[CR] โ ต เ กี ย ว . . . เที่ยวไม่ยากอย่างที่คุณคิด !! (100รูป)

สวัสดีค้าบบบบบบบ เพื่อนๆชาวพันทิปทุกๆท่าน ยิ้ม เนื่องด้วยเมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสไปเยือนประเทศญี่ปุ่น  เป็นประเทศที่เคยใฝ่ฝันไว้ตั้งแต่วัยเด็กแล้วว่าสักครั้งนึงในชีวิตจะต้องไปแตะให้ได้  และแล้ววันนั้นมันก็มาถึง เย้เย้! 5555555 เจ้าคิกคัก



           ผมไปอยู่โตเกียวมา 6วันเต็มๆ... ตอนแรกตั้งใจว่าจะกลับมารีวิวแบบละเอียดยิบเหมือนที่เคยทำไว้ตอนไปประเทศเกาหลีใต้ http://ppantip.com/topic/33945200 แต่พอดีทริปนี้มีผู้ติดตามไปด้วย เป็นหลานสาวน่ารักน่าชังสองคน วัยกำลังคึกคนองเลย คนนึงอายุ1ขวบ อีกคนอายุ4ขวบ โอโห! คิดสภาพตามผมนะ หลังสะพายเป้ เท้าเดิน ตามองป้ายบอกทาง มือข้างซ้ายเปิดกูเกิ้ลแมพ มือข้างขวาจูงหลาน 55555555555555 รักเด็กมากกกก เลยไม่ได้เก็บข้อมูลหรือภาพแบบละเอียดๆมาเท่าที่ควร แต่ก็สนุกดีครับ ผมยังรักหลานผมเหมือนเดิมนะ 5555555 อ้อ! อีกอย่าง รูปทุกรูปในกระทู้นี้ถ่ายด้วยกล้องมือถือซัมซุง note4 เครื่องเดิมกับตอนที่ไปเกาหลีเลยครับ ภาพอาจจะไม่ชัดบ้าง แตกบ้าง ต้องขออภัยด้วยนะครับ ยิ้ม

          มาเริ่มกันเลยดีกว่า เยี่ยม  คือการไปเที่ยวครั้งนี้เป็นการจองเที่ยวบินข้ามปีของสายการบิน thai air asia x (นานนนนนนน จนเกือบลืม) ในราคา 12,500 บาท รวมน้ำหนักกระเป๋าอีก 25 กิโลทั้งขาไปและกลับ ส่วนที่พัก ผมจองโรงแรม new tohoku ใกล้ๆกับสวนอุเอโนะ จาก www.agoda.com ... พอถึงสนามบินดอนเมืองผมก็ทำการเช็คอินน์ที่เค้าเตอร์ของสายการบิน ระหว่างรอเวลาที่เครื่องจะเทคออฟ มองไปรอบๆผู้โดยสารเยอะมาก คนไทยเยอะมาก มีกรุ๊ปทัวร์อีก 2 3 กรุ๊ป เสียงดังกึกก้องเหมือนยืนอยู่หน้าเวทีคอนเสิร์ตมารูนไฟว์ ส่วนหลานผมก็ไม่แพ้กัน ร้องไห้แข่งกับกรุ๊ปทัวร์มันซะเลย 555555555555555555

นี่เป็นหน้าตาเงินเยนที่ผมแลกไปจากไทย (เป็นรูปแนวตั้งรูปเดียวในรีวิวนี้)



          พอถึงสนามบินนาริตะป้าบบบบบบ! ก็ต่อคิวพบปะสังสรรค์กับตม.ญี่ปุ่น ทักทายกันตามปกติ ไม่ได้ซักถามอะไรเป็นพิเศษ แต่จุดพีคมันอยู่ตรงที่ เมื่อเราผ่านตม.มาแล้ว ลงมารอรับกระเป๋าที่โหลดไว้เรียบร้อย จะต้องผ่านอีกด่านนึงคือด่าน ศุลกากร โอโหหหหหหห(ห.หีบ ล้านตัว)!!!!!! ซักประวัติตั้งแต่พ่อแม่ ที่อยู่ จะไปเมืองไหน มากี่วัน มาทำอะไร อยู่นานมั้ย มีเงินสดติดตัวเท่าไหร่ มีตั๋วบินกลับหรือยัง ที่พักหล่ะได้จองไว้รึป่าว เพี้ยนลุย นึกว่าสอบท่องคอนเวอร์เซชั่นกับครูสอนภาษาต่างประเทศ 555555555 ถามเยอะมาก แต่กับบางคนก็ไม่โดนนะ พอผ่านออกมาก็เดินทางรถไฟเข้าเมืองครับ ผมเลือก keisei แบบ skyliner แล้วก็ซื้อตั๋ว 2 day pass ของรถไฟฟ้าใต้ดินมาเลย ราคาคุ้มสำหรับนักท่องเที่ยวมากๆ แนะนำครับ นานาจักรยาน

          41นาที จากสนามบินนาริตะ ถึงสถานีรถไฟใต้ดินอุเอโนะ(ueno) โรงแรมผมต้องเดินออกทางออกที่ 2 แล้วเดินต่ออีก 3 นาทีก็ถึงเลยครับ เราก็ทำการฝากกระเป๋ากับอาซิ่มที่ฟร้อนเรียบร้อย จากนั้นมุ่งหน้าไปหาของกินที่ตลาดอะเมโยโกะ(ameyoko) เดินจากโรงแรมมาแค่ 5นาทีเองก็ถึงแล้ว ตลาดอะเมโยโกะก็มีพวกของสด อาหาร เสื้อผ้า รองเท้า ร้านเกม ขนม จะแบ่งเป็นสองซอยครับ ซอยทางซ้ายคืออะเมโยโกะ ส่วนทางขวาคืออูเอจุน ร้านค้าก็จะปนๆกันไป


ปลาทะเล ปู หอยนางรม มีครบ ราคาถูก


ร้านขายผลไม้ก็มีตลอดทาง



เดินได้ซักพักเจอร้านผลไม้ที่เค้าขายแบบเสียบเป็นไม้ๆ


สตรอเบอรี่ไม้ละ 200เยน นอกนั้นก็มีแคนตาลูป แตงโม สับปะรด


ขนมปลาไทยากิแบบห้างเอ็มควอเทีย


          ขนมปลาไทยากิมีสองไส้ครับ ถั่วแดงกับคัสตาท อันละ 210เยน อร่อยมาก แป้งเป็นแป้งเพสตรี กรอบๆ ไส้ก็หวานกำลังดี... หลังจานั้นก็เดินมั่วๆไปปะทะเข้ากับร้านราเมงร้านนึง เห็นเป็นร้านใหญ่ที่นั่งเยอะ ไหนๆก็ไหนๆแล้วอย่ารอช้า จัดแจงรีบเข้าไปนั่งในร้าน พนักงานต้อนรับอย่างดิบดี และยื่นเมนูให้ เท่านั้นแหละครับ! น้ำตาเกือบจิไหล เมนูมันเป็นภาษาญี่ปุ่น 55555555 แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาของผมหรอก สั่งมั่วๆไปนั่นแหละ น่าตาราเมงออกมาเป็นแบบนี้

          ชามใหญ่มากกกก ตอนกินไปคำแรกนี่รู้สึกเลยครับ ว่า ถ้าเรากินหมดชามนี่เราจะอิ่ม... แต่อิ่มไปพร้อมกับเป็นโรคไตระยะเริ่มต้น! เม่าเนิร์ด คือมันเค็มมมมมมมมมมมม มากกกๆๆๆ แต่โดยรวมก็โอเคนะสำหรับมื้อแรกของที่นี่ ราคาก็ไม่แพง ประมาณ 700เยนเห็นจะได้

          เมื่อเสร็จภาระกิจการพิชิตโรคร้ายกับราเมงที่นี่แล้ว เราก็จะไปกันต่อที่วัดเซนโซจิ(senso-ji) หรือวัดโคมแดงอาซากุสะที่คนไทยพูดกันติดปาก... ยืนใต้ดินไปครับ ยืนไปลงสถานีอาซากุสะ(asakusa) ออกทางออกที่1 แล้วเลี้ยวซ้ายแบบหักมุม เดินตรงอีก 300เมตรจะเห็นโคมแดงสูงเด่นดึงดูดตา พอเดินผ่านประตูวัดชั้นแรกเข้าก็จะเจอกับ ถนนนากามิเสะ (nakamise-dori)

          ถนนนากามิเสะเป็นถนนขายของกว่า 90ร้านค้า ตรงยาวมุ่งสู่กลางวัดเซนโซจิ สินค้าตามร้านพวกนี้ก็จะมี ภาพวาดสีน้ำ พวงกุญแจ แม่เหล็กติดตู้เย็น และที่ขาดไม่ได้เลยคือ แมวกวัก มีทุกร้าน มีทุกเวอร์ชั่น จะกวักเดี่ยว กวักคู่ กวักมือข้างเดียวหรือสองข้างก็มีหมด ส่วนราคาก็ตั้งแต่ 400เยนไปจนถึงหลานพันเยนเลยครับ...   ส่วนร้านไอติม 33 รส หรือร้านซาลาเปาทอดนี่ ผมไม่ได้กิน 5555555555 ก็อิ่มราเมงอยู่อ่ะ โทษๆ เพี้ยนกิน

ถนนก็ไม่ได้ยาวนะ แต่ทำไมเดินไม่ถึงซะที เม่านักช้อป



เฮ้ยย! ถึงแล้วววววววววววววว เย้เย้



          เข้ามาถึงในบริเวณนี้ก็อย่ารอช้าสิ่ครับ ตรงไปยังบ่อน้ำรูปหัวมังกร เพื่อล้างไม้ล้างมือเป็นการล้างสิ่งไม่ดีออกจากร่างกาย โดยเริ่มจาก
- ล้างมือซ้าย
- ล้างมือขวา
- เทน้ำใส่มือซ้ายเพื่อบ้วนปาก
- ล้างมือซ้ายอีกครั้ง
- ล้างกระบวยให้น้ำไหลลงมาในแนวตั้ง เป็นอันจบครบถ้วนกระบวนความ

          ติดๆกันจะมีร้านขายธูป ก็ไปซื้อธูปคนละ1กำ ราคา 100เยน จุดธุปเสร็จก็ไปปักบนกระถางธูปที่ตั้งอยู่กลางวัด พร้อมกับกวักควันธูปเข้าหาตัวเอง เชื่อว่าเป็นการนำสิ่งดีๆเข้ามาสู่ชีวิต

          ถ้าดูจากรูปนี่จะรู้สึกได้ว่าเป็น 100เยนในการซื้อธูปที่บันเทิงมากๆ ทุกคนกวักควันธูปกันอย่าเมามันส์ เอาสนุกไว้ก่อน มีบางคนกวักควันธูปเข้ากระเป๋ากางเกง ผมก็พอเข้าใจนะว่าเงินทองจะได้ไหลมาเทมา แต่อาซ้อข้างๆผมนี่สิ่ครับ กวักเข้ากระเป๋าตังทุกช่อง กระเป๋าใส่เศษเหรียญ และจบด้วยกระเป๋าสะพายข้าง...... เอิ่มมมม คือ อาซ้อครับ จริงจังไปมั้ยครับ 100เยนเองนะครับเนี่ย กะจะเป็นเศรษฐีเลยหรอ 5555555555

          
จากนั้นเราไปต่อกันที่ด้านในของวัด


          ยืนด้านหน้าองค์พระประธาน โค้งคำนับ1ครั้ง แล้วโยนเหรียญ 5 เยนลงในกล่องรับบริจาก (5 ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียงว่า โกเอน ไปพ้องเสียงกับคำว่า เอน ที่แปลว่าโชคดี) แต่วันนั้นผมโยนเหรียญ10เยนนะ ก็เหรียญ 5 มันไม่มีอ่ะ ให้ทำไง ปัดโธ่!! พาพันเศร้า  หลังจากนั้นโค้งคำนับอีก 2 คร้ง ปรบมือตามอีก 2 ที และพนมมือขึ้นอธิษฐาน ตามด้วยโค้งคำนับอีกหนึ่งครั้ง...  จากนั้นใครจะไปเสี่ยงเซียมซีก็แล้วแต่สะดวก 100เยนก็หยอดตู้ไป โชคดีก็พับใส่กระเป๋า โชคไม่ดีก็ไปผูกไว้กับราวที่ทางวัดเตรียมไว้ให้

          จากนั้นผมจะไปถ่ายรูปเก็บบรรยากาศบริเวณทางเดินริมแม่น้ำสุมิดะ โดยเดินย้อนกลับไปทางสถานีรถไฟใต้ดินที่เดิม แต่ให้เลี้ยวซ้ายไปอีกทางนึง อยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่
วิวแรกที่ได้คือวิวจากตึกเบียร์อาซาฮี


มาถ่ายหอคอย tokyo skytree แบบเดี่ยวๆบ้าง



          ต่อจากนั้นผมก็จะไปซื้อหุ่นกันดั้ม แล้วก็อัพเดทเรื่องกล้องที่ห้างโยโดบาชิ(yodobashi) ที่อากิฮาบาระ(akihabara) พอไปถึงก็เดินเพลินๆแทบไม่ได้ดูอะไรเลยครับ ผมไปใช้เวลากับไอ้เจ้าตู้กาชาปองเป็นเวลานานมาก กดหลายตู้มาก รังเรกับการใช้จ่ายในตู้กาชาปองอยู่นาน 5555555555555555 สุดท้ายก็ได้กลับมาหลายตัวอยู่เหมือนกัน


          เมื่อเล่นกาชาปอง กับซื้อกันดั้มจนหนำใจแล้วก็กลับโรงแรมครับ ซื้อข้าวกล่องของร้าน lawson มากินในห้อง แต่ลืมถ่ายรูปมา อร่อยมาก อร่อยทุกอย่างเลย แต่ราคานี้พอกับนั่งกินตามร้านเลยนะ
ชื่อสินค้า:   ทริปโตเกียวเพียวๆ 6วัน5คืน งบเที่ยวไม่กี่หมื่น แต่งบของฝากเกือบแสน 5555555555
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่