พอรู้ว่าดอยม่อนจองเปิดให้ท่องเที่ยวในช่วงตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนไปถึงกุมภาพันธ์ โอ้!! เริ่มแล้วเดือนพฤศจิกา ผมเลยวางแผนกับเพื่อนๆ อยากลองลุย อยากลองเดินป่าดูบ้าง (เพราะไม่เคยเลย - -")
โอเค ไปบุกเบิกดอยม่อนจองปีนี้กัน !!
รายละเอียดคร่าวๆ ครับ :
- โทรแจ้งความจำนงกับทางเจ้าหน้าที่ไว้ก่อนครับ ว่าจะไปวันไหน นอนกี่คืน มากี่คน เขาจะได้เตรียมคนนำทาง ลูกหาบ รถ 4WD ไว้ให้ที่ศูนย์ครับ (ผมโทรแจ้ง พี่สมบัติ 085-708-7441 หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่ามูเซอ ครับ)
- ขาไปผมไปกับรถตู้จากเชียงใหม่สาย อมก๋อย แม่ตื่น รถจอดอยู่หน้าศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่ จะส่งถึงหมู่บ้านมูเซอเลยครับ ออกตี 5 ถึงหมู่บ้านมูเซอประมาณ 10 โมงครับ (ผมโทรหา พี่หล้า 089-555-7634 คนขับรถตู้เพื่อแจ้งจำนวนคนกับพี่เค้าครับ)
- พอถึงหมู่บ้านมูเซอ รถตู้จะจอดตรงศูนย์บริการการท่องเที่ยวดอยม่อนจองให้เลยครับ แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตามที่จองไว้ เจ้าหน้าที่จะประสานงานกับคนนำทาง ลูกหาบ รถ 4WD ให้ครับ เข้าห้องน้ำอะไรให้เรียบร้อยที่ศูนย์นะครับ ข้างบน ไม่มีแล้ว
- ขึ้นรถ 4WD ไปยังจุดเริ่มเดินเท้าอีกประมาณ 20 กม. มั้งครับ คิดราคาเหมา 3,000 คือตอนแรก คิดว่าแพงจัง พอไปถึงเท่านั้นแหละ ให้ไปเหอะครับ ยอม 55 เพราะทางแคบและก็เป็นเหวลึก ทางไปค่อนข้างลำบากครับ ยืนเกาะราวเหล็กของรถสะดวกกว่านั่งครับ สนุกดี เฮฮากับเพื่อนๆ และพี่ๆ ลูกหาบบนรถกะบะ เขาชอบเล่าเรื่องเกี่ยวกับที่นี่ให้ฟังด้วย สนุกดีครับ
- พอไปถึง ก็เตรียมตัวเดินป่า เพื่อไปยังดอยม่อนจอง ต้องเดินไปอีกประมาณ 4 กม. ครับ คืออากาศดีมาก มีเสียงนก เสียงไม้ตลอดเส้นทาง ถึงจะเหนื่อยแต่ก็สนุกมากครับ ฟินจริงๆ เดินไป พักไป ถ่ายรูปไปสนุกมากครับ อากาศดีจริงๆ เจอลมเย็นตลอดเลยครับ เวลาอยู่บนยอดเขา คือบรรยายไม่เก่ง ต้องไปลองเองครับ 555 (เริ่มเดินเกือบ 11 โมง ถึงประมาณบ่าย 2 ครึ่งครับ)
- พอไปถึงจุดกางเต้นท์ ก็ช่วยกันจัดข้าวของ กางเต้นท์ หิวก็กินอะไรนิดหน่อย จากนั้น ก็เดินทางไปยังหัวสิงห์ เพื่อดูพระอาทิตย์ตกดิน ขอบอกเลยว่าสวยมากกก จริงๆ ครับ

- ตอนเช้า ตื่นกันเช้าๆกะจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน ปรากฎว่ามีแต่หมอกหนามาก - -“ แต่ไม่เป็นไร ถ่ายรูปกับหมอก ขาวๆ ก็สวยไปอีกแบบ คิดเสียว่าเจอพระอาทิตย์ตอนเย็น ตอนเช้าเจอหมอก ได้ทั้งสองแบบเลยคุ้ม 55
- กลับมาที่เต้นท์ กินข้าวเช้า กาแฟร้อนๆ เตรียมเก็บของ กลับบ้านกัน ระหว่างทางเดินกลับมีแต่หมอกตลอดเส้นทางกลับเลยครับ โชคดีจริงๆ ที่เมื่อวานตอนขึ้นมาไม่เจอหมอกแบบนี้ ถ้าเจอคงเสียดายมากๆจะไม่เห็นวิวอะไรเลย ตอนเดินกลับใช้เวลาน้อยกว่าตอนขึ้นเยอะเลยครับ ส่วนใหญ่เป็นทางลง พอกลับมา รถ4WD คันเดิมก็อยู่รอรับเรากลับแล้วครับ
- รถ 4WD ขับมาส่งเราศูนย์บริการการท่องเที่ยวดอยม่อนจองที่เดิมครับ เนื่องจากตอนกลับจะไม่มีรถตู้เหมือนตอนขามา เลยทำตามที่เขาแนะนำคือ เหมารถพี่คนขับรถ 4WD ให้ไปส่งที่ตัวอ.อมก๋อย จากนั้นต่อรถสองแถวสีฟ้าจากอมก๋อยไป อ.ฮอด แล้วต่อรถเมล์สีฟ้าจากฮอดไปยังเชียงใหม่ (รถเมล์จากอมก๋อยไปเชียงใหม่เลยก็มีนะครับ แต่วันนั้นต้องรอนานกว่าและรถจากฮอดไปเชียงใหม่จะมีเยอะกว่า ผมเลยเลือกต่อรถกลับ 2 ต่อครับ) ถึงเชียงใหม่ประมาณ 6 โมงครับ
สรุปค่าใช้จ่ายโดยประมาณครับ :
1. ขาไป : ค่ารถตู้เชียงใหม่ – ศูนย์บริการการท่องเที่ยวดอยม่อนจอง คนละ = 200 บ.
2. ค่ารถ 4WD จากศูนย์ฯ – จุดเดินเท้า เหมาไปกลับ 6 คน = 3000 บ.
3. ค่าลูกหาบ 3 คน x600 = 1800 บ.
4. ค่าคนนำทาง = 600 บ.
5. ขากลับ : ค่ารถมาส่งที่ตัวเมืองอมก๋อย เหมา = 600 บ.
6. ขากลับ : ค่ารถสองแถวจากอมก๋อยมาลงฮอด = คนละ 90 บ.
7. ขากลับ : ค่ารถเมย์จากฮอดเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ (สุดสายที่ประตูช้างเผือก) คนละ = 49 บ.
8. ค่าอาหาร+น้ำดื่ม 6 คน = 1500 บ.
**เฉลี่ยแล้ว 6 คน จ่ายคนละ 1589 บาท** มีค่าจุกจิกตอนซื้อของกินที่อ.อมก๋อยอีกนิดหน่อยครับ
สิ่งที่ต้องรู้ (หรือบางคนรู้แล้วแต่ผมไม่รู้ 55)
- นอกจาก อาหาร น้ำดื่ม เต้นท์ ไฟฉาย ที่ต้องเตรียมไปเองให้พร้อมแล้ว อย่าลืมเตรียมเทียนไปด้วยนะครับ คือตอนแรกคิดว่าไฟที่ก่อจะสว่างพอตอนกลางคืน แต่ไม่เลยครับ 55 เลยต้องใช้ไฟฉายส่องตอนกินข้าวกันครับ เปลืองแบต เตรียมเทียนไขไปดีกว่าครับ
- อย่าลืมเตรียมอาหาร ไปเผื่อพี่นำทางกับลูกหาบด้วยนะครับ โชคดีที่หาข้อมูลไปก่อนเลยซื้อเผื่อไปครบ เค้าอยู่กับเราทุกมื้อเลยครับ เราควรจะแบ่งให้เค้าด้วยครับ
- ตอนเดินป่า ฟิตร่างกายมาก่อนจะดีมากครับ อย่าแบกของเยอะครับ เอาน้ำ เอากล้องไปพอครับ ผมเข็ดจริงๆ 55 ถึงจะไม่หนักเท่าลูกหาบแบกแต่มันเหนื่อยจริงๆ ครับ เอาให้พี่ลูกหาบช่วยดีกว่าครับ เค้าชำนาญจริงๆ ยอมรับเลย เดินเหมือนตัวปลิว นำไปก่อนเลย 55
- ตอนขากลับลองคุยกับพี่ขับรถ 4WD ให้มาส่งที่ตัวอ.อมก๋อยเองนะครับ เพราะเหมือนราคาเหมาที่ผ่านศูนย์ฯ จะแพงกว่ามาก ตอนแรกพี่เค้าขอ 700 บาท ผมต่อได้เหลือ 600 บาท ฮ่าๆ
- ว่าด้วยเรื่องการถ่ายทางช้างเผือก ไปดูกระทู้ เก่าๆ เห็นพี่ๆ ที่เคยไปเค้าไปถ่ายกันตรงลานสนามกอล์ฟ ประมาณตีสี่ โอเคเราจะตื่นไปถ่ายกัน ปรากฎว่า หมอกลงจัดมาก 5555 ทั้งๆ ที่ตอนก่อนจะนอนประมาณ 2 ทุ่มกว่าเห็นดาวชัดมาก แต่ก็ไม่ออกไปเพราะคิดว่าจะมีเยอะกว่านี้ ตอนตีสี่ พลาดมาก ฮ่าๆ พอกลับ เพิ่งมาเปิดอ่าน ข้อความที่เคย PM ไปถามพี่คนนึงเค้าบอกว่า “ถ้าจะถ่ายใจกลางทางช้างเผือก ช่วงนี้ถ่ายได้แค่ไม่เกิน 2 ทุ่มครับ หลังจากวันที่ 20 พ.ย. จะถ่ายไม่ได้แล้ว แล้วจะถ่ายได้อีกทีตอนประมาณเดือนกุมภา ช้างจะขึ้นประมาณตี 5 ครับ ลองหาแอพในโทรศัพท์ มากดดูวันเวลาที่ช้างขึ้นได้ครับ เช่น พวก StarChart ใจกลางช้างถ่ายได้ตั้งแต่หน้าต้นกุมภาถึงต้นพ.ย. ครับ หน้าหนาวไม่มีใจกลางทางช้างเผือกครับ” แป๊วววว 555 พลาดมากๆ ไม่รู้เรื่องเลย เดี๋ยวครั้งหน้า มีโอกาส จะไปถ่ายใหม่ครับ ฮ่าๆ
ถ้าใครมีเวลา ลองมาเที่ยวที่นี่นะครับ ผมเชื่อว่าจะอีกที่หนึ่งที่จะประทับใจสุดๆแน่นอน คุ้มมากกับความเหน็ดเหนื่อย กับความลำบาก กับเงินที่เสียไป สวยจริงๆ ครับ หน้าหนาวจะมาถึงแล้ว มาเที่ยวกันนะครับ ^^
รูปอาจกากบ้าง ดูเหมือนสวยบ้าง ไม่ว่ากันนะครับ
[CR] หนาวนี้ ดอยม่อนจองเปิดให้เที่ยวแล้ว..ไปบุกดอยม่อนจองกัน!!
โอเค ไปบุกเบิกดอยม่อนจองปีนี้กัน !!
รายละเอียดคร่าวๆ ครับ :
- โทรแจ้งความจำนงกับทางเจ้าหน้าที่ไว้ก่อนครับ ว่าจะไปวันไหน นอนกี่คืน มากี่คน เขาจะได้เตรียมคนนำทาง ลูกหาบ รถ 4WD ไว้ให้ที่ศูนย์ครับ (ผมโทรแจ้ง พี่สมบัติ 085-708-7441 หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่ามูเซอ ครับ)
- ขาไปผมไปกับรถตู้จากเชียงใหม่สาย อมก๋อย แม่ตื่น รถจอดอยู่หน้าศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่ จะส่งถึงหมู่บ้านมูเซอเลยครับ ออกตี 5 ถึงหมู่บ้านมูเซอประมาณ 10 โมงครับ (ผมโทรหา พี่หล้า 089-555-7634 คนขับรถตู้เพื่อแจ้งจำนวนคนกับพี่เค้าครับ)
- พอถึงหมู่บ้านมูเซอ รถตู้จะจอดตรงศูนย์บริการการท่องเที่ยวดอยม่อนจองให้เลยครับ แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตามที่จองไว้ เจ้าหน้าที่จะประสานงานกับคนนำทาง ลูกหาบ รถ 4WD ให้ครับ เข้าห้องน้ำอะไรให้เรียบร้อยที่ศูนย์นะครับ ข้างบน ไม่มีแล้ว
- ขึ้นรถ 4WD ไปยังจุดเริ่มเดินเท้าอีกประมาณ 20 กม. มั้งครับ คิดราคาเหมา 3,000 คือตอนแรก คิดว่าแพงจัง พอไปถึงเท่านั้นแหละ ให้ไปเหอะครับ ยอม 55 เพราะทางแคบและก็เป็นเหวลึก ทางไปค่อนข้างลำบากครับ ยืนเกาะราวเหล็กของรถสะดวกกว่านั่งครับ สนุกดี เฮฮากับเพื่อนๆ และพี่ๆ ลูกหาบบนรถกะบะ เขาชอบเล่าเรื่องเกี่ยวกับที่นี่ให้ฟังด้วย สนุกดีครับ
- พอไปถึง ก็เตรียมตัวเดินป่า เพื่อไปยังดอยม่อนจอง ต้องเดินไปอีกประมาณ 4 กม. ครับ คืออากาศดีมาก มีเสียงนก เสียงไม้ตลอดเส้นทาง ถึงจะเหนื่อยแต่ก็สนุกมากครับ ฟินจริงๆ เดินไป พักไป ถ่ายรูปไปสนุกมากครับ อากาศดีจริงๆ เจอลมเย็นตลอดเลยครับ เวลาอยู่บนยอดเขา คือบรรยายไม่เก่ง ต้องไปลองเองครับ 555 (เริ่มเดินเกือบ 11 โมง ถึงประมาณบ่าย 2 ครึ่งครับ)
- พอไปถึงจุดกางเต้นท์ ก็ช่วยกันจัดข้าวของ กางเต้นท์ หิวก็กินอะไรนิดหน่อย จากนั้น ก็เดินทางไปยังหัวสิงห์ เพื่อดูพระอาทิตย์ตกดิน ขอบอกเลยว่าสวยมากกก จริงๆ ครับ
- ตอนเช้า ตื่นกันเช้าๆกะจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน ปรากฎว่ามีแต่หมอกหนามาก - -“ แต่ไม่เป็นไร ถ่ายรูปกับหมอก ขาวๆ ก็สวยไปอีกแบบ คิดเสียว่าเจอพระอาทิตย์ตอนเย็น ตอนเช้าเจอหมอก ได้ทั้งสองแบบเลยคุ้ม 55
- กลับมาที่เต้นท์ กินข้าวเช้า กาแฟร้อนๆ เตรียมเก็บของ กลับบ้านกัน ระหว่างทางเดินกลับมีแต่หมอกตลอดเส้นทางกลับเลยครับ โชคดีจริงๆ ที่เมื่อวานตอนขึ้นมาไม่เจอหมอกแบบนี้ ถ้าเจอคงเสียดายมากๆจะไม่เห็นวิวอะไรเลย ตอนเดินกลับใช้เวลาน้อยกว่าตอนขึ้นเยอะเลยครับ ส่วนใหญ่เป็นทางลง พอกลับมา รถ4WD คันเดิมก็อยู่รอรับเรากลับแล้วครับ
- รถ 4WD ขับมาส่งเราศูนย์บริการการท่องเที่ยวดอยม่อนจองที่เดิมครับ เนื่องจากตอนกลับจะไม่มีรถตู้เหมือนตอนขามา เลยทำตามที่เขาแนะนำคือ เหมารถพี่คนขับรถ 4WD ให้ไปส่งที่ตัวอ.อมก๋อย จากนั้นต่อรถสองแถวสีฟ้าจากอมก๋อยไป อ.ฮอด แล้วต่อรถเมล์สีฟ้าจากฮอดไปยังเชียงใหม่ (รถเมล์จากอมก๋อยไปเชียงใหม่เลยก็มีนะครับ แต่วันนั้นต้องรอนานกว่าและรถจากฮอดไปเชียงใหม่จะมีเยอะกว่า ผมเลยเลือกต่อรถกลับ 2 ต่อครับ) ถึงเชียงใหม่ประมาณ 6 โมงครับ
สรุปค่าใช้จ่ายโดยประมาณครับ :
1. ขาไป : ค่ารถตู้เชียงใหม่ – ศูนย์บริการการท่องเที่ยวดอยม่อนจอง คนละ = 200 บ.
2. ค่ารถ 4WD จากศูนย์ฯ – จุดเดินเท้า เหมาไปกลับ 6 คน = 3000 บ.
3. ค่าลูกหาบ 3 คน x600 = 1800 บ.
4. ค่าคนนำทาง = 600 บ.
5. ขากลับ : ค่ารถมาส่งที่ตัวเมืองอมก๋อย เหมา = 600 บ.
6. ขากลับ : ค่ารถสองแถวจากอมก๋อยมาลงฮอด = คนละ 90 บ.
7. ขากลับ : ค่ารถเมย์จากฮอดเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ (สุดสายที่ประตูช้างเผือก) คนละ = 49 บ.
8. ค่าอาหาร+น้ำดื่ม 6 คน = 1500 บ.
**เฉลี่ยแล้ว 6 คน จ่ายคนละ 1589 บาท** มีค่าจุกจิกตอนซื้อของกินที่อ.อมก๋อยอีกนิดหน่อยครับ
สิ่งที่ต้องรู้ (หรือบางคนรู้แล้วแต่ผมไม่รู้ 55)
- นอกจาก อาหาร น้ำดื่ม เต้นท์ ไฟฉาย ที่ต้องเตรียมไปเองให้พร้อมแล้ว อย่าลืมเตรียมเทียนไปด้วยนะครับ คือตอนแรกคิดว่าไฟที่ก่อจะสว่างพอตอนกลางคืน แต่ไม่เลยครับ 55 เลยต้องใช้ไฟฉายส่องตอนกินข้าวกันครับ เปลืองแบต เตรียมเทียนไขไปดีกว่าครับ
- อย่าลืมเตรียมอาหาร ไปเผื่อพี่นำทางกับลูกหาบด้วยนะครับ โชคดีที่หาข้อมูลไปก่อนเลยซื้อเผื่อไปครบ เค้าอยู่กับเราทุกมื้อเลยครับ เราควรจะแบ่งให้เค้าด้วยครับ
- ตอนเดินป่า ฟิตร่างกายมาก่อนจะดีมากครับ อย่าแบกของเยอะครับ เอาน้ำ เอากล้องไปพอครับ ผมเข็ดจริงๆ 55 ถึงจะไม่หนักเท่าลูกหาบแบกแต่มันเหนื่อยจริงๆ ครับ เอาให้พี่ลูกหาบช่วยดีกว่าครับ เค้าชำนาญจริงๆ ยอมรับเลย เดินเหมือนตัวปลิว นำไปก่อนเลย 55
- ตอนขากลับลองคุยกับพี่ขับรถ 4WD ให้มาส่งที่ตัวอ.อมก๋อยเองนะครับ เพราะเหมือนราคาเหมาที่ผ่านศูนย์ฯ จะแพงกว่ามาก ตอนแรกพี่เค้าขอ 700 บาท ผมต่อได้เหลือ 600 บาท ฮ่าๆ
- ว่าด้วยเรื่องการถ่ายทางช้างเผือก ไปดูกระทู้ เก่าๆ เห็นพี่ๆ ที่เคยไปเค้าไปถ่ายกันตรงลานสนามกอล์ฟ ประมาณตีสี่ โอเคเราจะตื่นไปถ่ายกัน ปรากฎว่า หมอกลงจัดมาก 5555 ทั้งๆ ที่ตอนก่อนจะนอนประมาณ 2 ทุ่มกว่าเห็นดาวชัดมาก แต่ก็ไม่ออกไปเพราะคิดว่าจะมีเยอะกว่านี้ ตอนตีสี่ พลาดมาก ฮ่าๆ พอกลับ เพิ่งมาเปิดอ่าน ข้อความที่เคย PM ไปถามพี่คนนึงเค้าบอกว่า “ถ้าจะถ่ายใจกลางทางช้างเผือก ช่วงนี้ถ่ายได้แค่ไม่เกิน 2 ทุ่มครับ หลังจากวันที่ 20 พ.ย. จะถ่ายไม่ได้แล้ว แล้วจะถ่ายได้อีกทีตอนประมาณเดือนกุมภา ช้างจะขึ้นประมาณตี 5 ครับ ลองหาแอพในโทรศัพท์ มากดดูวันเวลาที่ช้างขึ้นได้ครับ เช่น พวก StarChart ใจกลางช้างถ่ายได้ตั้งแต่หน้าต้นกุมภาถึงต้นพ.ย. ครับ หน้าหนาวไม่มีใจกลางทางช้างเผือกครับ” แป๊วววว 555 พลาดมากๆ ไม่รู้เรื่องเลย เดี๋ยวครั้งหน้า มีโอกาส จะไปถ่ายใหม่ครับ ฮ่าๆ
ถ้าใครมีเวลา ลองมาเที่ยวที่นี่นะครับ ผมเชื่อว่าจะอีกที่หนึ่งที่จะประทับใจสุดๆแน่นอน คุ้มมากกับความเหน็ดเหนื่อย กับความลำบาก กับเงินที่เสียไป สวยจริงๆ ครับ หน้าหนาวจะมาถึงแล้ว มาเที่ยวกันนะครับ ^^
รูปอาจกากบ้าง ดูเหมือนสวยบ้าง ไม่ว่ากันนะครับ