ที่ออฟฟิศฝ่ายการตลาด
“โฮ้เร่...เจ๊น้ำ เป็นไงมั่งแขกเค้าชอบรีสอร์ทเรารึเปล่า”
สบชัยรีบถามหน้าบานยิ้มแฉ่งเกินเหตุอย่างมีพิรุธ
“ดาด้ามารายงานข่าวแล้วล่ะสิ ตื่นเต้นซะหน้าหุบไม่มิดเชียว”
เมื่อลูกพี่รู้ทัน ทั้งสองจึงปล่อยก๊ากลั่น
“ก็ยัยด้าบอกว่า หัวหน้ากรุ๊ปที่เป็นฝรั่งน่ะหล่อลากไส้เลย เจ๊น้ำน่ะ เช็คแฮนด์ไปปาดน้ำลายไป...ไหลย้อย”
“จะบ้าเหรอ ไม่ได้คิดอะไรเลย”
“เห็นยัยด้าว่า พี่เจอเพื่อนเก่าด้วยเหรอ ดีเลยพี่เพื่อนกันคุยง่าย ไม่ต้องจีบให้เหนื่อยแรง”
ธารากระตุกไหล่ ก่อนจะกลบเกลื่อนด้วยการแสร้งส่ายหน้าเบื่อ ๆ
“อ๋อ ไอ้ก้าบน่ะเหรอ มันไม่ใช่หัวหน้าซักหน่อย พี่ว่าคนที่เป็นคนตัดสินใจว่าจะเอาหรือไม่เอาน่าจะเป็นคุณ
อีริคมากกว่า”
“ทำไมเพื่อนพี่ชื่อประหลาดจัง คนอะไรชื่อก้าบ”
ดาด้าถามลอยๆ สบชัยหัวเราะ
“หน้าเขาเหมือนเป็ดรึเปล่าล่ะ เพื่อนตั้งไว้ล้อมั้ง รึไง เจ๊น้ำ”
ลูกพี่ร่างเล็กยิ้มขัน ขณะที่ผู้ช่วยสาวส่ายหัวดิก
“เฮ้ย หล่อน่ะเฟ้ย สูง แมน ผิวสีแทน ไหล่กว้าง น่าซบมากกกกกกก”
เจ้าหล่อนสาธยายราวกับพูดถึงชายในฝันเสียเอง ก่อนจะปิดท้ายด้วยประโยคที่ทำให้ธาราสำลักน้ำพรวดใหญ่
“สเป็คเจ๊น้ำเลย”
“ไอ้ด้า! ประเดี๋ยวเถอะแก ฉันไม่อยากได้ไอ้ก้าบมาทำแฟนหรอกย่ะ”
“พี่ไม่เอาเค้า รึเค้าไม่เอาพี่อ่ะ”
ขาดคำ สบชัยต้องรีบก้มหลบจานรองแก้วอย่างหวุดหวิด ก่อนจะเงยที่มาจากขอบโต๊ะมองคนปาที่ทำหน้าบูด พูดสะบัด ๆ
“ไม่เอาละ ไม่อยากเสียเวลาคุยกับพวกแก”
“อ้าว แล้วเจ๊จะไปไหนล่ะ”
ดาด้าจ้องมองคนปากแดงที่กำลังแบกกล่องกระดาษอย่างสงสัย
“กลับห้องก่อน ตอนบ่ายมีงานพาลูกค้าดูรีสอร์ท ด้าติดต่อลุงชาติไว้ด้วยนะ พี่ว่าลูกค้าคงจะเข้าป่าวันพรุ่งนี้ด้วย”
ดาด้ารับคำ มองลูกพี่สาวเดินสาวเท้าเร็วรี่เหมือนกลัวถูกจับได้เรื่องอะไรซักอย่าง หล่อนหัวเราะนึกครึ้มใจว่า ผาดาวรีสอร์ทน่าจะได้เหตุอะไรให้ตื่นเต้นกันในเร็ววันนี้เสียแล้ว
ธาราเดินกึ่งวิ่งกลับมายังห้องของตัวเอง หล่อนทิ้งร่างผอมลงบนเตียงนุ่มฟังเสียงหัวใจเต้นรัว อย่างหวั่นไหว แขนหล่อนโอบกล่องงานแต่ในใจยังครุ่นคิดภาพเจ้าก้าบ นนทภัทร ชายในฝัน ที่เล่าบอกใครต่อใครในรั้วมหาวิทยาลัยหล่อนอาจจะถูกหัวเราะ ธาราคิดพลางอมยิ้ม
เจ้านนท์ นนทภัทร ฉายา ก้าบ....
ชื่อเรียงเสียงนี้ มีที่มายังไงหนอ...
ต้นปีการศึกษาเมื่อ 8 ปีที่แล้ว
เหล่านิสิตใหม่ทั้งหลายกำลังถูกปรุงแต่งด้วยเครื่องทรงไม่พึงประสงค์ ทั้งสีบนใบหน้า สาคูอืด ๆบนศีรษะ เส้นผมทรงประหลาดที่เหล่ารุ่นพี่ช่วยกันเติมแต่ง
“เอาล่ะ”
เสียงรุ่นพี่ชายร่างใหญ่ยักษ์ตะโกนขึ้นกลางลาน เรียกความสนใจจากคนทุกกลุ่มในที่นั้นได้ไม่ยากนัก
“น้องผู้หญิงเข้าไปรอในหอประชุม น้องผู้ชายไปเข้าแถวรอข้างนอก พี่ช้างรออยู่ที่ประตูหอประชุมนะ”
รายการจับคู่กำลังจะเริ่มขึ้น เรียกเป็นทางการว่า “จับคู่บัดดี้” แบบไม่เป็นทางการว่า “จับคู่ผัวเมีย…”
โอ้! มายก้อด เป็นสิ่งที่ไม่อยากจะทำเอาเสียเลยจริง ๆ ธาราในวัย 18 ภาวนา แล้ว ภาวนาอีกขอให้ได้ใครก็ได้ที่หล่อ ขาว สูงมาเป็นสามีชั่วคราวในวันนี้
สาว ๆ ทุกคนในที่นั้นต่างรู้ดีว่า ไม่มีใครจะเป็นผัวเดียวเมียเดียวในรั้วมหาวิทยาลัยที่เต็มไปด้วยผู้หญิง อย่างนี้ ดังนั้นในหนึ่งครอบครัว จึงย่อมมีเมียน้อยอีกอย่างน้อยสองคน
มือผอมบางข้างซ้ายของธาราในเวลานั้นจึงจับมั่นอยู่กับใครก็ไม่รู้อีกสอง ส่วนมือขวานั้นเล่าก็มีพี่ช้างเป็นคนจับไว้มั่น รอใส่ไว้ในอุ้งมือของสามีผู้อยู่หลังม่าน
“เอ้า ไป”
เมื่อฝั่งนอกหอประชุมส่งมือใครก็ไม่รู้มาพี่ช้างจึงจัดให้ทันที
มือของธาราถูกยัดลงในอุ้งมือของใครคนหนึ่งและแถมด้วยลูกผลักอีกโครมใหญ่จากรุ่นพี่ตัวบึ้ก อีกสองร่างผอม ๆ ก็ลอยติดร่างแหออกมาด้วย
เมื่อผู้เป็นเมียหลวงเงยหน้ามาพบกับสามีในฝ่ามือ ธาราก็แทบลมจับ
“ไอ้นนท์”
นนทภัทรในสมัยนั้นเป็นที่รู้จักของเหล่ารุ่นพี่และรุ่นเดียวกันเป็นอย่างดี ธารานั้นรู้จักและคุ้นเคยกับเขาเป็นอย่างดีอยู่แล้ว และไม่อยากจะภาวนาถึง เพราะฉายาเบื้องต้นของนนทภัทรในตอนนั้นคือ
“หน้าผีบอดี้เริ่ด”
คือ หุ่นแมนเท่มาก แต่กรุณาตัดหัวทิ้ง รุ่นพี่หลายคนมาทาบทามพ่อหนุ่มนนท์ไปเป็นเชียร์ลีดเดอร์คณะเพราะหุ่นที่แสนจะเพอร์เฟ็ค อันหาได้ยากในมหาวิทยาลัยห่างไกลความเจริญ แต่ไอ้หน้าอับ ๆ อันเต็มไปด้วย สิว และริ้วรอยนั้น รุ่นพี่ทั้งหลายบอกว่าเวลาอยู่กลางสนามทาแป้งหนา ๆ ก็ไม่มีใครเห็นหรอก
แต่ในเวลานี้ มัน.. มาเป็นสามีของพวกเรา โอ้ ธาราเอ๋ย ทำบุญมาน้อยเหลือเกิน
“อ้าว ไอ้น้ำ”
มันทัก ส่วนอีกสองสาวนั้นมาทราบชื่อกันภายหลัง ซึ่งจำไม่ได้แล้ว รู้แต่เพียงทั้งสองนั่งทำหน้ามึน...ซึม ...งึม.....จ๋อยสนิท
ธาราแอบคิดเอาเองว่าสองสาวคงจะรู้สึกผิดหวัง...มาก...ไม่ต่างไปจากหล่อน
หลังจากนั้น แต่ละครอบครัวต้องถูกบังคับให้อยู่ในสภาพเดียวกัน คือ สามีนำหน้า ภรรยาทั้งสามตามหลัง ทุกคนต้องถอดรองเท้าออกโดยให้ผู้เป็นสามีร้อยเชือกฟางเข้ากับทุกคู่แล้วแขวนคอไว้ในระหว่างที่พาเหล่าภรรยาเดินไปตามฐานต่าง ๆ ที่รุ่นพี่วางไว้ โอ้! หน้าเน่า ๆกับรองเท้าแตะเต็มคอ...ช่างรับกับหน้ามันซะ...
“กร้อบกรัวต่อไป! เก้ามา!”
เสียงใหญ่ๆ ตะโกนลั่น สำเนียงของรุ่นพี่ร่างยักษ์บ่งบอกพื้นเพของคนประจำภูมิภาคได้เป็นอย่างดี ห้วน ดัง และทองแดง
“จื้ออะรัย”
แกถามเมื่อกลุ่มของธาราเข้าไปถึง ทั้งสี่ต้องตกใจจนไหล่ห่อ ก็อยู่ใกล้กันแค่นั้นทำไมต้องตะโกนด้วยก็ไม่รู้
“อะ เอ่อ ผมนนท์ครับ”
นนทภัทรตอบเบา ๆอย่างสุภาพ ธารากำลังจะอ้าปาก ก็ต้องรีบหุบเมื่อเสียงราวกับฟ้าผ่าสวนออกมา
“ฐานนี้ จื้อฐาน ป้อกุ๋นราม ! เวลาแนะนำตัวต้องแนะนำให้จั๊ดเจน! เอาใหม่!”
“อ่า...ผมชื่อนนท์ครับ เรียนอยู่ชั้นปีที่ 1 เอกภูมิศาสตร์ครับ”
“ไอ้หน้าโง่! กูบอกว่าฐานป้อกุ๋นราม เก้าใจมั้ย ป้อกุ๋นราม..นึ้น...”
แกตะคอกหน้าตาจริงจัง ธาราแอบสังเกตเห็นหนึ่งในภรรยาน้อยเริ่มน้ำตาซึม แต่ไอ้ก้าบ ที่ในเวลานั้นยังเป็นไอ้นนท์กลับอมยิ้ม
“อ้อ...ครับ ฐานพ่อขุนราม...นึ้น..นะครับ”
รุ่นพี่หันมามอง
"เฮ่ย......ห้ามล้อเลียนรุ่นพี่..."
นนทภัทรพยักหน้าอย่างอ่อนน้อม ลอบส่งสายสายยิ้มเจ้าเล่ห์มาทางธารา ก่อนจะหันกลับไปตะโกนก้อง
“กู! ...ชื่อนนท์! เอก ภูมิ! นี่เมียหลวงชื่อน้ำ เมียน้อยชื่อ...”
มันร่ายชื่อสมาชิกในครอบครัวอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“ดีมาก”
รุ่นพี่ยิ้มเหี้ยม
“ตีนี้บอกจื้อกร้อบกรัว มาจิ๊ มาฐานนี้ต้องมีจื้อ กร้อบกรัว ไม่งั้นไม่ป่าน ”
“เป็ด”
นนทภัทรตอบไปโดยไม่คิด แต่รุ่นพี่หน้าตาน่ากลัวกลับพยักหน้ารับ
“งั้นต้อง เปลี่ยนจื้อให้เก้ากับนามตะกุล อะ จะจื้ออะไร ไอ้ผัว”
“ก้าบครับ”
มันตอบไปง่าย ๆ
“เมียหลวงล่ะ”
“แก้บค่ะ”
ธาราตอบมั่ว ๆ หวังจะรอดไปง่าย ๆ แต่รุ่นพี่กลับจ้องหน้า
“เฮ้ย! ...อย่ามั่วจิ ตั้งอะไรให้มันเกี่ยวกับเป็ดหน่อย เอาใหม่”
“เอ่อ...”
หล่อนเกาหัวแกรก ชื่ออะไรที่มันเกี่ยวกับเป็ด
“หน้าออกหมวยอินเตอร์ เดี๋ยวกูให้จื้อฝรั่งไปเลย เอา...แควก”
ธาราเงยหน้าขึ้นมองหน้ากร้านดำนั้นงง ๆ
“แควก ...แควก ๆ ไงรู้จักมั้ยเสียงเป็ดฝรั่งนั้น...จื้อนี้เลย อีแควก”
แกว่าหน้าตาเรียบเฉย ส่วนสองสาวเมียน้อย แกก็เป็นคนช่วยตั้งชื่อให้เช่นกัน
“...จื้อ อีแกว๊ก...ส่วน อีห่าน อีหลงมา บังเอิญผัวเก็บได้ เลยต้องอยู่กันไป”
ธาราแอบพ่นลมหายใจทางจมูก สองสาวก็คงจะแอบขำแต่ก็ไม่กล้ายิ้ม หญิงสาวจำได้ว่าตลอดทั้งวันของการรับน้อง ต้องใช้ชื่อนี้แนะนำตัวในการเข้าฐาน ทว่าชื่อ แควก แกว๊ก ห่าน กลับไม่โด่งดังเท่า “ก้าบ” ที่ทั้งรุ่นพี่ รุ่นเพื่อนเรียกติดปากกันตลอดมา จนไอ้มีฉายาเสริมก็คือ
“เคใหญ่...ไข่จ๊าบ...ก้าบภูมิ(พู-มิ)”
ที่มาของฉายาสุดอุบาทว์ก็มาจากเหล่าสาวประเภทสองที่เทใจเทคะแนนให้เชียร์ลีดเดอร์หน้าผีบอดี้เริ่ดคนนี้
“พวกแกไปรู้กับมันได้ไงว่าใหญ่ไม่ใหญ่”
ธาราเคยย้อนถามเล่น ๆ สาวเทียมกรีดนิ้วสาธยาย
“อู๊ยยยย...ก็ดูหุ่นมันสิยะ ตัวขนาดนั้นน่ะ เล็กได้เหรอ?”
“น่าเกลียด...ไปว่ามัน”
“ต๊าย! ยัยน้ำ หล่อนจะไปรู้อะไร ผู้ชายเค้าชอบย่ะ เชื่อสิ อีก้าบมันก็ชอบฉายานี้แหละ คนอาไร้...ถึงหน้าจะเน่า แต่เป้าก็เริ่ดดดด”
เสียงกระเทยสาวราวกับค่อย ๆเลือนหายไปในห้วงแห่งความทรงจำ ธาราลืมตามองเพดานห้อง กระพริบตาถี่ ๆ เพิ่งจะรู้สึกตัวว่าคิดถึงเรื่องอดีตเลยลงต่ำมากเกินไปแล้ว เจ้าหล่อนถูฝ่ามือเข้ากับกระบอกตาแรง ๆ
“คิดไปถึงไหนเนี่ยเรา บ้าจริง ๆเลย”
นาฬิกาบอกเวลาหลังเที่ยง ธารารีบกระเด้งลุกขึ้นจากที่นอน
“หมดเวลาเพ้อเจ้อแล้ว ทำงาน ๆ”
บ่อยครั้งที่เมื่อรู้สึกเช่นนี้ ธาราก็อดเหน็บตัวเองไม่ได้ว่า เพราะคิดเป็นอยู่แค่เรื่องงานน่ะสิ ถึงได้โสดค้างปีอยู่บนป่าบนเขาอย่างนี้ไง...เฮ้อ
นิยายออนไลน์ มาลย์มายา รีไรท์ ตอน 1
“โฮ้เร่...เจ๊น้ำ เป็นไงมั่งแขกเค้าชอบรีสอร์ทเรารึเปล่า”
สบชัยรีบถามหน้าบานยิ้มแฉ่งเกินเหตุอย่างมีพิรุธ
“ดาด้ามารายงานข่าวแล้วล่ะสิ ตื่นเต้นซะหน้าหุบไม่มิดเชียว”
เมื่อลูกพี่รู้ทัน ทั้งสองจึงปล่อยก๊ากลั่น
“ก็ยัยด้าบอกว่า หัวหน้ากรุ๊ปที่เป็นฝรั่งน่ะหล่อลากไส้เลย เจ๊น้ำน่ะ เช็คแฮนด์ไปปาดน้ำลายไป...ไหลย้อย”
“จะบ้าเหรอ ไม่ได้คิดอะไรเลย”
“เห็นยัยด้าว่า พี่เจอเพื่อนเก่าด้วยเหรอ ดีเลยพี่เพื่อนกันคุยง่าย ไม่ต้องจีบให้เหนื่อยแรง”
ธารากระตุกไหล่ ก่อนจะกลบเกลื่อนด้วยการแสร้งส่ายหน้าเบื่อ ๆ
“อ๋อ ไอ้ก้าบน่ะเหรอ มันไม่ใช่หัวหน้าซักหน่อย พี่ว่าคนที่เป็นคนตัดสินใจว่าจะเอาหรือไม่เอาน่าจะเป็นคุณ
อีริคมากกว่า”
“ทำไมเพื่อนพี่ชื่อประหลาดจัง คนอะไรชื่อก้าบ”
ดาด้าถามลอยๆ สบชัยหัวเราะ
“หน้าเขาเหมือนเป็ดรึเปล่าล่ะ เพื่อนตั้งไว้ล้อมั้ง รึไง เจ๊น้ำ”
ลูกพี่ร่างเล็กยิ้มขัน ขณะที่ผู้ช่วยสาวส่ายหัวดิก
“เฮ้ย หล่อน่ะเฟ้ย สูง แมน ผิวสีแทน ไหล่กว้าง น่าซบมากกกกกกก”
เจ้าหล่อนสาธยายราวกับพูดถึงชายในฝันเสียเอง ก่อนจะปิดท้ายด้วยประโยคที่ทำให้ธาราสำลักน้ำพรวดใหญ่
“สเป็คเจ๊น้ำเลย”
“ไอ้ด้า! ประเดี๋ยวเถอะแก ฉันไม่อยากได้ไอ้ก้าบมาทำแฟนหรอกย่ะ”
“พี่ไม่เอาเค้า รึเค้าไม่เอาพี่อ่ะ”
ขาดคำ สบชัยต้องรีบก้มหลบจานรองแก้วอย่างหวุดหวิด ก่อนจะเงยที่มาจากขอบโต๊ะมองคนปาที่ทำหน้าบูด พูดสะบัด ๆ
“ไม่เอาละ ไม่อยากเสียเวลาคุยกับพวกแก”
“อ้าว แล้วเจ๊จะไปไหนล่ะ”
ดาด้าจ้องมองคนปากแดงที่กำลังแบกกล่องกระดาษอย่างสงสัย
“กลับห้องก่อน ตอนบ่ายมีงานพาลูกค้าดูรีสอร์ท ด้าติดต่อลุงชาติไว้ด้วยนะ พี่ว่าลูกค้าคงจะเข้าป่าวันพรุ่งนี้ด้วย”
ดาด้ารับคำ มองลูกพี่สาวเดินสาวเท้าเร็วรี่เหมือนกลัวถูกจับได้เรื่องอะไรซักอย่าง หล่อนหัวเราะนึกครึ้มใจว่า ผาดาวรีสอร์ทน่าจะได้เหตุอะไรให้ตื่นเต้นกันในเร็ววันนี้เสียแล้ว
ธาราเดินกึ่งวิ่งกลับมายังห้องของตัวเอง หล่อนทิ้งร่างผอมลงบนเตียงนุ่มฟังเสียงหัวใจเต้นรัว อย่างหวั่นไหว แขนหล่อนโอบกล่องงานแต่ในใจยังครุ่นคิดภาพเจ้าก้าบ นนทภัทร ชายในฝัน ที่เล่าบอกใครต่อใครในรั้วมหาวิทยาลัยหล่อนอาจจะถูกหัวเราะ ธาราคิดพลางอมยิ้ม
เจ้านนท์ นนทภัทร ฉายา ก้าบ....
ชื่อเรียงเสียงนี้ มีที่มายังไงหนอ...
ต้นปีการศึกษาเมื่อ 8 ปีที่แล้ว
เหล่านิสิตใหม่ทั้งหลายกำลังถูกปรุงแต่งด้วยเครื่องทรงไม่พึงประสงค์ ทั้งสีบนใบหน้า สาคูอืด ๆบนศีรษะ เส้นผมทรงประหลาดที่เหล่ารุ่นพี่ช่วยกันเติมแต่ง
“เอาล่ะ”
เสียงรุ่นพี่ชายร่างใหญ่ยักษ์ตะโกนขึ้นกลางลาน เรียกความสนใจจากคนทุกกลุ่มในที่นั้นได้ไม่ยากนัก
“น้องผู้หญิงเข้าไปรอในหอประชุม น้องผู้ชายไปเข้าแถวรอข้างนอก พี่ช้างรออยู่ที่ประตูหอประชุมนะ”
รายการจับคู่กำลังจะเริ่มขึ้น เรียกเป็นทางการว่า “จับคู่บัดดี้” แบบไม่เป็นทางการว่า “จับคู่ผัวเมีย…”
โอ้! มายก้อด เป็นสิ่งที่ไม่อยากจะทำเอาเสียเลยจริง ๆ ธาราในวัย 18 ภาวนา แล้ว ภาวนาอีกขอให้ได้ใครก็ได้ที่หล่อ ขาว สูงมาเป็นสามีชั่วคราวในวันนี้
สาว ๆ ทุกคนในที่นั้นต่างรู้ดีว่า ไม่มีใครจะเป็นผัวเดียวเมียเดียวในรั้วมหาวิทยาลัยที่เต็มไปด้วยผู้หญิง อย่างนี้ ดังนั้นในหนึ่งครอบครัว จึงย่อมมีเมียน้อยอีกอย่างน้อยสองคน
มือผอมบางข้างซ้ายของธาราในเวลานั้นจึงจับมั่นอยู่กับใครก็ไม่รู้อีกสอง ส่วนมือขวานั้นเล่าก็มีพี่ช้างเป็นคนจับไว้มั่น รอใส่ไว้ในอุ้งมือของสามีผู้อยู่หลังม่าน
“เอ้า ไป”
เมื่อฝั่งนอกหอประชุมส่งมือใครก็ไม่รู้มาพี่ช้างจึงจัดให้ทันที
มือของธาราถูกยัดลงในอุ้งมือของใครคนหนึ่งและแถมด้วยลูกผลักอีกโครมใหญ่จากรุ่นพี่ตัวบึ้ก อีกสองร่างผอม ๆ ก็ลอยติดร่างแหออกมาด้วย
เมื่อผู้เป็นเมียหลวงเงยหน้ามาพบกับสามีในฝ่ามือ ธาราก็แทบลมจับ
“ไอ้นนท์”
นนทภัทรในสมัยนั้นเป็นที่รู้จักของเหล่ารุ่นพี่และรุ่นเดียวกันเป็นอย่างดี ธารานั้นรู้จักและคุ้นเคยกับเขาเป็นอย่างดีอยู่แล้ว และไม่อยากจะภาวนาถึง เพราะฉายาเบื้องต้นของนนทภัทรในตอนนั้นคือ
“หน้าผีบอดี้เริ่ด”
คือ หุ่นแมนเท่มาก แต่กรุณาตัดหัวทิ้ง รุ่นพี่หลายคนมาทาบทามพ่อหนุ่มนนท์ไปเป็นเชียร์ลีดเดอร์คณะเพราะหุ่นที่แสนจะเพอร์เฟ็ค อันหาได้ยากในมหาวิทยาลัยห่างไกลความเจริญ แต่ไอ้หน้าอับ ๆ อันเต็มไปด้วย สิว และริ้วรอยนั้น รุ่นพี่ทั้งหลายบอกว่าเวลาอยู่กลางสนามทาแป้งหนา ๆ ก็ไม่มีใครเห็นหรอก
แต่ในเวลานี้ มัน.. มาเป็นสามีของพวกเรา โอ้ ธาราเอ๋ย ทำบุญมาน้อยเหลือเกิน
“อ้าว ไอ้น้ำ”
มันทัก ส่วนอีกสองสาวนั้นมาทราบชื่อกันภายหลัง ซึ่งจำไม่ได้แล้ว รู้แต่เพียงทั้งสองนั่งทำหน้ามึน...ซึม ...งึม.....จ๋อยสนิท
ธาราแอบคิดเอาเองว่าสองสาวคงจะรู้สึกผิดหวัง...มาก...ไม่ต่างไปจากหล่อน
หลังจากนั้น แต่ละครอบครัวต้องถูกบังคับให้อยู่ในสภาพเดียวกัน คือ สามีนำหน้า ภรรยาทั้งสามตามหลัง ทุกคนต้องถอดรองเท้าออกโดยให้ผู้เป็นสามีร้อยเชือกฟางเข้ากับทุกคู่แล้วแขวนคอไว้ในระหว่างที่พาเหล่าภรรยาเดินไปตามฐานต่าง ๆ ที่รุ่นพี่วางไว้ โอ้! หน้าเน่า ๆกับรองเท้าแตะเต็มคอ...ช่างรับกับหน้ามันซะ...
“กร้อบกรัวต่อไป! เก้ามา!”
เสียงใหญ่ๆ ตะโกนลั่น สำเนียงของรุ่นพี่ร่างยักษ์บ่งบอกพื้นเพของคนประจำภูมิภาคได้เป็นอย่างดี ห้วน ดัง และทองแดง
“จื้ออะรัย”
แกถามเมื่อกลุ่มของธาราเข้าไปถึง ทั้งสี่ต้องตกใจจนไหล่ห่อ ก็อยู่ใกล้กันแค่นั้นทำไมต้องตะโกนด้วยก็ไม่รู้
“อะ เอ่อ ผมนนท์ครับ”
นนทภัทรตอบเบา ๆอย่างสุภาพ ธารากำลังจะอ้าปาก ก็ต้องรีบหุบเมื่อเสียงราวกับฟ้าผ่าสวนออกมา
“ฐานนี้ จื้อฐาน ป้อกุ๋นราม ! เวลาแนะนำตัวต้องแนะนำให้จั๊ดเจน! เอาใหม่!”
“อ่า...ผมชื่อนนท์ครับ เรียนอยู่ชั้นปีที่ 1 เอกภูมิศาสตร์ครับ”
“ไอ้หน้าโง่! กูบอกว่าฐานป้อกุ๋นราม เก้าใจมั้ย ป้อกุ๋นราม..นึ้น...”
แกตะคอกหน้าตาจริงจัง ธาราแอบสังเกตเห็นหนึ่งในภรรยาน้อยเริ่มน้ำตาซึม แต่ไอ้ก้าบ ที่ในเวลานั้นยังเป็นไอ้นนท์กลับอมยิ้ม
“อ้อ...ครับ ฐานพ่อขุนราม...นึ้น..นะครับ”
รุ่นพี่หันมามอง
"เฮ่ย......ห้ามล้อเลียนรุ่นพี่..."
นนทภัทรพยักหน้าอย่างอ่อนน้อม ลอบส่งสายสายยิ้มเจ้าเล่ห์มาทางธารา ก่อนจะหันกลับไปตะโกนก้อง
“กู! ...ชื่อนนท์! เอก ภูมิ! นี่เมียหลวงชื่อน้ำ เมียน้อยชื่อ...”
มันร่ายชื่อสมาชิกในครอบครัวอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“ดีมาก”
รุ่นพี่ยิ้มเหี้ยม
“ตีนี้บอกจื้อกร้อบกรัว มาจิ๊ มาฐานนี้ต้องมีจื้อ กร้อบกรัว ไม่งั้นไม่ป่าน ”
“เป็ด”
นนทภัทรตอบไปโดยไม่คิด แต่รุ่นพี่หน้าตาน่ากลัวกลับพยักหน้ารับ
“งั้นต้อง เปลี่ยนจื้อให้เก้ากับนามตะกุล อะ จะจื้ออะไร ไอ้ผัว”
“ก้าบครับ”
มันตอบไปง่าย ๆ
“เมียหลวงล่ะ”
“แก้บค่ะ”
ธาราตอบมั่ว ๆ หวังจะรอดไปง่าย ๆ แต่รุ่นพี่กลับจ้องหน้า
“เฮ้ย! ...อย่ามั่วจิ ตั้งอะไรให้มันเกี่ยวกับเป็ดหน่อย เอาใหม่”
“เอ่อ...”
หล่อนเกาหัวแกรก ชื่ออะไรที่มันเกี่ยวกับเป็ด
“หน้าออกหมวยอินเตอร์ เดี๋ยวกูให้จื้อฝรั่งไปเลย เอา...แควก”
ธาราเงยหน้าขึ้นมองหน้ากร้านดำนั้นงง ๆ
“แควก ...แควก ๆ ไงรู้จักมั้ยเสียงเป็ดฝรั่งนั้น...จื้อนี้เลย อีแควก”
แกว่าหน้าตาเรียบเฉย ส่วนสองสาวเมียน้อย แกก็เป็นคนช่วยตั้งชื่อให้เช่นกัน
“...จื้อ อีแกว๊ก...ส่วน อีห่าน อีหลงมา บังเอิญผัวเก็บได้ เลยต้องอยู่กันไป”
ธาราแอบพ่นลมหายใจทางจมูก สองสาวก็คงจะแอบขำแต่ก็ไม่กล้ายิ้ม หญิงสาวจำได้ว่าตลอดทั้งวันของการรับน้อง ต้องใช้ชื่อนี้แนะนำตัวในการเข้าฐาน ทว่าชื่อ แควก แกว๊ก ห่าน กลับไม่โด่งดังเท่า “ก้าบ” ที่ทั้งรุ่นพี่ รุ่นเพื่อนเรียกติดปากกันตลอดมา จนไอ้มีฉายาเสริมก็คือ
“เคใหญ่...ไข่จ๊าบ...ก้าบภูมิ(พู-มิ)”
ที่มาของฉายาสุดอุบาทว์ก็มาจากเหล่าสาวประเภทสองที่เทใจเทคะแนนให้เชียร์ลีดเดอร์หน้าผีบอดี้เริ่ดคนนี้
“พวกแกไปรู้กับมันได้ไงว่าใหญ่ไม่ใหญ่”
ธาราเคยย้อนถามเล่น ๆ สาวเทียมกรีดนิ้วสาธยาย
“อู๊ยยยย...ก็ดูหุ่นมันสิยะ ตัวขนาดนั้นน่ะ เล็กได้เหรอ?”
“น่าเกลียด...ไปว่ามัน”
“ต๊าย! ยัยน้ำ หล่อนจะไปรู้อะไร ผู้ชายเค้าชอบย่ะ เชื่อสิ อีก้าบมันก็ชอบฉายานี้แหละ คนอาไร้...ถึงหน้าจะเน่า แต่เป้าก็เริ่ดดดด”
เสียงกระเทยสาวราวกับค่อย ๆเลือนหายไปในห้วงแห่งความทรงจำ ธาราลืมตามองเพดานห้อง กระพริบตาถี่ ๆ เพิ่งจะรู้สึกตัวว่าคิดถึงเรื่องอดีตเลยลงต่ำมากเกินไปแล้ว เจ้าหล่อนถูฝ่ามือเข้ากับกระบอกตาแรง ๆ
“คิดไปถึงไหนเนี่ยเรา บ้าจริง ๆเลย”
นาฬิกาบอกเวลาหลังเที่ยง ธารารีบกระเด้งลุกขึ้นจากที่นอน
“หมดเวลาเพ้อเจ้อแล้ว ทำงาน ๆ”
บ่อยครั้งที่เมื่อรู้สึกเช่นนี้ ธาราก็อดเหน็บตัวเองไม่ได้ว่า เพราะคิดเป็นอยู่แค่เรื่องงานน่ะสิ ถึงได้โสดค้างปีอยู่บนป่าบนเขาอย่างนี้ไง...เฮ้อ