ท่ามกลางปฎิบัติการโจมตีกลุ่มก่อการร้ายในซีเรียอย่างหนักของรัสเซียในช่วงที่ผ่านมา หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับสงครามซีเรีย ได้เริ่มประเมินสถานการณ์และแสดงท่าทีสนับสนุนรัสเซียในการจัดการกับกลุ่มไอเอสมากขึ้นแล้ว แม้แต่อียูก็มีแนวคิดที่จะปรับความสัมพันธ์กับรัสเซียอย่างเหมาะสม โดยไม่ต้องการให้สหรัฐเป็นผู้ชี้นำนโยบาย
สถานการณ์ในซีเรียเริ่มพลิกผันและเปลี่ยนเกมทันทีหลังจากที่รัสเซียใช้ปฏิบัติการโจมตีกลุ่มกบฎหัวรุนแรงรวมทั้งกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลามหรือไอเอสอย่างหนัก ทำให้กองทัพรัฐบาลซีเรียบุกยึดเมืองคืนจากฝ่ายกบฎได้หลายเมืองแล้ว และขณะที่สหรัฐ กล่าวหาว่ารัสเซียจงใจสนับสนุนประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ด้วยการกวาดล้างกลุ่มกบฎและฝ่ายต่อต้านอัสซาด แต่อีกด้านหนึ่งก็มีรายงานว่าหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องและเป็นพันธมิตรกับสหรัฐ ก็เริ่มประเมินสถานการณ์ถึงความได้เปรียบเสียเปรียบซึ่งเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ในตะวันออกกลางกันแล้ว เห็นได้จากการที่นายฌองคล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ก็ได้กล่าวแสดงความเห็นในระหว่างเดินทางไปเยอรมนีเพื่อหารือสถานการณ์ผู้อพยพในยุโรป โดยระบุว่า อียูจำเป็นต้องฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัสเซียอย่างเหมาะสม และต้องไม่ถูกชี้นำจากสหรัฐ
โดยก่อนหน้านี้สหภาพยุโรปหรืออียูได้ร่วมมือกับสหรัฐคว่ำบาตรรัสเซียกรณีแทรกแซงปัญหาในยูเครน รวมถึงการห้ามออกวีซ่าแก่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซีย รวมทั้งอายัดทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่รัสเซียที่มีบัญชีอยู่ในธนาคารยุโรป จนถูกรัสเซียประกาศห้ามนำเข้าอาหารและเครื่องดื่มจากชาติตะวันตกเป็นการตอบโต้ซึ่งส่งผลกระทบต่อหลายประเทศในอียู
ขณะที่นางมารีน เลอแพน ผู้นำพรรคฝ่ายแนวหน้าแห่งชาติของฝรั่งเศส ก็ได้ออกมาวิจารณ์รัฐบาลฝรั่งเศสว่าไม่ควรดำเนินนโยบายที่หลอกลวงร่วมกับสหรัฐในการทำสงครามซีเรีย โดยบอกว่าขณะที่รัสเซีย กำลังต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายไอเอสในซีเรีย ฝรั่งเศสกลับปกป้องกลุ่มอัล-นุสรา ที่เป็นเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์ในซีเรีย พร้อมกับชี้แนะว่ารัฐบาลฝรั่งเศสควรยุติการกระทำที่ไร้สาระ และหันไปร่วมมือกับรัสเซียในการต่อสู้กับกลถ่มไอเอสในตะวันออกกลาง นางเลอแพน ยังกล่าวหาสหรัฐด้วยว่ากำลังพยายามดิสเครดิต หรือทำลายความน่าเชื่อถือของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน จากการใช้ปฏิบัติการโจมตีกลุ่มกบฎในซีเรียเพื่อช่วยประธานาธิบดีอัสซาด
ทั้งนี้พรรคแนวหน้าแห่งชาติของนางเลอแพน มีที่นั่งในสภายุโรปมากที่สุดในบรรดาพรรคการเมืองในฝรั่งเศส ซึ่งก่อนหน้านี้นางเลอแพน ก็ได้กล่าวหาว่าประธานาธิบดีฟรองซัใร์ โอลลองด์ ล้มเหลวในการปกป้องผลประโยชน์ของชาติ และทำตามคำสั่งของสหรัฐและเยอรมนี
นอกจากนี้อิสราเอล ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับสหรัฐ ก็ประกาศจะให้การสนับสนุนด้านข่าวกรองแก่รัสเซียเกี่ยวกับที่ตั้งของฝ่ายต่อต้านในซีเรียเพื่อให้ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซีย จบเกมได้รวดเร็วขึ้น โดยมีรายงานว่าประธานาธิบดีปูติน และนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู ได้ตกลงกันในหลักการแล้ว รวมทั้งการที่รัสเซียให้คำมั่นว่าจะสกัดกั้นการส่งอาวุธจากซีเรียไปให้กลุ่มเฮซบอลเลาะห์ ขณะที่สื่ออิสราเอล ยังระบุถึงข้อแลกเปลี่ยนในการที่อิสราเอลจะสามารถใช้ปฎิบัติการโจมตีทางอากาศกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ในซีเรียได้อย่างอิสระ แม้จะอยู่ในพื้นที่ชายฝั่งที่กองทัพรัสเซียประจำการอยู่ด้วยก็ตาม ซึ่งเรื่องนี้ทั้งสองฝ่ายจะมีการหารือถึงกลไกในการป้องกันการโจมตีกันเองระหว่างเครื่องบินรบรัสเซียและเครื่องบินรบของอิสราเอล ขณะที่วิทยุของอิสราเอล รายงานว่าการที่อิสราเอลยอมเสนอข้อแลกเปลี่ยนดังกล่าวก็เพื่อต้องการลดอิทธิพลของอิหร่านในซีเรีย
ส่วนทางด้านซาอุดิอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นพันธมิตรกับสหรัฐ ก็หันไปเจรจากับรัสเซียแล้ว หลังจากที่กลุ่มกบฏในซีเรียซึ่งได้รับการฝึกจากซีไอเอ โดยมีชาติอาหรับให้การสนับสนุน ได้แตกกระเจิงจากการโจมตีของรัสเซีย นอกจากนี้สหรัฐเองยังประกาศยุติการฝึกกองกำลังกบฏซีเรียครั้งใหม่ หลังจากโครงการฝึกกบฎมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ไม่ประสบความสำเร็จ และยังมีรายงานว่ากบฏซีเรียยังมอบรถยนต์และอาวุธของสหรัฐให้กลุ่มไอเอสอีกด้วย
ทั้งนี้ชี้ค โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน รัฐมนตรีกลาโหมของซาอุดิอาระเบีย ได้เดินทางไปยังกรุงมอสโกเพื่อหารือกับประธานาธิบดีปูติน โดยเห็นพ้องที่จะร่วมมือกันเพื่อไม่ให้เกิดรัฐคาลีฟะห์ หรือรัฐอิสลามตามรูปแบบของกลุ่มไอเอสในซีเรีย โดยซาอุดิอาระเบียยืนยันจะให้ความร่วมมือในการจัดการกับกลุ่มไอเอส ขณะที่รัสเซียยืนยันจะผลักดันให้ซีเรียเป็นชาติที่มีเอกภาพโดยกระบวนการทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นชาวซีเรียเชื้อสายใดหรือนับถือศาสนาใด ก็จะเป็นเจ้าของประเทศร่วมกัน
ขณะเดียวกันนายอาเดล อัล-จูเบอีร์ รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดิอาระเบียกล่าวว่าซาอุดิอาระเบียได้แสดงความวิตกเรื่องความร่วมมือกันระหว่างอิหร่านและรัสเซียในซีเรีย โดยนายจูเบอีร์บอกว่าการที่ซาอุดิอาระเบียและชาติอาหรับอื่นๆได้เข้าร่วมกับกองกำลังผสมที่นำโดยสหรัฐในการทิ้งระเบิดโจมตีกลุ่มไอเอสในซีเรียและอิรัก ก็เพื่อต้องการให้ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาดของซีเรียออกจากอำนาจ ขณะที่รัสเซีย ก็ได้แสดงจุดยืนที่จะใช้กระบวนการทางการเมืองในการแก้ปัญหา
ก่อนหน้านี้ ปูติน ยังได้เข้าพบกับเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซาเอ็ด อัล-นาห์ยัน มกุฏราชกุมารแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี เพื่อหารือถึงความมั่นคงในภูมิภาคตะวันออกกลางและความขัดแย้งในซีเรียด้วย
Credithttp://www.newsforfunonline.com
เกมส์เปลี่ยน สหรัฐกำลังถูกลอยแพในซีเรีย อียู ซาอุ อิสราเอลแห่กลับมายืนข้างรัสเซีย
ท่ามกลางปฎิบัติการโจมตีกลุ่มก่อการร้ายในซีเรียอย่างหนักของรัสเซียในช่วงที่ผ่านมา หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับสงครามซีเรีย ได้เริ่มประเมินสถานการณ์และแสดงท่าทีสนับสนุนรัสเซียในการจัดการกับกลุ่มไอเอสมากขึ้นแล้ว แม้แต่อียูก็มีแนวคิดที่จะปรับความสัมพันธ์กับรัสเซียอย่างเหมาะสม โดยไม่ต้องการให้สหรัฐเป็นผู้ชี้นำนโยบาย
สถานการณ์ในซีเรียเริ่มพลิกผันและเปลี่ยนเกมทันทีหลังจากที่รัสเซียใช้ปฏิบัติการโจมตีกลุ่มกบฎหัวรุนแรงรวมทั้งกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลามหรือไอเอสอย่างหนัก ทำให้กองทัพรัฐบาลซีเรียบุกยึดเมืองคืนจากฝ่ายกบฎได้หลายเมืองแล้ว และขณะที่สหรัฐ กล่าวหาว่ารัสเซียจงใจสนับสนุนประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ด้วยการกวาดล้างกลุ่มกบฎและฝ่ายต่อต้านอัสซาด แต่อีกด้านหนึ่งก็มีรายงานว่าหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องและเป็นพันธมิตรกับสหรัฐ ก็เริ่มประเมินสถานการณ์ถึงความได้เปรียบเสียเปรียบซึ่งเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ในตะวันออกกลางกันแล้ว เห็นได้จากการที่นายฌองคล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ก็ได้กล่าวแสดงความเห็นในระหว่างเดินทางไปเยอรมนีเพื่อหารือสถานการณ์ผู้อพยพในยุโรป โดยระบุว่า อียูจำเป็นต้องฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัสเซียอย่างเหมาะสม และต้องไม่ถูกชี้นำจากสหรัฐ
โดยก่อนหน้านี้สหภาพยุโรปหรืออียูได้ร่วมมือกับสหรัฐคว่ำบาตรรัสเซียกรณีแทรกแซงปัญหาในยูเครน รวมถึงการห้ามออกวีซ่าแก่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซีย รวมทั้งอายัดทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่รัสเซียที่มีบัญชีอยู่ในธนาคารยุโรป จนถูกรัสเซียประกาศห้ามนำเข้าอาหารและเครื่องดื่มจากชาติตะวันตกเป็นการตอบโต้ซึ่งส่งผลกระทบต่อหลายประเทศในอียู
ขณะที่นางมารีน เลอแพน ผู้นำพรรคฝ่ายแนวหน้าแห่งชาติของฝรั่งเศส ก็ได้ออกมาวิจารณ์รัฐบาลฝรั่งเศสว่าไม่ควรดำเนินนโยบายที่หลอกลวงร่วมกับสหรัฐในการทำสงครามซีเรีย โดยบอกว่าขณะที่รัสเซีย กำลังต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายไอเอสในซีเรีย ฝรั่งเศสกลับปกป้องกลุ่มอัล-นุสรา ที่เป็นเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์ในซีเรีย พร้อมกับชี้แนะว่ารัฐบาลฝรั่งเศสควรยุติการกระทำที่ไร้สาระ และหันไปร่วมมือกับรัสเซียในการต่อสู้กับกลถ่มไอเอสในตะวันออกกลาง นางเลอแพน ยังกล่าวหาสหรัฐด้วยว่ากำลังพยายามดิสเครดิต หรือทำลายความน่าเชื่อถือของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน จากการใช้ปฏิบัติการโจมตีกลุ่มกบฎในซีเรียเพื่อช่วยประธานาธิบดีอัสซาด
ทั้งนี้พรรคแนวหน้าแห่งชาติของนางเลอแพน มีที่นั่งในสภายุโรปมากที่สุดในบรรดาพรรคการเมืองในฝรั่งเศส ซึ่งก่อนหน้านี้นางเลอแพน ก็ได้กล่าวหาว่าประธานาธิบดีฟรองซัใร์ โอลลองด์ ล้มเหลวในการปกป้องผลประโยชน์ของชาติ และทำตามคำสั่งของสหรัฐและเยอรมนี
นอกจากนี้อิสราเอล ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับสหรัฐ ก็ประกาศจะให้การสนับสนุนด้านข่าวกรองแก่รัสเซียเกี่ยวกับที่ตั้งของฝ่ายต่อต้านในซีเรียเพื่อให้ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซีย จบเกมได้รวดเร็วขึ้น โดยมีรายงานว่าประธานาธิบดีปูติน และนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู ได้ตกลงกันในหลักการแล้ว รวมทั้งการที่รัสเซียให้คำมั่นว่าจะสกัดกั้นการส่งอาวุธจากซีเรียไปให้กลุ่มเฮซบอลเลาะห์ ขณะที่สื่ออิสราเอล ยังระบุถึงข้อแลกเปลี่ยนในการที่อิสราเอลจะสามารถใช้ปฎิบัติการโจมตีทางอากาศกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ในซีเรียได้อย่างอิสระ แม้จะอยู่ในพื้นที่ชายฝั่งที่กองทัพรัสเซียประจำการอยู่ด้วยก็ตาม ซึ่งเรื่องนี้ทั้งสองฝ่ายจะมีการหารือถึงกลไกในการป้องกันการโจมตีกันเองระหว่างเครื่องบินรบรัสเซียและเครื่องบินรบของอิสราเอล ขณะที่วิทยุของอิสราเอล รายงานว่าการที่อิสราเอลยอมเสนอข้อแลกเปลี่ยนดังกล่าวก็เพื่อต้องการลดอิทธิพลของอิหร่านในซีเรีย
ส่วนทางด้านซาอุดิอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นพันธมิตรกับสหรัฐ ก็หันไปเจรจากับรัสเซียแล้ว หลังจากที่กลุ่มกบฏในซีเรียซึ่งได้รับการฝึกจากซีไอเอ โดยมีชาติอาหรับให้การสนับสนุน ได้แตกกระเจิงจากการโจมตีของรัสเซีย นอกจากนี้สหรัฐเองยังประกาศยุติการฝึกกองกำลังกบฏซีเรียครั้งใหม่ หลังจากโครงการฝึกกบฎมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ไม่ประสบความสำเร็จ และยังมีรายงานว่ากบฏซีเรียยังมอบรถยนต์และอาวุธของสหรัฐให้กลุ่มไอเอสอีกด้วย
ทั้งนี้ชี้ค โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน รัฐมนตรีกลาโหมของซาอุดิอาระเบีย ได้เดินทางไปยังกรุงมอสโกเพื่อหารือกับประธานาธิบดีปูติน โดยเห็นพ้องที่จะร่วมมือกันเพื่อไม่ให้เกิดรัฐคาลีฟะห์ หรือรัฐอิสลามตามรูปแบบของกลุ่มไอเอสในซีเรีย โดยซาอุดิอาระเบียยืนยันจะให้ความร่วมมือในการจัดการกับกลุ่มไอเอส ขณะที่รัสเซียยืนยันจะผลักดันให้ซีเรียเป็นชาติที่มีเอกภาพโดยกระบวนการทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นชาวซีเรียเชื้อสายใดหรือนับถือศาสนาใด ก็จะเป็นเจ้าของประเทศร่วมกัน
ขณะเดียวกันนายอาเดล อัล-จูเบอีร์ รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดิอาระเบียกล่าวว่าซาอุดิอาระเบียได้แสดงความวิตกเรื่องความร่วมมือกันระหว่างอิหร่านและรัสเซียในซีเรีย โดยนายจูเบอีร์บอกว่าการที่ซาอุดิอาระเบียและชาติอาหรับอื่นๆได้เข้าร่วมกับกองกำลังผสมที่นำโดยสหรัฐในการทิ้งระเบิดโจมตีกลุ่มไอเอสในซีเรียและอิรัก ก็เพื่อต้องการให้ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาดของซีเรียออกจากอำนาจ ขณะที่รัสเซีย ก็ได้แสดงจุดยืนที่จะใช้กระบวนการทางการเมืองในการแก้ปัญหา
ก่อนหน้านี้ ปูติน ยังได้เข้าพบกับเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซาเอ็ด อัล-นาห์ยัน มกุฏราชกุมารแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี เพื่อหารือถึงความมั่นคงในภูมิภาคตะวันออกกลางและความขัดแย้งในซีเรียด้วย
Credithttp://www.newsforfunonline.com