สวัสดีครับ
คือได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคดี ๆ นึง เป็น พ่อเลี้ยงของแฟน คือ โดนจับ เพราะเปิดสถานีวิทยุ เถื่อน ผมก็ไม่มีข้อมูลอะไรมากเพราะไม่ได้สนิทกันมาก แต่ได้ไปเป็นนายประกัน ประกันตัวสู้คดีในชั้นศาล ซึ่ง ประเด็นคือ ทางพ่อเลี้ยง ใช้ทนายอาสา
ข้อเท็จจริง ขึ้นศาลตัดสิน ผิดสามข้อ
1. เครื่อง ส่ง กระจายเสียง ไม่มีทะเบียน (เถื่อน) .. เถื่อนไม่เถื่อนไม่รู้ เพราะ ข้อมูลไม่เพียงพอ ตอนมาจับมาขนไปก็ไม่มีหลักฐาน ไม่มีอะไร แต่ทางพ่อเลี้ยงก็มีหลักฐานใบเสร็จถูกต้อง ว่าซื้อมาจากที่ไหน ผ่านคณะกรรมการ วัด (สถานีวิทยุ ตั้งอยู่ในวัด)
2. ตั้งสถานีวิทยุเถื่อน
3. ประกอบกิจการวิทยุเถื่อน
ซึ่ง 2-3 เนี่ยะ ทาง สถานีขอถูกต้องจาก กสทช. แต่ว่า ย้ายที่ตั้งจากวัดนึงไป อีกวัดนึง ใน อ.เดียวกันเพราะมีปัญหา กับกรรมการวัดแรก ที่จะนำที่ตั้งสถานีวิทยุ ไปเปิด มินิมาร์ท โดยที่ย้ายไป ไม่ทราบว่าแจ้งย้ายหรือไม่
ความรู้สึกของผมคือทนายอาสา ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ไม่เคยหาทางแก้ข้อกฏหมาย ข้อเท็จจริง อะไร มีแต่บอกให้สารภาพ ลดโทษ เพื่อให้จบๆ ซึ่งมันน่าจะเป็นฝ่ายตำรวจหรืออัยการ ที่พูดจาแบบนี้ จนพ่อเลี้ยง ไปขึ้นศาลเพราะเข้าใจว่านัดสืบพยาน เตรียมเอกสารอะไรเต็มที่ แต่กลับเป็นว่าไม่ใช่สืบพยาน แต่เป็นนัดฟังคำพิพากษา พ่อเลี้ยงก็เล่าว่า ทนายก็ไม่ได้ช่วยหรือพูดอะไรเลย มีพ่อเลี้ยงพูด โดยมี อัยการ กับ กสทช. มาร่วม ในวันตัดสินด้วย
ลงโทษ จำคุก 2 ปี 6 เดือน จาก 3 ข้อข้างต้นปรับเงิน 50,000 สารภาพ ลดกึ่ง เหลือ 25,000 โทษจำรอลงฯ
ทีนี้เงินพ่อเลี้ยงไม่มี พกเงินสดมา 5,000 (คนจน ชาวบ้าน ธรรมดา ไม่มีรายได้ อายุ 60 กว่า) จึงโดนไปขังแทนค่าปรับที่เรือนจำ ผมทราบจึง นำเงินไปจ่ายค่าปรับ จึงได้ออกมา วันที่ไปทำเรื่องที่ศาล ทนายโทรมาตลอด ว่า ให้มาเสียค่าปรับเอาพ่อตาออก ถามตลอดว่า จะให้ช่วยดูแลต่อไหม ผมตอบว่าไม่ต้องเพราะแค่เสียค่าปรับ ไม่จำเป็นต้องใช้ทนายแต่อย่างใดก็วางหูกันไป
จนพ่อเลี้ยงออกมาจากเรือนจำ จึงบอกว่าเงินฝากทนายไว้ 4,800 ซึ่งตลอดวันที่โทรคุยกัน ทนายไม่เคยพูดถึงเงินก้อนนี้เลย เงียบกริบ แถมบอกว่า เงินประกันตัวที่เบิกจากศาลให้เอาเช็คให้เค้า เดี๋ยวจะกดเงินสดมาให้ แปลกไหมครับ เช็คขีดคล่อม เข้าบัญชีชื่อเรา จะมาทำอะไรวุ่นวายไปอีก นึกแล้วขำ ก็จึงขับรถไปบ้านทนาย
ทนายบอกว่า หัก 2,000 เป็น ค่าเดินทางไปศาล ค่า ดำเนินการต่างๆ ผมก็ได้แต่ถอนใจ
ได้ถามว่า ทนายได้ช่วยเหลือคดีอย่างไรบ้าง ทนายก็บอก คุยกับพ่อเลี้ยงว่า ให้ไปเอาเอกสาร หลักฐาน โน้นนี่นั่น แต่ พ่อเลี้ยงบอกว่าไม่มีเงินค่าเดินทาง ก็เลยจบแค่นั้น แต่ผมช่วยช่วยให้ไม่ติดคุก ได้นี่ก็บุญแล้ว .. ผมจึงไม่ได้ถามต่อ ก็คุยกันไปเรื่องอื่นตามมารยาท จนก่อนกลับผมถามอีกครั้งว่า ท่านเป็นทนายอาสา ไม่ใช่หรือ เค้าบอกว่า ขับรถไปศาล เที่ยวละ 500 น้อยมากแล้ว คนอื่นคิดเป็นพัน
ผมก็ได้แต่ถอนใจ
ที่ผมมาเขียนนี่แค่ สงสัยว่า
1. ทนาย มีหน้าที่ช่วยเหลือ ลูกความ มากกว่านี้หรือไม่ มองเห็นทางแก้ไข บ้างไหม มีทางเลือกให้ลูกความบ้างไหม
2. ทนายอาสา รับเงินจากศาล (กองทุนฯ ศาลฯ) แล้วหรือไม่
3. ทนายอาสา รับเงินฝากจากลูกความ (ไม่ใช่เงินตกลงว่าความ) เพราะลูกความต้องไปเรือนจำ โดยที่ลูกความหวังว่าจะให้ทนายรวบรวมเงินให้ครบ 25,000 เพื่อไปเสียค่าปรับให้ พอผมไปชำระค่าปรับ กลับถูกทนายหักเอาไป 2,000 บอกเป็นค่าใช้จ่าย
จากเหตุการณ์นี้ทำให้ผมคิดว่า ทนายอาสา ที่มาทำงาน ที่ศาล คือทนายที่ไม่มีคนจ้าง ได้แต่มาเฝ้าศาลเพื่อจะมีลูกความ โง่ๆ หรือ ญาติลูกความโง่ๆ มาหลงให้ช่วย แต่ก็ทำเหมือนว่าช่วยทำงาน ช่วยโน้นนี่นั่น แต่จริงๆ กลับไม่ได้ดูเนื้อหา คดี แนวทางการว่าความ แนวทางการรับผิด หรือ ทางเลือกให้ลูกความเลย แต่ถ้าลูกความพอมีเงินก็ ตอดเอาแบบนี้แหละ
ยังไงผมคิดว่าคงมีทนายอาสาดีๆ บ้าง มาแนะนำนะครับ
ปัญหาของทนายอาสา (ทนายขอแรง) ที่ศาล มาขอความเห็นหน่อยครับ
คือได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคดี ๆ นึง เป็น พ่อเลี้ยงของแฟน คือ โดนจับ เพราะเปิดสถานีวิทยุ เถื่อน ผมก็ไม่มีข้อมูลอะไรมากเพราะไม่ได้สนิทกันมาก แต่ได้ไปเป็นนายประกัน ประกันตัวสู้คดีในชั้นศาล ซึ่ง ประเด็นคือ ทางพ่อเลี้ยง ใช้ทนายอาสา
ข้อเท็จจริง ขึ้นศาลตัดสิน ผิดสามข้อ
1. เครื่อง ส่ง กระจายเสียง ไม่มีทะเบียน (เถื่อน) .. เถื่อนไม่เถื่อนไม่รู้ เพราะ ข้อมูลไม่เพียงพอ ตอนมาจับมาขนไปก็ไม่มีหลักฐาน ไม่มีอะไร แต่ทางพ่อเลี้ยงก็มีหลักฐานใบเสร็จถูกต้อง ว่าซื้อมาจากที่ไหน ผ่านคณะกรรมการ วัด (สถานีวิทยุ ตั้งอยู่ในวัด)
2. ตั้งสถานีวิทยุเถื่อน
3. ประกอบกิจการวิทยุเถื่อน
ซึ่ง 2-3 เนี่ยะ ทาง สถานีขอถูกต้องจาก กสทช. แต่ว่า ย้ายที่ตั้งจากวัดนึงไป อีกวัดนึง ใน อ.เดียวกันเพราะมีปัญหา กับกรรมการวัดแรก ที่จะนำที่ตั้งสถานีวิทยุ ไปเปิด มินิมาร์ท โดยที่ย้ายไป ไม่ทราบว่าแจ้งย้ายหรือไม่
ความรู้สึกของผมคือทนายอาสา ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ไม่เคยหาทางแก้ข้อกฏหมาย ข้อเท็จจริง อะไร มีแต่บอกให้สารภาพ ลดโทษ เพื่อให้จบๆ ซึ่งมันน่าจะเป็นฝ่ายตำรวจหรืออัยการ ที่พูดจาแบบนี้ จนพ่อเลี้ยง ไปขึ้นศาลเพราะเข้าใจว่านัดสืบพยาน เตรียมเอกสารอะไรเต็มที่ แต่กลับเป็นว่าไม่ใช่สืบพยาน แต่เป็นนัดฟังคำพิพากษา พ่อเลี้ยงก็เล่าว่า ทนายก็ไม่ได้ช่วยหรือพูดอะไรเลย มีพ่อเลี้ยงพูด โดยมี อัยการ กับ กสทช. มาร่วม ในวันตัดสินด้วย
ลงโทษ จำคุก 2 ปี 6 เดือน จาก 3 ข้อข้างต้นปรับเงิน 50,000 สารภาพ ลดกึ่ง เหลือ 25,000 โทษจำรอลงฯ
ทีนี้เงินพ่อเลี้ยงไม่มี พกเงินสดมา 5,000 (คนจน ชาวบ้าน ธรรมดา ไม่มีรายได้ อายุ 60 กว่า) จึงโดนไปขังแทนค่าปรับที่เรือนจำ ผมทราบจึง นำเงินไปจ่ายค่าปรับ จึงได้ออกมา วันที่ไปทำเรื่องที่ศาล ทนายโทรมาตลอด ว่า ให้มาเสียค่าปรับเอาพ่อตาออก ถามตลอดว่า จะให้ช่วยดูแลต่อไหม ผมตอบว่าไม่ต้องเพราะแค่เสียค่าปรับ ไม่จำเป็นต้องใช้ทนายแต่อย่างใดก็วางหูกันไป
จนพ่อเลี้ยงออกมาจากเรือนจำ จึงบอกว่าเงินฝากทนายไว้ 4,800 ซึ่งตลอดวันที่โทรคุยกัน ทนายไม่เคยพูดถึงเงินก้อนนี้เลย เงียบกริบ แถมบอกว่า เงินประกันตัวที่เบิกจากศาลให้เอาเช็คให้เค้า เดี๋ยวจะกดเงินสดมาให้ แปลกไหมครับ เช็คขีดคล่อม เข้าบัญชีชื่อเรา จะมาทำอะไรวุ่นวายไปอีก นึกแล้วขำ ก็จึงขับรถไปบ้านทนาย
ทนายบอกว่า หัก 2,000 เป็น ค่าเดินทางไปศาล ค่า ดำเนินการต่างๆ ผมก็ได้แต่ถอนใจ
ได้ถามว่า ทนายได้ช่วยเหลือคดีอย่างไรบ้าง ทนายก็บอก คุยกับพ่อเลี้ยงว่า ให้ไปเอาเอกสาร หลักฐาน โน้นนี่นั่น แต่ พ่อเลี้ยงบอกว่าไม่มีเงินค่าเดินทาง ก็เลยจบแค่นั้น แต่ผมช่วยช่วยให้ไม่ติดคุก ได้นี่ก็บุญแล้ว .. ผมจึงไม่ได้ถามต่อ ก็คุยกันไปเรื่องอื่นตามมารยาท จนก่อนกลับผมถามอีกครั้งว่า ท่านเป็นทนายอาสา ไม่ใช่หรือ เค้าบอกว่า ขับรถไปศาล เที่ยวละ 500 น้อยมากแล้ว คนอื่นคิดเป็นพัน
ผมก็ได้แต่ถอนใจ
ที่ผมมาเขียนนี่แค่ สงสัยว่า
1. ทนาย มีหน้าที่ช่วยเหลือ ลูกความ มากกว่านี้หรือไม่ มองเห็นทางแก้ไข บ้างไหม มีทางเลือกให้ลูกความบ้างไหม
2. ทนายอาสา รับเงินจากศาล (กองทุนฯ ศาลฯ) แล้วหรือไม่
3. ทนายอาสา รับเงินฝากจากลูกความ (ไม่ใช่เงินตกลงว่าความ) เพราะลูกความต้องไปเรือนจำ โดยที่ลูกความหวังว่าจะให้ทนายรวบรวมเงินให้ครบ 25,000 เพื่อไปเสียค่าปรับให้ พอผมไปชำระค่าปรับ กลับถูกทนายหักเอาไป 2,000 บอกเป็นค่าใช้จ่าย
จากเหตุการณ์นี้ทำให้ผมคิดว่า ทนายอาสา ที่มาทำงาน ที่ศาล คือทนายที่ไม่มีคนจ้าง ได้แต่มาเฝ้าศาลเพื่อจะมีลูกความ โง่ๆ หรือ ญาติลูกความโง่ๆ มาหลงให้ช่วย แต่ก็ทำเหมือนว่าช่วยทำงาน ช่วยโน้นนี่นั่น แต่จริงๆ กลับไม่ได้ดูเนื้อหา คดี แนวทางการว่าความ แนวทางการรับผิด หรือ ทางเลือกให้ลูกความเลย แต่ถ้าลูกความพอมีเงินก็ ตอดเอาแบบนี้แหละ
ยังไงผมคิดว่าคงมีทนายอาสาดีๆ บ้าง มาแนะนำนะครับ