เรามีกำหนดรู้ เกิด-ดับ ตามอารมปัจจุบัน ให้พิจารณาในการนั่งวิปัสสนา สติปัฐฐาน4
ลมเข้ารู้ ลมออกรู้ ลมสั้นรู้ ลมยาวรู้ ปวดขารู้ ปวดแขนรู้ ไม่ชอบใจรู้ ชอบใจรู้ ได้ยินเสียงก็รู้ว่าได้ยินเสียง
เรากำหนดรู้อยู่กับปัจจุบัน เกิด ดับ ไม่หยั่งกับยินดี ยินร้าย รู้ให้เป้นกลาง ตลอด เพราะมันไม่น่ายึดถือ มันมีเกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไป...
แบบนี้เราต้องไปพิจารณาอสุภะ ซากศพเน่าเหม็น เหมือนที่ แพทย์ เหมือน หมอ เขาเห็นซากศพด้วยเหรอ
แต่ทำไมสายสมถะ กรรมฐานต้องไปพิจารณาขนาดนั้น ผมดูแล้ว อ่านหนังสือแล้ว เห็นรูปซากศพ และใช้กล้องจุลทรรศ ขยายให้เห็นความไม่งดงามของร่างกายแล้ว ผมแทบอ้วก ทั้งอ้วก ทั้งกลัว ทั้งหมอง
เราต้องทำขนาดนั้นทำไม เรามีกำหนดอารมปัจจุบัน ในการนั่งสมาธิ เดินจงกรม พิจารณาอารมปัจจุบันเข้าไปก็พอแล้วนี่อะครับ
เรามีวิปัสสนารู้ปัจจุบัน ทำไมต้องมี พิจารณอสุภะ ด้วย ใหนว่าทางสายเอก ดีเลิศแล้ว
ลมเข้ารู้ ลมออกรู้ ลมสั้นรู้ ลมยาวรู้ ปวดขารู้ ปวดแขนรู้ ไม่ชอบใจรู้ ชอบใจรู้ ได้ยินเสียงก็รู้ว่าได้ยินเสียง
เรากำหนดรู้อยู่กับปัจจุบัน เกิด ดับ ไม่หยั่งกับยินดี ยินร้าย รู้ให้เป้นกลาง ตลอด เพราะมันไม่น่ายึดถือ มันมีเกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไป...
แบบนี้เราต้องไปพิจารณาอสุภะ ซากศพเน่าเหม็น เหมือนที่ แพทย์ เหมือน หมอ เขาเห็นซากศพด้วยเหรอ
แต่ทำไมสายสมถะ กรรมฐานต้องไปพิจารณาขนาดนั้น ผมดูแล้ว อ่านหนังสือแล้ว เห็นรูปซากศพ และใช้กล้องจุลทรรศ ขยายให้เห็นความไม่งดงามของร่างกายแล้ว ผมแทบอ้วก ทั้งอ้วก ทั้งกลัว ทั้งหมอง
เราต้องทำขนาดนั้นทำไม เรามีกำหนดอารมปัจจุบัน ในการนั่งสมาธิ เดินจงกรม พิจารณาอารมปัจจุบันเข้าไปก็พอแล้วนี่อะครับ