สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 30
ประเด็นอื่น เคยพิมใว้แล้ว แต่ขอ ประเด็นเดียว
จากที่หลายท่าน บอก us มีหลายกองเรือ มีเรือบรรทุกหลายลำ อาจจะจมได้ไม่กี่ลำ
คงต้องอธิบายอย่างนี้
จีนมี ขีปนาวุธที่ทำลาย เรือบรรทุก และเรือพิฆาติ ได้ ไม่รวมขีปนาวุธร่อน คือ
DF21D DF26 และ HGV hypersonic glide vehicle (HVG)
ซึ่ง HGV ไม่ใช่จรวด แต่เป็นหัวรบ ที่สามาถยิงได้จาก ballistic missile เช่น DF21 DF26 DF31a Df41 DF5B JL2a/b
ซึ่งเท่ากับว่า HGV มีระยะยิง ตามจรวดที่ขนมันขึ้นไป
นี่ประเด็นหนึ่ง
ต่อมาที่บอกว่า us มีเรือเพียบ
อันนั้นจริง แต่จะบอกว่า จีนมี ขีปนาวุธ มากกว่า เรือ us ไม่รู้กี่เท่า
จีนสามารถสร้าง DF21D DF26 และ HGV hypersonic glide vehicle (HVG) ได้มากกว่า และ ได้เร็วกว่า us สรา้งเรือ
ดังนั้น จะวัดกัน รับรอง จีนมีจรวดมากกว่า เรือus แน่ๆ
และ
ถามต่อ แล้ว us จะทำลาย พวกนี้อย่างไร
ตอบ
1. us ต้องครองอากาศเหนือแผ่นดินจีนให้ได้ หรือ
2.ทำลายดาวเทียมจีนทุกดวง ที่ใช้นำวิถี
3.ทำลาย โรงงานใต้ดิน ที่เก็บ และโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ซึ่งต้องใช้ นิวเคลียร์ เท่านั้น หรือไม่ต้องทำข้อ 1ก่อน
แต่ความเป็นจริง
1.ครองอากาศไม่ใช่เรื่องง่าย
2.ทำลายดาวเทียมจีน นี่ อาจโดนจีนทำลายดาวเทียมตัวเองจนหมดแทน (จีนเป็นประเทศชั้นแนวหน้าด้าน ASAT)
3.ข้อนี้ ก็เท่ากับทำสงคราม นิวเคลียร์ ซึ่งต้องมาวัดกันว่า ground based midcourse defense ซึ่งเป็น ระบบป้องกันขีปนาวุธชั้นแรก(ป้องกันICBM SLBM) ที่ทั้ง2มี ใครจะเหนือกว่ากัน
และ เมื่อหลุดจากชั้นแรก ก็ต้องมาวัดกันที่ HQ19 หรือ THADD ของใครจะดีกว่ากัน ....
**เมื่อพิจารณาทั้งหมด ทั้งมวล คงไม่มีผู้นำคนไหนโง่พอ เข้าสู่สงครามที่ตนเองไม่ชนะหรอก
เมื่อสมดุลเกิด สงครามก็ไม่เกิด
ส่วนจีนก็สร้างกองเรือบรรทุกต่อไป เพราะใช้เครื่องบินโจมตี มันถูกกว่า เหมาะกับประเทศที่ไม่มีอะไรจะมาสู้เท่าไร
http://topicstock.ppantip.com/wahkor/topicstock/2012/09/X12688097/X12688097.html
และ
http://ppantip.com/topic/34065455
YJ12
M4 ที่ 400 km ยิงได้จากเครื่องบิน เรือผิวน้ำ และดำน้ำ
จากที่หลายท่าน บอก us มีหลายกองเรือ มีเรือบรรทุกหลายลำ อาจจะจมได้ไม่กี่ลำ
คงต้องอธิบายอย่างนี้
จีนมี ขีปนาวุธที่ทำลาย เรือบรรทุก และเรือพิฆาติ ได้ ไม่รวมขีปนาวุธร่อน คือ
DF21D DF26 และ HGV hypersonic glide vehicle (HVG)
ซึ่ง HGV ไม่ใช่จรวด แต่เป็นหัวรบ ที่สามาถยิงได้จาก ballistic missile เช่น DF21 DF26 DF31a Df41 DF5B JL2a/b
ซึ่งเท่ากับว่า HGV มีระยะยิง ตามจรวดที่ขนมันขึ้นไป
นี่ประเด็นหนึ่ง
ต่อมาที่บอกว่า us มีเรือเพียบ
อันนั้นจริง แต่จะบอกว่า จีนมี ขีปนาวุธ มากกว่า เรือ us ไม่รู้กี่เท่า
จีนสามารถสร้าง DF21D DF26 และ HGV hypersonic glide vehicle (HVG) ได้มากกว่า และ ได้เร็วกว่า us สรา้งเรือ
ดังนั้น จะวัดกัน รับรอง จีนมีจรวดมากกว่า เรือus แน่ๆ
และ
ถามต่อ แล้ว us จะทำลาย พวกนี้อย่างไร
ตอบ
1. us ต้องครองอากาศเหนือแผ่นดินจีนให้ได้ หรือ
2.ทำลายดาวเทียมจีนทุกดวง ที่ใช้นำวิถี
3.ทำลาย โรงงานใต้ดิน ที่เก็บ และโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ซึ่งต้องใช้ นิวเคลียร์ เท่านั้น หรือไม่ต้องทำข้อ 1ก่อน
แต่ความเป็นจริง
1.ครองอากาศไม่ใช่เรื่องง่าย
2.ทำลายดาวเทียมจีน นี่ อาจโดนจีนทำลายดาวเทียมตัวเองจนหมดแทน (จีนเป็นประเทศชั้นแนวหน้าด้าน ASAT)
3.ข้อนี้ ก็เท่ากับทำสงคราม นิวเคลียร์ ซึ่งต้องมาวัดกันว่า ground based midcourse defense ซึ่งเป็น ระบบป้องกันขีปนาวุธชั้นแรก(ป้องกันICBM SLBM) ที่ทั้ง2มี ใครจะเหนือกว่ากัน
และ เมื่อหลุดจากชั้นแรก ก็ต้องมาวัดกันที่ HQ19 หรือ THADD ของใครจะดีกว่ากัน ....
**เมื่อพิจารณาทั้งหมด ทั้งมวล คงไม่มีผู้นำคนไหนโง่พอ เข้าสู่สงครามที่ตนเองไม่ชนะหรอก
เมื่อสมดุลเกิด สงครามก็ไม่เกิด
ส่วนจีนก็สร้างกองเรือบรรทุกต่อไป เพราะใช้เครื่องบินโจมตี มันถูกกว่า เหมาะกับประเทศที่ไม่มีอะไรจะมาสู้เท่าไร
http://topicstock.ppantip.com/wahkor/topicstock/2012/09/X12688097/X12688097.html
และ
http://ppantip.com/topic/34065455
YJ12
M4 ที่ 400 km ยิงได้จากเครื่องบิน เรือผิวน้ำ และดำน้ำ
แสดงความคิดเห็น
เผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์เรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐจะไร้ประสิทธิภาพ รอวันถูกจม!
โดยนายเจอร์รี่ เฮนดริกซ์ ผู้เชี่ยวชาญแห่งศูนย์ความมั่นคงใหม่อเมริกัน กล่าวแถลงต่อคณะกรรมาธิการกองทัพประจำสภาล่างของสหรัฐ ระบุว่า ในขณะที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐได้มุ่งเน้นต่อการพัฒนาเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐ ในฐานะสุดยอดอาวุธที่เหนือกว่าเครื่องบินรบ แต่ปรากฏว่า หลายประเทศคู่อริของสหรัฐ ได้สร้างเทคโนโลยี ที่สามารถ"จมเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐ"แล้ว และสิ่งนี้จะทำให้เรือบรรทุกฯราคามหาศาลของสหรัฐกลายเป็นสิ่งไร้ประสิทธิภาพเพียงอีกไม่กีปีข้างหน้า
โดยการผงาดขึ้นมาของมหาอำนาจใหม่ปัจจุบันได้คุกคามกองทัพเรือสหรัฐ ตั้งแต่ชายฝั่งไปจนถึงเครื่องบินบนเรือบรรทุกฯ โดยปฏิบัติการตอบโต้นี้จะจำกัดต่อความสามารถของกอทัพสหร้ฐที่จะใช้แสนยานุภาพ และบ่อนทำลายต่อความน่าเชื่อถือด้านมหาอำนาจของสหรัฐ โดยก่อนหน้านี้ ฝูงเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐ และเครื่องบินสหรัฐ ทั้งบนอากาศ และที่ประจำบนเรือฯ ได้ถูกมองว่าเป็นเสมือนเสาหลักของอำนาจของสหรัฐนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
และในช่วง 70 ปีที่ผ่านมา เพนตากอนได้ขยายและพัฒนาฝูงเรือบรรทุกฯเหล่านี้ รวมทั้งเครื่องบิน ที่คิดเฉลี่ยตกเป็นงบประมาณลำละ 12,000 ล้านดอลลาร์ สิ่งนี้ถือเป็นการลงทุนที่จะทำให้กองทัพเรือสหรัฐสามารถตั้งเป้าหมายในการประจำการทางทหารในทั่วโลกได้อย่างถาวร
ทว่า จากการศึกษาพบว่า การที่สหรัฐเดินผิดทางด้วยการมุ่งไปพัฒนาอาวุธวิถีใกล้ เครื่องบินโจมตีเบา แทนที่จะเป็นอาวุธโจมตีวิถีไกล ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ประกอบกับการที่ชาติคู่อริสหรัฐได้หันมาพัฒนาเทคโนโลยีขีปนาวุธต่อต้านเรือรบ ได้ทำให้เรือรบ และเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐ เผชิญภาวะเสี่ยงภัยอันตราย
โดยในขณะที่กองทัพเรือสหรัฐและเครื่องบินสหรัฐ ยังคงถือว่าเป็นอาวุธทรงอิทธิพลของโลก แต่การเปลี่ยนขั้วเชิงศักยภาพรบ และการผงาดขึ้นมาของมหาอำนาจใหม่ของโลก โดยเฉพาะจีน และขีปนาวุธพิฆาตเรือบรรทุกเครื่องบินนั้น สามารถขัดขวางต่อฝูงเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐได้ และขีปนาวุธเหล่านี้มีจุดประสงค์ที่จะสร้างความได้เปรียบเหนืออำนาจการหยุดการโจมตีวิถีไกลของสหรัฐ และมันจะผลักดันให้เรือรบสหรัฐ และเครื่องบินสหรัฐ มีศักยภาพปฏิบัติการที่ลดลง
สิ่งนี้จะสร้างผลกระทบต่อเป้าหมายในการมหาอำนาจของสหรัฐ และต่อศักยภาพของสหรัฐที่จะทำลายยุทธศาสตร์การเปลี่ยนแปลง"กลุ่มระบอบชั่วร้าย"ในประเทศต่าง ๆ ที่ครอบคลุมต่อสงครามยุคใหม่ของสหรัฐ โดยรัสเซีย เกาหลีเหนือ และอิหร่าน ขณะนี้กำลังลงทุนในด้านเทคโนโลยีต่อต้านเรือรบสหรัฐ และพยายามที่จะยึดคุมจุดยุทธศาสตร์ทางทะเลที่เคยเป็นอยู่ในช่วงหลายทศวรรษก่อนที่สหภาพโซเวียตจะล่มสลาย
นอกจากนี้นายเฮนดริกซ์กล่าวโต้ว่าแม้ว่ากองทัพเรือจะอ้างว่าภัยดังกล่าวจะไม่คุกคามต่อการเป็นมหาอำนาจของสหรัฐ เพราะกองทัพเรือก็ได้มีการพัฒนาจรวดพิฆาตใหม่ ๆ ขึ้นมา รวมทั้งยังมีระบบขีปนาวุธป้องกันตัวเองอันล้ำสมัย หรือ"โล่ป้องกันประเทศ"และมีการปรับปรุงเรือรบและเครื่องบิน รวมทั้งระบบเซ็นเซอร์ และการพัฒนาระบบแชร์ข้อมูลโจมตีระหว่างผู้บัญบาการ นักบิน และลูกเรือ ในระยะเวลาเรียลไทม์ส ก็ตาม
แต่สิ่งเหล่านี้ก็ยังไม่เพียงพอ และกองทัพเรือจะต้องประเมินแผนการซื้อเครื่องบินรบที่ดีกว่าเดิม และฟื้นการถ่วงดุลต่ออำนาจทางอากาศด้วยการลงทุนในอาวุธทางเลือกใหม่ที่มีพิสัยการโจมตีเพิ่มขึ้นด้วย อาวุธเช่นนี้ประกอบด้วยระบบการโจมตีไร้มนุษย์ เครื่องบินล่องหน และเครื่องบินเร็วกว่าเสียง ที่สามารถผสมผสานกับการโจมตีประเภทที่จำเป็นต้องอาศัยอาวุธพิสัยทำการยิงไกลด้วย
นอกจากนี้ กองทัพเรือยังจะต้องเพิ่มพิสัยการโจมตีของเครื่องบินรบด้วย เพื่อคอยช่วยคุ้มครองเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐ ที่อาจตกอยู่ในสภาพเสี่ยงต่อการถูกโจมตี ขณะที่ดาโกต้า วู้ด ผู้เชี่ยวชาญด้านกลาโหมสหรัฐ ก็เห็นด้วยในจุดนี้ว่า กองทัพเรือจำเป็นต้องปรับวิธีคิดต่อเรือบรรทุกเครื่องบินเสียใหม่ เมื่อชาติคู่ปรับได้มีการพัฒนาอาวุธต่อสู้เรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐขึ้นมา แต่เขายังเห็นว่า มีบางประเทศเท่านั้นที่มีศักยภาพจะโจมตีเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐได้แม่นยำ และเท่ากับว่าเรือบรรทุกฯจะยังคงเป็นแกนหลักของความเป็นมหาอำนาจสหรัฐไปอีกหลายปี
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1446710991