หลังจากที่มีประกาศจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติออกมาตรการเกี่ยวกับยกเลิกตั้งด่านลอยทุกชนิดทั่วประเทศ ซึ่งหากผู้ใดพบเห็นสามารถแจ้งได้ทันที ทั้งยังสามารถสามารถถ่ายภาพนิ่งหรือคลิปวิดีโอส่งมาได้ที่เฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ ชื่อ “รายงานสภาพการจราจร ตร.” และ “โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1197 แต่ผมก็เห็นคนจำนวนมากยังไปโพสถามในเพจต่าง ๆ กันเสียมากกว่าว่านี่ใช่ด่านลอยไหม คนที่เข้ามาอ่านก็ตอบด่านลอยครับ ด่านลอยชัว ซึ่งผมก็ไม่เห็นจะมีอะไรเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น เพราะอะไร...เพราะปัญหาไม่ได้อยู่ที่ด่านลอยไงครับ
ในความเป็นจริงเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับผู้ก่อเหตุซึ่งกระทำผิดซึ่งหน้าได้ การที่คุณทำผิดกฏจราจร ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่มีกระจกมองข้าง ขับฝ่าสัญญาณจราจรขณะขึ้นสีแดง เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถที่จะเรียก จับ ปรับ และดำเนินคดีได้ โดยที่ไม่จำเป็นที่ต้องตั้งด่าน ซึ่งเป็นอำนาจที่กฏหมายได้ให้ไว้ เปรียบเทียบกับตำรวจแผนกอื่น เช่นกรณีจับผู้ค้ายาเสพติด คงไม่มีตำรวจประกาศหรือตั้งไฟตั้งกรวยหรอกว่าข้างหน้ามีด่านจะจับยาเสพติด เขาใช้วิธีไล่ ล่า ซุ่มดู ล้อมด้วยกำลัง เพื่อที่จะจับคนที่ค้ายาเสพติด คุณควรจำไว้ว่าเมื่อคุณทำผิดกฏหมาย เจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ในการดำเนินคดี
ที่ผมออกมาตั้งกระทู้ว่าหลงประเด็นหรือปล่าว เพราะปัญหาที่แท้จริงที่คนใช้ถนนเจอ คือการ "ยัดข้อกล่าวหา" ยกตัวอย่างเช่น
1.วิ่งเลนขวาในถนนหลวง(ต่างจังหวัด)ทั้งที่เราแซงหรือถนนเลนซ้ายพังจนไม่สามารถใช้งานได้
2.จับกระบะแถวชานเมืองจับยึดใบขับขี่ เขียนอะไรมั่วๆลงไป ทั้ง ๆ ที่ไม่ผิดกฏหมาย
3.มอเตอร์แซงรถเมล์ในเมืองแต่บอกว่าวิ่งขวา(ส่วนตัวเคยเจอเจ้าหน้าที่บอกให้รถเก๋งคันหน้าหยุด แล้วน้องผมเลยเบี่ยงขวาออก ยังไม่เลยไปเลนที่สองด้วยซ้ำ) แต่โดนข้อหาขับขวาทั้งวิ่งซ้ายมาตลอด
4.ยัดข้อหาแปลงสภาพรถทั้ง ๆ ที่มันเป็นของเดิมจากโรงงาน
5.เจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนใหญ่ไม่เคยแจ้งข้อกล่าวหาก่อน แต่จะยึดใบขับขี่ก่อน เดี๋ยวข้อหาจะตามมา บางคนเคยเจอแบบพูดอย่างหนึ่ง แต่เขียนอีกอย่างหนึ่ง
และกรณีเพิ่มเติมคือใบสั่งเถื่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีความผิดตามกฏหมายหนักมากผิดหลายกระทงและทำเป็นขบวนการ ทำไมผมถึงกล้าบอกว่าทำเป็นขบวนการเพราะเจ้าหน้าที่ออกใบสั่งอยู่อีกที่ ต้องไปชำระค่าปรับที่สน.ซึ่งมีเจ้าหน้าที่รับชำระอีกทีถ้าไม่ทำร่วมกันคงไม่รับชำระหรอก เห็นก็รู้แล้วว่าปลอม แต่ก็ไม่เคยมีข่าวลงว่าดำเนินคดีเจ้าหน้าที่แม้แต่ข่าวเดียว หรือแม้แต่ข่าวว่าจะสืบสวนสอบสวนในเรื่องนี้ ประชาชนเป็นแสนรู้แต่ตำรวจไม่รู้เป็นไปได้ยังไง
เวลาประชาชนจี้มาก ๆ จนเป็นข่าว ก็จะมีพวกยศใหญ่ออกมาพูดขอตรวจสอบก่อน ว่าเป็นตำรวจจริงหรือปล่าว แต่ประชาชนไม่สามารถโต้แย้งอะไรได้เลย แม้เวลาขอให้แสดงตัวก็ไม่ทำ เครื่องแต่งกายตำรวจจราจรสมัยนี้เปลี่ยนหมวก ใส่แว่นดำ ใส่ผ้าปิดปาก สวมเสื้อกั๊กส้ม เพื่อความปลอดภัยหรือปกปิดตัวตนก็ไม่รู้ ผมแนะนำให้สั่งหมวกรุ่นใหม่ที่ได้มาตรฐานมาหลาย ๆ แบบให้เจ้าหน้าที่เลือกใช้และตีเลขกำกับเหมือนเดิม ส่วนเครื่องแบบก็เปลี่ยนเป็นสีสะท้องแสงไปเลยป้ายชื่อจะได้อยู่ด้านนอก ส่วนแว่นดำผ้าปิดจมูกก็ใส่เหมือนเดิมได้ ที่อยากให้เปลี่ยนเพราะจะได้ระบุไปเลยว่าเจ้าหน้าที่คนนี้ชื่อนี้ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ประชาชนจะได้ไม่เหมารวมองค์กรตำรวจ
จะด่านลอยหรืออะไรก็แล้วแต่ คุณทำผิดกฏหมายเจ้าหน้ามีสิทธิ์จับ เลิกสนใจเรื่องด่านลอยเถอะ สนใจเรื่องที่เป็นปัญหาหลักคือตำรวจ "ยัดข้อหา" ที่เราไม่ผิดดีกว่า กฏหมายมีวรรคสอง วรรคสาม มีข้อย่อย ข้ออนุโลม แต่ตำรวจบางคนก็คิดจะเอาแต่ได้ หลอกกินเงินประชาชนมาหลายสิบปี
เคยมีตำรวจดีมาเผยข้อมูลแย่ ๆ ของหน่วยงานตำรวจ ตำรวจนายนั้นกลับถูกคาดโทษในเรื่องทำให้องค์กรเสื่อมเสีย แต่กลับไม่มีใครแก้ไขเรื่องเลว ๆ ที่ทำ ชื่อเสียงองค์กรไม่ว่าที่ไหนจะดีหรือเลวขึ้นอยู่กับการกระทำไม่ใช่การปกปิดความเลว ถ้ายังปล่อยหรือยังเลี้ยงคนเลวอยู่มันไม่มีทางที่ภาพลักษณ์จะดีขึ้นได้ จะหลอกตัวเองไปทำไมได้ผลประโยชน์อะไรทำไมไม่เปลี่ยนแปลง
ด่านลอย - ตำรวจจราจร - ประชาชน หลงประเด็นหรือปล่าว...?
ในความเป็นจริงเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับผู้ก่อเหตุซึ่งกระทำผิดซึ่งหน้าได้ การที่คุณทำผิดกฏจราจร ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่มีกระจกมองข้าง ขับฝ่าสัญญาณจราจรขณะขึ้นสีแดง เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถที่จะเรียก จับ ปรับ และดำเนินคดีได้ โดยที่ไม่จำเป็นที่ต้องตั้งด่าน ซึ่งเป็นอำนาจที่กฏหมายได้ให้ไว้ เปรียบเทียบกับตำรวจแผนกอื่น เช่นกรณีจับผู้ค้ายาเสพติด คงไม่มีตำรวจประกาศหรือตั้งไฟตั้งกรวยหรอกว่าข้างหน้ามีด่านจะจับยาเสพติด เขาใช้วิธีไล่ ล่า ซุ่มดู ล้อมด้วยกำลัง เพื่อที่จะจับคนที่ค้ายาเสพติด คุณควรจำไว้ว่าเมื่อคุณทำผิดกฏหมาย เจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ในการดำเนินคดี
ที่ผมออกมาตั้งกระทู้ว่าหลงประเด็นหรือปล่าว เพราะปัญหาที่แท้จริงที่คนใช้ถนนเจอ คือการ "ยัดข้อกล่าวหา" ยกตัวอย่างเช่น
1.วิ่งเลนขวาในถนนหลวง(ต่างจังหวัด)ทั้งที่เราแซงหรือถนนเลนซ้ายพังจนไม่สามารถใช้งานได้
2.จับกระบะแถวชานเมืองจับยึดใบขับขี่ เขียนอะไรมั่วๆลงไป ทั้ง ๆ ที่ไม่ผิดกฏหมาย
3.มอเตอร์แซงรถเมล์ในเมืองแต่บอกว่าวิ่งขวา(ส่วนตัวเคยเจอเจ้าหน้าที่บอกให้รถเก๋งคันหน้าหยุด แล้วน้องผมเลยเบี่ยงขวาออก ยังไม่เลยไปเลนที่สองด้วยซ้ำ) แต่โดนข้อหาขับขวาทั้งวิ่งซ้ายมาตลอด
4.ยัดข้อหาแปลงสภาพรถทั้ง ๆ ที่มันเป็นของเดิมจากโรงงาน
5.เจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนใหญ่ไม่เคยแจ้งข้อกล่าวหาก่อน แต่จะยึดใบขับขี่ก่อน เดี๋ยวข้อหาจะตามมา บางคนเคยเจอแบบพูดอย่างหนึ่ง แต่เขียนอีกอย่างหนึ่ง
และกรณีเพิ่มเติมคือใบสั่งเถื่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีความผิดตามกฏหมายหนักมากผิดหลายกระทงและทำเป็นขบวนการ ทำไมผมถึงกล้าบอกว่าทำเป็นขบวนการเพราะเจ้าหน้าที่ออกใบสั่งอยู่อีกที่ ต้องไปชำระค่าปรับที่สน.ซึ่งมีเจ้าหน้าที่รับชำระอีกทีถ้าไม่ทำร่วมกันคงไม่รับชำระหรอก เห็นก็รู้แล้วว่าปลอม แต่ก็ไม่เคยมีข่าวลงว่าดำเนินคดีเจ้าหน้าที่แม้แต่ข่าวเดียว หรือแม้แต่ข่าวว่าจะสืบสวนสอบสวนในเรื่องนี้ ประชาชนเป็นแสนรู้แต่ตำรวจไม่รู้เป็นไปได้ยังไง
เวลาประชาชนจี้มาก ๆ จนเป็นข่าว ก็จะมีพวกยศใหญ่ออกมาพูดขอตรวจสอบก่อน ว่าเป็นตำรวจจริงหรือปล่าว แต่ประชาชนไม่สามารถโต้แย้งอะไรได้เลย แม้เวลาขอให้แสดงตัวก็ไม่ทำ เครื่องแต่งกายตำรวจจราจรสมัยนี้เปลี่ยนหมวก ใส่แว่นดำ ใส่ผ้าปิดปาก สวมเสื้อกั๊กส้ม เพื่อความปลอดภัยหรือปกปิดตัวตนก็ไม่รู้ ผมแนะนำให้สั่งหมวกรุ่นใหม่ที่ได้มาตรฐานมาหลาย ๆ แบบให้เจ้าหน้าที่เลือกใช้และตีเลขกำกับเหมือนเดิม ส่วนเครื่องแบบก็เปลี่ยนเป็นสีสะท้องแสงไปเลยป้ายชื่อจะได้อยู่ด้านนอก ส่วนแว่นดำผ้าปิดจมูกก็ใส่เหมือนเดิมได้ ที่อยากให้เปลี่ยนเพราะจะได้ระบุไปเลยว่าเจ้าหน้าที่คนนี้ชื่อนี้ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ประชาชนจะได้ไม่เหมารวมองค์กรตำรวจ
จะด่านลอยหรืออะไรก็แล้วแต่ คุณทำผิดกฏหมายเจ้าหน้ามีสิทธิ์จับ เลิกสนใจเรื่องด่านลอยเถอะ สนใจเรื่องที่เป็นปัญหาหลักคือตำรวจ "ยัดข้อหา" ที่เราไม่ผิดดีกว่า กฏหมายมีวรรคสอง วรรคสาม มีข้อย่อย ข้ออนุโลม แต่ตำรวจบางคนก็คิดจะเอาแต่ได้ หลอกกินเงินประชาชนมาหลายสิบปี
เคยมีตำรวจดีมาเผยข้อมูลแย่ ๆ ของหน่วยงานตำรวจ ตำรวจนายนั้นกลับถูกคาดโทษในเรื่องทำให้องค์กรเสื่อมเสีย แต่กลับไม่มีใครแก้ไขเรื่องเลว ๆ ที่ทำ ชื่อเสียงองค์กรไม่ว่าที่ไหนจะดีหรือเลวขึ้นอยู่กับการกระทำไม่ใช่การปกปิดความเลว ถ้ายังปล่อยหรือยังเลี้ยงคนเลวอยู่มันไม่มีทางที่ภาพลักษณ์จะดีขึ้นได้ จะหลอกตัวเองไปทำไมได้ผลประโยชน์อะไรทำไมไม่เปลี่ยนแปลง