ด้วยทริปนี้เราไปเที่ยวเยอรมัน และเมืองของฝรั่งเศสที่ติดเยอรมันที่มีชื่อเสียงมาก นั่นก็คือ เมือง Strasbourg ซึ่งมีวัฒนธรรมและสิ่งก่อสร้างคล้ายของฝั่งเยอรมัน ครั้นจะข้ามเมืองไปนี้ก็แอบเสียดายค่ะ เราเลยปักหมุดเมืองนี้อยู่ในแผนไว้ด้วยค่ะ เมือง Strasbourg อยู่ในเขต Alsace ของฝรั่งเศส ด้วยความที่ติดกับเยอรมันก็เลยจะมีกลิ่นอายวัฒนธรรมของเยอรมนีผสมผสานกันด้วย 

เราออกเดินทางจาก Frankfurt นะคะ มุ่งหน้าสู่ Strasbourg โดยรถไฟ เนื่องจากเราซื้อ German pass ดังนั้นบัตรนี้จะใช้ได้เฉพาะในเยอรมนี เราเลยต้องนั่งรถไฟไปสุดขอบเขตชายแดนของเยอรมนีที่เมือง Kehl และนั่งรถ tram ข้ามแม่น้ำ ไปฝั่งฝรั่งเศส คือแบบข้ามแม่น้ำก็เป็นอีกประเทศแล้ว แต่คนก็มีสัญจรไปมาระหว่างเมืองกันมากมายเลยค่ะ ทำให้ไม่รู้สึกถึงการแบ่งประเทศอะไรชัดเจน เพียงแต่พอข้ามมาอีกฝั่งก็รู้ละว่านี่ก็คืออีกประเทศหนึ่งละ

  
อย่างที่บอกข้างต้นว่าเราใช้ German pass ถึงแค่เมือง Kehl หลังจากนั้นเราก็ซื้อตั๋ววัน ซึ่งสามารถซื้อได้ที่สถานีรถไฟป้ายที่เราขึ้นเลย โดยเราดูผ่าน app นะคะว่าจากเมือง Kehl จะไป Strasbourg จะต้องรถไฟสายอะไร จริงๆเราอยู่ที่ฝรั่งเศสประมาณ 2 วันกว่า ก็แอบเสียดายเพราะตอนแรกมันมีตั๋วแบบ 3 วันซึ่งราคาถูกกว่า แต่ด้วยความที่ไม่รู้ว่าตั๋วนี้จะใช้ที่ฝั่งฝรั่งเศสได้รึเปล่าเลยซื้อแบบวันเดียวไปก่อน แต่ถ้าใครมาตาม rout นี้แนะนำซื้อตั๋วครอบคลุมช่วงเวลาที่เราอยู่ไปเลยค่ะ สะดวกสบายและประหยัดกว่าค่ะ
 แป่ะ ไปเที่ยวเมือง Strasbourg กันค่ะ เราพักกันที่โรงแรม Novotel Strasbourg Centre Halles ซึ่งข้อดีของที่นี่ก็คือ พอเรานั่ง Tram จากเมือง Kehl เข้าสู่ตัวเมือง Strasbourg ด้วยรถ Tram สาย D ไปลงสถานี Ancience Synagogue ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมงนะคะ พอเราลงสถานี คือโรงแรมอยู่ตรงหน้าเลยค่ะ และข้อดีอีกอย่างหนึ่งของที่นี่คือติดห้างสรรพสินค้าเลยค่ะ สะดวกสบายมาก และฝั่งตรงหน้าโรงแรมก็จะมีแม่น้ำเรียกว่าคลองดีกว่า canal de Faux-Rempart และฝั่งตรงข้ามก็จะมีห้าง Primark และเป็นแหล่งช้อปปิ้งแล้วค่ะ และจากโรงแรมเราก็สามารถเดินเที่ยวชมเมืองหรือจะนั่งรถรางไปก็ได้ค่ะ สะดวกมากๆ 

 
สถานที่ปักหมุดแห่งแรกของเราเลยก็คือ Strasbourg Cathedral หรือ Cathédrale Notre-Dame-de-Strasbourg มหาวิหารที่ใหญ่โตและสวยงามอีกที่หนึ่งค่ะ ที่มีสถาปัตยกรรมแบบ  Sandstone Gothic สถาปัตยกรรมยุคกลาง คล้าย Notre-Dame ที่ปารีสค่ะ แต่ลักษณะของหินสีจะแตกต่างกันค่ะ คือที่นี่จะเป็นเหมือนหินสีทรายจะออกน้ำตาลแดงอ่ะค่ะ และภายในจะมี Astronomical clock มหาวิหารแห่งนี้ได้รับการจดขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกว่าคือวิหารที่มีความสูงที่สุดในยุโรปแถบตะวันตกโดยองค์กรยูเนสโกด้วยนะคะ (สูงเป็นอันดับที่ 6 ของโลกด้วยนะคะ)

   และบริเวณรอบๆ ก็จะมีร้านค้า รวมถึงสถาปัตยกรรมแบบ Half-timbered คล้ายของฝั่งเยอรมันค่ะ หากหันหน้าเข้ามหาวิหาร ด้านซ้ายมือจะเห็นบ้านโบราณ ที่ชื่อว่า Maison Kammerzell  เราว่าถึงแม้ไม่ได้มีข้อมูลมาก่อน เห็นบ้านนี้แล้วก็อยากจะถ่ายรูปค่ะ เพราะมันเด่น และสวยมากค่ะ และที่นี่ยังเป็นเหมือนเมืองหลวงแห่งคริสต์มาสเลยค่ะ ซึ่งขนาดเราไม่ได้มาช่วงคริสต์มาส ยังได้กลิ่นอายของคริสต์มาสเลยค่ะ เนื่องจากร้านค้า ก็จะขายพวกถุงเท้า ของตกแต่งวันคริสต์มาสไว้อย่างมากมายและสวยงามค่ะ  ฟินสุดๆ 

 
อ่อ และที่นี่เราปุกหมุดอีกอย่างก็คือการจะลองชิมไอติมกุหลาบ Amorino ไอศกรีมเจลาโตกุหลาบ สัญชาติอิตาลี ที่เราต้องมาชิมกันค่ะ ฟินมากเช่นกัน 555 

 อีกที่หนึ่งที่เราปักหมุดไว้ก็คือ Petite France ซึ่งเป็นย่านเมืองเก่า จะมีสถาปัตยกรรมของบ้านเรือนแบบ Half-timble และร้านอาหารต่างๆ แต่ช่วงที่เราไปใกล้ค่ำแล้ว เนื่องจากกว่าจะออกจากมหาวิหารเดินตามริมน้ำมาเรื่อยๆ จนไปสุดที่เขื่อน Barrage Vauban ก็มืดแล้วค่ะ ถ่ายรูปออกมาเลยได้อีกบรรยากาศหนึ่ง แล้วเราก็เดินกลับโรงแรมค่ะ
   
เมืองนี้เอาจริงๆ ก็เที่ยววันเดียวแบบ one day trip ได้ค่ะ แต่เราเลือกพักที่เมืองนี้เพราะอีกวันหนึ่งเราจะไปเที่ยวเมือง Colmar และเมือง Strasbourg นี้ก็ถือว่าเป็นเมืองใหญ่ และสวยงามมากเลยค่ะ เราเลยใช้เวลาในการดื่มด่ำเมืองนี้กันค่ะ โดยรวมเราชอบเมืองนี้มากนะคะ ไม่รู้สิเราชอบฝั่งฝรั่งเศสมากกว่าเยอรมัน แต่สามีเราชอบเยอรมันมากกว่า ก็แล้วแต่คนชอบนะคะ ส่วนตัวเรารู้สึกว่าเที่ยวง่าย เดินทางง่าย หากินง่าย ช้อปปิ้งง่าย 555 อาจจะเหมาะกับสาวๆ ที่รักการช้อปปิ้งนะคะ แล้วร้านอาหาร ร้านขนมก็น่ากินไปหมดเลยค่ะ หากใครพอมีเวลาเราก็ไม่อยากให้พลาดเมืองนี้เลยค่ะ มาให้ได้กันนะคะ เมือง Strasbourg สวยงามมากค่ะ
 บทความและรูปภาพทั้งหมด by Psychiartist
อ่านบทความอื่นๆ ได้ที่
1. เที่ยวเมือง Nuremberg nuremberg
2. เที่ยวเมือง Bamberg ิbamberg
3. เที่ยวเมือง Wurzburg wurzburg
4. เที่ยวเมือง Frankfurt frankfurt
5. เที่ยวเมือง Stuttgart stuttgart
แถมด้วย
review miracle lounge miracle lounge
ทำ tax refund ที่สนามบินมิวนิค tax refund at munich airport
รีวิวทำวีซ่าเชงเก้นเยอรมนี Visa เชงเก้น เยอรมนี