พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ 'เสธอ้าย' ประธานองค์การพิทักษ์สยาม ถูกฟ้องร่วมนำมวลชนหลายร้อยคนก่อม็อบไล่ 'อดีตนายกฯ ปู' ปี 2555 ทนายเผย นำสืบเจตนามวลชนออกมาชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ ซึ่งเป็นสิทธิการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ที่ศาลแขวงดุสิต พนักงานอัยการสำนักงานคดีศาลแขวง ได้ยื่นฟ้อง นายธเนศ หอมทวนลม กับพวกรวม 28 คน ซึ่งร่วมชุมนุมกับ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธอ้าย ประธานองค์การพิทักษ์สยาม ฐานร่วมกันฝ่าฝืนประกาศ และข้อกำหนด ห้ามบุคคลหรือกลุ่มบุคคล เข้าหรือให้ออกจากบริเวณพื้นที่หรือสถานที่ที่กำหนด และห้ามการใช้เส้นทางคมนาคมหรือยานพาหนะ ตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 ศาลประทับฟ้องเป็นคดีดำที่ 2715/58 และนัดสืบพยานโจทก์ต่อไป

โดยการยื่นฟ้องสำนวนแรกยังไม่มี เสธ.อ้าย เป็นจำเลยรวมอยู่ด้วย คำฟ้องบรรยายว่า เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2555 ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุม นำโดย พลเอกบุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย ได้นำกลุ่มผู้ชุมนุมหลายร้อยคนขับไล่รัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีขณะนั้น ที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ซึ่งมีการจับกุมกลุ่มชุมนุมได้ทั้งสิ้น 127 ราย ขอให้ลงโทษตามกฎหมาย

โดยก่อนหน้านี้ พนักงานสอบสวนกองปราบปรามแยกดำเนินคดี 3 สำนวน แรกมี นายธเนศ หอมทวนลม กับพวกรวม 97 คน ที่ชุมนุมบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ สำนวนที่ 2 เป็นพวกที่ชุมนุมบริเวณแยกมิสกวัน และสำนวนที่ 3 มี 14 คน เป็นพวกที่ชุมนุมบริเวณแยกมิสกวัน น.ส.พวงทิพย์ บุญสนอง ทนายความจำเลย เผยว่า คดีนี้อัยการสั่งฟ้องผู้ต้องหา 97 คน ซึ่งในวันนี้สามารถนำตัวผู้ต้องหามาส่งฟ้องต่อศาล เพียง 28 คน ส่วนอีก 69 คน อยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการ และจะนำตัวมาส่งฟ้องในภายหลัง

ขณะที่ แนวทางการต่อสู้ จะนำสืบให้เห็นถึงเจตนาของประชาชนที่ออกมาชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ และเป็นสิทธิการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดจะให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา.