...."ฟลุ๊ค เดอะสตาร์" กับสภาพจิตใจที่ควรได้รับการเยียวยา....

กระทู้สนทนา
ได้ดูคลิปรายการ "ต่างคนต่างคิด" ลิงค์ ข้างล่าง  ที่นำฟลุ๊คกับพ่อบังเกิดเกล้าเขามาพูดคุยออกอากาศแล้วรู้สึกเศร้าปนสลด หดหู่ใจ....ข้อความที่กำลังจะเขียนลงไปแบบสดๆ ตอนนี้  จะพยายามเลี่ยงการเมืองให้มากที่สุด


อายุพ่อของฟลุ๊คคงไล่เลี่ยกับผม....แต่ฟังการพูดคุยของฟลุ๊คแล้ว  เป็นผู้ใหญ่ที่เกินตัวทีเดียว...ในสังคมไทยการมีความคิดความเห็นและการแสดงออกในลักษณะ "เป็นผู้ใหญ่เกินตัว" บางทีก็เป็นผลร้ายให้กับตัวเอง   ที่อาจจะถูกสะท้อนกลับด้วยคำครหาประเภท "แก่แดด"  "หัวหมอ"  "ดื้อรั้นไม่ฟังผู้ใหญ่" ฯ  


แต่สิ่งที่ผมสลดใจที่สุดในคลิปนี้ก็เป็นช่วงที่พ่อของฟลุ๊คพูดผ่านพิธีกรแล้วหันหน้าไปทางฟลุ๊คลูกชายว่า "ถึงเขาตายก็ไม่ไปเผาผีกัน"  ผมจะไม่ขอวิจารณ์อะไรมากตรงนี้  เอาสั้นๆ ว่า....ถ้าคนเป็นพ่อพูดอย่างนี้กับลูกออกอากาศทั่วประเทศได้ขนาดนี้   ตอนไม่ออกอากาศจะขนาดไหน?   ซึ่งตอนต่อมาของคลิป  ฟลุ๊คก็ได้พยายามบอกว่าสาเหตุที่บาดหมางกันนั้นว่า "เขาไม่ได้เป็นคนสร้างเงื่อนไข"


ที่ผมอยากจะโฟกัสที่สุดก็คือความรู้สึกของฟลุ๊ค    การได้ยินประโยค "ถึงเขา(ฟลุ๊ค)ตายก็ไม่ไปเผาผีกัน" จากผู้เป็นพ่อเช่นนี้   ผมมองว่ามันเป็นการทำร้ายจิตใจและความรู้สึกลูกชายของเขาเองต่อสาธารณะอย่างรุนแรง    และบาดแผลจากการถูกทำร้ายตรงนี้ไม่มีใครมองเห็นเลย  แม้แต่คนที่พูดทำร้ายก็มองไม่เห็น.....เข้าใจว่าพิธีการทางรายการไม่ได้บอกฟลุ๊คล่วงหน้าว่าจะเชิญพ่อมา   เพราะพิธีกรถามก่อนว่าถ้าพ่อมาอยู่ตรงนี้จะคุยด้วยไหม   อีกทางหนึ่ง...พ่อของฟลุ๊คเสียอีกที่รู้ตัวล่วงหน้าแล้วว่าจะมาร่วมสนทนาด้วยกับลูกชาย  และอย่างน้อยๆ ก็คงเตรียมตัวไว้บ้างว่าจะพูดอะไรทำนองไหน    


แน่นอนว่าฟลุ๊ครู้มาก่อนแล้วว่าพ่อประกาศตัดลูกตัดพ่อ   แต่คงไม่ได้เตรียมใจที่จะมาได้ยินประโยค "ตายก็จะไม่ไปเผาผีกัน"  ออกอากาศขนาดนี้   ซึ่งฟลุ๊คย้ำเสมอในคลิปว่านายทรงวุฒิคือพ่อและเป็นเลือดก้อนเดียวที่เขามีเพียงแต่เขากับพ่อมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน   โดยส่วนตัว  ผมไม่มั่นใจเท่าไหร่ว่าฟลุ๊คจะรับประโยคที่ได้ยินจากปากพ่อได้ขนาดไหน?  ซึ่งต่อมาเขาก็บอกว่าเสียใจ   และเชื่อว่าประโยคนี้จะก้องในหูเขาอยู่นาน   ที่พูดอย่างนี้ก็เพราะว่าตัวผมเองกับพ่อก็ไม่ลงรอยกันเลยตั้งแต่ผมจำความได้(ผมหนีออกจากบ้านมาตั้งแต่เด็ก  อาศัยนอนตามสวนสาธารณะ)    คำพูดที่พ่อเคยด่าผมและทำร้ายผมแม้จะผ่านมาเกือบห้าสิบปีแล้วมันยังก้องในภวังค์ผมอยู่   และอย่างน้อยๆ ผมก็ฝันและสะดุ้งตื่นเกี่ยวกับช่วงระยะเวลาที่พ่อทำร้ายจิตใจและร่างกายผมปีหนึ่งๆ สามสี่ครั้ง  ฝันอย่างนี้มาตลอดระยะเวลาตั้งแต่หนีออกจากบ้านมาจนถึงปัจจุบัน


พ่อผมเคยเอาพร้าคมขว้างใส่ผมตอนผมวิ่งหนี (ถ้าโดนผม ผมก็คงบาดเจ็บ พิการ หรือไม่ก็ถึงตาย)    พ่อผมเคยด่าผมว่าชาตินี้คงเอาดีไม่ได้เท่าพี่ชายเพียงเพราะลายมือผมไม่สวยเท่าพี่ชาย    ครั้งสุดท้ายผมโดนพ่อจับรวบขาแล้วเอาหัวห้อยลงในบ่อโดยท่านบอกว่าถ้าผมทำผิดอีก  ผมจะไปอยู่ก้นบ่อ (ผมทำผิดในสายตาท่านที่ผมสะเพร่าปล่อยให้ควายไปย่ำข้าวเพื่อนบ้าน  ไม่ได้เรียนหนังสือต่อเพราะในสายตาท่านผมไม่เก่งเท่าพี่ชาย)  ผมจึงหนีออกจากบ้านสภาพจิตใจผมย่ำแย่มาก   เคยคิดว่าตายไปก็คงจะดี.....เด็กอายุแค่สิบสองของผมในตอนนั้นสภาพจิตใจย่ำแย่ถึงขั้นคิดจะฆ่าตัวตายคิดดูเอาเองว่าผลกระทบจากคำพูดของพ่อที่บั่นทอนจิตใจและสร้างแผลที่มองไม่เห็นได้มากมายขนาดไหน?    ผมโชคดีกว่าฟลุ๊คที่มีแม่อยู่.....ถ้าแม่ไม่จับไปบวช  ผมคงอาจจะลงเอยในคุกในตะราง  หรือเป็นศพไร้ญาติข้างถนน


ผมมองกรณีของฟลุ๊คจากประสบการณ์อย่างนี้.....ผมว่าพ่อของฟลุ๊คกำลังทำร้ายจิตใจของฟลุ๊คอย่างรุนแรงในคลิปนั้น  แรงมาก...คนพูดก็พูดไปตามอารมณ์  แต่คนได้ยิน...มันสะเทือน  บั่นทอน  เจ็บ อย่างยาวนาน  

ผมอาจจะเวอร์ไปในสายตาหลายคนถ้าจะบอกว่า    กรมสุขภาพจิตควรให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกับฟลุ๊ค เดอะสตาร์   อย่างน้อยๆ ก็ถามไถ่ถึงความรู้สึกและสุขภาพจิตของเขาครับ..หรือถ้าใครรู้จักฟลุ๊คเป็นการส่วนตัวก็คอยเป็นกำลังใจให้เขาด้วย...   


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
พิมพ์สดๆ ตกหล่นเยอะ  เข้ามาแก้และเสริม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่