ธุรกิจโรงแรม "ภูเก็ต-พัทยา" ลุ้นยอดจองไฮซีซั่น ! หลังเผชิญเศรษฐกิจโลกรุมเร้า-ซัพพลายล้นตลาด ทุบราคาและอัตราเข้าพักร่วง เริ่มงัดกลยุทธ์ราคาเรียกแขก ขณะที่นักลงทุนไทย-เทศยังสนใจลงทุนต่อเนื่อง เผยตัวเลข "ภูเก็ต" จ่อเปิดใหม่อีก 14 แห่ง ช่วง 2 ปีข้างหน้า ส่วน "พัทยา" ทุนจีนแห่ร่วมทุนเปิดโรงแรมขนาดกลางรับตลาดทัวร์บูม
นายกฤษฎา ตันสกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ปกติในช่วงไฮซีซั่น (ธันวาคม-มกราคม) โรงแรมและรีสอร์ตที่ภูเก็ตจะมีอัตราเข้าพักอยู่ในระดับ 90% แต่ภาพรวมในปีนี้อัตราเข้าพักเฉลี่ยน่าจะอยู่ที่ระดับ 70% เป็นตัวเลขที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ เนื่องจากธุรกิจได้รับผลกระทบจากปัญหาโอเวอร์ซัพพลาย ทำให้ทุกโรงแรมแข่งขันด้านราคาสูงมาก รวมถึงปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ยังชะลอตัว ทำให้มีผลกระทบต่อกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นรัสเซีย ยุโรป ไทย และจีน
นายกฤษฎากล่าวว่า ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ไม่สามารถปรับขึ้นราคาห้องพักได้ โดยปัจจุบันราคาห้องพักระดับ 4 ดาวที่ภูเก็ตยังอยู่ที่ระดับ 4,000 บาทขึ้นไป ส่วนราคาห้องพักระดับ 5 ดาวอยู่ที่ 6,000 บาทขึ้นไป อย่างไรก็ตาม ภาพรวมการลงทุนธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ตที่ภูเก็ตยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง จากการรวบรวมข้อมูลพบว่าในช่วง 2 ปีข้างหน้า (ปี 2559-2560) จังหวัดภูเก็ตจะมีโรงแรมเปิดใหม่รวม 14 แห่ง ตั้งแต่ระดับ 3-5 ดาวคิดเป็นจำนวนห้องพักราว 4,400 ห้อง ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนชาวไทยที่เข้ามาลงทุน โดย 80% นิยมให้เชนโรงแรมแบรนด์อินเตอร์เนชั่นแนลรับบริหาร ส่วนอีก 20% เลือกบริหารโรงแรมเอง
"จากการสำรวจเมื่อปี 2555 ภูเก็ตมีจำนวนห้องพักรวมกว่า 6 หมื่นห้อง และเพิ่มเป็น 9 หมื่นห้องในปี 2558 ระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาถือเป็นช่วงที่นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติแห่เข้ามาลงทุนเปิดโรงแรมที่ภูเก็ตมากจนเกิดภาวะปริมาณห้องพักล้นตลาด"นายกฤษฎากล่าว
ด้านนายสรรเพชรศุภบวรเสถียร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก เปิดเผยว่า ธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ตในเมืองพัทยาช่วงไฮซีซั่นนี้ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วประมาณ 10% เนื่องจากปีที่แล้วโรงแรมในเมืองพัทยาได้รับผลกระทบหนักจากตลาดรัสเซียหดตัวรุนแรง ทำให้ปีนี้ต้องหันมาโฟกัสนักท่องเที่ยวฝั่งเอเชียทั้งจีน และชาติอื่น ๆ เช่น เกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น
"การจองห้องพักล่วงหน้าช่วงไฮซีซั่นที่เมืองพัทยาปีนี้ ส่วนใหญ่ยังคงมาจากตลาดเอเชียโดยเฉพาะตลาดจีน แต่รูปแบบการจองหันไปเลือกใช้โรงแรมราคาประหยัดมากขึ้น แต่ในช่วงหยุดยาววันชาติจีนเมื่อต้นตุลาคมที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวจีนก็ลดลงไปเยอะ ไม่หวือหวาเท่าที่ควรจะเป็น ทำให้การคาดการณ์ยอดจองห้องพักล่วงหน้าไฮซีซั่นนี้ทำได้ยากมาก"
นายสรรเพชรกล่าวว่า ตลาดโรงแรมในพัทยายังเป็นของผู้ซื้อ เพราะนักท่องเที่ยวและบริษัทนำเที่ยวรู้ว่ามีห้องพักว่างจำนวนมาก เนื่องจากพัทยาอยู่ในภาวะโอเวอร์ซัพพลายมีห้องพักในตลาดรวมกว่า 1.3 แสนห้องพัก ทำให้บริษัทนำเที่ยวกล้าต่อรองค่าห้องพักแบบขายเป็นกรุ๊ปมากขึ้น สถานการณ์ราคาห้องพักในช่วงไฮซีซั่นนี้จึงปรับราคาขายไม่ค่อยได้ แม้จะมีการอัดโปรโมชั่นเพื่อเพิ่มยอดจองห้องพักล่วงหน้าแล้วก็ตาม
จากปัญหาด้านโอเวอร์ซัพพลายดังกล่าว ส่งผลให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่นำกลยุทธ์ด้านราคามาใช้ในตลาดโรงแรมพัทยา เพราะเป็นกลยุทธ์ที่จับต้องได้ โดยราคาห้องพัก 3 ดาวของพัทยาในช่วงไฮซีซั่นอยู่ที่ 1,000 บาทต้น ๆ ระดับ 4 ดาวอยู่ที่ 2,000-2,500 บาท และระดับ 5 ดาวอยู่ที่ราว 3,500-4,500 บาท
ทั้งนี้ คาดว่าอัตราเข้าพักโรงแรมในพัทยาช่วงไฮซีซั่นนี้ น่าจะอยู่ที่ประมาณ 65-70% ต่ำกว่าปกติที่ควรจะได้ไม่ต่ำกว่า 75% ขึ้นไป โดยปัจจุบันมียอดจองเข้ามาแค่ 50% เท่านั้น ขณะที่ปี 2559 คาดว่ากลยุทธ์ที่ผู้ประกอบการโรงแรมเลือกใช้ยังคงเป็นเรื่องราคาเป็นหลัก เพราะเศรษฐกิจโลกยังคงซึมยาวต่อเนื่อง
ขณะที่นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ตลาดลงทุนโรงแรมและรีสอร์ตในเมืองพัทยา ปัจจุบันยังมีการลงทุนอยู่ แต่การขยายตัวไม่ได้บูมเหมือนเมื่อ 2-3 ปีก่อน อย่างไรก็ตาม ยังเป็นตลาดที่มีโอกาสการเติบโต โดยรูปแบบการทำตลาดมีลักษณะเฉพาะมากขึ้น เช่น มุ่งเจาะตลาดจีนเป็นหลัก หรือเจาะตลาดรัสเซียเป็นหลัก เพราะแต่ละตลาดมีรูปแบบพฤติกรรมหรือไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวที่แตกต่างกัน
นายอิทธิพลกล่าวด้วยว่า จากตัวเลขการขออนุญาตในปี 2558 จะมีห้องพักเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 3,700-4,000 ห้องพัก มีโรงแรมใหม่เพิ่มขึ้นอีก 20 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นโรงแรมขนาดกลางประมาณไม่เกิน 150 ห้องพัก ส่วนมากเป็นกลุ่มทุนจากจีนเข้ามาร่วมทุนกับนักลงทุนไทยเปิดประมาณ 10-12 แห่ง โดยหลัก ๆ จะเป็นการเข้ามาซื้อกิจการแล้วปรับปรุงใหม่ให้รองรับตลาดนักท่องเที่ยวจีน รวมถึงส่วนที่สร้างขึ้นใหม่ด้วย ส่วนโรงแรมอีก 8 แห่งเป็นของนักลงทุนสแกนดิเนเวียนกับรัสเซียที่เข้ามาร่วมทุนกับนักลงทุนชาวไทยเพื่อเปิดโรงแรมใหม่
JJNY : โรงแรมโซน "ภูเก็ต - พัทยา" ล้นตลาด ยอดจองไฮซีซั่นหงอย - นายทุนไม่แคร์แห่สร้างเพิ่ม
นายกฤษฎา ตันสกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ปกติในช่วงไฮซีซั่น (ธันวาคม-มกราคม) โรงแรมและรีสอร์ตที่ภูเก็ตจะมีอัตราเข้าพักอยู่ในระดับ 90% แต่ภาพรวมในปีนี้อัตราเข้าพักเฉลี่ยน่าจะอยู่ที่ระดับ 70% เป็นตัวเลขที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ เนื่องจากธุรกิจได้รับผลกระทบจากปัญหาโอเวอร์ซัพพลาย ทำให้ทุกโรงแรมแข่งขันด้านราคาสูงมาก รวมถึงปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ยังชะลอตัว ทำให้มีผลกระทบต่อกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นรัสเซีย ยุโรป ไทย และจีน
นายกฤษฎากล่าวว่า ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ไม่สามารถปรับขึ้นราคาห้องพักได้ โดยปัจจุบันราคาห้องพักระดับ 4 ดาวที่ภูเก็ตยังอยู่ที่ระดับ 4,000 บาทขึ้นไป ส่วนราคาห้องพักระดับ 5 ดาวอยู่ที่ 6,000 บาทขึ้นไป อย่างไรก็ตาม ภาพรวมการลงทุนธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ตที่ภูเก็ตยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง จากการรวบรวมข้อมูลพบว่าในช่วง 2 ปีข้างหน้า (ปี 2559-2560) จังหวัดภูเก็ตจะมีโรงแรมเปิดใหม่รวม 14 แห่ง ตั้งแต่ระดับ 3-5 ดาวคิดเป็นจำนวนห้องพักราว 4,400 ห้อง ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนชาวไทยที่เข้ามาลงทุน โดย 80% นิยมให้เชนโรงแรมแบรนด์อินเตอร์เนชั่นแนลรับบริหาร ส่วนอีก 20% เลือกบริหารโรงแรมเอง
"จากการสำรวจเมื่อปี 2555 ภูเก็ตมีจำนวนห้องพักรวมกว่า 6 หมื่นห้อง และเพิ่มเป็น 9 หมื่นห้องในปี 2558 ระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาถือเป็นช่วงที่นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติแห่เข้ามาลงทุนเปิดโรงแรมที่ภูเก็ตมากจนเกิดภาวะปริมาณห้องพักล้นตลาด"นายกฤษฎากล่าว
ด้านนายสรรเพชรศุภบวรเสถียร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก เปิดเผยว่า ธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ตในเมืองพัทยาช่วงไฮซีซั่นนี้ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วประมาณ 10% เนื่องจากปีที่แล้วโรงแรมในเมืองพัทยาได้รับผลกระทบหนักจากตลาดรัสเซียหดตัวรุนแรง ทำให้ปีนี้ต้องหันมาโฟกัสนักท่องเที่ยวฝั่งเอเชียทั้งจีน และชาติอื่น ๆ เช่น เกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น
"การจองห้องพักล่วงหน้าช่วงไฮซีซั่นที่เมืองพัทยาปีนี้ ส่วนใหญ่ยังคงมาจากตลาดเอเชียโดยเฉพาะตลาดจีน แต่รูปแบบการจองหันไปเลือกใช้โรงแรมราคาประหยัดมากขึ้น แต่ในช่วงหยุดยาววันชาติจีนเมื่อต้นตุลาคมที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวจีนก็ลดลงไปเยอะ ไม่หวือหวาเท่าที่ควรจะเป็น ทำให้การคาดการณ์ยอดจองห้องพักล่วงหน้าไฮซีซั่นนี้ทำได้ยากมาก"
นายสรรเพชรกล่าวว่า ตลาดโรงแรมในพัทยายังเป็นของผู้ซื้อ เพราะนักท่องเที่ยวและบริษัทนำเที่ยวรู้ว่ามีห้องพักว่างจำนวนมาก เนื่องจากพัทยาอยู่ในภาวะโอเวอร์ซัพพลายมีห้องพักในตลาดรวมกว่า 1.3 แสนห้องพัก ทำให้บริษัทนำเที่ยวกล้าต่อรองค่าห้องพักแบบขายเป็นกรุ๊ปมากขึ้น สถานการณ์ราคาห้องพักในช่วงไฮซีซั่นนี้จึงปรับราคาขายไม่ค่อยได้ แม้จะมีการอัดโปรโมชั่นเพื่อเพิ่มยอดจองห้องพักล่วงหน้าแล้วก็ตาม
จากปัญหาด้านโอเวอร์ซัพพลายดังกล่าว ส่งผลให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่นำกลยุทธ์ด้านราคามาใช้ในตลาดโรงแรมพัทยา เพราะเป็นกลยุทธ์ที่จับต้องได้ โดยราคาห้องพัก 3 ดาวของพัทยาในช่วงไฮซีซั่นอยู่ที่ 1,000 บาทต้น ๆ ระดับ 4 ดาวอยู่ที่ 2,000-2,500 บาท และระดับ 5 ดาวอยู่ที่ราว 3,500-4,500 บาท
ทั้งนี้ คาดว่าอัตราเข้าพักโรงแรมในพัทยาช่วงไฮซีซั่นนี้ น่าจะอยู่ที่ประมาณ 65-70% ต่ำกว่าปกติที่ควรจะได้ไม่ต่ำกว่า 75% ขึ้นไป โดยปัจจุบันมียอดจองเข้ามาแค่ 50% เท่านั้น ขณะที่ปี 2559 คาดว่ากลยุทธ์ที่ผู้ประกอบการโรงแรมเลือกใช้ยังคงเป็นเรื่องราคาเป็นหลัก เพราะเศรษฐกิจโลกยังคงซึมยาวต่อเนื่อง
ขณะที่นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ตลาดลงทุนโรงแรมและรีสอร์ตในเมืองพัทยา ปัจจุบันยังมีการลงทุนอยู่ แต่การขยายตัวไม่ได้บูมเหมือนเมื่อ 2-3 ปีก่อน อย่างไรก็ตาม ยังเป็นตลาดที่มีโอกาสการเติบโต โดยรูปแบบการทำตลาดมีลักษณะเฉพาะมากขึ้น เช่น มุ่งเจาะตลาดจีนเป็นหลัก หรือเจาะตลาดรัสเซียเป็นหลัก เพราะแต่ละตลาดมีรูปแบบพฤติกรรมหรือไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวที่แตกต่างกัน
นายอิทธิพลกล่าวด้วยว่า จากตัวเลขการขออนุญาตในปี 2558 จะมีห้องพักเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 3,700-4,000 ห้องพัก มีโรงแรมใหม่เพิ่มขึ้นอีก 20 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นโรงแรมขนาดกลางประมาณไม่เกิน 150 ห้องพัก ส่วนมากเป็นกลุ่มทุนจากจีนเข้ามาร่วมทุนกับนักลงทุนไทยเปิดประมาณ 10-12 แห่ง โดยหลัก ๆ จะเป็นการเข้ามาซื้อกิจการแล้วปรับปรุงใหม่ให้รองรับตลาดนักท่องเที่ยวจีน รวมถึงส่วนที่สร้างขึ้นใหม่ด้วย ส่วนโรงแรมอีก 8 แห่งเป็นของนักลงทุนสแกนดิเนเวียนกับรัสเซียที่เข้ามาร่วมทุนกับนักลงทุนชาวไทยเพื่อเปิดโรงแรมใหม่