กระทู้ก่อนหน้า
อยู่กับตลาดหุ้น ด้วยหลักพุทธศาสนา (ตอนที่1 "อนิจจัง" กับการเทรดหุ้น)
http://ppantip.com/topic/34368530
อยู่กับตลาดหุ้น ด้วยหลักพุทธศาสนา (ตอนที่2 "หลักธรรมะ" กับการเทรดหุ้น)
http://ppantip.com/topic/34368530
คำสอนขององค์สมเด็จพระบรมศาสดา ไม่เคยล้าสมัย แม้พระองค์ปรินิพพานไปนานแล้ว
และนำมาประยุกต์ใช้ได้กับบุคคลทุกเพศทุกวัย ทุกสาขาอาชีพ
**บทความใดๆที่เกี่ยวกับธรรมะ หากผมซึ่งมีความรู้น้อย และยังไม่ได้บรรลุธรรมใดๆ กล่าวไป และมีความผิดเพี้ยนไปจาก ความเป็นจริง
ก็ต้องขอขมา แด่ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์ ทุกพระองค์ ไว้ ณ ที่นี้ด้วย หวังว่า พระรัตนตรัย จะอดโทษ แก่ข้าพเจ้า
**บุญใดที่เกิดจากการ ให้ธรรมเป็นทาน ดังนี้ ซึ่งเป็น ทาน ที่ชนะทานทั้งปวง "สัพพะ ทานัง ธัมมะ ทานัง ชินาติ" ก็ขอโมทนาบุญนี้ให้ทุกท่านที่ได้รับธรรมนี้ด้วยเถิด ...สาธุ !!
สำหรับบทความนี้ก็จะกล่าวถึงผู้ที่ติดดอย...ทั้งสาเหตุ แนวทางการแก้ไข ทั้งทางธรรมและทางปฎิบัติในการเทรดครั้งต่อไป
ก่อนอื่นจะขอขึ้นด้วยบท
อิทัปปัจจยตาเป็นหลักการทางพุทธศาสนา เป็นกฏที่กล่าวถึงความเกี่ยวเนื่องกันของเหตุและผล เมื่อมีเหตุย่อมมีผล และเมื่อเหตุดับผลก็ดับ คือ เมื่อสิ่งนี้มีสิ่งนี้ย่อมมี เพราะความเกิดขึ้นแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้ย่อมไม่มี เพราะความดับไปแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงดับ
อิทัปปัจจยตา ถือเป็นหัวใจ(กฎ)ของปฏิจจสมุปบาท เป็นกฎเหนือกฎทั้งปวง เป็นสัจธรรมความจริงแท้ที่สุดของพุทธศาสนา และเชื่อมโยงคำสอนทั้งปวงของพระพุทธเจ้า หลักธรรมทั้งหลายของพระพุทธเจ้าล้วนเป็นไปตามกฎของอิทัปปัจจยตาทั้งนั้น
อิทัปปัจจยตา
อิมสฺมึ สติ อิทํ โหตุ
อิมสฺสุปฺปาทา อิทํ อุปฺปชฺชติ
อิมสฺมึ อสติ อิทํ น โหติ
อิมสฺส นิโรธา อิทํ นิรุชฺฌติ
คำแปล
เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี
เมื่อสิ่งนี้เกิด สิ่งนี้จึงเกิด
เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้จึงไม่มี
เมื่อสิ่งนี้ดับ สิ่งนี้จึงดับ
จากบท "อิทัปปัจจยตา" จะเห็นว่า ผลทุกอย่างล้วนเกิดแต่เหตุ....ดังนั้นต้องการดับผลนั้น ควรดับที่เหตุ...
ซึ่งจะดับเหตุได้อย่างไร? แนะนำให้กลับไปอ่าน บทความ ตอนที่ 2 ที่ผมเคยเขียนแล้ว นั่นเป็นปัจจัยแรก และเป็นขั้นตอนแรก ที่จะทำไปสู่การดับเหตุ...
วิธีการวางใจ
สำหรับผู้ที่ติดดอยนั้น หากมีความทุกข์เกิดขึ้น นั่นเป็นเพราะเรา ไม่ได้ปฎิบัติ ตามคำสอนของพระองค์ ในเรื่อง "ให้อยู่กับปัจจุบัน"
เรายังคงยึดติดกับอดีต ที่ผ่านมาแล้ว....
การยึดติดนี้ หมายถึง เรายึดติดกับราคา ที่หุ้นเคยอยู่.... จึงมีความหวังว่า ราคาจะกลับไปใน ราคาที่เคยวิ่งลงมาจากในอดีต....
แต่แท้ที่จริงแล้วนั้น ทุกอย่างล้วนเป็น "อนิจจัง" คือ ความไม่เที่ยง ราคาอาจจะกลับไป หรือไม่กลับไป หรือลงต่อ ก็เป็นได้ทั้งสิ้น
และสาเหตุอย่างหนึ่งที่ทำให้เราเข้าไปซื้อ....หุ้นที่ดอย....ก็ยังคงหนีไม่พ้น "การไม่อยู่กับปัจจุบัน" รวมถึง "การยึดมั่นถือมั่น ไม่ยึดถือหลักอนิจจัง"
หมายความ เป็น 2 กรณี
1.เราซื้อหุ้นขาขึ้น แล้วติดดอย นั่นหมายความว่า "เราอยู่กับอนาคต" คือ เราไปคาดหวังอนาคต ว่าราคาหุ้นจะเป็นเท่านั้นเท่านี้ แต่ไม่ได้ดูให้ดีในปัจจุบันว่า
ราคาตอนนี้ วิ่งมาไกลแค่ไหนแล้ว? Indicator มีสัญญาณ ขัดแข้งหรือไม่? มีสัญญาณ การกลับตัวหรือไม่? และตลาดนี้ เป็น "อนิจจัง" เป็น "อนัตตา" เราไม่สามารถควบคุมมันได้ ไม่สามารถอยากให้มันเป็นในสิ่งที่เราอยากให้เป็นได้.... "เมื่อเรามีความคาดหวังในอนาคตและไม่ได้คิดว่าทุกสิ่งล้วนไม่เที่ยงนั้น"
เราจึง กอดหุ้น ตัวนั้นไว้ แม้จะตกมาแล้ว ไม่ยอม CUT LOSS บางท่าน หุ้นตกมา ก็ยังคงยึดติดในอนาคต ก็ทำการเข้าซื้อ เรื่อยๆ ตั้งแต่ยอดดอย จนถึงตีนดอย .... ดังนี้แล
2.เราซื้อหุ้นขาลง แล้วติดดอย นั่นหมายความว่า "เราอยู่กับอดีต" คือ บางท่านมักจะคิดว่า เอ๊ะ เมื่อก่อนราคาเคยอยู่ที่ระดับนั้น ระดับนี้ ตอนนี้ราคาปรับตัวลงมาแล้ว ว้าววว ลดกระหน่ำ ซัมเมอร์เซลล์ ราคาถูกแล้ว ....(แต่หากท่านลืมคิดไปว่า ถูกกว่า ยังมี) และท่านไม่ได้อยู่กับปัจจุบัน คือ ดูว่า ปัจจุบัน มีสัญญาณกลับตัวใดๆ แล้วหรือไม่? และเมื่อซื้อหุ้นแล้วราคาลงต่อ เราก็ไปอยู่กับ อนาคต คือ "คาดหวังว่าอนาคตจะขึ้น" จึงทำให้กอดหุ้นไว้ ไม่ยอม CUT LOSS
นี่คือ ข้อผิดพลาดในการไม่ยึดหลักที่พระพุทธเจ้าทรงสอน ข้อที่ 1
วิธีแก้ไข คือ พยายามบอกตัวเอง ว่า "อดีตผ่านมาแล้ว" และใช้ความรู้ วิเคราะห์ดูสถานการณ์ปัจจุบัน ว่าควรถือต่อ หรือ ควรตัดขาดทุน หรือควรทำอย่างไร? และในอนาคต ก่อนที่จะซื้อหุ้น ควร เตือนตัวเอง เสมอว่า "อย่ายึดติดกับราคาในอดีต" และ "ทุกอย่างไม่เที่ยง" สิ่งที่แน่นอนคือความไม่แน่นอน
เมื่อบอกตัวเองดังนี้แล้ว... ก็ควรวางแผนทางหนีทีไล่ให้ครบ ทั้งจุดเข้าจุดออก จุดตัดขาดทุน จุดล้อคกำไร...
ตลาดจะเปิดแล้ว ขอตัวไปดูตลาดก่อนนะคร้าบ..... ไว้จะมาต่อ...ในตอนถัดๆไป สำหรับในเรื่องติดดอย ก็ยังไม่จบนะครับ ติดตามได้...ตอนต่อไป
ขอบคุณครับ
ติดตามได้ที่
www.facebook.com/Talkwithphukijj
และกระทู้อื่นๆได้ตามลิงค์ข้างล่างนี้
อยู่กับตลาดหุ้น ด้วยหลักพุทธศาสนา (ตอนที่2 "หลักธรรมะ" กับการเทรดหุ้น)
http://ppantip.com/topic/34427403
อยู่กับตลาดหุ้น ด้วยหลักพุทธศาสนา (ตอนที่1 "อนิจจัง" กับการเทรดหุ้น)
http://ppantip.com/topic/34368530
เมียน้อย เมียหลวง และหุ้น
http://ppantip.com/topic/34405375
"Trade หุ้น" ให้เหมือนกับ "การจ่ายยารักษาโรค"
http://ppantip.com/topic/34378203
การตั้งคำถามกับหุ้น สำคัญไฉน? BY ภูกิจ
http://ppantip.com/topic/34409960
การวินิจฉัยโรคทางการแพทย์แผนจีน กับ การเทรดหุ้น (ตอนที่ 1) BY ภูกิจ
http://ppantip.com/topic/34417980
การวินิจฉัยโรคทางการแพทย์แผนจีน กับ การเทรดหุ้น (ตอนที่ 2) BY ภูกิจ
http://ppantip.com/topic/34420001
อยู่กับตลาดหุ้น ด้วยหลักพุทธศาสนา (ตอนที่2.1 "หลักธรรมะ" กับการเทรดหุ้น @ การติดดอย)
กระทู้ก่อนหน้า
อยู่กับตลาดหุ้น ด้วยหลักพุทธศาสนา (ตอนที่1 "อนิจจัง" กับการเทรดหุ้น)
http://ppantip.com/topic/34368530
อยู่กับตลาดหุ้น ด้วยหลักพุทธศาสนา (ตอนที่2 "หลักธรรมะ" กับการเทรดหุ้น)
http://ppantip.com/topic/34368530
คำสอนขององค์สมเด็จพระบรมศาสดา ไม่เคยล้าสมัย แม้พระองค์ปรินิพพานไปนานแล้ว
และนำมาประยุกต์ใช้ได้กับบุคคลทุกเพศทุกวัย ทุกสาขาอาชีพ
**บทความใดๆที่เกี่ยวกับธรรมะ หากผมซึ่งมีความรู้น้อย และยังไม่ได้บรรลุธรรมใดๆ กล่าวไป และมีความผิดเพี้ยนไปจาก ความเป็นจริง
ก็ต้องขอขมา แด่ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์ ทุกพระองค์ ไว้ ณ ที่นี้ด้วย หวังว่า พระรัตนตรัย จะอดโทษ แก่ข้าพเจ้า
**บุญใดที่เกิดจากการ ให้ธรรมเป็นทาน ดังนี้ ซึ่งเป็น ทาน ที่ชนะทานทั้งปวง "สัพพะ ทานัง ธัมมะ ทานัง ชินาติ" ก็ขอโมทนาบุญนี้ให้ทุกท่านที่ได้รับธรรมนี้ด้วยเถิด ...สาธุ !!
สำหรับบทความนี้ก็จะกล่าวถึงผู้ที่ติดดอย...ทั้งสาเหตุ แนวทางการแก้ไข ทั้งทางธรรมและทางปฎิบัติในการเทรดครั้งต่อไป
ก่อนอื่นจะขอขึ้นด้วยบท
อิทัปปัจจยตาเป็นหลักการทางพุทธศาสนา เป็นกฏที่กล่าวถึงความเกี่ยวเนื่องกันของเหตุและผล เมื่อมีเหตุย่อมมีผล และเมื่อเหตุดับผลก็ดับ คือ เมื่อสิ่งนี้มีสิ่งนี้ย่อมมี เพราะความเกิดขึ้นแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้ย่อมไม่มี เพราะความดับไปแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงดับ
อิทัปปัจจยตา ถือเป็นหัวใจ(กฎ)ของปฏิจจสมุปบาท เป็นกฎเหนือกฎทั้งปวง เป็นสัจธรรมความจริงแท้ที่สุดของพุทธศาสนา และเชื่อมโยงคำสอนทั้งปวงของพระพุทธเจ้า หลักธรรมทั้งหลายของพระพุทธเจ้าล้วนเป็นไปตามกฎของอิทัปปัจจยตาทั้งนั้น
อิทัปปัจจยตา
อิมสฺมึ สติ อิทํ โหตุ
อิมสฺสุปฺปาทา อิทํ อุปฺปชฺชติ
อิมสฺมึ อสติ อิทํ น โหติ
อิมสฺส นิโรธา อิทํ นิรุชฺฌติ
คำแปล
เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี
เมื่อสิ่งนี้เกิด สิ่งนี้จึงเกิด
เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้จึงไม่มี
เมื่อสิ่งนี้ดับ สิ่งนี้จึงดับ
จากบท "อิทัปปัจจยตา" จะเห็นว่า ผลทุกอย่างล้วนเกิดแต่เหตุ....ดังนั้นต้องการดับผลนั้น ควรดับที่เหตุ...
ซึ่งจะดับเหตุได้อย่างไร? แนะนำให้กลับไปอ่าน บทความ ตอนที่ 2 ที่ผมเคยเขียนแล้ว นั่นเป็นปัจจัยแรก และเป็นขั้นตอนแรก ที่จะทำไปสู่การดับเหตุ...
วิธีการวางใจ
สำหรับผู้ที่ติดดอยนั้น หากมีความทุกข์เกิดขึ้น นั่นเป็นเพราะเรา ไม่ได้ปฎิบัติ ตามคำสอนของพระองค์ ในเรื่อง "ให้อยู่กับปัจจุบัน"
เรายังคงยึดติดกับอดีต ที่ผ่านมาแล้ว....
การยึดติดนี้ หมายถึง เรายึดติดกับราคา ที่หุ้นเคยอยู่.... จึงมีความหวังว่า ราคาจะกลับไปใน ราคาที่เคยวิ่งลงมาจากในอดีต....
แต่แท้ที่จริงแล้วนั้น ทุกอย่างล้วนเป็น "อนิจจัง" คือ ความไม่เที่ยง ราคาอาจจะกลับไป หรือไม่กลับไป หรือลงต่อ ก็เป็นได้ทั้งสิ้น
และสาเหตุอย่างหนึ่งที่ทำให้เราเข้าไปซื้อ....หุ้นที่ดอย....ก็ยังคงหนีไม่พ้น "การไม่อยู่กับปัจจุบัน" รวมถึง "การยึดมั่นถือมั่น ไม่ยึดถือหลักอนิจจัง"
หมายความ เป็น 2 กรณี
1.เราซื้อหุ้นขาขึ้น แล้วติดดอย นั่นหมายความว่า "เราอยู่กับอนาคต" คือ เราไปคาดหวังอนาคต ว่าราคาหุ้นจะเป็นเท่านั้นเท่านี้ แต่ไม่ได้ดูให้ดีในปัจจุบันว่า
ราคาตอนนี้ วิ่งมาไกลแค่ไหนแล้ว? Indicator มีสัญญาณ ขัดแข้งหรือไม่? มีสัญญาณ การกลับตัวหรือไม่? และตลาดนี้ เป็น "อนิจจัง" เป็น "อนัตตา" เราไม่สามารถควบคุมมันได้ ไม่สามารถอยากให้มันเป็นในสิ่งที่เราอยากให้เป็นได้.... "เมื่อเรามีความคาดหวังในอนาคตและไม่ได้คิดว่าทุกสิ่งล้วนไม่เที่ยงนั้น"
เราจึง กอดหุ้น ตัวนั้นไว้ แม้จะตกมาแล้ว ไม่ยอม CUT LOSS บางท่าน หุ้นตกมา ก็ยังคงยึดติดในอนาคต ก็ทำการเข้าซื้อ เรื่อยๆ ตั้งแต่ยอดดอย จนถึงตีนดอย .... ดังนี้แล
2.เราซื้อหุ้นขาลง แล้วติดดอย นั่นหมายความว่า "เราอยู่กับอดีต" คือ บางท่านมักจะคิดว่า เอ๊ะ เมื่อก่อนราคาเคยอยู่ที่ระดับนั้น ระดับนี้ ตอนนี้ราคาปรับตัวลงมาแล้ว ว้าววว ลดกระหน่ำ ซัมเมอร์เซลล์ ราคาถูกแล้ว ....(แต่หากท่านลืมคิดไปว่า ถูกกว่า ยังมี) และท่านไม่ได้อยู่กับปัจจุบัน คือ ดูว่า ปัจจุบัน มีสัญญาณกลับตัวใดๆ แล้วหรือไม่? และเมื่อซื้อหุ้นแล้วราคาลงต่อ เราก็ไปอยู่กับ อนาคต คือ "คาดหวังว่าอนาคตจะขึ้น" จึงทำให้กอดหุ้นไว้ ไม่ยอม CUT LOSS
นี่คือ ข้อผิดพลาดในการไม่ยึดหลักที่พระพุทธเจ้าทรงสอน ข้อที่ 1
วิธีแก้ไข คือ พยายามบอกตัวเอง ว่า "อดีตผ่านมาแล้ว" และใช้ความรู้ วิเคราะห์ดูสถานการณ์ปัจจุบัน ว่าควรถือต่อ หรือ ควรตัดขาดทุน หรือควรทำอย่างไร? และในอนาคต ก่อนที่จะซื้อหุ้น ควร เตือนตัวเอง เสมอว่า "อย่ายึดติดกับราคาในอดีต" และ "ทุกอย่างไม่เที่ยง" สิ่งที่แน่นอนคือความไม่แน่นอน
เมื่อบอกตัวเองดังนี้แล้ว... ก็ควรวางแผนทางหนีทีไล่ให้ครบ ทั้งจุดเข้าจุดออก จุดตัดขาดทุน จุดล้อคกำไร...
ตลาดจะเปิดแล้ว ขอตัวไปดูตลาดก่อนนะคร้าบ..... ไว้จะมาต่อ...ในตอนถัดๆไป สำหรับในเรื่องติดดอย ก็ยังไม่จบนะครับ ติดตามได้...ตอนต่อไป
ขอบคุณครับ
ติดตามได้ที่
www.facebook.com/Talkwithphukijj
และกระทู้อื่นๆได้ตามลิงค์ข้างล่างนี้
อยู่กับตลาดหุ้น ด้วยหลักพุทธศาสนา (ตอนที่2 "หลักธรรมะ" กับการเทรดหุ้น)
http://ppantip.com/topic/34427403
อยู่กับตลาดหุ้น ด้วยหลักพุทธศาสนา (ตอนที่1 "อนิจจัง" กับการเทรดหุ้น)
http://ppantip.com/topic/34368530
เมียน้อย เมียหลวง และหุ้น
http://ppantip.com/topic/34405375
"Trade หุ้น" ให้เหมือนกับ "การจ่ายยารักษาโรค"
http://ppantip.com/topic/34378203
การตั้งคำถามกับหุ้น สำคัญไฉน? BY ภูกิจ
http://ppantip.com/topic/34409960
การวินิจฉัยโรคทางการแพทย์แผนจีน กับ การเทรดหุ้น (ตอนที่ 1) BY ภูกิจ
http://ppantip.com/topic/34417980
การวินิจฉัยโรคทางการแพทย์แผนจีน กับ การเทรดหุ้น (ตอนที่ 2) BY ภูกิจ
http://ppantip.com/topic/34420001