สืบเนื่องจากข่าวนี้
คือเห็นแล้วแบบว่า เดี๋ยวนี้นักหนังสือพิมพ์เจ้าเขาไม่หาข้อมูลเขียนข่าวหรือครับ. ก็ทำได้รึไง ไม่รู้ผิดโดยสุจริตหรือจงใจเขียนเพื่อขายข่าว
มันผิดตรงไหน
1.รูปนั้นไม่เกี่ยวอะไรกับโรคปากเท้าเปื่อย.(Food and mouth disease) และมันไม่ใช่เซลล์สืบพันธุ์ โรคปากเท้าเปื่อยเกิดจากเชื่อไวรัสตัวมันมีเซลล์เดียว
2.โรคปากเท้าเปื่อย. ไม่ติดต่อสู่คน. และจะเป็นเฉพาะในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีเท้าเป็นกีบเท่านั้น. ซึ่งพบบ่อยใน วัว ควาย และ สุกร. หมา แมว รวมถึงคนไม่เป็นโรคนี้นะ
3.โรคปากเท้าเปื่อย พบได้ประปรายในทุกปีครับ โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนในเขตที่มีปศุสัตว์หนาแน่น. สัตว์ป่วยแต่คนไม่เป็นไร
4.โรคกาลีไม่ใช่โรคปากเท้าเปื่อย. แต่มันคือชื่อเรียกโรค "แอนแทรกซ์" อันนี้สิร้ายแรงจริง. แต่มันไม่เจอในไทยนานมากแล้ว
สรุปคือ
ไม่รู้ว่าไทยรัฐจะเขียนข่าวอะไร โรคปากเท้าเปื่อย หรือ โรคแอนแทรกซ์. ถ้าอย่างแรกไม่น่ากลัวภาพก็ไม่ใช่เนื้อหาก็ผิด. แต่ถ้าเป็นโรคแอนแทรกซ์(ซึ่งอาจcopyชื่อโรคมาผิด)อันนี้ถ้าเกิดในไทยตอนนี้จริงถือว่าเรื่องใหญ่นะถือเป็นโรคระบาดร้ายแรงและข่าวน่าจะใหญ่กว่านี้
เพลียกับ"ไทยรัฐ"จัง. เดี๋ยวนี้นักนสพ.เขาไม่ค่อยหาข้อมูลกันเลยรึไง
คือเห็นแล้วแบบว่า เดี๋ยวนี้นักหนังสือพิมพ์เจ้าเขาไม่หาข้อมูลเขียนข่าวหรือครับ. ก็ทำได้รึไง ไม่รู้ผิดโดยสุจริตหรือจงใจเขียนเพื่อขายข่าว
มันผิดตรงไหน
1.รูปนั้นไม่เกี่ยวอะไรกับโรคปากเท้าเปื่อย.(Food and mouth disease) และมันไม่ใช่เซลล์สืบพันธุ์ โรคปากเท้าเปื่อยเกิดจากเชื่อไวรัสตัวมันมีเซลล์เดียว
2.โรคปากเท้าเปื่อย. ไม่ติดต่อสู่คน. และจะเป็นเฉพาะในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีเท้าเป็นกีบเท่านั้น. ซึ่งพบบ่อยใน วัว ควาย และ สุกร. หมา แมว รวมถึงคนไม่เป็นโรคนี้นะ
3.โรคปากเท้าเปื่อย พบได้ประปรายในทุกปีครับ โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนในเขตที่มีปศุสัตว์หนาแน่น. สัตว์ป่วยแต่คนไม่เป็นไร
4.โรคกาลีไม่ใช่โรคปากเท้าเปื่อย. แต่มันคือชื่อเรียกโรค "แอนแทรกซ์" อันนี้สิร้ายแรงจริง. แต่มันไม่เจอในไทยนานมากแล้ว
สรุปคือ
ไม่รู้ว่าไทยรัฐจะเขียนข่าวอะไร โรคปากเท้าเปื่อย หรือ โรคแอนแทรกซ์. ถ้าอย่างแรกไม่น่ากลัวภาพก็ไม่ใช่เนื้อหาก็ผิด. แต่ถ้าเป็นโรคแอนแทรกซ์(ซึ่งอาจcopyชื่อโรคมาผิด)อันนี้ถ้าเกิดในไทยตอนนี้จริงถือว่าเรื่องใหญ่นะถือเป็นโรคระบาดร้ายแรงและข่าวน่าจะใหญ่กว่านี้