คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ของผมเกี่ยงกันเอาผ้าไปตาก ล้างจาน บลาๆครับ เหอะๆ
ถ้าย้อนเวลาไปได้ผมจะดูแลเค้า เอาใจใส่ให้มากกว่านี้
ความรัก ความจริงใจ ความซื่อสัตย์ มันไม่พอยังต้องอาศัยการดูแลเอาใจใส่
เราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนนิสัยใคร แค่ยอมรับในสิ่งที่เขาเป็นพอ (ความยากอยู่ตรงนี้)
เราพยายามเข้าใจผู้ ญ แต่ยิ่งพยายามยิ่งแย่
ผู้หญิงอ่อนไหวง่าย มักใช้อารมณ์ความรู้สึกตัดสินปัญหา
ผู้ชายอย่างเราก็คาดหวังว่าผู้ ญ จะต้องทำโน่น นี่นั่น
เอาเป็นว่าถ้าเราสัมผัสถึงความรักที่เค้ามีต่อเราได้
ก้อต้องทำให้เต็มที่ ทำให้ดีที่สุด ไม่เลิกศรัทธาในตัวเค้า
ผู้ ญ มักเก็บไปคิดเล็กคิดน้อย การละเลยความรู้สึกที่ผู้ ช คิดว่าเป็นเรื่องเล็ก
แต่มันก็เหมือนการปฏิเสธความรู้สึกที่คอยสร้างแผลในใจให้กันไปทีละนิด
และมันจะค่อยๆบั่นทอน ทำให้ความรู้สึกที่มีต่อกันลดน้อยลง
เคยสังเกตมั้ย? ผู้ชายหลายคนงง ผู้ญ บางคนเลิกปุ๊บมีใหม่ปั๊บ
ถามว่าคบกันตอนไหน ก้อตอนที่เราทำให้เค้าอ่อนแองัย
ถ้ายังต้องการเค้าจะต้องทำให้เค้ารู้สึกว่าเป็นคนพิเศษ ขาดเราไม่ได้
หมั่นดูแลความรู้สึกเล็กๆน้อยๆ ใส่ใจทุกรายละเอียด
อย่าไปเกี่ยงงอนว่าเราเหนื่อยอยู่ฝ่ายเดียว ไม่ต้องคิดมาก
ถ้ารักกันมากพอสักวันเค้าจะลงมาช่วยเราเอง หรืออย่างน้อยก็คุยกัน
หรือแย่สุดต่อให้เค้าเลิกกับเราไป เราก็ไม่ต้องเสียใจว่าทำหน้าที่ไม่ดีพอ
ข้อควรระวัง
ผู้ ช บางคนก็ทำดีมากเกิน จนคิดว่าความรักคือผลตอบแทนของความดี
คือผมอยากแชร์ประสบการณ์ว่า เอาเท่าที่หัวใจเราไหว รักคนที่เค้ารักเรา
เราไม่มีทางรู้หรอกว่าเค้าใช่ สำหรับเราตลอดไปหรือไม่ จนกระทั่งเขากลายเป็นคนไม่ใช่
ดังนั้นทำวันนี้ให้ดีที่สุดเถอะนะครับ...ซู้วว
ถ้าย้อนเวลาไปได้ผมจะดูแลเค้า เอาใจใส่ให้มากกว่านี้
ความรัก ความจริงใจ ความซื่อสัตย์ มันไม่พอยังต้องอาศัยการดูแลเอาใจใส่
เราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนนิสัยใคร แค่ยอมรับในสิ่งที่เขาเป็นพอ (ความยากอยู่ตรงนี้)
เราพยายามเข้าใจผู้ ญ แต่ยิ่งพยายามยิ่งแย่
ผู้หญิงอ่อนไหวง่าย มักใช้อารมณ์ความรู้สึกตัดสินปัญหา
ผู้ชายอย่างเราก็คาดหวังว่าผู้ ญ จะต้องทำโน่น นี่นั่น
เอาเป็นว่าถ้าเราสัมผัสถึงความรักที่เค้ามีต่อเราได้
ก้อต้องทำให้เต็มที่ ทำให้ดีที่สุด ไม่เลิกศรัทธาในตัวเค้า
ผู้ ญ มักเก็บไปคิดเล็กคิดน้อย การละเลยความรู้สึกที่ผู้ ช คิดว่าเป็นเรื่องเล็ก
แต่มันก็เหมือนการปฏิเสธความรู้สึกที่คอยสร้างแผลในใจให้กันไปทีละนิด
และมันจะค่อยๆบั่นทอน ทำให้ความรู้สึกที่มีต่อกันลดน้อยลง
เคยสังเกตมั้ย? ผู้ชายหลายคนงง ผู้ญ บางคนเลิกปุ๊บมีใหม่ปั๊บ
ถามว่าคบกันตอนไหน ก้อตอนที่เราทำให้เค้าอ่อนแองัย
ถ้ายังต้องการเค้าจะต้องทำให้เค้ารู้สึกว่าเป็นคนพิเศษ ขาดเราไม่ได้
หมั่นดูแลความรู้สึกเล็กๆน้อยๆ ใส่ใจทุกรายละเอียด
อย่าไปเกี่ยงงอนว่าเราเหนื่อยอยู่ฝ่ายเดียว ไม่ต้องคิดมาก
ถ้ารักกันมากพอสักวันเค้าจะลงมาช่วยเราเอง หรืออย่างน้อยก็คุยกัน
หรือแย่สุดต่อให้เค้าเลิกกับเราไป เราก็ไม่ต้องเสียใจว่าทำหน้าที่ไม่ดีพอ
ข้อควรระวัง
ผู้ ช บางคนก็ทำดีมากเกิน จนคิดว่าความรักคือผลตอบแทนของความดี
คือผมอยากแชร์ประสบการณ์ว่า เอาเท่าที่หัวใจเราไหว รักคนที่เค้ารักเรา
เราไม่มีทางรู้หรอกว่าเค้าใช่ สำหรับเราตลอดไปหรือไม่ จนกระทั่งเขากลายเป็นคนไม่ใช่
ดังนั้นทำวันนี้ให้ดีที่สุดเถอะนะครับ...ซู้วว
แสดงความคิดเห็น
เคยไหมครับทะเลาะกับแฟนเพราะ...น้ำส้มสายชู
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เรื่องมันมีอยู่ว่า ผมต้องไปทำฟันที่คณะทันตแพทย์จุฬา ก่อนที่ผมจะไปทำฟันผมก็แวะไปที่มอก่อน เพื่อไปทำงานซึ่งวันนั้นผมและแฟนไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้า หมอนัดผมทำฟันตอนบ่าย 3 ซึ่งประมาณ บ่ายโมงผมก็ออกจากมอ พอไปถึงที่ทำฟัน และทำฟันเสร็จผมก็ตกลงกับแฟนว่าเราจะไปหาอะไรกินกัน ซึ่งแถวนั้น มีร้านก๋วยเตี๋ยวซึ่งทุกเดือนที่ผมทำฟัน(หมอนัดทำฟันเดือนละครั้งครับ) ผมจะต้องไปกินก๋วยเตี๋ยวไก่ร้านนี้กับแฟนทุกครั้ง ปกติร้านนี้จะตั้งอยู่ติดถนนตรงข้ามกับ โรงบาลตำรวจ แต่ครั้งนี้ร้านได้ย้ายมาแถวตึกที่ผมทำฟันพอดี ผมกับแฟนก็เลยสั่งก๋วยเตี๋ยวมาคนละชาม ผมจะเป็นคนกินก๋วยเตี๋ยวน้ำแต่แฟนผมกินแห้ง พอได้ก๋วยเตี๋ยวมาผมกะแฟนก็ปรุงก๋วยเต๋ยวและไปหาที่นั่ง ซึ่งที่นั่งห่างกับร้านประมาณ 20 เมตร พอนั่งผมก็ไม่รอช้า โซ้ยก๋วยเตี๋ยวด้วยความหิว ซักพักแฟนผมก็พูดขึ้นมาว่า "ก๋วยเตี๋ยวจืดอะ" ผมก็ตอบกลับว่า "อืม" จากนั้นแฟนผมก็พูดต่อว่า "ถ้าเติมน้ำส้มสายชูอีกสักหน่อยก็คงอร่อยเนอะ" ผมก็ยังคงก้มหน้าก้มตากินต่อ ทันใดนั้นแฟนผมก็พูดขึ้นว่า "อ้วน(แฟนผมแทนชื่อผมว่าอ้วน) ไปเติมน้ำส้มสายชูให้เค้าหน่อยดิ" ผมก็เลยพูดขึ้นว่า "ไม่เอาอะ มันไกล(ในใจคือ ผมหิว อยากกินต่อ)" เท่านั้นแหละครับ บรรยากาศแถวนั้นเงียบทันที ผมรู้สึกเหมือนผมอยู่ในป่าช้า (ผมคิดในใจว่า เอาแล้วไงละตู งานเข้าตูละไง) ซักพักผมก็เลยชวนแฟนผมคุย เรื่องนู่น เรื่องนี่ แต่คำตอบที่ได้คือ เหมือนผมคุยกับหุ่นยนต์ เสียงแข็งๆแบบไม่สบอารมณ์ และแฟนผมก็เดินไปเติมน้ำส้มสายชูเอง พอเธอกลับมานั่ง ผมนี่เงียบเลย step2 เธอมาแล้วสินะ จนผมและแฟนกินก๋วยเตี๋ยวกันเสร็จ ต่างคนต่างน้ำตาไหลและจ้องมองกัน...
ผมไม่ได้ร้องไห้เพราะทะเลาะกันนะ แต่ผมร้องกันเพราะ...ก๋วยเตี๋ยวไก่มันเผ็ดมากกกกกก ผมกะแฟนใส่พริกซะเยอะเลย๕๕๕๕ จากนั้นผมก็ได้ไปขึ้นรถที่หน้า mbk เพื่อไปอนุสาวรีย์ ขณะที่ผมและแฟนเดินไปขึ้นรถ ผมเลยถามแฟนผมว่าโกรธหรอที่ไม่ได้ไปตักน้ำส้มสายชูไห้ แฟนผมตอบว่า ไม่โกธแต่แค่จะลองดูว่าทำแค่นี้จะทำไห้เค้าได้ไหม ผมเลยตอบกลับว่า มากกว่านี้เค้าก็ทำไห้ได้ แล้วแฟนผมก็บ่นๆๆๆ ผมก็เงียบเพราะผมรู้นิสัยแฟนผมดีถ้าเถียงหรือตอบกลับนี่ยาวเลยครับ(ผมเป็นคนใจเย็นหนะครับ ส่วนแฟนผมใจร้อน) ตอนที่นั่งรถเมล์ผมกับแฟนนั่งคนละเบาะกัน ผมก็นั่งคิดว่า .."ผมผิดขนาดนั้นเลยหรอ แล้วทำไมเขาถึงไม่ลุกไปเติมเองแต่แรก".. นั่งคิดจนกระทั่งถึงอนุสาวรีย์ เมื่อลงรถเมล์ผมจะต้องต่อรถเพื่อไปส่งแฟนผม เวลานั้นประมาณ 5 โมงกว่าๆ ซึ่งตอนนั้นคนเยอะมากๆ ผมเลยจับมือแฟนผมเพื่อที่จะเดินไปขึ้นรถ อีกฟาก พอได้ขึ้นรถ ผมกับแฟนก็ดีกันเฉยเลย เหมือนเรื่องนี้มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในโลกใบนี้ ผมก็งงๆ เขาหายโกรธผมละหรอ ฮ่าๆๆๆ จริงๆ ผมเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงนะครับ เพราะเรื่องเล็กๆน้อยๆผู้หญิงก็มักเก็บไปคิด แต่ในตอนนั้น ความหิวมันบังหน้า ก็เลย....แหละครับ
ท่านผู้ชายท่านไหนเคยเป็นแบบผมบ้างครับ...? ลองมาแชร์ความรู้สึกกันนะครับ