ก่อนอื่นต้องขออนุญาติแจ้งก่อนว่านี่คือประสบการณ์ที่ไปเจอมาแบบที่เราไม่เคยเจอมาก่อนในต่างแดน ที่แปลกและทำให้เราจดจำมันได้ ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเพื่อใส่ร้าย ป้ายสี หรือแสดงออกในทางที่ติดลบหรืออคติ ใดทั้งสิ้น
นีเป็นบทความ 20 เรื่องแปลกที่ได้ไปเจอมากับรุ่นน้องซึ่งได้เดินทางไปด้วยกันและได้เขียนเรื่องแปลกนี้ขึ้นมา
เอาล่ะลองมาดูกันซิว่า ใครที่เคยไปมาแล้วจะเจอเหตุการแบบพวกผมรึป่าว
1.เมืองใหญ่เมืองหนึ่งของอินเดีย
เมืองนี้เจริญพอสมควรเลย เมืองใหญ่มาก
แต่ขยะเยอะชิบ บ้านเมืองเค้าไม่มีถังขยะ กินตรงไหนทิ้งมันตรงนั้น ทับกันจนกองใหญ่ แร้วจะมีคนมาเผา
ย้ำ!! ว่ากองต้องใหญ่ ชนิดต้องสูงท่วมหัวนะถึงจะเผา
2.วัวข้างถนน
มีวัวตลอดทางตามข้างถนน แต่กลับไม่มีหมาซักตัว(สงสัยโดนอุ้มไปหมดละ 555) วัวคุ้ยขยะกินแทนที่จะเป็นหมาเหมือนบ้านเรา คนที่นี่ไม่กินวัว ก็ไม่รู้ว่าเลี้ยงไว้ทำไมเหมือนกัน
3.การบีบแตรแบบไร้เหตุผล
ไม่รู้จะบีบทำไมนัก รถติดไฟแดงก็บีบ บีบไป
ก็ไปไม่ได้ ก็บีบอยู่นั่นแหละ แร้วไม่ได้บีบครั้งนะบีบรัวเลย แบบว่าถ้าอยู่เมืองไทยโดนยิงตายไปนานละ 555
(จากรูปในที่สุดผมก็รู้ว่าทำไม
ถึงบีบกันนัก ก็ดูท้ายรถดิ ทุกคันมันติดว่า “SOUND HORN”)
4.ถนนในเมือง
ถนนราดยางแค่รถวิ่ง ทางเท้าเป็นลูกรัง ถนนซอยเล็กลูกรังหมด ไม่เทปูน
ร้านอาหารนี่มองไปข้างในหรูมาก แต่หน้าร้านเป็นลูกรัง เหมือนรัฐบาลมันไม่ให้เทปูนตรงนั้นอ่ะ 555
5.ราคาขายของ
ตั้งราคาสูงเว่อ แบบว่าของราคา 1,000 รูปี พอทำท่าไม่เอาลดเหลือ 100 รูปีแบบง่ายดายซะงั้น พอไม่ซื้อมันก็เดินตาม ตามจนขึ้นรถจนนึกว่ามันจะไปกับเราด้วย
6.ค่าเข้าที่ท่องเที่ยว
มาอินเดียทั้งที เที่ยวซะหน่อย เข้าฟาร์มจระเข้ค่าเข้า 35 รูปี ไม่มีเศษ เลยให้ไป 50 รูปี มันไม่ทอน มันบอกว่าปกติถ้าไม่มีเศษมันจะไม่ทอน อยากจะตบกระบานมาก แต่มันตัวใหญ่เหมือนเดอะร็อคเลย 555 งานนี้ก็เลยต้องยอมมันไป
7.น้ำมะพร้าว
ที่นี่มีชื่อเสียงมาก คนต่อคิวเหมือนจองคิวซื้อไอโฟน ประมาณว่าอร่อยสุดในโลก แต่พอไปลองแร้ว บอกเรย จืดสนิทไม่มีรสชาติไม่หอมด้วย เหมือนกินน้ำเปล่าแบบเฝื่อนๆอะไรแบบนั้นเลย บ้านเราอร่อยกว่ามากก
(ดูจากในรูป สังเกตซากมะพร้าวด้านซ้าย อร่อยไม่อร่อยดูเอาละกัน)
8.ขนมหวาน
วันนี้ได้ลิ้มลอง ดูภายนอกเหมือน mister donut เลย น่ากินสุดๆ ซัดไป 1 ลูกแบบไม่แบ่งกินคำที่สอง สัมผัสแรกคือหวานแสบลิ้นจนแทบจะคายทิ้งเด๋วนั้น แต่คนที่ให้
ดันยืนเฝ้าเลยไม่กล้า ความรู้สึกที่สองคือ
เหม็นเครื่องเทศ
ขนมหวานจะใส่เครื่องเทศเพื่อ?
9.มื้อกลางวัน ณ โรงงาน...
ดูดีมาก ห้องแอร์ กว้างขวาง สมเป็นบริษัทระดับโลก
อาหารที่นี่เป็นแบบถาดหลุมครับ ที่สำคัญ ฟรี!!! คิดในใจสบายแร้วกุ เบี้ยเลี้ยงเหลือเพียบ 555
รับจนอาหารครบทุกหลุมในถาดแร้วหยิบช้อน ปัญหาคือ ช้อนอยู่ไหน!!!!
มองซ้ายมองขวาเห็นอ่างเล็กอ่างนึงใส่ช้อนไว้ แต่ไม่ใช่ช้อนแห้งเป็นช้อนที่แช่น้ำไว้ น้ำนี่ขุ่นมากเหมือนน้ำที่ผ่านการซาวข้าวมา
เอาก็เอาวะ ไหนๆมาแร้ว เราก็อยากเรียนรู้วิถีชีวิตคนอินเดียให้เต็มที่ อย่างมากก็ท้องเสียไม่ตายแน่นอน!! 555
พอถึงช่วงตอนกิน อาหารวันแรกคือ ข้าวราดน้ำแกง ข้าวเกรียบ แผ่นโรตี แกงใส่ถั่ว(เน่ารึป่าวไม่รู้เหม็นๆ) ผัดพริกอ่อนใส่เครื่องเทศ
กินไปกินมา รู้สึกแปลกๆ เฮ้ย โรตีนี่กินไง ช้อนก็ตักไม่ได้ หันมองโต๊ะข้างๆ เฮ้ย!! มันใช้มือว่ะ
โอเค มือก็มือวะ ไม่เห็นยากเรย ก็เหมือนเราจกข้าวเหนียวบ้านเราแหละไม่แปลกหรอก ทำตัวกลมกลืนเข้าไว้ เค้าจะได้รักเรา คิดว่างั้นนะ 555
พอกินเสร็จหิวน้ำครับ หันไปเห็นโต๊ะข้างๆมีเหยือกน้ำอยู่เหยือกนึง กำลังจะขอแบ่งซักแก้วสองแก้ว จุดไคลแม็กซ์มันอยู่ตรงนี้ > ยังไม่ทันได้ขอ มันยกซดเรยครับ ทั้งเยือกแบบไม่แบ่งใส่แก้ว ข้าวที่ติดปากเมิงก็ไม่เช็ดกัน เวียนกันจนครบทุกคน ท่าทางสนุกสนาน สดชื่นเชียว เหมือนการขอบคุณพระเจ้าที่ให้น้ำเรากินอะไรประมาณนั้น ฮาเลลูย่า!!! บอกเรยข้อนี้กุขอไม่กลมกลืนด้วยนะ คงไม่ว่ากัน เท่านั้นแหละหายหิวน้ำเรยครับ
10.การเปิดไฟสูง-ไฟต่ำ
ที่นี่ไฟสูงคือไฟปกติครับ รถทุกคันเปิดไฟสูงหมด ถ้าใครไม่เคยขับรถในประเทศนี้ผมว่ามีหน้ามืดแน่นอน ขนาดนั่งข้างหลังยังมืดแร้วมืดอีก
แต่ที่แปลกคือไฟต่ำครับ เค้าเอาไว้เตือนรถที่อยู่ข้างหน้า (สลับกับบ้านเราที่ไฟสูงไว้เตือน)
ตอนแรกก็ไม่เชื่อ มีอยู่ช่วงนึงรถมอไซค์ข้างขับกวนตีนมาก กลางถนน แถมช้าอีก โชเฟอร์เรยลดไฟเป็นไฟต่ำ เฮ้ย!! มันหลบว่ะ มันได้ผล มันดีอ่ะ 555
อเมซซิ่งอินเดียจริงๆ 555
11.ร้านอาหารซีฟู้ดสุดหรูมหาสมุทรอินเดีย
หน้าร้านเค้าบอกว่าของเค้าสดจากทะเล สดจริงๆครับ พอเข้าไปปุ้บถ้าเป็นเมืองไทยจะมีคนรับออเดอร์หน้าตาดูดีเอาเมนูมาให้เลือกใช่ป่ะ
แต่ที่นี่แตกต่างครับ คนรับออเดอร์เหมือนเป็นคนเชือดปลาอยู่ในครัว ผ้ากันเปื้อน
มีเลือดสาดเป็นทาง ถือเมนูมาครับ แต่ไม่ได้มามือเปล่า มันหิ้วปลาเป็นๆ กุ้งเป็น ปูเป็นๆ มาด้วย
มาถึงวางที่โต๊ะเรย วางที่โต๊ะเสียงอย่างดัง แร้วถามประมาณว่า เมิงเอาตัวไหน เกล็ดแบบไหน ตาแบบไหน ขนาดนี้โอเคมั้ย เชรดดด!!!
สดจริงว่ะ สมกับโฆษณา 555
ด้วยความช็อคก็เรยชี้ไปด้วยความงงๆ ด้วยความเป็นคนต่างชาติไม่เคยเจอไง สั่งช้าหน่อย
ทำท่าไม่พอใจอีก แร้วพูดภาษาอินเดียควบกล้ำประมาณว่าด่าไรซักอย่าง
แร้วมันก็หิ้วปลาสดของมันกลับไป คิดจะกินของสดจากมหาสมุทรดินเดียต้องอดทนนะ
12.ตำรวจผู้รักษากฎหมาย
เหมือนบ้านเราเรยครับ จับมอไซค์ไม่ใส่หมวก คนที่นี่กลัวตำรวจมาก ไม่มีแบบเมืองไทยนะขับหนี ขับชนตำรวจ ไม่มี๊!!! เรียกเป็นจอด ถอดสีหน้า หน้าซีด ประมาณว่าไม่ใส่หมวกแร้วโดนประหารอย่างนั้นเรย
แต่ที่แปลกคือ อาวุธตำรวจครับ ถ้าบ้านเราตำรวจจะถือปืน ระเบิด อาวุธครบมือใช่ป่ะ ที่นี่ไม่ใช่เรย ตำรวจที่นี่ใช้ไม้ครับ ไม่ใช่ไม้กระบองเหล็กเท่ๆเหมือนหนังฮอลลีวู้ดนะ แต่เป็นไม่ใผ่ครับบางทีก็เป็นก้านมะยมครับ 555 คิดในใจ
น่ากลัวตรงไหนว่ะ 555
(ตอนแรกจะถ่ายรูปมาแล้วครับ แต่ Taxi ห้ามไว้ เค้าบอกว่าห้ามถ่ายเพราะตำรวจที่นี่โหดมาก…)
13.ร้านขายไก่
ที่นี่เค้าขายไก่เป็นตัวครับ แต่มันจะแปลกตรงไหน บ้านเราก็ขายเป็นตัวนี่
ก็ถ้าไม่แปลกคงไม่เล่าหรอกใช่ป่ะ 555
คืออย่างที่บอกไปว่าของอินเดียจะสดมากๆ ไทยนี่เทียบไม่ติด
ร้านขายไก่จะมีเขียงมีมีดแต่จะไม่เห็นไก่ซักตัว เราก็งงนึกว่าอยู่หลังร้าน
ไม่ใช่ครับ มันอยู่ใต้ดินใต้เขียงครับ พอมีคนมาสั่งพอ่ค้าก้มหยิบเรย ไก่เป็นๆครับ ดิ้นได้ร้องได้ จับเชือดคอถอนขนกันตรงนั้น เลือดสาดกระจาย โอ้ว มายยย ก้อด
นี่กุมาซื้อไก่นะเว้ยไม่ได้มาโรงฆ่าสัตว์ ถึงกุจะเป็นคนไม่ดีแต่กุก็มีหัวใจนะ 555
14.เอกลักษณ์ของรถอินเดีย
ทุกวันนี้จำเป็นต้องใช้บริการ taxi เพื่อไปบริษัททุกวันทั้งไปและกลับ รถที่ร่วมเดินทางคือพี่โต ครับ ฟังจากชื่อแล้วดูดีสุดๆ
ความประทับใจครั้งแรกที่เข้าไปนั่ง คือ กลิ่น ครับ แต่ไม่ใช่กลิ่นน้ำหอม Grade นะ แต่เป็นกลิ่นเต่าครับ อบอวนมาก
เหม็น
อินเดียสไตล์ อยากจะถามคนขับว่าเช้านี้เมิงอาบน้ำมามั้ย แต่ไม่กล้ากลัวไม่ได้กลับไทย 555
คือถ้าได้นั่งรถคันนี้ 10 นาที ออกมาคุณจะได้กลิ่นนั้นติดตามมาด้วยประมาณ 3 วันน่าจะได้
สิ่งที่สังเกตเห็นอีกอย่างคือ เรือนไมล์ของรถครับ สวยมากกกกก สวยจริงๆ ยังคุยกันเลยเลยว่าไมล์รุ่นนี้สวยเนอะ มองแร้วให้ความรู้สึกเหมือนเรือนไมล์มันเป็นแบบ 3D
ทะลุออกมานอกกระจก ก็เลยพยายามเข้าไปดูใกล้ๆ เท่านั้นแหละเป็นเรื่อง เรือนไมล์ที่เราบอกว่าสวยนักสวยหนามันคือสติ้กเกอร์ครับ แปะก็ไม่ตรง
นี่เมิง 3D เกินไปป่ะ สังเกตจากรูปนะว่าตัวเลขมันอยู่บนกระจก แต่คิดในแง่ดี ความคิดเค้าก็สร้างสรรค์ดีนะ ประหยัดด้วย ก็ไม่รู้ว่าจะประหยัด ไปไหน 555
15.ล้อรถยนต์
รถของประเทศอินเดีย ไม่ว่าแพงแค่ไหนก็เป็นล้อกระทะ ขนาดรถคันนี้ ราคาเป็นล้านก็ยังเป็นล้อกระทะครับ
อย่าไปพูดถึงแม็กแต่ง โหลดเตี้ย เลย ที่นี่ไม่มีแน่นอน แต่ก็อย่างว่าแหละ ถนนบ้านเค้าไม่เอื้ออำนวย ขับรถในเมืองแต่ความรู้สึกเหมือนขับรถในทุ่งใหญ่นเรศวรยังไงยังงั้น
ใครที่คิดจะอยู่อินเดียแล้วเปลี่ยนแม็กแต่งหล่อนี่ฝันไปเลยครับ แค่ขับรถไม่ให้ยางระเบิดก็บุญแค่ไหนแล้ว
16.รถเมล์
รถเมล์ที่นี่แปลกมาก หน้าต่างจะมีคานเหล็กกั้นเหมือนรถขนนักโทษเลย ไม่รู้ว่ามีไว้เพื่ออะไรเหมือนกัน แล้วไม่ใช่แค่คานเดียวนะ มีตั้ง 4 คาน
17.ภาษากายของคนอินเดีย
เมื่อวานมี Plant tour ในส่วนของ W/H ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าปกติของ W/H จะมีรถโฟร์คลิฟท์เยอะ ซึ่งเป็นอะไรที่ไม่อยากเจอ (ประสบการณ์จากทำงานเรา ทำให้เราหลอน)
แต่สุดท้ายก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เจอเข้าอย่างจังบริเวณหน้าทางเข้า เห็นหน้าคนขับแร้วถึงกับเหงื่อตก หน้าโหดสาดดด ยิ้มซักนิดก็ไม่มี มองหน้าอีก ซวยแล้วกุ
จากนั้นคนขับก็ส่ายหัวครับ ลักษณะเหมือนเอียงคอไปทางซ้าย-ขวา สลับกัน ทำแบบนี้ประมาณ 5 ครั้งแร้วหยุด มองหน้าทำหน้าโหดอีก
ความเข้าใจคือ อย่าเพิ่งเดิน คิดในใจทำไมเมิงใจแคบแบบนี้กุเป็นแขกนะเว้ย!!
ผมก็หยุดครับ พูดตรงๆคือป๊อดนั่นแหละ แต่มันก็ไม่ไป มองหน้าผมอีก จ้องหน้ากันประมาณ 3-4 วินาที เอาก็เอาวะใจกล้าหน่อยเดินข้ามมาเลยครับ
พอข้ามเสดหันไปมองหน้า
เรยกะเอาเรื่องไง(แค่คิดนะ) มันยิ้มเฉยเลย เอ้า! ทำไมเมิงไม่ยิ้มตั้งแต่แรกกุจะได้ข้าม เล่นซะเหงื่อแตก
ด้วยความข้องใจเลยไปถามพี่ที่เคยมาอินเดีย เค้าก็เลยบอกว่า ถ้าคนอินเดียส่ายหัวซ้าย-ขวา ไปมา แปลว่า โอเค ใช่เลย จัดไป Go!! ประมาณนี้
อ่อออ เก็ตละ 555
18.รถไฟอินเดีย
รถไฟที่นี่คนขึ้นเยอะมาก ชนิดว่าเยอะจนต้องยืน แต่เมิงยืนกันเยอะไปป่ะ เห็นตอนแรกนึกว่ารถสองแถว โหนกันซะ!!
19. ถนนทางหลวง (High way)
ถนนทางหลวงที่นี่ก็คล้ายๆบ้านเราแหละครับ มีถนนหลักอยู่ด้านในและมีถนนรองอยู่ด้านนอก ถ้านึกภาพไม่ออกให้นึกถึงถนนบางนา-ตราด เลยครับ
ความแปลกก็คือ ที่นี่เค้าจะสร้างถนนรอง(ด้านนอก)ให้มีระดับสูงกว่าถนนหลัก(ด้านใน) ไม่เข้าใจเหมือนกันครับว่าทำไมเป็นแบบนั้น
จริงๆแล้วผมเห็นตั้งวันแรกที่มาเหยียบอินเดียแร้วล่ะ แต่ไม่ได้ติดใจอะไร
แต่…..เมื่อคืนฝนตกหนักมาก
ตอนเช้า Taxi ก็มารับไปทำงานปกติ พอออกมาหน้าโรงแรมเท่านั้นแหละ รู้สึกเหมือนกับว่าเรามาที่นี่ครั้งแรกครับ
ถนนสายรองกลายเป็นถนนสายหลัก ส่วนถนนสายหลักกลายเป็นคลอง งงครับ
สงสัยเค้าคงต้องการทำถนนต้นแบบของโลกแน่ๆ ถนน Hybrid!!! การทำงานแบบผสมผสานได้อย่างลงตัวสุดๆ
อากาศปกติ = รถวิ่ง
ฝนตก = เรือวิ่ง
20. ทางแยกที่เสี่ยงอันตราย
การขับรถในอินเดียนี่อันตรายมาก เรียกได้ว่าเร็วกว่าแสง ปาดหน้ายิ่งกว่า Tokyo drift
แต่ทางอินเดียก็มีวิธีป้องกันอุบัติเหตุนะ ไม่ใช่ไม่มี
แต่มันต่างกับบ้านเราน่ะ เมืองไทยจะใช้ลูกระนาดหรือไม่ก็สัญญาณไฟแดง
แต่อินเดียไม่มีครับ มันล้าสมัยไปแล้ว ไอเดียเค้าบรรเจิดกว่านั้นครับ เค้าใช้ถังน้ำมันมาตั้งเรียงๆกันกลางถนนเรย ตอนแรกก็นึกว่าชาวบ้านที่มีลูกเล็กๆเอามาตั้งไว้เพราะเป็นห่วงลูก
แต่พอสังเกตป้ายดีๆ เฮ้ยยย!! Traffic Police ตำรวจ
ตั้งนี่หว่า
สังเกตถังนะครับ สงสารอ่ะ คงจะเจ็บมาเยอะ และอยากบอกว่าพี่ได้ทำหน้าที่เต็มที่แล้ว พักผ่อนเถอะครับ….
จบล่ะครับ...
ขอขอบคุณรุ่นน้องที่เขียนบทความนี้ขึ้นมา เอาฮา...นะครับ เพราะสิ่งดีๆที่ไปเจอมาก็มีเยอะแยะ แต่มันไม่ฮา
ประสบการณ์แบบแปลกๆ ตีแผ่เรื่องแปลกแต่จริง ณ ดินแดนภารตะ
นีเป็นบทความ 20 เรื่องแปลกที่ได้ไปเจอมากับรุ่นน้องซึ่งได้เดินทางไปด้วยกันและได้เขียนเรื่องแปลกนี้ขึ้นมา
เอาล่ะลองมาดูกันซิว่า ใครที่เคยไปมาแล้วจะเจอเหตุการแบบพวกผมรึป่าว
1.เมืองใหญ่เมืองหนึ่งของอินเดีย
เมืองนี้เจริญพอสมควรเลย เมืองใหญ่มาก
แต่ขยะเยอะชิบ บ้านเมืองเค้าไม่มีถังขยะ กินตรงไหนทิ้งมันตรงนั้น ทับกันจนกองใหญ่ แร้วจะมีคนมาเผา
ย้ำ!! ว่ากองต้องใหญ่ ชนิดต้องสูงท่วมหัวนะถึงจะเผา
2.วัวข้างถนน
มีวัวตลอดทางตามข้างถนน แต่กลับไม่มีหมาซักตัว(สงสัยโดนอุ้มไปหมดละ 555) วัวคุ้ยขยะกินแทนที่จะเป็นหมาเหมือนบ้านเรา คนที่นี่ไม่กินวัว ก็ไม่รู้ว่าเลี้ยงไว้ทำไมเหมือนกัน
3.การบีบแตรแบบไร้เหตุผล
ไม่รู้จะบีบทำไมนัก รถติดไฟแดงก็บีบ บีบไปก็ไปไม่ได้ ก็บีบอยู่นั่นแหละ แร้วไม่ได้บีบครั้งนะบีบรัวเลย แบบว่าถ้าอยู่เมืองไทยโดนยิงตายไปนานละ 555
(จากรูปในที่สุดผมก็รู้ว่าทำไมถึงบีบกันนัก ก็ดูท้ายรถดิ ทุกคันมันติดว่า “SOUND HORN”)
4.ถนนในเมือง
ถนนราดยางแค่รถวิ่ง ทางเท้าเป็นลูกรัง ถนนซอยเล็กลูกรังหมด ไม่เทปูน
ร้านอาหารนี่มองไปข้างในหรูมาก แต่หน้าร้านเป็นลูกรัง เหมือนรัฐบาลมันไม่ให้เทปูนตรงนั้นอ่ะ 555
5.ราคาขายของ
ตั้งราคาสูงเว่อ แบบว่าของราคา 1,000 รูปี พอทำท่าไม่เอาลดเหลือ 100 รูปีแบบง่ายดายซะงั้น พอไม่ซื้อมันก็เดินตาม ตามจนขึ้นรถจนนึกว่ามันจะไปกับเราด้วย
6.ค่าเข้าที่ท่องเที่ยว
มาอินเดียทั้งที เที่ยวซะหน่อย เข้าฟาร์มจระเข้ค่าเข้า 35 รูปี ไม่มีเศษ เลยให้ไป 50 รูปี มันไม่ทอน มันบอกว่าปกติถ้าไม่มีเศษมันจะไม่ทอน อยากจะตบกระบานมาก แต่มันตัวใหญ่เหมือนเดอะร็อคเลย 555 งานนี้ก็เลยต้องยอมมันไป
7.น้ำมะพร้าว
ที่นี่มีชื่อเสียงมาก คนต่อคิวเหมือนจองคิวซื้อไอโฟน ประมาณว่าอร่อยสุดในโลก แต่พอไปลองแร้ว บอกเรย จืดสนิทไม่มีรสชาติไม่หอมด้วย เหมือนกินน้ำเปล่าแบบเฝื่อนๆอะไรแบบนั้นเลย บ้านเราอร่อยกว่ามากก
(ดูจากในรูป สังเกตซากมะพร้าวด้านซ้าย อร่อยไม่อร่อยดูเอาละกัน)
8.ขนมหวาน
วันนี้ได้ลิ้มลอง ดูภายนอกเหมือน mister donut เลย น่ากินสุดๆ ซัดไป 1 ลูกแบบไม่แบ่งกินคำที่สอง สัมผัสแรกคือหวานแสบลิ้นจนแทบจะคายทิ้งเด๋วนั้น แต่คนที่ให้ดันยืนเฝ้าเลยไม่กล้า ความรู้สึกที่สองคือเหม็นเครื่องเทศ ขนมหวานจะใส่เครื่องเทศเพื่อ?
9.มื้อกลางวัน ณ โรงงาน...
ดูดีมาก ห้องแอร์ กว้างขวาง สมเป็นบริษัทระดับโลก
อาหารที่นี่เป็นแบบถาดหลุมครับ ที่สำคัญ ฟรี!!! คิดในใจสบายแร้วกุ เบี้ยเลี้ยงเหลือเพียบ 555
รับจนอาหารครบทุกหลุมในถาดแร้วหยิบช้อน ปัญหาคือ ช้อนอยู่ไหน!!!!
มองซ้ายมองขวาเห็นอ่างเล็กอ่างนึงใส่ช้อนไว้ แต่ไม่ใช่ช้อนแห้งเป็นช้อนที่แช่น้ำไว้ น้ำนี่ขุ่นมากเหมือนน้ำที่ผ่านการซาวข้าวมา
เอาก็เอาวะ ไหนๆมาแร้ว เราก็อยากเรียนรู้วิถีชีวิตคนอินเดียให้เต็มที่ อย่างมากก็ท้องเสียไม่ตายแน่นอน!! 555
พอถึงช่วงตอนกิน อาหารวันแรกคือ ข้าวราดน้ำแกง ข้าวเกรียบ แผ่นโรตี แกงใส่ถั่ว(เน่ารึป่าวไม่รู้เหม็นๆ) ผัดพริกอ่อนใส่เครื่องเทศ
กินไปกินมา รู้สึกแปลกๆ เฮ้ย โรตีนี่กินไง ช้อนก็ตักไม่ได้ หันมองโต๊ะข้างๆ เฮ้ย!! มันใช้มือว่ะ
โอเค มือก็มือวะ ไม่เห็นยากเรย ก็เหมือนเราจกข้าวเหนียวบ้านเราแหละไม่แปลกหรอก ทำตัวกลมกลืนเข้าไว้ เค้าจะได้รักเรา คิดว่างั้นนะ 555
พอกินเสร็จหิวน้ำครับ หันไปเห็นโต๊ะข้างๆมีเหยือกน้ำอยู่เหยือกนึง กำลังจะขอแบ่งซักแก้วสองแก้ว จุดไคลแม็กซ์มันอยู่ตรงนี้ > ยังไม่ทันได้ขอ มันยกซดเรยครับ ทั้งเยือกแบบไม่แบ่งใส่แก้ว ข้าวที่ติดปากเมิงก็ไม่เช็ดกัน เวียนกันจนครบทุกคน ท่าทางสนุกสนาน สดชื่นเชียว เหมือนการขอบคุณพระเจ้าที่ให้น้ำเรากินอะไรประมาณนั้น ฮาเลลูย่า!!! บอกเรยข้อนี้กุขอไม่กลมกลืนด้วยนะ คงไม่ว่ากัน เท่านั้นแหละหายหิวน้ำเรยครับ
10.การเปิดไฟสูง-ไฟต่ำ
ที่นี่ไฟสูงคือไฟปกติครับ รถทุกคันเปิดไฟสูงหมด ถ้าใครไม่เคยขับรถในประเทศนี้ผมว่ามีหน้ามืดแน่นอน ขนาดนั่งข้างหลังยังมืดแร้วมืดอีก
แต่ที่แปลกคือไฟต่ำครับ เค้าเอาไว้เตือนรถที่อยู่ข้างหน้า (สลับกับบ้านเราที่ไฟสูงไว้เตือน)
ตอนแรกก็ไม่เชื่อ มีอยู่ช่วงนึงรถมอไซค์ข้างขับกวนตีนมาก กลางถนน แถมช้าอีก โชเฟอร์เรยลดไฟเป็นไฟต่ำ เฮ้ย!! มันหลบว่ะ มันได้ผล มันดีอ่ะ 555
อเมซซิ่งอินเดียจริงๆ 555
11.ร้านอาหารซีฟู้ดสุดหรูมหาสมุทรอินเดีย
หน้าร้านเค้าบอกว่าของเค้าสดจากทะเล สดจริงๆครับ พอเข้าไปปุ้บถ้าเป็นเมืองไทยจะมีคนรับออเดอร์หน้าตาดูดีเอาเมนูมาให้เลือกใช่ป่ะ
แต่ที่นี่แตกต่างครับ คนรับออเดอร์เหมือนเป็นคนเชือดปลาอยู่ในครัว ผ้ากันเปื้อนมีเลือดสาดเป็นทาง ถือเมนูมาครับ แต่ไม่ได้มามือเปล่า มันหิ้วปลาเป็นๆ กุ้งเป็น ปูเป็นๆ มาด้วย
มาถึงวางที่โต๊ะเรย วางที่โต๊ะเสียงอย่างดัง แร้วถามประมาณว่า เมิงเอาตัวไหน เกล็ดแบบไหน ตาแบบไหน ขนาดนี้โอเคมั้ย เชรดดด!!! สดจริงว่ะ สมกับโฆษณา 555
ด้วยความช็อคก็เรยชี้ไปด้วยความงงๆ ด้วยความเป็นคนต่างชาติไม่เคยเจอไง สั่งช้าหน่อย ทำท่าไม่พอใจอีก แร้วพูดภาษาอินเดียควบกล้ำประมาณว่าด่าไรซักอย่าง
แร้วมันก็หิ้วปลาสดของมันกลับไป คิดจะกินของสดจากมหาสมุทรดินเดียต้องอดทนนะ
12.ตำรวจผู้รักษากฎหมาย
เหมือนบ้านเราเรยครับ จับมอไซค์ไม่ใส่หมวก คนที่นี่กลัวตำรวจมาก ไม่มีแบบเมืองไทยนะขับหนี ขับชนตำรวจ ไม่มี๊!!! เรียกเป็นจอด ถอดสีหน้า หน้าซีด ประมาณว่าไม่ใส่หมวกแร้วโดนประหารอย่างนั้นเรย
แต่ที่แปลกคือ อาวุธตำรวจครับ ถ้าบ้านเราตำรวจจะถือปืน ระเบิด อาวุธครบมือใช่ป่ะ ที่นี่ไม่ใช่เรย ตำรวจที่นี่ใช้ไม้ครับ ไม่ใช่ไม้กระบองเหล็กเท่ๆเหมือนหนังฮอลลีวู้ดนะ แต่เป็นไม่ใผ่ครับบางทีก็เป็นก้านมะยมครับ 555 คิดในใจ น่ากลัวตรงไหนว่ะ 555
(ตอนแรกจะถ่ายรูปมาแล้วครับ แต่ Taxi ห้ามไว้ เค้าบอกว่าห้ามถ่ายเพราะตำรวจที่นี่โหดมาก…)
13.ร้านขายไก่
ที่นี่เค้าขายไก่เป็นตัวครับ แต่มันจะแปลกตรงไหน บ้านเราก็ขายเป็นตัวนี่
ก็ถ้าไม่แปลกคงไม่เล่าหรอกใช่ป่ะ 555
คืออย่างที่บอกไปว่าของอินเดียจะสดมากๆ ไทยนี่เทียบไม่ติด
ร้านขายไก่จะมีเขียงมีมีดแต่จะไม่เห็นไก่ซักตัว เราก็งงนึกว่าอยู่หลังร้าน
ไม่ใช่ครับ มันอยู่ใต้ดินใต้เขียงครับ พอมีคนมาสั่งพอ่ค้าก้มหยิบเรย ไก่เป็นๆครับ ดิ้นได้ร้องได้ จับเชือดคอถอนขนกันตรงนั้น เลือดสาดกระจาย โอ้ว มายยย ก้อด
นี่กุมาซื้อไก่นะเว้ยไม่ได้มาโรงฆ่าสัตว์ ถึงกุจะเป็นคนไม่ดีแต่กุก็มีหัวใจนะ 555
14.เอกลักษณ์ของรถอินเดีย
ทุกวันนี้จำเป็นต้องใช้บริการ taxi เพื่อไปบริษัททุกวันทั้งไปและกลับ รถที่ร่วมเดินทางคือพี่โต ครับ ฟังจากชื่อแล้วดูดีสุดๆ
ความประทับใจครั้งแรกที่เข้าไปนั่ง คือ กลิ่น ครับ แต่ไม่ใช่กลิ่นน้ำหอม Grade นะ แต่เป็นกลิ่นเต่าครับ อบอวนมาก
เหม็นอินเดียสไตล์ อยากจะถามคนขับว่าเช้านี้เมิงอาบน้ำมามั้ย แต่ไม่กล้ากลัวไม่ได้กลับไทย 555
คือถ้าได้นั่งรถคันนี้ 10 นาที ออกมาคุณจะได้กลิ่นนั้นติดตามมาด้วยประมาณ 3 วันน่าจะได้
สิ่งที่สังเกตเห็นอีกอย่างคือ เรือนไมล์ของรถครับ สวยมากกกกก สวยจริงๆ ยังคุยกันเลยเลยว่าไมล์รุ่นนี้สวยเนอะ มองแร้วให้ความรู้สึกเหมือนเรือนไมล์มันเป็นแบบ 3D
ทะลุออกมานอกกระจก ก็เลยพยายามเข้าไปดูใกล้ๆ เท่านั้นแหละเป็นเรื่อง เรือนไมล์ที่เราบอกว่าสวยนักสวยหนามันคือสติ้กเกอร์ครับ แปะก็ไม่ตรง
นี่เมิง 3D เกินไปป่ะ สังเกตจากรูปนะว่าตัวเลขมันอยู่บนกระจก แต่คิดในแง่ดี ความคิดเค้าก็สร้างสรรค์ดีนะ ประหยัดด้วย ก็ไม่รู้ว่าจะประหยัด ไปไหน 555
15.ล้อรถยนต์
รถของประเทศอินเดีย ไม่ว่าแพงแค่ไหนก็เป็นล้อกระทะ ขนาดรถคันนี้ ราคาเป็นล้านก็ยังเป็นล้อกระทะครับ
อย่าไปพูดถึงแม็กแต่ง โหลดเตี้ย เลย ที่นี่ไม่มีแน่นอน แต่ก็อย่างว่าแหละ ถนนบ้านเค้าไม่เอื้ออำนวย ขับรถในเมืองแต่ความรู้สึกเหมือนขับรถในทุ่งใหญ่นเรศวรยังไงยังงั้น
ใครที่คิดจะอยู่อินเดียแล้วเปลี่ยนแม็กแต่งหล่อนี่ฝันไปเลยครับ แค่ขับรถไม่ให้ยางระเบิดก็บุญแค่ไหนแล้ว
16.รถเมล์
รถเมล์ที่นี่แปลกมาก หน้าต่างจะมีคานเหล็กกั้นเหมือนรถขนนักโทษเลย ไม่รู้ว่ามีไว้เพื่ออะไรเหมือนกัน แล้วไม่ใช่แค่คานเดียวนะ มีตั้ง 4 คาน
17.ภาษากายของคนอินเดีย
เมื่อวานมี Plant tour ในส่วนของ W/H ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าปกติของ W/H จะมีรถโฟร์คลิฟท์เยอะ ซึ่งเป็นอะไรที่ไม่อยากเจอ (ประสบการณ์จากทำงานเรา ทำให้เราหลอน)
แต่สุดท้ายก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เจอเข้าอย่างจังบริเวณหน้าทางเข้า เห็นหน้าคนขับแร้วถึงกับเหงื่อตก หน้าโหดสาดดด ยิ้มซักนิดก็ไม่มี มองหน้าอีก ซวยแล้วกุ
จากนั้นคนขับก็ส่ายหัวครับ ลักษณะเหมือนเอียงคอไปทางซ้าย-ขวา สลับกัน ทำแบบนี้ประมาณ 5 ครั้งแร้วหยุด มองหน้าทำหน้าโหดอีก
ความเข้าใจคือ อย่าเพิ่งเดิน คิดในใจทำไมเมิงใจแคบแบบนี้กุเป็นแขกนะเว้ย!!
ผมก็หยุดครับ พูดตรงๆคือป๊อดนั่นแหละ แต่มันก็ไม่ไป มองหน้าผมอีก จ้องหน้ากันประมาณ 3-4 วินาที เอาก็เอาวะใจกล้าหน่อยเดินข้ามมาเลยครับ
พอข้ามเสดหันไปมองหน้าเรยกะเอาเรื่องไง(แค่คิดนะ) มันยิ้มเฉยเลย เอ้า! ทำไมเมิงไม่ยิ้มตั้งแต่แรกกุจะได้ข้าม เล่นซะเหงื่อแตก
ด้วยความข้องใจเลยไปถามพี่ที่เคยมาอินเดีย เค้าก็เลยบอกว่า ถ้าคนอินเดียส่ายหัวซ้าย-ขวา ไปมา แปลว่า โอเค ใช่เลย จัดไป Go!! ประมาณนี้
อ่อออ เก็ตละ 555
18.รถไฟอินเดีย
รถไฟที่นี่คนขึ้นเยอะมาก ชนิดว่าเยอะจนต้องยืน แต่เมิงยืนกันเยอะไปป่ะ เห็นตอนแรกนึกว่ารถสองแถว โหนกันซะ!!
19. ถนนทางหลวง (High way)
ถนนทางหลวงที่นี่ก็คล้ายๆบ้านเราแหละครับ มีถนนหลักอยู่ด้านในและมีถนนรองอยู่ด้านนอก ถ้านึกภาพไม่ออกให้นึกถึงถนนบางนา-ตราด เลยครับ
ความแปลกก็คือ ที่นี่เค้าจะสร้างถนนรอง(ด้านนอก)ให้มีระดับสูงกว่าถนนหลัก(ด้านใน) ไม่เข้าใจเหมือนกันครับว่าทำไมเป็นแบบนั้น
จริงๆแล้วผมเห็นตั้งวันแรกที่มาเหยียบอินเดียแร้วล่ะ แต่ไม่ได้ติดใจอะไร
แต่…..เมื่อคืนฝนตกหนักมาก
ตอนเช้า Taxi ก็มารับไปทำงานปกติ พอออกมาหน้าโรงแรมเท่านั้นแหละ รู้สึกเหมือนกับว่าเรามาที่นี่ครั้งแรกครับ
ถนนสายรองกลายเป็นถนนสายหลัก ส่วนถนนสายหลักกลายเป็นคลอง งงครับ
สงสัยเค้าคงต้องการทำถนนต้นแบบของโลกแน่ๆ ถนน Hybrid!!! การทำงานแบบผสมผสานได้อย่างลงตัวสุดๆ
อากาศปกติ = รถวิ่ง
ฝนตก = เรือวิ่ง
20. ทางแยกที่เสี่ยงอันตราย
การขับรถในอินเดียนี่อันตรายมาก เรียกได้ว่าเร็วกว่าแสง ปาดหน้ายิ่งกว่า Tokyo drift
แต่ทางอินเดียก็มีวิธีป้องกันอุบัติเหตุนะ ไม่ใช่ไม่มี
แต่มันต่างกับบ้านเราน่ะ เมืองไทยจะใช้ลูกระนาดหรือไม่ก็สัญญาณไฟแดง
แต่อินเดียไม่มีครับ มันล้าสมัยไปแล้ว ไอเดียเค้าบรรเจิดกว่านั้นครับ เค้าใช้ถังน้ำมันมาตั้งเรียงๆกันกลางถนนเรย ตอนแรกก็นึกว่าชาวบ้านที่มีลูกเล็กๆเอามาตั้งไว้เพราะเป็นห่วงลูก
แต่พอสังเกตป้ายดีๆ เฮ้ยยย!! Traffic Police ตำรวจตั้งนี่หว่า
สังเกตถังนะครับ สงสารอ่ะ คงจะเจ็บมาเยอะ และอยากบอกว่าพี่ได้ทำหน้าที่เต็มที่แล้ว พักผ่อนเถอะครับ….
จบล่ะครับ...
ขอขอบคุณรุ่นน้องที่เขียนบทความนี้ขึ้นมา เอาฮา...นะครับ เพราะสิ่งดีๆที่ไปเจอมาก็มีเยอะแยะ แต่มันไม่ฮา