ปฎิกริยา ซิงเกิลเกดเวย์ สำหรับ สังคมการเมือง

ในกรณี ปฎิกริยา ซิงเกิลเกดเวย์ ในขณะนี้มีจุดเริ่มต้นมาจาก มติ ครม. ของ รบ.ปัจจุบัน ให้มีการจัดตั้งเส้นทางสื่อสารในระบบอินเตอร์เน็ตให้มีจุดผ่านโดยจุดเดียว (ซิ่งเกิลเกดเวย์) โดยคำสั่งต่อหน่วยงานของรัฐ ให้เร่งรัดดำเนินการ ออกเป็นทางการไปแล้ว คำสั่งที่เป็นมติ ครม. ก็คือการตัดสินใจร่วมหรือเป็นเจตจำนงของผู้ดำรงค์ตำแหน่งเป็น รบ.ทั้งหลาย การถอนมติ ครม. ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตามเป็นเสมือนการยอมรับ ว่ามติ ครม. เป็นลักษณะการสารภาพในตัว ถึงการลงมติที่มิชอบอันย่อมมีผลถึงการต้องรับผิดชอบตามมาโดยปริยาย และในภาพรวมก็คือ การขาดสมัตรภาพในการดำรงค์ตำแหน่งเป็น รบ. ต่อไปโดยทันที อันนี้คือเหตุผลหลัก ที่ทำให้ไม่สามารถถอนคำสั่งหรือมติ ครม. ได้ ครับ

ในขณะเดียวกัน กลุ่มชนผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตทั้งหลาย มีมุมมองถึง คำสั่ง โดยมติ ครม. ให้ดำเนินการจัดตั้งระบบ ซิงเกิลเกดเวย์ เป็นการริดรอนสิทธิเสรีภาพอันชอบธรรมพื้นฐานของบุคคลที่ใช้บริการอินเตอร์เน็ตทั้งหลาย รวมทั้งมีผลกระทบกระเทือนในด้านเศรษฐกิจโดยรวมอีกด้วย อันเป็นเหตุผลของการเรียกร้องให้ รบ. ถอนมติ ครม. รวมทั้งให้ข้อประกันว่าจะไม่นำโครงการ ซิงเกิลเกดเวย์ มาดำเนินการจัดตั้งอีก การยุติขบวนการต่อต้านเรียกร้อง ก็หมายถึงการยินยอมและยอมรับการถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพอันชอยธรรมของตัวเองในการใช้บริการอินเตอร์เน็ตในอนาคต ของเขาทั้งหลาย นั่นเอง อันก็เป็นผลทำให้ขบวนการต่อต้านเรียกร้อง ก้าวสู่ปฎิกริยาต่อต้านกับระบบอินเตอร์เน็ต ในรูปลักษณะต่างๆ ของ รบ. ขึ้นมาในขณะนี้ นั่นเองครับ

ปัญหาก็คือ ระบบการใช้บริการอินเตอร์เน็ตของ รบ. ที่มีระบบการรักษาความปลอดภัยในระดับสูงจริงอยู่ แต่ก็มิได้หมายความว่า จะปลอดช่องโหว่ในการเข้าถึง อันเปรียบเสมือนกับตู้นิรภัยที่สามารถเข้าออกได้โดยมีระบบรักษาความปลอดภัยในตัวเอง ผู้ที่จะเข้าถึงภายในตู้นิรภัยได้ ตามปรกติก็คือผู้ที่มีความชอบธรรม หรือมีผู้กุญแจสำหรับผ่าน แต่ทั้งนี้สำหรับผู้เชี่ยวชาญที่อาศัยช่องโหว่ของระบบ หรือผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือจากผู้ที่อยู่ภายในของระบบที่ทำให้สามารถเข้าถึงภายในได้ เช่นกัน ไม่ว่าผู้ที่สามารถเข้าถึงระบบภายในจะเป็นไปโดยชอบธรรมหรือไม่ก็ตาม คือผู้ที่สามารถสร้างความเสียหายให้กับระบบอย่างคาดคำนวนมิได้โดยทันที ในระดับของปฎิกริยาที่เรียกว่า “ฝูงบิน เอฟ ๕” ไม่สามารถทำความเสียหายให้กับระบบได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพียงแต่ทำให้เกิดระบบขัดข้องชั่วคราวได้เท่านั้น แต่ที่น่าเป็นห่วงถ้ามองจากลักษณะแถลงการและให้เวลากับ รบ.ในการปฎิบัติตามข้อเรียกร้อง ก็คือสมัตรภาพความสามารถในการเข้าถึงภายในของระบบอินเตอร์เน็ตของ รบ. มีเพียงพอนั่นเอง ครับ

ปฎิกริยาต่อต้านเรียกร้อง ของกลุ่มผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตหรือผู้สนับสนุน เป็นกรณีที่มิสามารถโต้ตอบได้ด้วยกำลังพลและอาวุธยุโธปกรณ์สงคราม แต่จะใช้ได้เฉพาะในระดับวิชาการและเทคโนโลยี่ของบุคคลากรของรัฐ และถ้าฝ่ายต่อต้านสามารถเข้าถึงภายในของระบบอินเตอร์เน็ตฯ (อินทราเน็ต หรืออินเตอร์เน็ตวงจรปิด) โอกาศที่จะมีปฎิกริยาควบคุมคุ้มครองและป้องกันอันตรายของผู้มีสมัตรภาพและความเชี่ยวชาญของฝ่าย รบ. มีน้อยมากคือน้อยกว่า “๐” เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็สามารถเชื่อได้ว่า รบ. กำลังประสพปัญหาที่แก้ไม่ตก ครับ

ความเป็นไปได้ก็คือ ในขณะนี้ฝ่ายต่อต้านน่าจะได้มีการส่งตัวปฎิบัติการ (โปรแกรม หรือ ตัวไวรัส) เข้าอยู้ในระบบภายในเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่รอสัญญานการปฎิบัติการอยู่เท่านั้น การตรวจสอบค้นหาตัวปฎิบัติการเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาและบุคคลากรด้านวิชาการจำนวนมาก อันเป็นสิ่งที่เกินพิกัด ความสามารถของบุคลากรที่มีอยู่ในขณะปัจจุบัน ฉนั้นควรจับตาดูการแก้ปัญหา ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่