ทำไมคนมักจะชอบคิดว่า หลังแต่งงานไปแล้ว ชีวิตจะมีความสุข

ทำไมคนมักจะชอบคิดว่า หลังแต่งงานไปแล้ว ชีวิตจะมีความสุข

หลายคนตอนที่ยังไม่ได้แต่งงาน ก็มักจะต้องพบปัญหา เจอเรื่องกระทบกันมามากมายอยู่แล้ว แต่พอชีวิตมาถึงช่วงๆนึง ก็อยากจะมีคู่ แน่นอนหล่ะว่า นี่ก็เป็นผลมาจากฮอร์โมน ทางร่างกาย ที่ทำให้เกิดความสนใจเพศตรงข้าม ประกอบกับค่านิยมทางสังคม แล้วไหนจะหนัง เพลง ละครอีก ที่วาดฝันไว้สวยหรูว่า หากได้แต่งงานแล้วชีวิตจะมีความสุขขึ้น

แต่ปรากฎว่า ในความเป็นจริงแล้ว มันไม่ใช่เลย เพราะในตอนแรก มนุษย์เวลาพอใจใคร ก็มักจะพยายามทำทุกวิธีทางเพื่อที่จะให้ได้เขามาครอบครอง ไม่ว่าจะคอยตามใจ เอาใจ เอาสิ่งของต่างๆสารพัดมอบให้ แล้วพอถึงจุดๆนึง ก็จะแต่งงานกัน แต่ปรากฎว่า หลังแต่งงาน หลายคนกลับพบว่า อีกฝ่ายนั้นจริงๆก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คิดไว้ หรือ พูดอีกอย่างก็คือ ตัวตนจริงๆ มักจะค่อยๆปรากฎออกมา แล้วด้วยเหตุผลนี้หล่ะมั้ง เขาถึงบอกกันว่า ควรจะอดทนให้มากๆ เพราะชีวิตหลังแต่งงานจะต้องพบเจอกับปัญหามากขึ้น ไหนจะปัญหากันเอง ปัญหาจากคนรอบๆตัว ยิ่งถ้ามีลูกด้วยปัญหาก็จะยิ่งมากขึ้น ต้องทนเลี้ยงดู ทนเสียงร้อง พอโตขึ้นก็ไปมีชีวิตของตัวเอง ไม่มาดูแลอะไรคนใกล้ตายหรอก แล้ว การดูแลอะไรพวกนี้ก็เป็นอะไรทีสาหัสมากเหมือนกัน ขนาดพวกที่บอกรักพ่อแม่ แต่ถ้าลองมาเช็คขี้เยี่ยวสิ เหอะ ไม่มีหรอก แต่ก็มีพ่อแม่สว่นน้อย ที่ไม่ได้คิดคาดหวังตรงนี้ เพราะไม่อยากทำลายชีวิตที่เหลือของลูก

แล้วก็มักจะยังพบเห็นหลายคนอยู่นะ ตอนพอใจแรกๆก็มักจะบอกว่าคนนี้แหล่ะใช่ เนื้อคู่ เข้ากันได้ดี แต่พอแต่งงานมาสักพัก ความพอใจหมดลง ทำไมถึงกลับเจอแต่ปัญหาล่ะ นั่นก็เพราะในความเป็นจริง มันไม่มีใครจะคิด หรือ ชอบเหมือนๆกัน ในทุกๆอย่างไง เอาแค่ว่า คนนึงชอบดูละครไทย อีกคนชอบดูซีรีย์ฝรั่ง แค่นี้มันก็ทำให้เป็นปัญหากันได้แล้ว แล้วถ้ายิ่งไม่คุยพูดจากันดีๆ ยอมรับและเข้าใจอีกฝ่าย ก็จะยิ่งทำให้เป็นปัญหาหนักมากขึ้น จนกระทั่งไปด้วยกันไม่ได้อีก หรือ นี่จะเรียกได้ว่า เป็นกิเลส ของสิ่งมีชีวิต ซึ่งคนส่วนใหญ่ยังถูกมันควบคุมอยู่ จึงไม่แปลกหล่ะมั้ง ที่เห็นแรกๆรักกันดีแต่พออีก่ฝ่ายตกอับ อาจจะพิกลพิการ โดนไล่ออก หรือ ธุรกิจเจ๊ง กลับมาหมางเมินทิ้งกันไป เพราะห่วงตัวเอง ไม่อยากร่วมทุกข์กับใคร

แล้วตกลงนี่ แต่งงาน มันทำให้ชีวิตมีความสุขขึ้นหรือทุกข์มากขึ้นกันแน่ คงจะพอรู้คำตอบกันบ้างแล้ว
คนที่ยังเป็นโสด หรือ ยังไม่มีลูก เขามีความสุขมากกว่า คนแต่งงานแล้วพอควร
ไอที่บอกเหงาๆบ้างอ่ะ มันก็แค่ความฟุ้งซ่านทางจิตที่ไม่รุ้จักจัดการตัวเองก็แค่นั้น
ลองถ้าแต่งงานสิ ก็ไม่ได้เจอความสงบไอที่ว่านี่แน่ๆ ไหนจะต้องถกเถียง
ทะเลาะ อดทนต่อปัญหาต่างๆมากมาย

บางคนอาจจะบอก เห็นหลายคนชีวิตคู่ ติ๊ ดี ยังไงก็อย่ามองแค่นั้นหล่ะ
ดูตอนเขามีปัญหาหนักๆด้วย ไม่ใช่มองแต่ด้านสวยหรู หรือ เปลือกที่คนสร้างภาพ
ให้คนทั่วไปเข้าใจว่ามีความสุขซะเหลือเกิน

14 พย 58

สำหรับคนที่ต้องการ อ่านข้อคิด พิจารณาสิ่งต่างๆตามจริง
สามารถเข้ามา อ่านได้ทีนี่ (ย้ำนะว่า สำหรับคนที่ต้องการความจริงเท่านั้น)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
พระพุทธเจ้า ท่านบอกว่า คนที่จะครองคู่กันได้ยาวนานตลอดไป เพราะคู่นั้น 4 อย่างนี้เหมือนกันคือ
1.มีศรัทธาเสมอกัน
2.มีศีลเสมอกัน
3.มีจาคะเสมอกัน
4.มีปัญญาเสมอกัน

จะเลือกใครก็เลือกดีๆนะครับ  ผมเองก็ต้องไปหาเหมือนกัน เอา 4 ข้อนี้นำไป เขื่อพระพุทธเจ้าครับ เพราะมีเหตุมีผลมาก
ความคิดเห็นที่ 13
ดูจากจขกท.ตอบเพื่อนๆในกระทู้แล้ว เหมือนคุณ "ปักใจเชื่อ" ไปแล้วว่าการแต่งงานคือความทุกข์

อยากให้คุณเปิดตาเปิดใจมองโลกรอบด้านบ้าง อย่าฟันธงแต่ด้านที่ตัวเองอยากเชื่ออยากมองเท่านั้น
มันคือการปิดใจนะ

การแต่งงานย่อมเจอทั้งสุขและทุกข์  แต่ถ้าเลือกคู่ให้ดี ใช้สติในการเลือก มันสุขมากกว่าทุกข์ครับ
ผมเองโคตรชอบชีวิตโสดเลย ไม่คิดจะแต่งงานด้วยซ้ำ...แต่...
ผมเจอคู่ที่อยู่กันจนตายจากกัน แต่ "ทนอยู่" ก็มีเยอะ
และเจอคู่ที่มีความสุขจนแก่เฒ่าก็หลายคู่

โลกมีหลายด้านครับ  อย่าไปปักธงว่ามันต้องเป็นแบบที่เราเชื่อเท่านั้น
ความคิดเห็นที่ 16
If you live in reality, marriage life is not that bad like you think.
If you dream too much of the rainbows after the rain, you might end up find only the flood with
lot of floating garbage.

My marriage is not as smooth as silk but every time I look back at it, I don't regret my decision.
I have a man I can trust to love and to fight.
I have kids who could make me scream the whole days but at the same time they bring brighter
sun in my life.

When my husband gives a hug, and kids sing "loving you too much, very much.. my mama", I
know I'm not alone in this big world.

;=)
ความคิดเห็นที่ 2
แล้วแต่คนมั๊งครับ
ผมแต่งงานมา 10 ปีแล้ว
ทุกวันนี้ก็ยังเหมือนวันที่คบกันเป็นแฟนใหม่ๆ
ความคิดเห็นที่ 24
ผมนี่ไงแต่งงานแล้วแฮปปี้สุดๆ มันไม่ใช่ว่ามันดีทุกอย่าง แต่ถ้าเลือกได้ขอแต่งงานดีกว่า

ที่คุณยกตัวอย่างมาว่าคนเราแต่งแล้วจะมีปัญหากันยังไงบ้างนั้นก็เรื่องจริง แต่ก็เพราะอยู่กันแบบเห็นแก่ตัวไม่ใช่เหรอถึงได้เป็นแบบนั้น ถ้าจะรักใครขอให้รู้จักให้ ถ้าจะแต่งกับใครขอให้แต่งกับคนที่รู้จักให้เหมือนกัน

แย่งกันให้ ต่างฝ่ายต่างให้จะไม่มีใครต้องให้มากเกินไป ชีวิตจะมีความสุข เกิดความเคารพซึ่งกันและกัน

ถ้าความสุขของชีวิตคู่คือการได้มาซึ่งบางสิ่งมันจะจบลงสักวันนึง ถ้าความสุขในชีวิตคู่คือการให้ ถ้าคนทั้งสองคิดแบบนี้จะร่วมทุกข์ร่วมสุขกันไปได้ตลอด

มันอยู่ที่วิธีคิดจริงๆ

ปล.ผมเห็นคนสมัยใหม่กลัวการแบ่งปันกันแล้วตกใจ มันอาจเป็นผลจากการเลี้ยงดูที่พ่อแม่นี้มีแต่ให้รึเปล่า ถ้าคิดแต่จะรับใช้ชีวิตคนเดียวเหมาะกว่าครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่