คนที่เค้าเลื่อนลอยจนเหมือนมีบาเรียคลุมอยู่นี่เค้าอยู่กับคนปกติได้มั้ยคะ

อันนี้อาจจะดูเหมือนนินทานะคะแต่เผอิญว่าเราก็เดือดร้อนเลยอยากขอความเห็น

คือเรามีลูกน้องคนนึง เค้าจะมีอาการเลื่อนลอย บางทีก็ยิ้มอ่อนเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้แล้วยิ้มคนเดียว
จริงๆมันก็คงจะไม่มีปัญหาอะไรเพราะเราก็เป็นคนนึงที่โลกส่วนตัวสูงก็พอทำใจว่าอยู่ร่วมงานกันไปไม่ยุ่งเรื่องในหัวนาง แต่ว่ามันดันมีปัญหาคือ
ร้านเรามันเป็นร้านให้บริการจะทำอะไรมันต้องสื่อสารกับลูกค้าให้ชัดเจนว่าเค้าต้องการอะไร
แต่คือใครพูดอะไรกับเค้าเหมือนมันจะเข้าหัวไปแบบช้า เหมือนต้องอาศัยการโหลด แล้วก็แบบไม่ค่อยเข้าหัวไปทั้งหมดอะค่ะ

ทีนี้ความสาหัสคือถ้าข้อมูลที่รับไปมันขัดกับข้อมูลในหัวนางนางก็จะไม่รับไปประมวลผลเลย จะดื้อทำไปตามความคิดนางเอง

ฟังดูเหมือนเอ๋อแต่นางกลับทำงานบางอย่างได้ดี ตรงนี้แหละที่ทำให้เราสงสัยว่าเค้าอยู่กับคนปกติได้มั้ย คือเอาง่ายๆว่าถ้าปล่อยให้นางทำไปตามที่นางคิดยกตัวอย่างเช่นนางคิดถึงบีแล้วเราปล่อยนางทำไปนางจะทำบีออกมาอย่างประดิษฐ์ประดอยสวยงามมากโดยที่ไม่มีการรับรู้ว่าลูกค้าสั่งเอ!

ทีนี้พอเรียกมาคุยนี่เหนื่อยเลย คุยไม่จบซักประเด็น พอบอกนางว่าทำไมทำอย่างนี้ในเมื่อลูกค้าจะเอาอย่างนี้ นางก็บอกว่าลูกค้าพูดอย่างนี้ๆๆ(คำพูดเหมือนกันแต่ไม่รู้อีท่าใหนผลลัพสุดท้ายแปลได้คนละเรื่อง) บอกนางว่าอย่าเอาครีมนี้ไปใส่โดยลูกค้าไม่ระบุ นางบอกไม่ได้ใส่(รอบนี้ชัดเจนว่าเรื่องนี้โกหกแบบดื้อตาใสแต่บางครั้งก็ดูเหมือนไม่ได้โกหกเหมือนแค่ทำไปตามสัญชาตญาณแล้วจำตัวเองไม่ได้เลย)
พอกดดันไปเรื่อยๆพยานแบบเห็นกับตามายืนยัน นางบอกใส่ตามเพื่อนอีกคน(อันนี้บอกตรงๆว่าดูไม่ออกว่าแค่โกหกหรือนางหลอนจริงเพราะเพื่อนอีกคนใส่ครีมอีกตัวและไม่เคยทำแบบนางถ้าลูกค้าไม่ระบุเอง) เรียกเพื่อนคนที่นางอ้างมาเคลียร์ว่าเคยทำแบบนี้หรือไปสอนอะไรนางตั้งแต่เมื่อไหร่ เพื่อนบอกไม่เคยทำเลยใช้อีกตัวตลอดยกเว้นลูกค้าระบุ นางบอกอ้าวงั้นเพื่อนเอาครีมตัวนั้นมาใส่ขวดที่นางใช้รึเปล่าทำไมได้ผลเดียวกัน(เอามาเขียนแล้วดูเหมือนนางแหลแต่สถานการณ์คือมันดูเหมือนนางคิดของนางอย่างนั้นจริงๆคือคิดไปเรื่อยๆ).

มีอีกหลายประเด็นเลยที่นางยืนยันว่านางทำตามคำสั่งแต่เหมือนรับคำสั่งไป10%แล้วไปผสมกับ90%ในหัวตัวเองแล้วได้อะไรมาไม่รู้

ล่าสุดที่คุยกันเหมือนนางมีอาการหลอนร่วมด้วย เรื่องของเรื่องก็คือนางหยิบของเพื่อนเก็บสลับกับของตัวเองเจ้าของและหลายๆคนก็เห็นแต่กำลังทำงานติดพันก็กะว่าเดี๋ยวพอเสร็จแล้วก็ไปแลกคืน เรื่องควรจะเล็กและจบง่ายๆแต่มันไม่ง่ายเมื่อนางโวยวายตอนที่เพื่อนกำลังจะคืนบอกว่าเพื่อนเอาของๆนางไป(อ้าว) แถมไม่มีการยอมเปิดกระเป๋ายืนยันเสียงแข็งว่านางไม่มีทางหยิบของคนอื่นเพราะของๆนางมีลักษณะเฉพาะไม่มีทางมองผิด จนสามีนาง(ซึ่งดูจะชินกับเรื่องแบบนี้ของภรรยาต้องเข้ามาเคลียร์เอาของคืนไป แต่นางยังคงยืนยันว่าเพื่อนต้องการใส่ร้ายนางจึงนำมันมาใส่กระเป๋านาง

จากเรื่องหนึ่งก็พาไปอีกเรื่องหนึ่ง ความบาดหมางจากเรื่องของลามไปถึงเรื่องส่วนตัวเมื่อนางพูดว่าเพื่อนแกล้งเอาหนูตายมาใส่อาหารที่นางกินทิ้งเอาไว้!!! กลายเป็นเราต้องบอกนางว่าถ้ายืนยันอย่างนี้ต้องเอาเรื่องไปคุยกับตำรวจแล้วนะ ถ้าจะยืนยันว่าโดนแกล้งจริงๆ(ที่นางพูดมีเรื่องอื่นอีกแต่หนูนี่คือล่าสุด บอกตรงๆว่าเราไปไม่ถูกแล้วว่าอันไหนแหลอันไหนหลอนเวลาเรียกคุยคือมันไหลไปเรื่อยๆจนหลุดประเด็นไปเลย เหมือนพูดกับผัก ปลา)

ก็อย่างที่เล่ามาถ้าเราเขียนให้เข้าใจผิดก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ พอเครียดๆแล้วมันก็เรียบเรียงไม่ค่อยถูก เราอยากรู้ว่านี่เป็นอาการที่จะอยู่กับคนปกติได้ใช่มั้ยคะ มีทางแก้บ้างมั้ยจริงพอมันกระเทือนลูกค้าเราก็อยากให้ออกนะคะแต่เราทำใจยังไม่ค่อยได้สงสารนาง ทุกวันนี้แค่เดินทางจากบ้านมาที่ทำงานบางทีนางยังหลง เกิดให้ออกไปไม่รู้ว่านางจะเอาที่ไหนเลี้ยงลูก เราไม่รู้ว่าที่เป็นอย่างนี้เพราะนางไม่กินข้าว(วันๆนึงนางทานข้าวน้อยมากน้องๆเคยถามโดนนางจวกกลับเรื่องอ้วนเลยไอ้เราก็อ้วนเหมือนกันเลยหุบปากเลย) หรือกินแต่อาหารเสริมเยอะไปหรือเปล่า ถ้าใครพอรู้หรือเคยเจออาการแบบนี้แล้วรู้ทางแก้ก็ช่วยบอกหน่อยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่