ทอฝันกับมาวิน ละครสะท้อนครอบครัวรุ่นใหม่ที่อยากให้พ่อแม่ทุกคนได้ดูและลูกๆทุกคนได้คิด

ดูละครเรื่องนี้อีกครั้งในรอบ 19 ปีแล้วอดสะท้อนถึงชีวิตตัวเองและคนรอบๆตัวไม่ได้ version แรกดูเมื่อตอนที่เป็นวัยรุ่นเข้ามหาวิทยาลัยปี 1 พอดี จำได้ว่าช่วงนั้นอินกับเรื่องนี้สุดๆ สงสารแต่มาวิน เกลียดพ่อชนะในเรื่องมากๆ อาตู่นพพลที่เล่นเป็นพ่อในเวอร์ชั่นนั้นดูโหดร้ายเผด็จการจนเกลียดจริงๆ มาเวอร์ชั่นใหม่ได้ดูตอนที่เป็นผู้ใหญ่วัย 30 กว่า ได้แง่คิดที่กว้างขึ้นเข้าใจในมิติของตัวละครที่ลึกขึ้น ทั้งในแง่ของพ่อแม่และลูก แม้ส่วนตัวยังไม่มีลูกเองแต่ละครเรื่องนี้ทำให้ย้อนนึกถึงชีวิตของเพื่อนสนิทคนนึงค่ะ ขอแชร์คร่าวๆเป็นอุทาหรณ์ให้ใครที่อาจจะมีลูกในวัยเรียนแบบมาวินนะคะ เพื่อนคนนี้มีพ่อเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จในหน่วยงานราชการที่ทรงเกียรติแห่งนึงที่หลายๆคนใฝ่ฝันอยากเข้าไปทำ พ่อจึงตั้งความหวังให้ลูกสาวเดินตามรอยที่ตัวเองเคยประสบความสำเร็จโดยให้ลูกสอบชิงทุนและเรียนต่อในสาขาที่ใช้กับสถาบันแห่งนี้โดยตรงโดยไม่เคยฟังเลยว่าลูกไม่ชอบด้านนั้น เรียนแทบจะไม่รอด ไม่เคยมีความสุขเลยกับเส้นทางที่พ่อเลือกให้ และอยากทำงานด้านอื่นที่ใช้แนวความคิดสร้างสรรค์อย่างที่เขาถนัด ในที่สุดลูกก็ยอมทำตามที่พ่อแม่คาดหวังสอบชิงทุนได้และจบ ป โท ที่ต่างประเทศด้านที่พ่ออยากให้เรียน เพื่อนเราทำงานกับหน่วยงานนี้อยู่ 15 ปีโดยที่ไม่มีความสุขเลยแม้ว่าจะได้เงินทองและตำแหน่งขั้นที่ดีพอสมควร แต่ลึกๆแล้วไม่เคยทิ้งความฝันในสิ่งที่ตัวเขาอยากทำจริงๆ หลังจากที่ทนทำอยู่จนใช้ทุนหมดเพื่อนจึงลาออกค่ะ ไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศโดยเริ่มต้นจากศูนย์เลย หางานใหม่ไปสมัครเรียน ป ตรี ใหม่ตามที่ตัวเองฝัน ครอบครัวเป็นห่วงมาก ไม่อยากให้ไปแต่ ณ ตอนนี้พ่อแม่คงห้ามไม่ได้แล้ว สำหรับคนอายุ 30 กว่าที่ตัดสินใจตามหาฝันที่ตัวเองรอคอยมานาน เราและเพื่อนๆได้แต่เอาใจช่วยเพื่อนให้ประสบความสำเร็จในเส้นทางที่ตัวเองเลือกสักทีและชื่นชมมากๆที่เขากล้าทำ เพราะบอกตรงๆว่าถ้าเป็นเราคงไม่กล้ามากขนาดนั้น มีงานมั่นคงแล้วคงไม่เลือกที่จะเดินออกและเริ่มตันใหม่ได้แบบเขา

ส่วนตัวเราเองคงจะโชคดีที่โตมาในครอบครัวคล้ายๆทอฝัน พ่อแม่ไม่เคยกดดันไม่เคยบังคับ ได้เลือกเรียนเลือกอาชีพการงานเองทุกอย่าง แม้ในปัจจุบันจะยังไม่ประสบความสำเร็จมากมายนักในสายอาชีพ ล้มลุกคลุกคลานก็หลายหน แต่ก็มีความสุขกับชีวิตที่เป็นอยู่ ใครเป็นพ่อเป็นแม่ได้ดูละครเรื่องนี้หวังว่าจะได้แง่คิดบ้างไม่มากก็น้อย การให้ลูกได้เลือกเส้นทางชีวิตตัวเองได้ตัดสินใจอะไรๆเองน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แม้พ่อแม่จะมองว่าเป็นความหวังดีเพียงไหน อยากให้ลูกประสบความสำเร็จเหมือนตัวเอง แต่อย่าลืมว่าคนเราทุกคนเกิดมาไม่ได้ถนัดเหมือนกัน ต่างคนต่างมีทางเดินและมีฝันของตน ถ้าพ่อแม่ยอมให้ลูกตัดสินใจเองลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง รู้จักแพ้ชนะและเรียนรู้ชีวิตอย่างแท้จริงเมื่อไหร่นั่นแหละลูกคุณจะได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพของสังคม ได้ใช้ศักยภาพที่มีอยู่อย่างเต็มที่

ละครเรื่องนี้สะท้อนแบบอย่างครอบครัวหลากหลายรูแแบบ
- ครอบครัวมาวินแบบ single dad ที่พ่อแม้จะรักและเอาใจใส่ลูกมาก แต่ตั้งความหวังไว้สูงกับลูกให้ดำเนินตามรอยตัวเองเคร่งกฎระเบียบทุกอย่าง โดยไม่มองแง่มุมอื่นๆเลยเพราะเชื่อว่าสิ่งที่ตนทำและกำหนดไว้ให้ลูกนั้นดีที่สุดแล้ว ลูกต้องประสบความสำเร็จเท่านั้นในเส้นทางที่ถูกกำหนดไว้หมดแล้ว ลูกไม่มีสิทธ์กำหนดหรือเลือกทางเดินของตัวเอง
- ครอบครัวชนชั้นกลางแบบทอฝันที่แม้จะไม่ร่ำรวยวัตถุเงินทองแต่สมาชิกทุกคน ร่ำรวยด้านจิตใจ
-ครอบครัวชิลๆเฮฮาแบบน๊อต ไม่เคร่งอะไรเลยชิลๆสบายๆ กับลูกแต่ก็มอบความรักความอบอุ่นความเข้าให้ลูกเสมอ
- ครอบครัวคนรวยที่เลี้ยงลูกด้วยเงินแบบแบงค์
-ครอบครัว single mom แบบโมน่าที่ขาดความอบอุ่นมาตั้งแต่เด็กจึงต้องรับกรรมอย่างที่เป็น

ดูแล้วอยากให้ย้อนถามตัวเองว่าคุณอยากเลี้ยงลูกแบบไหนและเชื่อแน่ว่าลูกๆทุกคนที่ดูก็ตอบได้ไม่ยากว่าพ่อแม่แบบไหนที่เราใฝ่ฝัน อมยิ้ม36

* ขออนุญาตแทคนอกบางขุนพรหมนะคะ เชื่อว่าเนื้อหาน่าจะมีประโยชน์กับห้องอื่นๆด้วย*
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่