ผมเองมีอาชีพอยู่ในวงการการศึกษาครับผม คลุกคลีอยู่กับคน 3 กลุ่มครับ 1.คุณครูผู้สอนในโครงการ 2.นักเรียนในโครงการ 3.ผู้ปกครองของนักเรียนในโครงการครับ เดี๋ยวผมจะลองบอกมุมมองของเเต่คน 3 กลุ่มนี้น่ะครับว่าเเต่ละท่านรู้สึกอย่างไร เเต่ก่อนอื่นขอทำความเข้าใจเบื้องตันครับ เเต่ก่อนเเต่เดิมไม่มีโครงการ Gifted หรอกครับ เหล่าเด็กหัวกะทิก็จะไปรวมตัวกันอยู่ที่ห้องคิง ซึ่งห้องคิงกับห้องอื่นต่างกันยังไงหรอครับ บอกเลยว่าเนื้อหาการเรียนเหมือนกันครับก็ตามหลักสูตรที่กระทรวงได้วางไว้ ต่างกันเเค่ทักษะการเรียนรู้ของผู้รับ เเน่นอนว่าเด็กห้องคิงก็จะมีทักษะการคำนวน การจดจำ เเน่นกว่าจึงทำให้เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วกว่าจึงเเม่นยำในเนื้อหามากว่าน้องๆห้องปกติ
เเล้ว Gifted ต่างอย่างไรกับห้องคิง ต่างครับตรงที่ว่าจะมีการเพิ่มเนื้อหาเสริมจากหลักสูตรปกติ (เด็กกลุ่มนี้ถูกสร้างมาเพื่อการเเข่งขันโดยเฉพาะ คำนวน จดจำ พลิกแพง ยอดเยี่ยมมาก บวกกับความขยันหาโจทย์ทำด้วย ยิ่งปรึกกันไปใหญ่) โรงเรียนหลายโรงเรียนจึงได้เปิดโครงการ Gifted ขึ้นมาเพื่อสร้างเด็กกลุ่มที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนครับ เพื่อให้เค้าเหล่านี้ได้เรียนรู้ในเนื้อหาที่มากกว่าเด็กทั่วไป (อย่างเช่นการสอบ โอลิมปิก หรือ สอวน. ที่เด็กที่มีความรู้ตามหลักสูตร อาจเห็นข้อสอบเเล้วตกตะลึงเพราะ มันไม่ใช่ข้อสอบที่เอาตามหลักสูตรมาพลิกเเพลง เเต่เป็นการเอาเนื้อหาล่วงหน้าที่ยังไม่มีในหลักสูตรมาให้เด็กที่ไม่เคยเรียนทำ)
เเละช่วงเเรกๆของการเปิดโครงการ Gifted ของหลายโรงเรียนครับ พบว่าประสบความสำเร็จ ปั่นเด็กเก่งให้เก่งขึ้นอีก สร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนมากมาย เเน่นอนครับ เหล่าผู้ปกครองที่รักลูกก็อยากให้สิ่งที่ดีที่สุดที่ตนมอบให้ลูกได้ยื่นให้กับลูกเสมอ จึงพยายามอย่างยิ่งที่จะให้ลูกได้เข้า Gifted แม้ว่าค่าใช้จ่ายจะสูงกว่าการเรียนห้องคิงในหลักสูตรปกติประมาณ 5-6 เท่าก็ตาม จนสุดท้ายเเล้วโรงเรียนจึงต้องทำการขยายโครงการ จากตอนเเรก Gifted จะมีเพียง 1 ห้อง กลายเป็น 3 ห้อง เเละนี่เเหละครับ คือ จุดเริ่มต้นของปัญหา เมื่อที่นั่งมีมากขึ้น การคัดเลือกเข้าก็จะเข้มข้นน้อยลงครับ จากเมื่อก่อนเลือกจาก 500 เอา 50 เลือกเฉพาะหัวกะทิจริงๆ กลายเป็น จาก 500 เอา 150 คน เเละเเล้วปัญหาก็เริ่มเกิดครับ จะเกิดอะไรขึ้นหากคนที่เรียนเนื้อหาเกินหลักสูตรโดยมีทักษะ การคำนวน จดจำ พลิกเเพลง ในระดับปานกลาง ปัญหาเริ่มส่อเค้าให้เห็นเเล้วครับ เเละนี่คือเสียงจากคน 3 กลุ่มครับผมที่ผมได้ฟังมา
กลุ่มที่ 1 คุณครูผู้สอน : สอนยากมากเลยเราไม่สบายใจเลย ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร หลักสูตร Gifted มาเเบบนี้ เเต่เด็กที่ได้มา กับคำนวนไม่คล่อง จดจำช้า เข้าใจอยาก กว่าเด็กรุ่นก่อน เหมือนเด็กไม่พริ้วเท่ารุ่นเเรกๆ
กลุ่มที่ 2 นักเรียน : กลุ่มนี้ของอนญาติผมได้ฟังมา 2 กลุ่มครับ กลุ่มเด็กที่คำนวนดี จดจำเก่ง ผมลองถามดูว่าเรียนเหนื่อยมั๊ย เค้าตอบผมว่า ก็เฉยๆน่ะพี่ ก็เรียนเรื่อยๆ คือตอนเรียนก็ไม่ได้เครียดอะไรอะค่ะ ( เป็นเด็กกลุ่มหัวกะทิหลังจากนี้ขอเรียกกลุ่ม A) กับอีกกลุ่มหนึ่งครับหลังจากนี้ขอเรียกกลุ่ม B พี่ครูสอนอะไรไม่รู้เรื่องเลยพี่ ครูสอนไวมากๆ สอนยากมากๆ ฟังไม่รู้เรื่องเลยพี่ ต้องบอกก่อนน่ะครับ เด็กกลุ่มเเรกกับเด็กกลุ่มสองในตัวอย่างที่ผมยกมา เริ่มเรียนพร้อมกัน ครูคนเดียวกัน ไม่ได้มีใครเรียนพิเศษมาก่อนเลยซักคน เเต่เห็นอะไมมั๊ยครับว่า ความรู้สีกต่างกันมากๆ
กลุ่มที่ 3 ผู้ปกครอง : ของเด็กกลุ่ม A ก็เเน่นอนครับไม่เครียดครับเรื่องผลการเรียนลูก เเต่กลุ่ม B ครับจะเริ่มมีปัญหาซะเเล้ว เพราะพอเกรดลูกที่เคยเห็นว่าเมื่อก่อนเคยดี เป็นเด็กเรียนดีมาตลอด เกิดอะไรขึ้นทำไมเทอมนี้ เหลือ 2.5 และเริ่มบ่นว่าโครงการนี้ไม่ดี ลูกตนเองมาตอนเเรกก็เรียนได้ ทำไมตอนนี้สอบตกระนาว
ผมเองในฐานะตัวกลางของคนทั้ง 3 กลุ่ม อยากจะเชียร์ให้ผู้ปกครองทุกท่านพิจรณาให้ดีก่อนน่ะครับ โดยสิ่งที่ต้องดูเป็นพิเศษ คือ ทักษะการเรียนเเละวิธีเรีนยของลูกของเราครับผม
-------------- ผมตอนนี้ดูเเลน้องๆ Gifted ม4 เเละ ม5 ทั้งกลุ่ม A เเละ กลุ่ม B ครับ บอกตามตรงว่า สงสารน้องกลุ่ม B มากๆเลย เพราะว่าถ้าน้องเค้าเรียนห้องธรรมดา น่าจะมีความสุขกว่านี้ ------------------
หลักสูตรการเรียนทุกหลักสูตร มีเหตุผลครับ เเละ เเน่นอนว่ามันไม่ได้เหมาะกับคนทุกคน เลือกให้ดีน่ะครับ เพราะสุดท้ายอย่าลืมว่า GPAX หรือ เกรดเฉลี่ยใช้ 30% น่ะครับ เเละอีกอย่างครับสุดท้าย ตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัย ก็ใช้ คณิต ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ไทย สังคม เหมือนๆกัน หลักสูตรธรรมดาก็เรียนกันเหนื่อยใช่เล่นน่ะครับ ยังไงฝากไว้ด้วย หวังดีจริงๆครับผม
สะกิดใจซักนิด ก่อนส่งลูกรักของคุณเรียน "โครงการ Gifted"
เเล้ว Gifted ต่างอย่างไรกับห้องคิง ต่างครับตรงที่ว่าจะมีการเพิ่มเนื้อหาเสริมจากหลักสูตรปกติ (เด็กกลุ่มนี้ถูกสร้างมาเพื่อการเเข่งขันโดยเฉพาะ คำนวน จดจำ พลิกแพง ยอดเยี่ยมมาก บวกกับความขยันหาโจทย์ทำด้วย ยิ่งปรึกกันไปใหญ่) โรงเรียนหลายโรงเรียนจึงได้เปิดโครงการ Gifted ขึ้นมาเพื่อสร้างเด็กกลุ่มที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนครับ เพื่อให้เค้าเหล่านี้ได้เรียนรู้ในเนื้อหาที่มากกว่าเด็กทั่วไป (อย่างเช่นการสอบ โอลิมปิก หรือ สอวน. ที่เด็กที่มีความรู้ตามหลักสูตร อาจเห็นข้อสอบเเล้วตกตะลึงเพราะ มันไม่ใช่ข้อสอบที่เอาตามหลักสูตรมาพลิกเเพลง เเต่เป็นการเอาเนื้อหาล่วงหน้าที่ยังไม่มีในหลักสูตรมาให้เด็กที่ไม่เคยเรียนทำ)
เเละช่วงเเรกๆของการเปิดโครงการ Gifted ของหลายโรงเรียนครับ พบว่าประสบความสำเร็จ ปั่นเด็กเก่งให้เก่งขึ้นอีก สร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนมากมาย เเน่นอนครับ เหล่าผู้ปกครองที่รักลูกก็อยากให้สิ่งที่ดีที่สุดที่ตนมอบให้ลูกได้ยื่นให้กับลูกเสมอ จึงพยายามอย่างยิ่งที่จะให้ลูกได้เข้า Gifted แม้ว่าค่าใช้จ่ายจะสูงกว่าการเรียนห้องคิงในหลักสูตรปกติประมาณ 5-6 เท่าก็ตาม จนสุดท้ายเเล้วโรงเรียนจึงต้องทำการขยายโครงการ จากตอนเเรก Gifted จะมีเพียง 1 ห้อง กลายเป็น 3 ห้อง เเละนี่เเหละครับ คือ จุดเริ่มต้นของปัญหา เมื่อที่นั่งมีมากขึ้น การคัดเลือกเข้าก็จะเข้มข้นน้อยลงครับ จากเมื่อก่อนเลือกจาก 500 เอา 50 เลือกเฉพาะหัวกะทิจริงๆ กลายเป็น จาก 500 เอา 150 คน เเละเเล้วปัญหาก็เริ่มเกิดครับ จะเกิดอะไรขึ้นหากคนที่เรียนเนื้อหาเกินหลักสูตรโดยมีทักษะ การคำนวน จดจำ พลิกเเพลง ในระดับปานกลาง ปัญหาเริ่มส่อเค้าให้เห็นเเล้วครับ เเละนี่คือเสียงจากคน 3 กลุ่มครับผมที่ผมได้ฟังมา
กลุ่มที่ 1 คุณครูผู้สอน : สอนยากมากเลยเราไม่สบายใจเลย ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร หลักสูตร Gifted มาเเบบนี้ เเต่เด็กที่ได้มา กับคำนวนไม่คล่อง จดจำช้า เข้าใจอยาก กว่าเด็กรุ่นก่อน เหมือนเด็กไม่พริ้วเท่ารุ่นเเรกๆ
กลุ่มที่ 2 นักเรียน : กลุ่มนี้ของอนญาติผมได้ฟังมา 2 กลุ่มครับ กลุ่มเด็กที่คำนวนดี จดจำเก่ง ผมลองถามดูว่าเรียนเหนื่อยมั๊ย เค้าตอบผมว่า ก็เฉยๆน่ะพี่ ก็เรียนเรื่อยๆ คือตอนเรียนก็ไม่ได้เครียดอะไรอะค่ะ ( เป็นเด็กกลุ่มหัวกะทิหลังจากนี้ขอเรียกกลุ่ม A) กับอีกกลุ่มหนึ่งครับหลังจากนี้ขอเรียกกลุ่ม B พี่ครูสอนอะไรไม่รู้เรื่องเลยพี่ ครูสอนไวมากๆ สอนยากมากๆ ฟังไม่รู้เรื่องเลยพี่ ต้องบอกก่อนน่ะครับ เด็กกลุ่มเเรกกับเด็กกลุ่มสองในตัวอย่างที่ผมยกมา เริ่มเรียนพร้อมกัน ครูคนเดียวกัน ไม่ได้มีใครเรียนพิเศษมาก่อนเลยซักคน เเต่เห็นอะไมมั๊ยครับว่า ความรู้สีกต่างกันมากๆ
กลุ่มที่ 3 ผู้ปกครอง : ของเด็กกลุ่ม A ก็เเน่นอนครับไม่เครียดครับเรื่องผลการเรียนลูก เเต่กลุ่ม B ครับจะเริ่มมีปัญหาซะเเล้ว เพราะพอเกรดลูกที่เคยเห็นว่าเมื่อก่อนเคยดี เป็นเด็กเรียนดีมาตลอด เกิดอะไรขึ้นทำไมเทอมนี้ เหลือ 2.5 และเริ่มบ่นว่าโครงการนี้ไม่ดี ลูกตนเองมาตอนเเรกก็เรียนได้ ทำไมตอนนี้สอบตกระนาว
ผมเองในฐานะตัวกลางของคนทั้ง 3 กลุ่ม อยากจะเชียร์ให้ผู้ปกครองทุกท่านพิจรณาให้ดีก่อนน่ะครับ โดยสิ่งที่ต้องดูเป็นพิเศษ คือ ทักษะการเรียนเเละวิธีเรีนยของลูกของเราครับผม
-------------- ผมตอนนี้ดูเเลน้องๆ Gifted ม4 เเละ ม5 ทั้งกลุ่ม A เเละ กลุ่ม B ครับ บอกตามตรงว่า สงสารน้องกลุ่ม B มากๆเลย เพราะว่าถ้าน้องเค้าเรียนห้องธรรมดา น่าจะมีความสุขกว่านี้ ------------------
หลักสูตรการเรียนทุกหลักสูตร มีเหตุผลครับ เเละ เเน่นอนว่ามันไม่ได้เหมาะกับคนทุกคน เลือกให้ดีน่ะครับ เพราะสุดท้ายอย่าลืมว่า GPAX หรือ เกรดเฉลี่ยใช้ 30% น่ะครับ เเละอีกอย่างครับสุดท้าย ตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัย ก็ใช้ คณิต ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ไทย สังคม เหมือนๆกัน หลักสูตรธรรมดาก็เรียนกันเหนื่อยใช่เล่นน่ะครับ ยังไงฝากไว้ด้วย หวังดีจริงๆครับผม