มุมมองเปลี่ยนชีวิตเปลี่ยน “ปีใหม่–ป๋าต๊อบ” แม้รวยใช้ชาตินี้ไม่หมด แต่เลือกติดดิน

ยอมใจจริง ๆ แม้จะร่ำรวยเงินทองทรัพย์สินมากแค่ไหน ก็ซื้อคุณภาพชีวิตที่ดีไม่ได้ มุมมองเปลี่ยนก็พลิกชีวิตได้ ชีวิตเปลี่ยนทุกอย่างก็แฮปปี้ แม้รวยล้นฟ้าใช้ยังไงก็ไม่หมดชาตินี้ แต่แค่เปลี่ยนความคิด ไปใช้ชีวิตติดดินก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

ต้องบอกก่อนเลยว่า เซเล็บสุดอลังการวันนี้ ที่เราจะพาทุกคนไปดูมุมมองชีวิต และจุดพีคที่ทำให้มุมมองเปลี่ยน จุดที่ทำให้พวกเราต้องยอมใจเค้าไม่ใช่แค่เซเล็บไฮโซทั่วไป และมาเป็นแพ็คคู่ทวิน ๆ  นั่นก็คือ ปีใหม่-ป๋าต๊อบ คู่รักรวยเว่อร์วังที่มีกินมีใช้แบบล้นเหลือฟู่ฟ่า ชนิดที่หลายคนอยากจะฆ่าทิ้ง และไปยืนจุดนั้นแทนเลยทีเดียว เพราะฝ่ายป๋าต๊อบนั้นมีดีกรีเป็นถึงทายาทเสี่ยปัญญา นักธุรกิจธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หมื่นล้าน และก็มีชื่อเสียงพอสมควรอยู่ในวงการบันเทิง รวมทั้งการเป็นเจ้าของธุรกิจร้านอาหารทาร์ต แฟ็กทอรี่ อีกด้วยนะจ๊ะ เริ่ดเลอเพอร์เฟ็ค


ส่วนด้านสาวปีใหม่-สุมนต์รัตน์ เองก็เป็นนักแสดงสาวทรงโตดูมดูม ที่คับทั้งขนาดคัพ และฝีไม้ลายมือการแสดง ถามว่าทำไมถึงหยิบยกเอาไลฟ์สไตล์มุมมองชีวิตที่เปลี่ยนไปของคู่รักมหาเศรษฐีคู่นี้มาพูดนั้น ก็เพราะแต่ก่อนชีวิตสองคนนี้เคยพังมากหนักมาก พังพินาศชนิดที่เราเองก็นึกไม่ถึง จิตนาการไม่ได้เลย สิ่งสำคัญไม่ใช่เรื่องความรักที่เคยเป็นข่าวให้พูดถึงกันแต่รับรองได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าอึ้งมาก

เรื่องที่ว่าคือ ปีใหม่-ป๋าต๊อบ เคยติดสิ่งเสพติดทุกชนิด!! ย้ำว่าเสพยาเสพติดทุกชนิด หมายความว่าไม่ว่าอะไรมาเอาหมดไม่สน ต๊ายยยขุ่นพระ ไม่คิดไม่ฝัน จินตนาการไม่ถึงอย่างที่ดั๊นบอกไหมละ ป๋าต๋อบเอิงก็เปิดใจว่า

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้“เริ่มจากบุหรี่คืออย่างแรกที่ติด เริ่มสูบตอนอายุ 11 ปี ตามด้วยเบียร์ กัญชา และเหล้าทุกชนิด หรืออะไรก็ได้ที่ใส่แล้วเมา สิ่งเสพติดทุกตัวที่ส่งให้ไม่เคยถาม เพราะกินหมด แต่มารู้ที่หลังว่าจริง ๆ แล้วติดการทำร้ายตัวเองมากกว่า””ตัวเองไม่ได้เป็นเด็กมีปัญหา พ่อแม่และครอบครัวอบอุ่นมาก แต่ชอบคิดเปรียบเทียบว่าตัวเองด้อยกว่าคนอื่นตั้งแต่ 8 ขวบ คือคิดไปเองนั่นแหละว่าตัวเองไม่มีค่าเปรียบเทียบกับคนอื่น ๆ จนตัวเองไม่พอซักที ไม่หยุด ไม่รู้จักคำว่าพอดี และตัวตนของตัวเอง ต้องการเรียกร้องความสนใจ”

ซึ่งเป็นอีโก้ที่ผิดหมดมาก ผิดสุด ๆ นะดั๊นว่า  สาวปีใหม่เองก็ไม่รู้ว่าป๋าต๊อบติดสิ่งเสพติดไม่รู้มาก่อนจริง ๆ เพราะคิดว่าเป็นปกติ ไม่ได้เป็นปัญหา คือ ชอบกิน ชอบดื่ม ปาร์ตี้ เหมือนกับตัวเองไปด้วยกันได้ เลยไม่ได้สงสัยอะไรจนมาเห็นอาการบ่อย ๆ แบบน่าสงสัย มันหนักขึ้น ๆ หลัง ๆ เข้าจึงเริ่มรู้ เช่นทะเลาะกันบ่อย เป็นเพราะสิ่งเสพติดนี่แหละ ป๋าต๊อบบอกว่า นี่แหละคือปัญหา ป๋าต๊อบสุดท้ายก็คงจะทนตัวเองไม่ไหวเหมือนกัน บอกกับสาวปีใหม่ว่าจะเลิกเอง ตอนแรกปีใหม่ไม่เชื่อว่าพี่จะทำได้ วินาทีที่เลิกคือ ตื่นมาไม่คิดถึงมันอีก ไม่ไปหายา ไม่ไปเมา แล้วถามตัวเองว่า พอหรือยัง พร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้วหรือยัง


และฟ้าก็เห็นใจ คนที่อยากกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติชนคนดี โชคดีที่ป๋าต๊อบเจอกลุ่มบำบัด ซึ่งที่เจอก็เป็นเพราะบุญของพ่อแม่ ที่ช่วยหากลุ่มบำบัดนี้ และไม่ยอมแพ้ด้วย สาวปีใหม่เองก็ลดละเลิกเช่นกัน เปลี่ยนจากสาวปาร์ตี้เฮฮา เมาไหนเมานั่น ถึงไหนถึงกัน เป็นผู้หญิงธรรมดา แถมรักสุขภาพมากขึ้น รักตัวเอง เปลี่ยนทัศนคติใหม่  ออกกำลังกายจนมีซิกแพคสวยงามอร่ามตา มาอวดผู้ติดตามในอินสตาแกรมอยู่เสมอ ๆ

ป๋าต๊อบเองก็เปลี่ยนแนวคิดใหม่รีเซ็ตชีวิตตัวเอง ดึงตัวเองจากหลุมดำขึ้นมาสู่ชีวิตใหม่ที่สดใส ปลอดจากสิ่งเสพติด และปลอดจากสิ่งเร้าโดยสิ้นเชิง มีสติมากขึ้น จดบันทึกทุกความรู้สึก และการกระทำของตัวเองทุก ๆเช้า มีเวลาให้กับคนรอบข้างอย่างที่เมื่อก่อนไม่เคยคิดจะสนใจ ตอนนี้มันดีมาก

ดั๊นเองต้องขอบอกก่อนเลยว่ายอมใจมาก เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะทำได้แบบนี้นี้เรียกง่าย ๆ ภาษาชาวบ้านก็หักดิบดี ๆ เนี่ยแหล่ะ เรียกว่าผู้ชายแมน ๆ บางคนลูกเมียก้มกราบยังทำให้ไม่ได้เลย  ยอมใจจริง ๆ สิบนิ้วพนมน่าเอาเป็นแบบอย่างนะจ๊ะ  แถมพอมุมมองชีวิตเปลี่ยนแล้ว การใช้ชีวิตก็เปลี่ยน

สาวปีใหม่เองก็เปลี่ยนจากผู้หญิงที่บ้าวัตถุ แบรนด์เนมหัวจรดเท้า เป็นผู้หญิงปรกติที่ใช้อะไรก็ได้ ที่ใส่แล้วมีความสุข ไม่เสพติดวัตถุนิยม ไม่บ้าแบรนด์เนม ไม่เป็นทาสมัน ใช้บ้างแต่ก็เท่าที่มี และเท่าที่คิดว่าเหมาะ เพราะดูจากตอนนี้สาวปีใหม่ไปแนวเด็กดอย กว่านะดั๊นว่า ฮ่า ๆ แบ๊วลืม เก๋มาก ยิ่งทรงผมแหวกแนวสุดชิคฉีกกฏแฟชั่น ทรงก่อนปัจจุบันที่สาวปีใหม่เคยทำแล้ว ยังเป็นรอยยิ้มที่ดั๊นสัมผัสได้เลยว่า สาวปีใหม่มีความสุขอย่างแท้จริงกับชีวิตใหม่ ป๋าต๊อบเองก็เช่นกัน มีเวลาให้ตัวเอง และครอบครัวออกกำลังกาย และมองหาอะไรดี ๆ ให้ตัวเองหันไปเสพติดธรรมชาติ และชีวิตง่าย ๆ สบาย ๆ แทน รอยยิ้มของป๋าต๊อบมันช่างอิ่มสุขจริง ๆ ตอนนี้

หลายคนที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ ดั๊นหวังว่าบทความนี้จะช่วยเตือนสติ หรือเป็นแนวคิดให้ทุกคน และคนรอบข้างได้ไม่มากก็น้อย เพราะสังคมสมัยนี้แม้แต่ดาราเองก็มีด้านมืดที่กู่ไม่กลับไม่ต่างจากเรา ๆ

ขอขอบคุณภาพ: peemai28 ที่มา: http://goo.gl/BZM3zf