จาก FHM ออนไลน์ TEXT : Mr.Hoy & Mr.Dewdo
ถ้าคุณรำคาญกับการต้องรับสายแปลกๆ ที่โทรมาขายประกันชีวิต บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล หรือฟิตเนส ที่เรียกรวมๆ ว่า Telesale ต่อไปนี้คือ 10 ประโยคเด็ดที่มีคนเคยลองใช้แล้วเวิร์กจริง!
01. "ผมทำไว้ครบทุกอย่างแล้ว ทั้งประกันออมทรัพย์ ประกันสุขภาพ จ่ายเพิ่มกว่านี้ไม่ไหวแล้ว" (ประกัน)
จะมาทำซ้ำซ้อนมันก็ใช่เรื่อง ในเมื่อมีครบแล้ว เชื่อเถอะว่าอีกฝ่าย จะไม่ถามความยาวสาวความยืดแน่นอน ถึงเขาจะดื้อหรือมีลูกตื้อตามมา ก็ให้ยืนกระต่ายขาเดียวไว้ อย่าหวั่นไหว เพราะยังไงๆ เขาก็คือสิ่งมีชีวิตไม่ใช่ซอร์ฟแวร์! มีอารมณ์และความรู้สึกเหมือนกับเราๆ ถ้าคุณยืนกรานว่าไม่ทำอย่างต่ำสัก 2 ครั้ง อีกฝ่ายก็น่าจะถอยทัพกลับไปเองนั่นแหละ
02. "ผมทำไว้ครบทุกอย่างแล้ว ไม่ทำเพิ่มแล้ว เอาเงินไปซื้อกองทุนกับเล่นหุ้นได้กำไรเยอะกว่า" (ประกัน)
การบอกข้อดีที่เหนือกว่าดักหน้าไปเลย ไม่ต้องรอให้เขาบรรยายสรรพคุณ หรือสิทธิพิเศษต่างๆ ที่คุณจะได้รับให้เสียเวลา ถึงเขาจะอ้างว่าสิ่งที่คุณเสนอมา มันมีความเสี่ยงสูงกว่า (และพร้อมที่จะอธิบายข้อดีให้ฟังเหมือนเดิม!) แต่ความเสี่ยงที่สูงกว่า ก็ย่อมให้ผลลัพธ์ที่สูงกว่า ยังไงของทุกอย่างมันก็มีความเสี่ยงอยู่แล้ว ถึงของจะแช่แข็งไว้ในช่องฟรีซ นิ่งๆ เย็นๆ มันก็มีความเสี่ยงที่จะเน่าได้อยู่ดี
03. "ส่งรายละเอียดมาทางอีเมลหรือแฟกซ์ได้ไหมครับ ถ้าไม่ได้อ่านรายละเอียด ผมไม่ทำเด็ดขาด ทิ้งเบอร์คุณไว้ด้วย เดี๋ยวติดต่อกลับไปเอง" (Telesale ทุกประเภท)
เชื่อเถอะว่า ส่วนใหญ่ไม่มีรายละเอียดให้คุณในทันทีหรอก เขาจะหว่านล้อมให้คุณตอบตกลงทางโทรศัพท์ก่อน ด้วยข้ออ้างคลาสสิก "ในเอกสารรายละเอียดมันอาจจะงงๆ หน่อย เดี๋ยวจะเข้าใจไม่ชัด ส่วนใหญ่ก็โทรกลับมาถามเราอยู่ดี เพราะอย่างนี้นี่แหละครับ ถึงจะอธิบายให้ฟังแบบย่อๆ อย่างง่ายๆ คืออย่างนี้นะครับคุณพี่..." ด้วยพยายามให้เราตกลงก่อน แล้วรายละเอียดจะตามมาทีหลัง(ประเภทข้อความยาวเหยียด พิมพ์ตัวเล็กๆ ประเภทไม่รู้จะเล็กไปไหน พร้อมเงื่อนไขที่ไม่ได้อธิบายให้ฟังอีกเพียบ!) ถ้าส่งมาจริง ส่วนมากก็จะส่งมาทางแฟกซ์นั่นแหละ แม้เทคโนโลยีจะก้าวกระโดดไปไกลแล้ว เนื่องจากมันจะอ่านได้ไม่ชัดเท่าอีเมล แต่ก็ถือว่ามีหลักฐานที่เอาผิดไม่ได้ ยังไงๆ ก็ให้ยืนยันตามเดิม ถ้าสงสัยเพิ่มเติมเดี๋ยวจะติดต่อกลับไปเอง
04. "ผมติดแบล็กลิสต์อยู่นะ นี่คุณไม่ได้ทำการบ้านมาก่อนเลยเหรอ" (บัตรเครดิต / สินเชื่อ)
แน่นอน เขาย่อมจะอึ้ง ชะงัก เพราะเหมือนเอาไม้เบสบอลตีสวนกลับ เหมือนถูกคุณครูดุ เข้าข่ายมีความผิด 2 กระทง ผิดแรกคือกำลังเล่นกับคนไม่มีทางสู้ ผิดที่สองก็คือไม่ดูตาม้าตาเรือ เชื่อเถอะเขาจะทำอะไรไม่ถูก แต่ก็ไม่แน่อาจโทรมาใหม่วันหลัง ด้วยบริษัทเดิมแต่สำเนียงของพนักงานคนใหม่ เพื่ออยากจะได้รับการยืนยันอีกครั้งว่าคุณไม่ได้โกหก
05. "ผมเป็นหนี้อยู่ 6 แสน ทั้งในและนอกระบบ ขอที่ไหนเขาก็ไม่ให้เพิ่มแล้ว" (บัตรเครดิต / สินเชื่อ)
ปกติมีเงินเก็บเป็นล้าน แต่ก็ขอยกข้ออ้างหลักแสนมากันท่าไว้ก่อน จากเศรษฐีสู่ผู้ไม่มีอันจะกิน ส่งข้อความน่าสงสารให้อีกฝ่ายได้รู้ ทำนองถ้าขอยืมเงินพนักงานคนนั้นได้ ก็คงยืมไปแล้ว! ถ้ามันดีจริง เราก็คงได้ผลประโยชน์ร่วมกัน สตางค์ของน้องในนามของพี่ ถ้ามีปัญหาอะไรเดี๋ยวคุณพี่คนนี้จะออกรับหน้าแทนให้ตามชื่อ-สกุลที่ปรากฏ !
06. "ที่คอนโดผมมีฟิตเนสเล่นฟรี มีสระว่ายน้ำด้วย แล้วผมจะไปเสียเงินที่อื่นทำไม" (ฟิตเนส)
ด้วยอุปกรณ์ครบครัน พร้อมเทรนเนอร์หุ่นน่ารักเหมือนนักรักบี้ ดีกรีขายเวย์โปรตีนเป็นอาชีพเสริม ทั้งๆ ที่ความจริงก็อยู่ที่ระเบียบวินัยของการกินอยู่และออกกำลังกาย ถ้าเป้าหมายของคุณไม่ได้อยากจะเล่นเพื่อฟิตแอนด์เฟิร์มขนาดนั้น บางทีการถูบ้าน ขัดห้องน้ำก็ช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้มาก คุณเคยสงสัยไหมว่า ทำไมแม่บ้านตามหอพักหรือบริษัทถึงหุ่นดีๆ กันทุกคน ทั้งๆ ที่อายุก็ไม่ใช่น้อยๆ !
07. "ผมตกงานอยู่ครับ" (Telesale ทุกประเภท)
รับประกันว่าเห็นผลชะงัด! หยุดทุกกระทำ หยุดทุกคำพูด ถ้าพนักงานคนนั้นยังดันทุรังถามต่อ ก็เพราะตรวจสอบข้อมูลมาแล้วว่าคุณยังมีงานทำอยู่ ก็ให้ถามกลับไปว่าข้อมูลที่ได้มานั้นมันตั้งแต่เมื่อไหร่ สมัยจอมพล ป. หรือเปล่า? ปัจจุบันตกงานอย่างสมบูรณ์แล้วครับ/ค่ะ สตางค์ซื้อโทรศัพท์ใหม่ก็ยังไม่มีเลย นี่โทรติดๆ ดับๆ ตลอด ว่าแล้วก็เข้าทาง-วางสาย ตู้ดๆๆๆ
08. "นี่คุณไปเอาเบอร์ผมมาจากไหน? เดี๋ยวนี้มีการซื้อขายข้อมูลลูกค้ากันแล้วเหรอ เดี๋ยวผมจะจดเบอร์คุณไปแจ้งความ" (Telesale ทุกประเภท)
เดือดร้อนกันทั้งบริษัทเลยทีนี้ ไม่รู้เป็นองค์สืบราชการลับกลับชาติมาเกิดหรือเปล่า ถึงรู้ได้รู้ดียิ่งกว่าอับดุล เขาก็ต้องบอกว่าเป็นข้อมูลของการทำธุรกรรมทั่วไป ไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมาย! ก็ขอให้คุณถามกลับก่อนว่ามาจากโทรมาบริษัทไหน ขอเบอร์ส่วนตัวไว้เลยไหม รู้ข้อมูลผมซะขนาดนี้ ผมขอรู้จักคุณบ้าง ต่อไปจะได้โทรหาเป็นการส่วนตัว ผ่านไปแถวนั้นเผื่อว่าจะได้ซื้อของไปฝาก นัดมากินข้าว มีอะไรก็พกมาให้เซ็นกันวันนั้นเลย ขอรบกวนเวลาไม่นานเหมือนกัน!
09. "ไม่ทำครับ... ไม่เอาครับ... ไม่สนใจครับ" (Telesale ทุกประเภท)
ทั้งที่ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย สั้นๆ ง่ายๆ แต่ทำไมเขาก็ยังไม่เข้าใจก็ไม่รู้ เขาย่อมจะไม่หยุดอยู่แค่นั้นอย่างแน่นอน เพราะเหมือนเป็นคำปฏิเสธเบสิกๆ ระดับกุ๊กกิ๊กน่ารักพอรับได้ พร้อมจะนำเสนอสิ่งดีๆ ให้คุณมีหลักประกันชีวิตที่แน่นอน มีชีวิตดีขึ้นจากเดิมอย่างผิดหูผิดตา สงสัยอยู่เหมือนกันว่าถ้ามันดีซะขนาดนั้น ไม่เก็บไว้ใช้เอง หรือแจกฟรีมันไปซะเลย ถ้าจะยัดเยียดกันซะขนาดนี้ !
10. "คุณ... (ชื่อเรา) เพิ่งเสียชีวิตไป 2 อาทิตย์ครับ" (Telesale ทุกประเภท)
ไอ้หยา... ที่ถือสายอยู่นี่เป็นแค่ญาติสนิทมิตรสหายเท่านั้น ลำพังแค่เอาโทรศัพท์มือถือของเขามาใช้ต่อ ถ้าเขายังมีทีท่าไม่ยอมความ ก็ให้ถามกลับไปว่า "ถ้าไม่เชื่อ จะเอาเบอร์โทรติดต่อไปที่วัดไหม? ผมมีนะ" ถ้าเขาบอกว่าไม่เป็นไร ก็อย่าไปฝืนความรู้สึก จะบาปจะกรรมเอาได้ ใจเขาใจเรา อย่าจองเวรจองกรรมกันนักเลยในชาตินี้...
10 ประโยคเด็ด! ใช้ปฏิเสธคนโทรขายประกัน/บัตรเครดิต/สินเชื่อ/ฟิตเนส
ถ้าคุณรำคาญกับการต้องรับสายแปลกๆ ที่โทรมาขายประกันชีวิต บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล หรือฟิตเนส ที่เรียกรวมๆ ว่า Telesale ต่อไปนี้คือ 10 ประโยคเด็ดที่มีคนเคยลองใช้แล้วเวิร์กจริง!
01. "ผมทำไว้ครบทุกอย่างแล้ว ทั้งประกันออมทรัพย์ ประกันสุขภาพ จ่ายเพิ่มกว่านี้ไม่ไหวแล้ว" (ประกัน)
จะมาทำซ้ำซ้อนมันก็ใช่เรื่อง ในเมื่อมีครบแล้ว เชื่อเถอะว่าอีกฝ่าย จะไม่ถามความยาวสาวความยืดแน่นอน ถึงเขาจะดื้อหรือมีลูกตื้อตามมา ก็ให้ยืนกระต่ายขาเดียวไว้ อย่าหวั่นไหว เพราะยังไงๆ เขาก็คือสิ่งมีชีวิตไม่ใช่ซอร์ฟแวร์! มีอารมณ์และความรู้สึกเหมือนกับเราๆ ถ้าคุณยืนกรานว่าไม่ทำอย่างต่ำสัก 2 ครั้ง อีกฝ่ายก็น่าจะถอยทัพกลับไปเองนั่นแหละ
02. "ผมทำไว้ครบทุกอย่างแล้ว ไม่ทำเพิ่มแล้ว เอาเงินไปซื้อกองทุนกับเล่นหุ้นได้กำไรเยอะกว่า" (ประกัน)
การบอกข้อดีที่เหนือกว่าดักหน้าไปเลย ไม่ต้องรอให้เขาบรรยายสรรพคุณ หรือสิทธิพิเศษต่างๆ ที่คุณจะได้รับให้เสียเวลา ถึงเขาจะอ้างว่าสิ่งที่คุณเสนอมา มันมีความเสี่ยงสูงกว่า (และพร้อมที่จะอธิบายข้อดีให้ฟังเหมือนเดิม!) แต่ความเสี่ยงที่สูงกว่า ก็ย่อมให้ผลลัพธ์ที่สูงกว่า ยังไงของทุกอย่างมันก็มีความเสี่ยงอยู่แล้ว ถึงของจะแช่แข็งไว้ในช่องฟรีซ นิ่งๆ เย็นๆ มันก็มีความเสี่ยงที่จะเน่าได้อยู่ดี
03. "ส่งรายละเอียดมาทางอีเมลหรือแฟกซ์ได้ไหมครับ ถ้าไม่ได้อ่านรายละเอียด ผมไม่ทำเด็ดขาด ทิ้งเบอร์คุณไว้ด้วย เดี๋ยวติดต่อกลับไปเอง" (Telesale ทุกประเภท)
เชื่อเถอะว่า ส่วนใหญ่ไม่มีรายละเอียดให้คุณในทันทีหรอก เขาจะหว่านล้อมให้คุณตอบตกลงทางโทรศัพท์ก่อน ด้วยข้ออ้างคลาสสิก "ในเอกสารรายละเอียดมันอาจจะงงๆ หน่อย เดี๋ยวจะเข้าใจไม่ชัด ส่วนใหญ่ก็โทรกลับมาถามเราอยู่ดี เพราะอย่างนี้นี่แหละครับ ถึงจะอธิบายให้ฟังแบบย่อๆ อย่างง่ายๆ คืออย่างนี้นะครับคุณพี่..." ด้วยพยายามให้เราตกลงก่อน แล้วรายละเอียดจะตามมาทีหลัง(ประเภทข้อความยาวเหยียด พิมพ์ตัวเล็กๆ ประเภทไม่รู้จะเล็กไปไหน พร้อมเงื่อนไขที่ไม่ได้อธิบายให้ฟังอีกเพียบ!) ถ้าส่งมาจริง ส่วนมากก็จะส่งมาทางแฟกซ์นั่นแหละ แม้เทคโนโลยีจะก้าวกระโดดไปไกลแล้ว เนื่องจากมันจะอ่านได้ไม่ชัดเท่าอีเมล แต่ก็ถือว่ามีหลักฐานที่เอาผิดไม่ได้ ยังไงๆ ก็ให้ยืนยันตามเดิม ถ้าสงสัยเพิ่มเติมเดี๋ยวจะติดต่อกลับไปเอง
04. "ผมติดแบล็กลิสต์อยู่นะ นี่คุณไม่ได้ทำการบ้านมาก่อนเลยเหรอ" (บัตรเครดิต / สินเชื่อ)
แน่นอน เขาย่อมจะอึ้ง ชะงัก เพราะเหมือนเอาไม้เบสบอลตีสวนกลับ เหมือนถูกคุณครูดุ เข้าข่ายมีความผิด 2 กระทง ผิดแรกคือกำลังเล่นกับคนไม่มีทางสู้ ผิดที่สองก็คือไม่ดูตาม้าตาเรือ เชื่อเถอะเขาจะทำอะไรไม่ถูก แต่ก็ไม่แน่อาจโทรมาใหม่วันหลัง ด้วยบริษัทเดิมแต่สำเนียงของพนักงานคนใหม่ เพื่ออยากจะได้รับการยืนยันอีกครั้งว่าคุณไม่ได้โกหก
05. "ผมเป็นหนี้อยู่ 6 แสน ทั้งในและนอกระบบ ขอที่ไหนเขาก็ไม่ให้เพิ่มแล้ว" (บัตรเครดิต / สินเชื่อ)
ปกติมีเงินเก็บเป็นล้าน แต่ก็ขอยกข้ออ้างหลักแสนมากันท่าไว้ก่อน จากเศรษฐีสู่ผู้ไม่มีอันจะกิน ส่งข้อความน่าสงสารให้อีกฝ่ายได้รู้ ทำนองถ้าขอยืมเงินพนักงานคนนั้นได้ ก็คงยืมไปแล้ว! ถ้ามันดีจริง เราก็คงได้ผลประโยชน์ร่วมกัน สตางค์ของน้องในนามของพี่ ถ้ามีปัญหาอะไรเดี๋ยวคุณพี่คนนี้จะออกรับหน้าแทนให้ตามชื่อ-สกุลที่ปรากฏ !
06. "ที่คอนโดผมมีฟิตเนสเล่นฟรี มีสระว่ายน้ำด้วย แล้วผมจะไปเสียเงินที่อื่นทำไม" (ฟิตเนส)
ด้วยอุปกรณ์ครบครัน พร้อมเทรนเนอร์หุ่นน่ารักเหมือนนักรักบี้ ดีกรีขายเวย์โปรตีนเป็นอาชีพเสริม ทั้งๆ ที่ความจริงก็อยู่ที่ระเบียบวินัยของการกินอยู่และออกกำลังกาย ถ้าเป้าหมายของคุณไม่ได้อยากจะเล่นเพื่อฟิตแอนด์เฟิร์มขนาดนั้น บางทีการถูบ้าน ขัดห้องน้ำก็ช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้มาก คุณเคยสงสัยไหมว่า ทำไมแม่บ้านตามหอพักหรือบริษัทถึงหุ่นดีๆ กันทุกคน ทั้งๆ ที่อายุก็ไม่ใช่น้อยๆ !
07. "ผมตกงานอยู่ครับ" (Telesale ทุกประเภท)
รับประกันว่าเห็นผลชะงัด! หยุดทุกกระทำ หยุดทุกคำพูด ถ้าพนักงานคนนั้นยังดันทุรังถามต่อ ก็เพราะตรวจสอบข้อมูลมาแล้วว่าคุณยังมีงานทำอยู่ ก็ให้ถามกลับไปว่าข้อมูลที่ได้มานั้นมันตั้งแต่เมื่อไหร่ สมัยจอมพล ป. หรือเปล่า? ปัจจุบันตกงานอย่างสมบูรณ์แล้วครับ/ค่ะ สตางค์ซื้อโทรศัพท์ใหม่ก็ยังไม่มีเลย นี่โทรติดๆ ดับๆ ตลอด ว่าแล้วก็เข้าทาง-วางสาย ตู้ดๆๆๆ
08. "นี่คุณไปเอาเบอร์ผมมาจากไหน? เดี๋ยวนี้มีการซื้อขายข้อมูลลูกค้ากันแล้วเหรอ เดี๋ยวผมจะจดเบอร์คุณไปแจ้งความ" (Telesale ทุกประเภท)
เดือดร้อนกันทั้งบริษัทเลยทีนี้ ไม่รู้เป็นองค์สืบราชการลับกลับชาติมาเกิดหรือเปล่า ถึงรู้ได้รู้ดียิ่งกว่าอับดุล เขาก็ต้องบอกว่าเป็นข้อมูลของการทำธุรกรรมทั่วไป ไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมาย! ก็ขอให้คุณถามกลับก่อนว่ามาจากโทรมาบริษัทไหน ขอเบอร์ส่วนตัวไว้เลยไหม รู้ข้อมูลผมซะขนาดนี้ ผมขอรู้จักคุณบ้าง ต่อไปจะได้โทรหาเป็นการส่วนตัว ผ่านไปแถวนั้นเผื่อว่าจะได้ซื้อของไปฝาก นัดมากินข้าว มีอะไรก็พกมาให้เซ็นกันวันนั้นเลย ขอรบกวนเวลาไม่นานเหมือนกัน!
09. "ไม่ทำครับ... ไม่เอาครับ... ไม่สนใจครับ" (Telesale ทุกประเภท)
ทั้งที่ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย สั้นๆ ง่ายๆ แต่ทำไมเขาก็ยังไม่เข้าใจก็ไม่รู้ เขาย่อมจะไม่หยุดอยู่แค่นั้นอย่างแน่นอน เพราะเหมือนเป็นคำปฏิเสธเบสิกๆ ระดับกุ๊กกิ๊กน่ารักพอรับได้ พร้อมจะนำเสนอสิ่งดีๆ ให้คุณมีหลักประกันชีวิตที่แน่นอน มีชีวิตดีขึ้นจากเดิมอย่างผิดหูผิดตา สงสัยอยู่เหมือนกันว่าถ้ามันดีซะขนาดนั้น ไม่เก็บไว้ใช้เอง หรือแจกฟรีมันไปซะเลย ถ้าจะยัดเยียดกันซะขนาดนี้ !
10. "คุณ... (ชื่อเรา) เพิ่งเสียชีวิตไป 2 อาทิตย์ครับ" (Telesale ทุกประเภท)
ไอ้หยา... ที่ถือสายอยู่นี่เป็นแค่ญาติสนิทมิตรสหายเท่านั้น ลำพังแค่เอาโทรศัพท์มือถือของเขามาใช้ต่อ ถ้าเขายังมีทีท่าไม่ยอมความ ก็ให้ถามกลับไปว่า "ถ้าไม่เชื่อ จะเอาเบอร์โทรติดต่อไปที่วัดไหม? ผมมีนะ" ถ้าเขาบอกว่าไม่เป็นไร ก็อย่าไปฝืนความรู้สึก จะบาปจะกรรมเอาได้ ใจเขาใจเรา อย่าจองเวรจองกรรมกันนักเลยในชาตินี้...