'วิลาศ'แฉทุจริต กทม.ระดับบิ๊กขนทีมทัวร์นอกทุกเดือน
„"วิลาศ"เล็งยื่น ป.ป.ช.-ป.ป.ง. สอบเส้นทางการเงิน หลังพบ "รองผู้ว่าฯ กทม.
"ขนทีมงานทัวร์นอกทุกเดือน แฉทุจริตอื้อ ทำเงินสะสมลดฮวบ ด้าน "วัชระ"
จี้หัวหน้า ปชป.ทบทวนการทำงานรองผู้ว่าฯ หลังกล้องซีซีทีวีใช้การไม่ได้
วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม 2558 เวลา 14:16 น.“
„เมื่อวันที่18 ต.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์
และอดีตประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร
เปิดเผยถึงความไม่ชอบมาพากลในการใช้งบประมาณของ กทม.ว่า
มีรองผู้ว่า กทม. คนหนึ่ง เดินทางไป
ต่างประเทศทุกเดือน นั่งเครื่องบินชั้นเฟิร์สคลาส และต้องไปจบที่ประเทศฝรั่งเศส และเยอรมัน โดยใช้เงิน
สดซื้อตั๋ว จะเกี่ยวข้องกับกรณีการทำหนังสือเวียนถึงเขตต่าง ๆ ที่ขอให้ตรวจสอบและทำเรื่องมาถึง กทม.
เพื่อขอให้ซื้อรถต่าง ๆ เช่น รถดูดเลน รถดูดไขมัน รถคีบขยะ โดยเป็นการสั่งภายในให้ทำเรื่องเสนอมาพร้อม
กำหนดเสปกไว้ก่อนแล้วหรือไม่
นอกจากนั้นยังมีกรณีแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของ กทม. ไปอยู่ใน
เขตที่มีการสร้างคอนโดมิเนียมจำนวนมาก มีการเรียกค่าเซ็นใบอนุญาตก่อสร้าง ทั้งที่ถูกแบบกลางของ กทม.แล้ว
แต่ก็ต้องเสียค่าเซ็นด้วย โดยพบว่าเจ้าหน้าที่โยธาต้องส่งส่วยเป็นเงินถึง 7 หลัก นอกจากนี้ยังกรณีประมูลงานสร้าง
สวนเฉลิมพระเกียรติ เขตธนบุรี ที่พบว่าบริษัทของคนสนิทของรองผู้ว่าฯ คนหนึ่ง มีการสร้างสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ
ล่วงหน้า ก่อนที่จะมีการเซ็นสัญญา โดยมีการระดม หรือสั่งข้าราชการ กทม.ให้อำนวยความสะดวกให้กับบริษัท
ดังกล่าวทุกอย่าง เมื่อสร้างสิ่งก่อสร้างเสร็จเพิ่งจะมาเร่งรัดกับทางเขตให้รีบเซ็นสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง โอยอ้างว่า
รองผู้ว่าฯ สั่งมาให้รีบเซ็น
“รองผู้ว่าฯ กทม. คนดังกล่าวมีการขนทีมงานไปฉลองเกษียณอายุราชการ ที่ประเทศญี่ปุ่น
โดยมีการซื้อสินค้าจากบริษัทคิงพาวเว่อร์ในช่วงโปรโมชั่น ซื้อครบ 5 หมื่น จะแจกตั๋วเครื่องบินไป-กลับญี่ปุ่น 1 ใบ
ปรากฏว่ามีการสั่งซื้อสินค้าลอตเดียว 5 ล้านบาท ได้ตั๋วไป-กลับ 100 ใบ ถามว่าเอาเงินที่ไหนมาซื้อสินค้าดังกล่าว
ใครเป็นผู้ดูแล และยังมีการขนข้าราชการ กทม.ในส่วนบริหารไปเที่ยว
ล่าสุดมีข่าาวว่ากำลังไปเที่ยวสหรัฐฯ อีก 7 คน
”นายวิลาศ กล่าว และว่า ตนขอให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ รวมทั้งจะเสนอกรรมการ
ร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ให้อำนาจ สตง.ฟ้องคดีเองได้ และหลังจากนี้ตนจะนำเรื่องต่าง ๆ พร้อมพยานหลักฐานเอกสาร
และบุคคล เข้าร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) และสำนักงานคณะกรรมการ
ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.)เพื่อขอให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินที่ใช้จ่ายในเรื่องนี้ทั้งหมด ผู้สื่อข่าว
ถามว่าจะมีการนำหลักฐานไปร้องต่อ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.ในฐานะผู้บริหารระดับสูงหรือไม่ นายวิลาศ
กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีคำสั่ง คสช.ห้ามพรรคจัดกิจกรรมทางการเมือง หากทำได้ตนก็จะเสนอเรื่องนี้ต่อที่ประชุมพรรคให้
พิจารณาด่วน และที่ผ่านมาก็ไม่เคยเห็นหน้าผู้ว่าฯ กทม.เลย และไม่รู้ว่าท่านจะเข้าศาลาว่ากทม.เมื่อไหร่
แต่ขอตั้งข้อ
สังเกตเรื่องการใช้งบว่าก่อนหน้านี้ กทม. มีเงินสะสมอยู่ 3 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันลองไปขอตรวจสอบดู เหลือไม่ถึง
2 พันล้านบาท เพราะแต่ละคนมือฉกาจในการทำเรื่องของบประมาณทั้งนั้น ด้านนายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.กทม.
พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จะยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. สอบสวนเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างกล้องซีซีทีวีของ กทม. หลังจากที่มี
ผู้เสียหายซึ่งถูกโจรกรรมทรัพย์สินกว่า 3 ล้านบาท แต่ไม่สามารถดูภาพจากวงจรปิดเพื่อนำไปสู่การจับคนร้ายได้ และ
จะทำหนังสือถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้พิจารณาการดำรงตำแหน่งของนายอมร กิจเชวงกุล
รองผู้ว่าฯ กทม. รวมทั้งการทำหน้าที่ของผู้ว่าฯ กทม.บางรายด้วย.“
อ่านต่อที่ :
http://www.dailynews.co.th/politics/355133
'วิลาศ'แฉทุจริต กทม.ระดับบิ๊กขนทีมทัวร์นอกทุกเดือน
„"วิลาศ"เล็งยื่น ป.ป.ช.-ป.ป.ง. สอบเส้นทางการเงิน หลังพบ "รองผู้ว่าฯ กทม.
"ขนทีมงานทัวร์นอกทุกเดือน แฉทุจริตอื้อ ทำเงินสะสมลดฮวบ ด้าน "วัชระ"
จี้หัวหน้า ปชป.ทบทวนการทำงานรองผู้ว่าฯ หลังกล้องซีซีทีวีใช้การไม่ได้
วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม 2558 เวลา 14:16 น.“
„เมื่อวันที่18 ต.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์
และอดีตประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร
เปิดเผยถึงความไม่ชอบมาพากลในการใช้งบประมาณของ กทม.ว่า มีรองผู้ว่า กทม. คนหนึ่ง เดินทางไป
ต่างประเทศทุกเดือน นั่งเครื่องบินชั้นเฟิร์สคลาส และต้องไปจบที่ประเทศฝรั่งเศส และเยอรมัน โดยใช้เงิน
สดซื้อตั๋ว จะเกี่ยวข้องกับกรณีการทำหนังสือเวียนถึงเขตต่าง ๆ ที่ขอให้ตรวจสอบและทำเรื่องมาถึง กทม.
เพื่อขอให้ซื้อรถต่าง ๆ เช่น รถดูดเลน รถดูดไขมัน รถคีบขยะ โดยเป็นการสั่งภายในให้ทำเรื่องเสนอมาพร้อม
กำหนดเสปกไว้ก่อนแล้วหรือไม่ นอกจากนั้นยังมีกรณีแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของ กทม. ไปอยู่ใน
เขตที่มีการสร้างคอนโดมิเนียมจำนวนมาก มีการเรียกค่าเซ็นใบอนุญาตก่อสร้าง ทั้งที่ถูกแบบกลางของ กทม.แล้ว
แต่ก็ต้องเสียค่าเซ็นด้วย โดยพบว่าเจ้าหน้าที่โยธาต้องส่งส่วยเป็นเงินถึง 7 หลัก นอกจากนี้ยังกรณีประมูลงานสร้าง
สวนเฉลิมพระเกียรติ เขตธนบุรี ที่พบว่าบริษัทของคนสนิทของรองผู้ว่าฯ คนหนึ่ง มีการสร้างสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ
ล่วงหน้า ก่อนที่จะมีการเซ็นสัญญา โดยมีการระดม หรือสั่งข้าราชการ กทม.ให้อำนวยความสะดวกให้กับบริษัท
ดังกล่าวทุกอย่าง เมื่อสร้างสิ่งก่อสร้างเสร็จเพิ่งจะมาเร่งรัดกับทางเขตให้รีบเซ็นสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง โอยอ้างว่า
รองผู้ว่าฯ สั่งมาให้รีบเซ็น “รองผู้ว่าฯ กทม. คนดังกล่าวมีการขนทีมงานไปฉลองเกษียณอายุราชการ ที่ประเทศญี่ปุ่น
โดยมีการซื้อสินค้าจากบริษัทคิงพาวเว่อร์ในช่วงโปรโมชั่น ซื้อครบ 5 หมื่น จะแจกตั๋วเครื่องบินไป-กลับญี่ปุ่น 1 ใบ
ปรากฏว่ามีการสั่งซื้อสินค้าลอตเดียว 5 ล้านบาท ได้ตั๋วไป-กลับ 100 ใบ ถามว่าเอาเงินที่ไหนมาซื้อสินค้าดังกล่าว
ใครเป็นผู้ดูแล และยังมีการขนข้าราชการ กทม.ในส่วนบริหารไปเที่ยว ล่าสุดมีข่าาวว่ากำลังไปเที่ยวสหรัฐฯ อีก 7 คน
”นายวิลาศ กล่าว และว่า ตนขอให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ รวมทั้งจะเสนอกรรมการ
ร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ให้อำนาจ สตง.ฟ้องคดีเองได้ และหลังจากนี้ตนจะนำเรื่องต่าง ๆ พร้อมพยานหลักฐานเอกสาร
และบุคคล เข้าร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) และสำนักงานคณะกรรมการ
ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.)เพื่อขอให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินที่ใช้จ่ายในเรื่องนี้ทั้งหมด ผู้สื่อข่าว
ถามว่าจะมีการนำหลักฐานไปร้องต่อ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.ในฐานะผู้บริหารระดับสูงหรือไม่ นายวิลาศ
กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีคำสั่ง คสช.ห้ามพรรคจัดกิจกรรมทางการเมือง หากทำได้ตนก็จะเสนอเรื่องนี้ต่อที่ประชุมพรรคให้
พิจารณาด่วน และที่ผ่านมาก็ไม่เคยเห็นหน้าผู้ว่าฯ กทม.เลย และไม่รู้ว่าท่านจะเข้าศาลาว่ากทม.เมื่อไหร่ แต่ขอตั้งข้อ
สังเกตเรื่องการใช้งบว่าก่อนหน้านี้ กทม. มีเงินสะสมอยู่ 3 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันลองไปขอตรวจสอบดู เหลือไม่ถึง
2 พันล้านบาท เพราะแต่ละคนมือฉกาจในการทำเรื่องของบประมาณทั้งนั้น ด้านนายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.กทม.
พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จะยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. สอบสวนเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างกล้องซีซีทีวีของ กทม. หลังจากที่มี
ผู้เสียหายซึ่งถูกโจรกรรมทรัพย์สินกว่า 3 ล้านบาท แต่ไม่สามารถดูภาพจากวงจรปิดเพื่อนำไปสู่การจับคนร้ายได้ และ
จะทำหนังสือถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้พิจารณาการดำรงตำแหน่งของนายอมร กิจเชวงกุล
รองผู้ว่าฯ กทม. รวมทั้งการทำหน้าที่ของผู้ว่าฯ กทม.บางรายด้วย.“
อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/politics/355133