สวัสดีคะ
วันนี้จขกทและผองเพื่อนจะมารีวิวร้านอินุคาเฟ่ หัวหิน คาเฟ่ของน้องหมาสายพันธุ์ชิบะสุดน่ารักจากญี่ปุ่น♡
ต้องขอบอกก่อนว่าเราและเพื่อนเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตสารสนเทศเพชรบุรี ซึ่งถือว่าอยู่ใกล้กับหัวหินเลยทีเดียวแหละ การเดินทางจากที่มอมาเที่ยวหัวหินของพวกเรา ก็มาโดยรถโดยสารรับจ้างไม่ประจำทาง คือเหมารถหนึ่งคันราคา600บาทสามารถไปไหนก็ได้ ถ้าใครที่เดินทางมาจากกรุงเทพหรือที่อื่นๆ การเดินทางไปยังร้านอินุคาเฟ่ หัวหินก็ไม่ยากเลยค่ะ
เมื่อมาถึงหัวหิน ขับรถเข้าไปในตัวเมือง ร้านอยู่ในซอย หัวหิน 51 ซึ่งในซอยนี้จะมีร้านอาหารอยู่หลายร้าน ให้สังเกตร้านบ้านถั่วเย็น ซอยข้างร้านบ้านถั่วเย็น จะเป็นทางเข้าไปยังร้านอินุคาเฟ่ หัวหิน พอเลี้ยวและตรงเข้ามาแค่แป็บเดียวก็จะเจอร้านอินุคาเฟ่แล้วค่า ร้านจะอยู่ฝั่งซ้ายมือนะคะ แท่นแท๊น~
ภาพด้านหน้าร้าน Inu cafe ลักษณะจะคล้ายบ้านที่พักอาศัยมากกว่าคาเฟ่ค่ะ รั้วสีขาวและกำแพงอิฐแลดูคลาสิค
ตรงทางเข้าหน้าร้าน เราจะเจอกับป้ายนี้อยู่ข้างๆ เป็นกฎของทางร้าน คือ ห้ามนำอาหารของคนให้สุนัขทาน เพื่อสุขภาพและความปลอดภัยของน้องหมานะจ๊ะ
แต่ถ้าใครอยากจะให้อาหารกับเหล่าน้องหมาทางร้านก็มีอาหารสำหรับน้องหมาให้บริการน้า
เมื่อเราเข้ามาก็จะมีพี่เจ้าของร้านและผู้ช่วยรวมถึงเหล่าน้องหมาคอยตอนรับอยู่ อบอุ่นมากเลย >< เราและผองเพื่อนเลยแฮปปี้ ไม่เชื่อดูยิ้มเพื่อนสิ ยิ้มกว้างสุดๆ555 ไม่ได้ตั้งใจแกล้งนะ
มีภาพบรรยากาศภายในร้านให้ดูคร่าวๆนะคะ ไม่ได้ถ่ายเก็บไว้มาก เอาแต่เล่นกับน้องหมา แหะๆ แต่อยากจะบอกว่าที่นี่บรรยกาศดีมากเลย เพราะอยู่ติดทะเลด้วยก็เลยมีลมเย็นๆพัดมาตลอด ยิ่งมีตอนบ่ายๆไม่มีแดดด้วยแล้ว สดชื่นสุดๆค่ะ การตกแต่งที่นี่ก็มีสไตล์ ทำให้มีมุมถ่ายรูปเยอะแยะมากมากให้เลือกถ่ายเลยค่ะ ไม่อยากจะบอกว่ามาที่นี่ครั้งนึงจขกทกับเพื่อนๆก็ได้รูปไว้ลงในโซเชียลอีกนาน รู้สึกปรื้มปริ่ม
มุมทำอาหารค่ะกลิ่นหอมๆลอยมากจากทางนี้นี่เอง ได้กลิ่นแล้วท้องร้องเลย
มุมโต๊ะที่จขกทและเพื่อนเลือกนั่งค่ะ โต๊ะใหญ่เหมาะสำหรับคนสาวๆของเยอะอย่างพวกเรา ฮ่าๆๆ
พอเราเข้ามานั่งในร้าน พี่ที่ร้านจะยกป้ายเมนูอาหารมาให้พวกเราเลือก ตอนแรกก็งงเลยค่ะ ป้ายอะไรใหญ่จัง อ๋ออ เมนูอาหารนี่เอง พี่ๆเขามีความพยายามกันมากจริงๆ พอคิดว่าถ้าต้องยกให้ลูกค้าทุกคนดูตอนที่คนเยอะๆแล้วเหนื่อยแทน แต่ก็แปลกดีนะคะถือเป็นเอกลักษณ์เล็กที่น่ารักอีกอย่างของร้านละกัน
มาดูป้ายเมนูอาหารกันดีกว่าค่ะก็จะแบ่งเป็นอาหาร เครื่องเดิม และของหวาน (ไม่ต้องกลัวจะมองไม่เห็นนะคะ ใครสายตาสั้น ก็สามารถมองเห็นได้ชัดเลยแหละ เพราะป้ายมันใหญ่มากกกกกกกกกกๆๆ)
และแล้วก็ถึงเวลาที่พวกเราเริ่มทำการสั่งอาหารกันอย่างเมามัน ขอบอกก่อนเลยนะคะเมนูของร้านอินุคาเฟ่ หัวหินนี้ พี่เจ้าของร้านเขาคิดขึ้นมาเองหมดเลย และเมนูจะเปลี่ยนไปทุก 3 เดือนด้วย แต่รับประกันว่าเมนูเด็ดดวงทุกเมนู อิชั้นสัมผัสได้ค่ะ อิอิ
ส่วนเมนูที่เราสั่งขอเก็บเป็นความลับก่อน ต้องรอดูกันต่อไปนะคะ ^^
ในระหว่างที่รออาหารที่สั่งนั้น พวกเราก็ลงไปเล่นกับน้องหมาแบบลันล๊าเต็มที่ น้องหมาที่นี่มีชื่อทุกตัวนะคะ ชื่อส่วนใหญ่เป็นชื่อการ์ตูน ใครสนใจอยากดูว่าน้องหมาตัวไหนชื่ออะไรสามารถเข้าไปดุที่เพจเฟสบุ๊คร้านได้ค่ะเดี๋ยวจขกทแปะลิ๊งไว้ให้ด้านล่างนะจ๊ะ
ภายในร้านขนาดมีพื้นที่ไม่เยอะมาก ทำให้เราสามารถเดินไปเล่นได้ทั่วร้าน ถ่ายรูปกับน้องหมาได้ทุกมุมเลยคะ
ใครอยากเล่นกับน้องหมาแต่ยังกล้าๆกลัวๆอยู่ สบายใจกันได้เลยจ้า ที่ร้านจะมีพี่พนักงานคอยช่วยให้คำแนะนำตลอด (พี่เขาน่ารักมากเลย ล่อน้องหมาด้วยขนมหรือของเล่นเพื่อให้นั่งถ่ายรูปกับพวกเราได้)
น้องหมาชิบะตัวนี้ฝากบอกว่าผมหล่อมากเลยครับ แถมยังขี้เล่นอีกด้วยนะ
ดูท่าน้องหมาจะชอบให้เกาพุงเป็นพิเศษ สบายใช่มั้ยล่า ><
ใครที่อยากอุ้มน้องหมาก็สามารถอุ้มได้น้า พี่เขาจะคอยบอกวิธีการอุ้มและคอยช่วยแนะนำค่ะ โมะๆๆๆ เชื่องสุดๆ แต่กว่าจะได้ช๊อตนี้เล่นเอาเหนื่อยลิ้นห้อยตามหมาเหมือนกันค่ะ
สำหรับใครที่อยากมานั่งเล่นชิวชิว แต่ไม่ได้อยากคลุกคลีกับน้องหมามาก ไม่ต้องกลัวนะคะ เพราะน้องหมาที่นี้น่ารักและมีมารยาท ได้รับการฝึกมาแล้วเป็นอย่างดี( น่ารักมากเลยอะแก)
พอผ่านไปได้สักพัก พวกเราก็ได้เห็นหน้าตาอาหารที่พวกเราสั่ง มาดูกันนะคะว่าจะน่าทานขนาดไหน ตื่นเต้นๆๆๆๆ
ข้าวตะไคร้จิ้มแจ่วหมู่นุ่มย่าง
- เมนูนี้ใครชอบรสชาติแซ่บๆ แนะนำเลยค่ะ หอมกลิ่นเครื่องยำ ไม่เผ็ดมาก เด็กทานได้ค่ะ ที่สำคัญหมู่นุ่มมากกกกเข้ากับน้ำยำสุดๆ
ข้าวแกงกะหรี่หมูทอดไข่ออนเซ็น
-เพื่อนที่ชอบกินแกงกะหรี่บอกว่ารสชาติกำลังดี ใช้ได้เลยค่ะ สำหรับคนที่ไม่ชอบกลิ่นแรงๆก็ทานได้นะคะกลิ่นไม่ฉุนมาก ไข่ก็นุ่มละลายไปกับแกงกะหรี่เลยล่ะ
ข้าวผัดอโลฮา
- ข้าวผัดจขกท ลืมไปแล้วว่าเขาใส่อะไรไปบ้าง เพราะมาถึงก็แย่งกันกินอย่างเดียวเลยค่ะ555 แต่ที่แน่ๆคือ มีไข่เจียวชีสโปะอยู่บนข้าวผัดค่ะ ไข่เจียวไม่รู้สึกถึงชีสมากแต่นุ่มใช้ได้เลยค่ะ
และนี่คือเมนูที่พี่เจ้าของร้านแนะนำแก่พวกเราค่ะ คือ โยกันเบอร์เกอร์ ซึ่งในเบอร์เกอร์นี้ใช้ชีส กว่า 200
กรัมเลยแหละ ( ชีสเยิ้มไหลออกมาเลย น้ำลายจขกท.จะไหล )
ส่วนเมนูเครื่องดื่ม เรียงจากซ้ายไปขวานะคะ
ไมโลโอลสคูล แดงเม็ดแมงลัก ชานมเย็น และซูยูกะ ซึ่งซูยูกะรสชาติจะคล้ายกับน้ำมะนาวโซดา แต่จะมีความหวานจากเนื้อแตงโมเป็นลูกกลมๆอยู่ข้างในค่ะ
พอพวกเราทานอาหารคาวเสร็จก็ต้องต่อด้วยของหวานสิค่ะ จะรอช้าทำไมละจ๊ะ จัดไป เมนูของหวานที่นี่แต่ละชิ้นใช้เวลาในการปรุงไม่มาก ไม่ต้องรอนานค่ะ แป้บเดียวก็มาเสริฟอยู่ตรงหน้าเราแล้ว มาถึงเราก็ถ่ายรูปแล้วก็หม่ำๆจนหมดอย่างรวดเร็ว
เมนูนี้ชื่อ โคโค่ดีไลท์ เป็นไอติมกระทิที่โรยหน้าด้วยกล้วยตาก แต่ที่แตกต่างก็คือมีมะนาวด้วย ถ้าบีมมะนาวลงไปรสชาติก็จะเปลี่ยนไปอีกแบบ (อยากรู้ว่าเป็นรสอะไรต้องลองดูนะคะ) ในความคิดจขกทก็อร่อยดีนะคะ แต่น้อยไปนิดนึงไม่พอท้องจขกทและผองเพื่อนจริงๆค่ะ555
และเมนูของหวานอีกเมนูคือ แท่นแท๊นน ขนมปังย่างหน้ามูสค่ะ
ตัวหนมปังก็หนมปังปิ้งปกติเลยแต่ที่อร่อยต้องยกนิ้วให้มูสค่ะ หยอดเป็นคำเล็กๆกินพร้อมกับขนมปัง ไม่หวานมากกำลังดี อยากจะเอาแต่มูสมากินเล่นเลยค่ะอิอิ
พอกินกันจนอิ่มแปล้ พวกเราก็อยู่เล่นกับน้องหมาอีกสักหน่อยก่อนกลับ ถ่ายรูปกันจนเพลินลืมเวลากันเลยทีเดียว แป็บๆก็ได้เวลากลับสะแล้ว ยังอยากอยู่ต่ออีกหน่อย T^T แต่การบ้านที่ต้องทำมันค้ำคอและเรียกร้องให้กลับไปทำงาน
ดีที่วันนี้เติมพลังงานทั้งกายใจอิ่มแปล้เรียบร้อยค่ะ ค่าเสียหายวันนี้ทั้งหมดอยู่ที่ 900 กว่าบาท (ไม่ได้ถ่ายใบเสร็จไว้ต้องขอโทษจริงๆค่า) ในความคิดจขกท ถือว่าเหมาะสมและคุ้มค่ากับอาหารที่ได้ทานและสิ่งที่พวกเราได้รับมากเลยค่ะ ที่สำคัญพอหาร5คน ก็ถั่วเฉลี่ยกันไป
ในภาพรวมจขกทว่า อาหารร้านนี้อร่อยเกือบทุกเมนูที่สั่งมาเลยค่ะ รสชาติกำลังดี ถูกอกถูกใจจขกทและผองเพื่อนมาก *แต่อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับลิ้นแต่ละคนด้วยน้า* เพราะตอนแรกที่มาคืออยากมาเล่นกับน้องหมาชิบะ เลยไม่ได้คาดหวังกับอาหารมากเท่าไหร่แต่ออกมาผิดคาดเลยค่ะ
สรุปคืออาหารอร่อย บรรยากาศในร้านก็ดี น้องหมาชิบะน่ารักสุดสุด และพี่ทุกคนเป็นกันเองมาก เราไม่ได้รู้สึกเหมือนมาทานร้านอาหารเลยค่ะ แต่พวกเรากลับรู้สึกเหมือนเรามานั่งเล่นทานอาหารอยู่ที่บ้านเพื่อนมากกว่า
ปล.วันที่เราไปไม่ไช่วันเสาอาทิตย์ ทำให้ลูกค้าไม่แน่นร้าน สามารถเดินได้ทั่ว ถ้าใครมีเวลาว่างในวันธรรมดาและอยากมาพักผ่อนแบบสบายๆ จขกทแนะนำให้มาวันธรรมดาดีกว่าค่ะ เพราะเราจะสามารถเดินเล่นกับน้องได้อย่างเต็มที่ไม่ต้องเกรงใจใคร แต่ถ้ามาวันเสาร์อาทิตย์ก็อาจจะด้ฟิลลิ่งแตกต่างกันไป อาจจะได้พบเพื่อนใหม่ๆ ที่รักหมาเหมือนกันก็ได้ใครจะไปรู้ เอาเป็นว่าดีทั้งสองแบบเลยละกัน แต่ว่าถ้าใครคิดจะมาในวันเสาร์อาทิตย์แนะนำให้โทรไปจองหรือถามเจ้าของร้านก่อนดีกว่านะคะ กันเอาไว้เผื่อมาแล้วร้านเต็ม ที่ร้านจุคนได้ไม่มาก ถ้ามีโอกาศมาทั้งทีแต่ไม่ได้เข้าร้านคงเสียดายแย่
สำหรับใคร ที่สนใจ จขกทขอใส่ข้อมูลไว้ให้ตรงงนี้นะคะ
https://www.facebook.com/inucafehuahin
สุดท้ายของสุดท้ายนี้ขอลาไปด้วยขบวนการน้องหมาชิบะค่า♡
(หมวกใบนี้สามารถขอทางร้านยืมใส่ถ่ายได้นะคะ เสียดายเพื่อนอีก2คนไม่ได้ใส่ถ่ายด้วย ไม่งั้นขบวนการพาวเวอเรนเจอร์หมาชิบะจะได้สมบูรณ์ครบ5 คน อิอิ จะเอารูปหน้าเต็มนางมาลงก็ไม่กล้าเดี๋ยวโดนจัดการ555 )
ถ้าใครสนใจก็ตามๆกันมาได้น้า ขอบคุณทุกคนที่คนที่เข้ามาชมนะคะ ผิดพลาดประการใดขอภัยด้วยจริงๆค่ะ จขกทและเพื่อนๆขอตัวลาไปก่อน สวัสดีค่า ^^
[CR] ❥{{ R E V I E W }} Inu Café คาเฟ่หมาชิบะสุดน่ารัก♡
ต้องขอบอกก่อนว่าเราและเพื่อนเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตสารสนเทศเพชรบุรี ซึ่งถือว่าอยู่ใกล้กับหัวหินเลยทีเดียวแหละ การเดินทางจากที่มอมาเที่ยวหัวหินของพวกเรา ก็มาโดยรถโดยสารรับจ้างไม่ประจำทาง คือเหมารถหนึ่งคันราคา600บาทสามารถไปไหนก็ได้ ถ้าใครที่เดินทางมาจากกรุงเทพหรือที่อื่นๆ การเดินทางไปยังร้านอินุคาเฟ่ หัวหินก็ไม่ยากเลยค่ะ
เมื่อมาถึงหัวหิน ขับรถเข้าไปในตัวเมือง ร้านอยู่ในซอย หัวหิน 51 ซึ่งในซอยนี้จะมีร้านอาหารอยู่หลายร้าน ให้สังเกตร้านบ้านถั่วเย็น ซอยข้างร้านบ้านถั่วเย็น จะเป็นทางเข้าไปยังร้านอินุคาเฟ่ หัวหิน พอเลี้ยวและตรงเข้ามาแค่แป็บเดียวก็จะเจอร้านอินุคาเฟ่แล้วค่า ร้านจะอยู่ฝั่งซ้ายมือนะคะ แท่นแท๊น~
ภาพด้านหน้าร้าน Inu cafe ลักษณะจะคล้ายบ้านที่พักอาศัยมากกว่าคาเฟ่ค่ะ รั้วสีขาวและกำแพงอิฐแลดูคลาสิค
ตรงทางเข้าหน้าร้าน เราจะเจอกับป้ายนี้อยู่ข้างๆ เป็นกฎของทางร้าน คือ ห้ามนำอาหารของคนให้สุนัขทาน เพื่อสุขภาพและความปลอดภัยของน้องหมานะจ๊ะ
แต่ถ้าใครอยากจะให้อาหารกับเหล่าน้องหมาทางร้านก็มีอาหารสำหรับน้องหมาให้บริการน้า
เมื่อเราเข้ามาก็จะมีพี่เจ้าของร้านและผู้ช่วยรวมถึงเหล่าน้องหมาคอยตอนรับอยู่ อบอุ่นมากเลย >< เราและผองเพื่อนเลยแฮปปี้ ไม่เชื่อดูยิ้มเพื่อนสิ ยิ้มกว้างสุดๆ555 ไม่ได้ตั้งใจแกล้งนะ
มีภาพบรรยากาศภายในร้านให้ดูคร่าวๆนะคะ ไม่ได้ถ่ายเก็บไว้มาก เอาแต่เล่นกับน้องหมา แหะๆ แต่อยากจะบอกว่าที่นี่บรรยกาศดีมากเลย เพราะอยู่ติดทะเลด้วยก็เลยมีลมเย็นๆพัดมาตลอด ยิ่งมีตอนบ่ายๆไม่มีแดดด้วยแล้ว สดชื่นสุดๆค่ะ การตกแต่งที่นี่ก็มีสไตล์ ทำให้มีมุมถ่ายรูปเยอะแยะมากมากให้เลือกถ่ายเลยค่ะ ไม่อยากจะบอกว่ามาที่นี่ครั้งนึงจขกทกับเพื่อนๆก็ได้รูปไว้ลงในโซเชียลอีกนาน รู้สึกปรื้มปริ่ม
มุมทำอาหารค่ะกลิ่นหอมๆลอยมากจากทางนี้นี่เอง ได้กลิ่นแล้วท้องร้องเลย
มุมโต๊ะที่จขกทและเพื่อนเลือกนั่งค่ะ โต๊ะใหญ่เหมาะสำหรับคนสาวๆของเยอะอย่างพวกเรา ฮ่าๆๆ
พอเราเข้ามานั่งในร้าน พี่ที่ร้านจะยกป้ายเมนูอาหารมาให้พวกเราเลือก ตอนแรกก็งงเลยค่ะ ป้ายอะไรใหญ่จัง อ๋ออ เมนูอาหารนี่เอง พี่ๆเขามีความพยายามกันมากจริงๆ พอคิดว่าถ้าต้องยกให้ลูกค้าทุกคนดูตอนที่คนเยอะๆแล้วเหนื่อยแทน แต่ก็แปลกดีนะคะถือเป็นเอกลักษณ์เล็กที่น่ารักอีกอย่างของร้านละกัน
มาดูป้ายเมนูอาหารกันดีกว่าค่ะก็จะแบ่งเป็นอาหาร เครื่องเดิม และของหวาน (ไม่ต้องกลัวจะมองไม่เห็นนะคะ ใครสายตาสั้น ก็สามารถมองเห็นได้ชัดเลยแหละ เพราะป้ายมันใหญ่มากกกกกกกกกกๆๆ)
และแล้วก็ถึงเวลาที่พวกเราเริ่มทำการสั่งอาหารกันอย่างเมามัน ขอบอกก่อนเลยนะคะเมนูของร้านอินุคาเฟ่ หัวหินนี้ พี่เจ้าของร้านเขาคิดขึ้นมาเองหมดเลย และเมนูจะเปลี่ยนไปทุก 3 เดือนด้วย แต่รับประกันว่าเมนูเด็ดดวงทุกเมนู อิชั้นสัมผัสได้ค่ะ อิอิ
ส่วนเมนูที่เราสั่งขอเก็บเป็นความลับก่อน ต้องรอดูกันต่อไปนะคะ ^^
ในระหว่างที่รออาหารที่สั่งนั้น พวกเราก็ลงไปเล่นกับน้องหมาแบบลันล๊าเต็มที่ น้องหมาที่นี่มีชื่อทุกตัวนะคะ ชื่อส่วนใหญ่เป็นชื่อการ์ตูน ใครสนใจอยากดูว่าน้องหมาตัวไหนชื่ออะไรสามารถเข้าไปดุที่เพจเฟสบุ๊คร้านได้ค่ะเดี๋ยวจขกทแปะลิ๊งไว้ให้ด้านล่างนะจ๊ะ
ภายในร้านขนาดมีพื้นที่ไม่เยอะมาก ทำให้เราสามารถเดินไปเล่นได้ทั่วร้าน ถ่ายรูปกับน้องหมาได้ทุกมุมเลยคะ
ใครอยากเล่นกับน้องหมาแต่ยังกล้าๆกลัวๆอยู่ สบายใจกันได้เลยจ้า ที่ร้านจะมีพี่พนักงานคอยช่วยให้คำแนะนำตลอด (พี่เขาน่ารักมากเลย ล่อน้องหมาด้วยขนมหรือของเล่นเพื่อให้นั่งถ่ายรูปกับพวกเราได้)
น้องหมาชิบะตัวนี้ฝากบอกว่าผมหล่อมากเลยครับ แถมยังขี้เล่นอีกด้วยนะ
ดูท่าน้องหมาจะชอบให้เกาพุงเป็นพิเศษ สบายใช่มั้ยล่า ><
ใครที่อยากอุ้มน้องหมาก็สามารถอุ้มได้น้า พี่เขาจะคอยบอกวิธีการอุ้มและคอยช่วยแนะนำค่ะ โมะๆๆๆ เชื่องสุดๆ แต่กว่าจะได้ช๊อตนี้เล่นเอาเหนื่อยลิ้นห้อยตามหมาเหมือนกันค่ะ
สำหรับใครที่อยากมานั่งเล่นชิวชิว แต่ไม่ได้อยากคลุกคลีกับน้องหมามาก ไม่ต้องกลัวนะคะ เพราะน้องหมาที่นี้น่ารักและมีมารยาท ได้รับการฝึกมาแล้วเป็นอย่างดี( น่ารักมากเลยอะแก)
พอผ่านไปได้สักพัก พวกเราก็ได้เห็นหน้าตาอาหารที่พวกเราสั่ง มาดูกันนะคะว่าจะน่าทานขนาดไหน ตื่นเต้นๆๆๆๆ
ข้าวตะไคร้จิ้มแจ่วหมู่นุ่มย่าง
- เมนูนี้ใครชอบรสชาติแซ่บๆ แนะนำเลยค่ะ หอมกลิ่นเครื่องยำ ไม่เผ็ดมาก เด็กทานได้ค่ะ ที่สำคัญหมู่นุ่มมากกกกเข้ากับน้ำยำสุดๆ
ข้าวแกงกะหรี่หมูทอดไข่ออนเซ็น
-เพื่อนที่ชอบกินแกงกะหรี่บอกว่ารสชาติกำลังดี ใช้ได้เลยค่ะ สำหรับคนที่ไม่ชอบกลิ่นแรงๆก็ทานได้นะคะกลิ่นไม่ฉุนมาก ไข่ก็นุ่มละลายไปกับแกงกะหรี่เลยล่ะ
ข้าวผัดอโลฮา
- ข้าวผัดจขกท ลืมไปแล้วว่าเขาใส่อะไรไปบ้าง เพราะมาถึงก็แย่งกันกินอย่างเดียวเลยค่ะ555 แต่ที่แน่ๆคือ มีไข่เจียวชีสโปะอยู่บนข้าวผัดค่ะ ไข่เจียวไม่รู้สึกถึงชีสมากแต่นุ่มใช้ได้เลยค่ะ
และนี่คือเมนูที่พี่เจ้าของร้านแนะนำแก่พวกเราค่ะ คือ โยกันเบอร์เกอร์ ซึ่งในเบอร์เกอร์นี้ใช้ชีส กว่า 200
กรัมเลยแหละ ( ชีสเยิ้มไหลออกมาเลย น้ำลายจขกท.จะไหล )
ส่วนเมนูเครื่องดื่ม เรียงจากซ้ายไปขวานะคะ
ไมโลโอลสคูล แดงเม็ดแมงลัก ชานมเย็น และซูยูกะ ซึ่งซูยูกะรสชาติจะคล้ายกับน้ำมะนาวโซดา แต่จะมีความหวานจากเนื้อแตงโมเป็นลูกกลมๆอยู่ข้างในค่ะ
พอพวกเราทานอาหารคาวเสร็จก็ต้องต่อด้วยของหวานสิค่ะ จะรอช้าทำไมละจ๊ะ จัดไป เมนูของหวานที่นี่แต่ละชิ้นใช้เวลาในการปรุงไม่มาก ไม่ต้องรอนานค่ะ แป้บเดียวก็มาเสริฟอยู่ตรงหน้าเราแล้ว มาถึงเราก็ถ่ายรูปแล้วก็หม่ำๆจนหมดอย่างรวดเร็ว
เมนูนี้ชื่อ โคโค่ดีไลท์ เป็นไอติมกระทิที่โรยหน้าด้วยกล้วยตาก แต่ที่แตกต่างก็คือมีมะนาวด้วย ถ้าบีมมะนาวลงไปรสชาติก็จะเปลี่ยนไปอีกแบบ (อยากรู้ว่าเป็นรสอะไรต้องลองดูนะคะ) ในความคิดจขกทก็อร่อยดีนะคะ แต่น้อยไปนิดนึงไม่พอท้องจขกทและผองเพื่อนจริงๆค่ะ555
และเมนูของหวานอีกเมนูคือ แท่นแท๊นน ขนมปังย่างหน้ามูสค่ะ
ตัวหนมปังก็หนมปังปิ้งปกติเลยแต่ที่อร่อยต้องยกนิ้วให้มูสค่ะ หยอดเป็นคำเล็กๆกินพร้อมกับขนมปัง ไม่หวานมากกำลังดี อยากจะเอาแต่มูสมากินเล่นเลยค่ะอิอิ
พอกินกันจนอิ่มแปล้ พวกเราก็อยู่เล่นกับน้องหมาอีกสักหน่อยก่อนกลับ ถ่ายรูปกันจนเพลินลืมเวลากันเลยทีเดียว แป็บๆก็ได้เวลากลับสะแล้ว ยังอยากอยู่ต่ออีกหน่อย T^T แต่การบ้านที่ต้องทำมันค้ำคอและเรียกร้องให้กลับไปทำงาน
ดีที่วันนี้เติมพลังงานทั้งกายใจอิ่มแปล้เรียบร้อยค่ะ ค่าเสียหายวันนี้ทั้งหมดอยู่ที่ 900 กว่าบาท (ไม่ได้ถ่ายใบเสร็จไว้ต้องขอโทษจริงๆค่า) ในความคิดจขกท ถือว่าเหมาะสมและคุ้มค่ากับอาหารที่ได้ทานและสิ่งที่พวกเราได้รับมากเลยค่ะ ที่สำคัญพอหาร5คน ก็ถั่วเฉลี่ยกันไป
ในภาพรวมจขกทว่า อาหารร้านนี้อร่อยเกือบทุกเมนูที่สั่งมาเลยค่ะ รสชาติกำลังดี ถูกอกถูกใจจขกทและผองเพื่อนมาก *แต่อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับลิ้นแต่ละคนด้วยน้า* เพราะตอนแรกที่มาคืออยากมาเล่นกับน้องหมาชิบะ เลยไม่ได้คาดหวังกับอาหารมากเท่าไหร่แต่ออกมาผิดคาดเลยค่ะ
สรุปคืออาหารอร่อย บรรยากาศในร้านก็ดี น้องหมาชิบะน่ารักสุดสุด และพี่ทุกคนเป็นกันเองมาก เราไม่ได้รู้สึกเหมือนมาทานร้านอาหารเลยค่ะ แต่พวกเรากลับรู้สึกเหมือนเรามานั่งเล่นทานอาหารอยู่ที่บ้านเพื่อนมากกว่า
ปล.วันที่เราไปไม่ไช่วันเสาอาทิตย์ ทำให้ลูกค้าไม่แน่นร้าน สามารถเดินได้ทั่ว ถ้าใครมีเวลาว่างในวันธรรมดาและอยากมาพักผ่อนแบบสบายๆ จขกทแนะนำให้มาวันธรรมดาดีกว่าค่ะ เพราะเราจะสามารถเดินเล่นกับน้องได้อย่างเต็มที่ไม่ต้องเกรงใจใคร แต่ถ้ามาวันเสาร์อาทิตย์ก็อาจจะด้ฟิลลิ่งแตกต่างกันไป อาจจะได้พบเพื่อนใหม่ๆ ที่รักหมาเหมือนกันก็ได้ใครจะไปรู้ เอาเป็นว่าดีทั้งสองแบบเลยละกัน แต่ว่าถ้าใครคิดจะมาในวันเสาร์อาทิตย์แนะนำให้โทรไปจองหรือถามเจ้าของร้านก่อนดีกว่านะคะ กันเอาไว้เผื่อมาแล้วร้านเต็ม ที่ร้านจุคนได้ไม่มาก ถ้ามีโอกาศมาทั้งทีแต่ไม่ได้เข้าร้านคงเสียดายแย่
สำหรับใคร ที่สนใจ จขกทขอใส่ข้อมูลไว้ให้ตรงงนี้นะคะ
https://www.facebook.com/inucafehuahin
สุดท้ายของสุดท้ายนี้ขอลาไปด้วยขบวนการน้องหมาชิบะค่า♡
(หมวกใบนี้สามารถขอทางร้านยืมใส่ถ่ายได้นะคะ เสียดายเพื่อนอีก2คนไม่ได้ใส่ถ่ายด้วย ไม่งั้นขบวนการพาวเวอเรนเจอร์หมาชิบะจะได้สมบูรณ์ครบ5 คน อิอิ จะเอารูปหน้าเต็มนางมาลงก็ไม่กล้าเดี๋ยวโดนจัดการ555 )
ถ้าใครสนใจก็ตามๆกันมาได้น้า ขอบคุณทุกคนที่คนที่เข้ามาชมนะคะ ผิดพลาดประการใดขอภัยด้วยจริงๆค่ะ จขกทและเพื่อนๆขอตัวลาไปก่อน สวัสดีค่า ^^
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น