแบบ all joint ที่สามารถปรับมุมแคมเบอร์ได้ สามารถปรับจังหวะ bump และ rebound ตามใจคุณได้ แต่คนปกติใช้ทั่วไปไม่ได้ละเอียดถึงขนาดต้องปรับจริงจังขนาดนั้น แต่ความแตกต่างของสรัทมีจริงแน่นอน แต่ถ้าคุณใส่เพื่อออกต่างจังหวัดขอเตือนว่าสำรวจเส้นทางให้ดีๆ ถ้าเส้นทางมีหลุมบ่อมากมายสตรัทไม่เหมาะเลยเพราะคุณจะกระเทือนจนปวดหลังได้ง่ายๆและสตรัทจะอายุไม่ยืน ถ้าจะเผื่อใช้งานยามคับขันใส่สปริงโหลดกับโช๊คแต่งหนืดกว่าปกติจะเหมาะกว่า
ด้วยความที่สตรัทมีจุดปรับมากมายการที่มันจะมีเสียงดังก๊อกแก๊กๆนั้นเป็นเรื่องปกติครับ โดยเฉพาะสตรัทที่มีหัวแบบball jointคุณซื้อมาใส่มันก็ดังทันทีได้ ถ้าจะสังเกตุว่ากระบอกโช๊ครั่วไหมให้ดูจากคราบเปียกที่กระบอกเอา ส่วนอาการอื่นๆอาศัยการฟังเสียงเวลาที่รถทำงาน ใส่สตรัทแล้วชิ้นส่วนช่วงล่างอื่นๆก็จะรับภาระมากขึ้นเป็นปกติตามสภาพการใช้งานของถนน แต่งรถยังไงก็ไม่เหมือนของเดิมต้องรู้หลักการดูแลรักษาบ้างและมีเวลาเอาใจใส่
สตรัทไม่มีคำว่านุ่มหนึบครับ ขนาดกระบอกโช๊ค แกนโช๊ค ลูกสูบภายในใหญ่กว่าของจากโรงงานมากปรับให้อ่อนที่สุดยังไงก็แข็งกว่าของเดิมติดรถ"มาก"ย้ำเลยนะว่า"มาก"
แตกต่างจากของเดิมไหม?แตกต่างแน่นอน อย่างที่บอกว่าชิ้นส่วนต่างๆมันใหญ่ขึ้นยามที่คุณเปลี่ยนเลนเร็วๆต่อเนื่องหรือเข้าโค้งรุนแรงรถก็จะเอียงตัวน้อยลง เมื่อ body roll น้อยลงความเสถียรภาพในโค้งก็จะเพิ่มมากขึ้น ใส่ความเร็วได้มากขึ้นเก็บอาการเสียหลักได้ดีขึ้น ไม่ใช่อย่างที่ข้างบนมั่วบอกนะครับว่าไม่ต่าง ต่างกันมากเลยล่ะ สตรัทแม้จะปรับสูงสุดยังไงมันก็เตี้ยกว่าของเดิม รถเตี้ยกว่าเดิม center of gravity ต่ำลงจุดศูนย์ถ่วงต่ำลงรถก็จะเสียหลักได้ยากขึ้น ยามที่ใช้ความเร็วสูงท้องรถที่เตี้ยลงลมลอดใต้ท้องลดลงรถก็จะนิ่งมากขึ้น และในหมู่ของสตรัทด้วยกันเองก็จะมีความแตกต่างทางด้านประสิทธิภาพอีกนั่นแหละ หลักๆเลยคือแตกต่างกันด้านการออกแบบระบบวาล์วที่ควบคุมการเข้าออกของน้ำมันในกระบอก ไม่ใช่ว่ามันเหมือนๆกันอย่างที่ข้างบนมั่วมาอีกนั่นแหละ แต่ราคาที่สูงขึ้นก็จะมาพร้อมกับการปรับแต่งที่ละเอียดมากขึ้นเช่นระดับความหนืดที่ปรับได้มากกว่า เบ้าแบบ all joint ที่สามารถปรับมุมแคมเบอร์ได้ สามารถปรับจังหวะ bump และ rebound ตามใจคุณได้ แต่คนปกติใช้ทั่วไปไม่ได้ละเอียดถึงขนาดต้องปรับจริงจังขนาดนั้น แต่ความแตกต่างของสรัทมีจริงแน่นอน แต่ถ้าคุณใส่เพื่อออกต่างจังหวัดขอเตือนว่าสำรวจเส้นทางให้ดีๆ ถ้าเส้นทางมีหลุมบ่อมากมายสตรัทไม่เหมาะเลยเพราะคุณจะกระเทือนจนปวดหลังได้ง่ายๆและสตรัทจะอายุไม่ยืน ถ้าจะเผื่อใช้งานยามคับขันใส่สปริงโหลดกับโช๊คแต่งหนืดกว่าปกติจะเหมาะกว่า
ด้วยความที่สตรัทมีจุดปรับมากมายการที่มันจะมีเสียงดังก๊อกแก๊กๆนั้นเป็นเรื่องปกติครับ โดยเฉพาะสตรัทที่มีหัวแบบball jointคุณซื้อมาใส่มันก็ดังทันทีได้ ถ้าจะสังเกตุว่ากระบอกโช๊ครั่วไหมให้ดูจากคราบเปียกที่กระบอกเอา ส่วนอาการอื่นๆอาศัยการฟังเสียงเวลาที่รถทำงาน ใส่สตรัทแล้วชิ้นส่วนช่วงล่างอื่นๆก็จะรับภาระมากขึ้นเป็นปกติตามสภาพการใช้งานของถนน แต่งรถยังไงก็ไม่เหมือนของเดิมต้องรู้หลักการดูแลรักษาบ้างและมีเวลาเอาใจใส่
แสดงความคิดเห็น
สตรัท ปรับเกลียว ทำไมถึงมีขายมือสองมาก
และมักจะโพสว่าใช้มาไม่นาน(ไม่เกิน6 เดือนบ้าง 3เดือนบ้าง)
ปล่อยขายเต็มเลย คือถ้ามันดีจริงๆผมจะซื้อใหม่นะครับ ไม่มองมือสอง
เลยสงสัยว่า จริงๆแล้วมันดีหรือไม่ดีครับ สำหรับเงิน3หมื่นต้นๆ
1.มัน''''นุ่มหนึบ''''อย่างที่โฆษณากันจริงไม๊ครับ
2.แตกต่างกับช่วงล่างเดิมๆอย่างเห็นได้ชัด? (ขับแบบเดียวกัน คือ เดินทาง ตจว. ไม่ได้แข่ง)
3.และมันมีเสียงดังจากข้อต่อต่างๆจริงหรือ