แบบที่สอง คือ แบบที่มีโต๊ะนั่งหันหน้าชนกัน สี่คน
โดยส่วนตัวเราชอบแบบนี้มากกว่า เพราะ เราสามารถวางของบนโต๊ได้ นั่งฟุบหลับได้ด้วย




ทริปนี้เราใช้เวลาไม่นานมาก แต่ก็หลับไปหลายตื่นอยู่เหมือนกัน ในที่สุดก็ถึงสักที่ Cologne เมืองในฝันของเรา เมืองนี้เป็นเมืองใหญ่อันดับสี่เลย
เราชอบเมืองนี้ที่สุดอาจเป็นเพราะ สถาปัตยกรรมอันเก่าแก่เลื่องชื่อของ มหาวิหารแห่งโคโลญจ์




รูปนี้ถ่ายจากในสถานนี รถไฟ cologne เห็นแค่นี้ก็สวยแล้ว




ร้านไส้กรอกในสถานนีรถไฟ แนะนำ อร่อยมาก ใครมาต้องลองทานนะคะ


หลังจาก ตกตะลึง ในความงดงามอยู่สักพัก เรากับเพื่อน ก็รีบไปตามหาเจ้าซิมมือถือของ vodafone เพื่อจะได้ติดต่อเจ้าของห้องพัก
(sim มือถือมี shop vodafone ขายภายในสถานีเลยลองเดินดู รอบๆๆสถานนี คะ)

สำหรับห้องพักเราจองผ่านทาง AIRBNB คือ ที่พักเราใกล้กับ มหาวิหารแห่งโคโลญจ์ มากเรียกได้ว่าอยู่รอบๆๆเลยแล้วกัน ที่สำคัญได้มาด้วยราคาถูกแสนถูก ราคาต่อคืนอยู่ที่ประมาณไม่ถึง สามพันบาท (การจองผ่าน AIRBNB ราคาจะขึ้นอยู่กับค่าเงินตอนนั้นด้วย)

คุณลุงเจ้าของห้องก็ใจดีมาก จัดแจงลากกระเป๋าให้ด้วย ซึ่งพอเห็นห้อง ก็ตกกะใจจจจจ เบาๆๆ เหมือนเป็น บริษัทสตูดิโอแล้วเขาแบ่งห้องมาให้เช่าคะ ห้องนอนกว้างมาก มีเตียงอยู่ตรงกลาง แล้วก็มีพวกตุ๊กตาตั้งโชว์เราก็เลยแอบ ขนลุกไปเบาๆๆ

แต่คือจุดพีคมันอยู่ที่ ห้องน้ำคะ
คือเพื่อนเราจะไปอาบน้ำ แต่ไม่ถึงสามนาทีนางก็เดินกลับมา บอกว่า

“ งงงงงงไม่มีห้องอาบน้ำ มีแต่ ห้องส้วมมมมม ”

ไอเราก็แบบ “เห้ยจริงปะ หาดูดีหรือยัง”

Finally, พวกเราก็สระผมกันบนอ่างล้างมือและใช้ผ้าขนหนูเช็ดตัว

เพราะฉะนั้น อยากเตือนสาวๆๆหนุ่มๆๆกันนะคะ ว่าก่อนจองให้ดูให้ดีก่อนว่ามีห้องน้ำไหมมมม เรากับเพื่อนพลาดไปลืมดูกันเองโทษใครไม่ได้



หลังจากเก็บของใน สตูดิโอห้องพัก เสร็จเรียบร้อย ก็ได้เวลา ออกไปเดินเล่นรอบเมือง



วันนั้นที่เราไปฝนตกปรอยๆๆ กว่าจะถึงก็มืดแล้ว เรากับเพื่อนเรามองไปที่โบสถ์ก็แอบ ขนลุก กันเบาๆๆ เพราะโบสถ์แลดูขลังยิ่งนัก

เหมือนจะมีค้างคาวบินออก มา อารมณ์ แดร็กคิวล่า เลย ระหว่างทางเดินก็มีคนมาเรียกอารมณ์แบบแซวๆๆ พูดภาษาจีนใส่เรากับเพื่อน ซึ่งขอบอกน่ากลัวมาก เรากับเพื่อนก็รีบเดินเลย จ้า








รูปนี้เป็นรูปรอบ รอบ มหาวิหารแห่งโคโลญจ์