[CR] Grytviken สิงโตทะเลและสถานีล่าปลาวาฬร้างแห่งดินแดนน้ำแข็ง

เรื่องเล่าของแอนตาร์คติก้ายังไม่จบ หากยังไม่ได้เขียนถึงเรื่องของ สิงโตทะเลและแมวน้ำ ที่อาศัยกันแน่นเอี๊ยดหลายพันตัว

มีสถานที่อีกแห่งที่คนไทยน้อยคนนักจะรู้จัก
South Georgia ดินแดนโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักรที่ไปอยู่ไกลถึงติ่งขั้วโลกใต้
แหม...จะขยันล่าอาณานิคมกันไปไหนนะท่าน หนาวขนาดนี้ยังจะมายึดดินแดนเค้าอีก

สถานที่เราออกสำรวจคือ Grytviken หรือ สถานีล่าปลาวาฬ

เอาภาพจากอินเตอร์เนตมาประกอบ

อ่ะ... มาฟังประวัติค่ะ
ใต้สุดของโลก ในช่วงต้นของ ศตวรรษที่ผ่านมา มีอุตสาหกรรมหลายสิบบริษัท มาตั้งรกรากดำเนินการล่าปลาวาฬ สร้างอุตสาหกรรม เนื่องจากได้ผลกำไรสูง และที่แห่งนี้เคยมีคนอาศัยถึง 500 คน เมื่อเป็นหมู่บ้านย่อมๆ ก็ย่อมต้องมีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ มีโบสถ์ แถมมีแม้กระทั่งสุสาน
ที่นี่... มีปลาวาฬต้องมาสังเวยชีวิตที่นี่กว่า 53,761 ชีวิต
ต่อมา เมื่อธุรกิจการล่าปลาวาฬไม่เฟื่องฟู ปลาวาฬเริ่มฉลาด ล่ายากขึ้น ( อันนี้พูดเองนะ ) ชาวบ้านก็เริ่มทยอยย้ายก้นกันออกไป และปล่อยให้เกาะแห่งนี้เป็นที่รกร้าง ถูกทำลายโดยหิมะและน้ำแข็ง เหลือไว้แต่ ซากเรือ ซากโรงงานปรักหักพัง
มีแม้แต่โครงกระดูกปลาวาฬ ทำให้เราสงสัยว่า กระดูกใช้เวลากี่ปีในการย่อยสลาย
และแล้วเมื่อไม่มีมนุษย์อาศัย ประชากรใหม่ๆจึงย้ายมาทดแทน ได้แก่ เพนกวินน้อย , แมวน้ำ และ นักท่องเที่ยว 
วันนี้ Grytviken กลายเป็น พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่รายล้อมไปด้วย สิงโตทะเล แมวน้ำ และเพนกวิน ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ผ่านมาขั้วโลกใต้ ให้แวะมาเยี่ยมเยียนเสมอ  ถึงจะไปสำรวจพิพิธภัณฑ์มาหลายที่ สถานที่ไหนที่ได้ชื่อว่า พิพิธภัณฑ์ ที่นั่นคนเป็นพันๆ ยกเว้นที่นี่แหละที่เดียว มาสำรวจรอบบริเวณกันมั้ย แล้วนับดูว่ามีคนในภาพกี่คน 

ในพิพิธภัณฑ์ บรรจุเรื่องราวในอดีต มีโครงกระดูกสัตว์ขั้วโลกใต้เต็มไปหมด
นกที่พบในขั้วโลกใต้
และ...แมงมุมขั้วโลกใต้ เฮ้ย หนาวขนาดนี้รอดได้ไง
ขนนกเพนกวิน ของจริงนะเนี่ย เพราะเค้าไม่อนุญาตให้จับเพนกวิน ดังนั้นนี่คือตัวอย่างของขนเพนกวินจากตัวจริง
เราไม่รอช้า ไปสำรวจชั้นขนทันที พอได้จับปุ๊บ เข้าใจเลยว่าทำไมเพนกวินถึงทนหนาวได้ เพราะขนจนถึงชั้นหนัง หนามาก อุ่นมาก ถ้ามีไขมันด้วย คงจะหนานุ่มกว่านี้แน่

ปล. หนีบคอเพนกวินไว้ซะแน่น เพราะกลัวคนจะขโมย

ออกมาสำรวจนอกบริเวณ จะเจออะไรบ้าง

" เพนกวิน " พันธ์ุ King Penguin

เอามาลงให้ดูชัดๆว่า เดินผ่านไป และเราอยู่ใกล้ชิดกันมากๆ

ไม่รู้นางมาจากไหน นางยืนทื่อจนคิดว่าเป็นนกปลอม เข้าไปใกล้ ก็ไม่มีทีท่ากลัวคน หรือขยับหนีแล้วนางก็เดินผ่านไปช้าๆ ถึงได้เข้าใจว่า นางยังมีชีวิต

สัตว์อีกชนิดที่มาแล้วเจอแน่ๆคือ " สิงโตทะเล "
เห็นว่าอยู่กันเป็นครอบครัวน่ารักแบบนี้ แต่จริงๆแล้วดุนะ
เป็นเรื่องที่อบรมกันก่อนลงมาที่นี่เลย ถ้าสิงโตทะเล วิ่งเข้ามาทำร้าย ทำยังไง

ห้ามกรี๊ด ห้ามวิ่ง - เพราะสองอย่างนี้ เป็นจุดสนใจเรียกตัวอื่นให้มารุม
พวกมันจะกลัวเสียงดัง ฉะนั้นให้หาหินใหญ่ๆมา เคาะเป็นจังหวะ จะแรพ ฮิปฮอป รำวง เคาะไป มันจะถอยห่างไปเอง

สรุป ทุกคนที่มา กระหน่ำ เคาะหิน เสียงดังจนแทบเอาหินซัดหัวคนเคาะ (แต่ทำไม่ได้ เพราะเราก็เคาะ เด๋วเค้าจะซัดหัวเราแทน)

สิงโตทะเลอยู่ตามทางเดิน เราเดินไปทางไหน ก็เจอมันที่นั่น
เจ้าตัวน้อยนี่ หลงจากแม่มา ร้องแหกปากลั่นเปียกปอน
ส่วนตัวที่นอนอืดๆนี้ มันน่าจะเป็นคนละพันธุ์กัน เพราะขนมันเรียบแปล้ ตัวอ้วนตุ๊บ นอนยิ้มมุมปาก เดินเข้าไปใกล้ก็ยังไม่ตื่น ดูแล้วเหมือนหมอนข้างมาก พันธุ์นี้ไม่ดุเหมือนพวกขนยาว มันนิ่งและนอนเยอะ
ออกสำรวจไกลขึ้น เจอธารน้ำสวยมาก แต่เมื่อฤดูหนาวมาเยือน ที่นี่จะปกคลุมด้วยหิมะ
เจอโบสถ์ ที่ดูเหมือนฉากหนังสยองขวัญ ถ้าฤดูหนาวจะมีหิมะปกคลุมเหมือนหนังเทพนิยาย 555 คนจะความรู้สึกจริงๆ
เดินออกมาไกลขึ้น เจอสุสานที่เคยเกริ่นต้นบล้อกว่า สมัยก่อนมีคอาศัย มีคนเสียชีวิตเค้าก็ประกอบพิธีทางศาสนาบนเกาะนี้เลย
และแล้วเราก็เจอเพนกวินอีก
เพนกวินนเกาะนี้ อยู่แบบโคตรเชื่องช้า
สักฝนก็เริ่มตกลงมา อากาศเย็นมาก คิดดูนะ อากาศไม่ถึง 10 องศาแถมฝนตก
ยิ่งเดินไกล ยิ่งเจอฝูงสิงโตทะเลที่ใหญ่ขึ้น ดูในรูปไม่ใหญแต่ตัวจริงมหึมามาก ตัวโตกว่าคน

เดินต่อไปก็ไม่เจออะไรแล้วค่ะ เกาะเล็กมากๆ เราจึงถอยกลับมาขึ้นเรือ
ก่อนจบแบบห้วนๆสไตล์บล้อกเรา เอารูปความแตกต่างระหว่างสิงโตทะเลสองประเภทมาให้ดูค่ะ ตัวนึงขนเรียบๆหน้าแบ๊วๆ ส่วนอีกตัวขนดุเยอะหน้าร้ายๆ 
ส่วนภาพด้านล่างเป็นสภาพโดยรวมของ Grytviken ณ ปัจจุบัน
ขอบคุณภาพประกอบ
----------จบ--------

มีคนถามหลายคน เราเดินทางยังไง?? 
เราทำงานค่ะ เคยทำสปาบนเรือ เดินทางไปเพราะทำงานจ้า มีเวลาว่างก็แวะลงเที่ยวทุกที่เลย อาจไม่ได้มีเวลาเที่ยวแบบเต็มๆ แต่เที่ยวเก็บประสบการณ์ไปเรื่อยๆ ตอนนี้ไม่ได้ทำงานสปา ไม่ได้ทำงานเรือเเล้วค่ะ แค่อยากมาแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆ ไม่ได้ตั้งใจเขียน Full Review เนื่องจากที่ผ่านๆมาแค่แวะแต่ละประเทศ บางที่เก็บรายละเอียดได้เยอะ บางที่ได้น้อย เริ่มเอาเรื่องการเดินทางมาเขียน เผื่อมีบางทีไปตรงใจใครๆบ้างจะได้ตามรอยกันไป

ใครสนใจอ่านเพิ่มเติมไปอ่านได้ที่บล้อกจ้า เขียนเรื่องการทำงานไว้ด้วย
เพิ่งสร้างเพจเฟซบุคเพจ จะทยอยเอารูปสวยๆไปลงให้ดูนะคะ และจะแปะลิงค์ที่มีสาระเรื่องการเดินทางไว้ให้อ่าน
หรือใครสนใจอยากเห็นสภาพปัจจุบันที่กลายมาเป็นสาวออฟฟิศของเรา ลองแวะเข้าไปที่ IG ได้นะคะ
ทุกเพจใช้ชื่อเดียวกันคือ A Lady Named Fern หรือลองตามไปที่ลิงค์ในโปรไฟล์เราจ้า

ชื่อสินค้า:   Antarctica ขั้วโลกใต้
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่