ผมขอแนะนำอะไรที่เป็นพื้นฐานก่อนนะครับ ...

เราควรใช้เครื่องเสียงขนาดกี่วัตต์ถึงจะดี
คนเราฟังเพลงไม่เหมือนกัน บางคนฟังลูกทุ่ง บางคนฟังร๊อคไปถึงออเคสตร้าวงใหญ่ ๆ
ความต่างมันอยู่ตรงนี้ครับเราเรียกมันว่า ไดนามิค เร้นจ์ (Dynamic Range)

ไดนามิค เร้นจ์ ถ้าเขียนให้เห็นภาพอย่างง่าย ๆ คือ " ความแตกต่างกันของเสียงที่ดังที่สุด กับเสียงที่เบาที่สุด "  

ถ้าใครเคยเข้าไปดูละครเวที ที่เขาใช้นักดนตรีมาเล่นสด ๆ เพื่อประกอบละคร (ผมดูกามนิตและวาสิฏฐี)
หรือไปฟังในหอประชุมใหญ่ ๆ (ผมเข้าไปที่กองดุริยางค์ ทบ.) จะพบว่าเสียงเครื่องลม , เสียงเสียงเครื่องเคาะหรือเพอร์คัสชั่น
จะค่อนข้างเบา แต่พอทิมปานีค่อย ๆ รัวดังขึ้น ... ความดังกระแทกอก กระแทกใจมาก รู้สึกเร้าใจ สนุกสนาน ...
ความแตกต่างของเสียงเครื่องดนตรีอาจมากถึง 90dB ขึ้นไป

ที่นี้มาดูเพลงลูกทุ่งกันบ้าง ... ส่วนใหญ่ความแตกต่างของระดับเสียงมีไม่มากนักอาจสักประมาณ 60 -70 dB

ตรงจุดนี้แหละครับที่เราต้องรู้ว่า เราต้องการเครื่องขยายกี่วัตต์มาตอบสนองความต้องการของเราหรือกี่วัตต์ถึงจะดี

สมมุติว่า ... ผมชอบเพลงลูกทุ่ง เป็นคนเปิดเพลงแบบไม่เผื่อชาวบ้าน
ผมเปิดดังประมาณ 40dB ผมใช้เครื่องขยายแค่ 10 วัตต์ก็พอ แต่เสียงคงจะแย่หน่อยถ้ามีเสียงกลองหนัก ๆ ในเพลงนั้น
เสียงคงจะออกมาแบบแหบ ๆ พร่า ๆ ... ซึ่งเกิดจาการที่สัญญาณถูกตัดยอด (Clipping) จากไฟเลี้ยงที่มีค่าน้อย

ถ้าแบบนั้นผมจะเลือกแอมป์กี่วัตต์มาฟังเพลงลูกทุ่งดีหล่ะ ... เพื่อที่ผมจะสามารถฟังเพลงลูกทุ่งได้อย่างไพเราะ
เครื่องขยายของผมจึงจำเป็นต้องมีต้องมีกำลังสำรองเพื่อให้เพียงพอต่อไดนามิคเร้นจ์ของเพลง
กำลังสำรองของเครื่องขยายเสียงเราเรียกว่า " ไดนามิค เฮดรูม "

คำตอบคือผมฟังเสียงดังขนาด 40 dB เผื่อกำลังให้สัญญาณขนาดใหญ่สวิงได้ถึง 60 dB ...
แปลง dB เป็นวัตต์ ได้กำลังเครื่องขยายออกมาคือมากกว่า 100 วัตต์ครับ ถึงจะฟังเพลงได้ไพเราะ

ดังนั้นในปัจจุบันนี้ การบันทึกเสียงในแบบดิจิตอลจะมีไดนามิคเร้นจ์ที่กว้างมาก ๆ น่าจะเกิน 100 dB ไปแล้ว
ดังนั้นการใช้แอมป์ไม่กี่วัตต์มาขับ คงไม่ได้อรรถรสเท่าไหร่ โดยเฉพาะแอมป์หลอด

แล้วทำไมแอมป์หลอดถึงเสียงดี ... ตรงนี้ตอบได้ง่าย ๆ ว่า เพราะแอมป์หลอดใช้ไฟเลี้ยงสูงมาก
ไฟที่เพลทสูงกว่า 300 โวล์ท ดังนั้นจึงสามารถสวิงสัญญาณได้ดี โดยที่ยอดของสัญญาณไม่ถูก Clipping ได้ง่าย
ถึงจะมีการ Clipping รูปสัญญาณก็ยังมีลักษณะมน ๆ ทำให้เสียงแหบพร่าน้อยกว่า ภาคขยายชนิดอื่น ๆ ครับ

แต่แอมป์หลอดขับกระแสได้ต่ำ ดังนั้นจึงต้องการลำโพงความไวมาก ๆ และมีค่าอิมพิแดนท์สูง ๆ มาใช้ในระบบ
เพราะเนื่องจากแอมป์หลอดขับกระแสได้น้อย ถ้าเจอลำโพงอิมพิแดนซ์ต่ำ ๆ ก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน
ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่า ในแอมป์หลอดดี ๆ จะมีขั้วต่อลำโพงที่ระบุอิมพิแดนท์ด้วยเสมอ ๆ ครับ

ผมขอสรุปว่า
กำลังขับของแอมป์ปริไฟร์เออร์ สำหรับฟังเพลงนั้นควรมีกำลังขับไม่น้อยกว่า 250 วัตต์ ที่ 8 โอมห์
เพราะเราต้องการแอมปลิจูดของสัญญาณสูง ๆ ซึ่งแอมปลิจูด จะผูกติดกับไฟเลี้ยงวงจรแบบแนบแน่น แยกออกจากกันไม่ได้
ดังนั้นการใช้แอมป์ไฟเลี้ยงต่ำ ๆ และบอกว่าเสียงดี จึงเป็นไปไม่ได้ครับ แต่ก็เป็นเรื่องส่วนบุคคลและความชอบส่วนตัว

ถ้าให้ผมแนะนำ ...
- เลือกซื้อแอมป์ที่มีกำลังสูงที่สุด ใช้ไฟเลี้ยงวงจรที่มีค่าสูง ๆ ที่สามารถใช้ได้กับลำโพงค่าอิมพิแดนท์ทั่ว ๆ ไปคือ 8 โอมห์
- เลือกแอมป์ที่มีค่ากำลังสำรองสูงที่สุดและสามารถใช้ได้กับลำโพงอิมพิแดนท์ต่ำ ๆ ได้ เพราะนั่นหมายถึงแอมป์ตัวนั้นมีภาคจ่ายไฟที่ดี
  จ่ายกระแสได้มาก เมื่อจ่ายกระแสได้มาก ก็มีความสามารถในการหยุดยั้งลำโพงที่ดี
- เปิดฟังไม่เกิน 60 dB นะครับเสียงดีแน่นอน

ตัวอย่าง
100 วัตต์ที่ 8 โอมห์
250 วัตต์ที่ 2 โอมห์ (สมมุติ)

จะดีกว่า 100 วัตต์ที่ 4 โอมห์ครับ