สวัสดีทุกท่านค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของเราในพันทิป
ที่จะขอเล่าเรื่องราวน่าเศร้า การจากไปของสุนัขตัวโปรด
"แทงเกิ้ล" อิงลิชคอกเกอร์ตัวเมีย จากเราไปเพียงอายุ 4 ขวบ ด้วยโรคไต
แทงเกิ้ลรักษาตัวอยู่กับคุณหมอนับรวมราว ๆ 2 อาทิตย์ได้ จากทั้งโรงพยาบาลแรกและที่สอง กลับออกจากโรงพยาบาลมาอยู่ด้วยกันได้สี่วันเต็ม ๆ
พอหมดหนทางจากโรงพยาบาล เราก็ขอนำน้องกลับมาอยู่ด้วยกันดีกว่า ขอบอกตามตรงทุกครั้งที่ไปเยี่ยมเค้าที่โรงพยาบาล เวลาเห็นสภาพเค้าที่โดนเจาะนู่นนี่นั่น เค้าเจ็บจนไม่รู้จะเจ็บยังไงแล้ว แต่เราก็ต้องแข็งใจไว้ถ้าเพื่อเค้าจะหายและออกมาอยู่ด้วยกันได้อีกนานๆ แต่ก็โชคร้ายนะ อาการแทงเกิ้ลไม่ดีขึ้นเลย
จนตัดสินใจพาเค้ามาอยู่ด้วยกัน แต่เราก็ยังไม่หมดหวังในเมื่อแพทย์แผนปัจจุบันมันหมดหนทางแล้ว ก็คงต้องลองแผนโบราณบ้างแล้ว ไปอ่านตามในอินเตอร์เน็ต อ่านดูจากหลายๆ ท่าน ได้ลองป้อนน้ำหญ้าไผ่น้ำ บางท่านรอดปาฏิหาริย์ บางท่านโชคร้าย มาถึงเราก็ต้องลองดูมันเป็นทางสุดท้ายแล้วเผื่อปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้นกับแทงเกิ้ลอีกครั้ง ป้อนหญ้าไผ่น้ำมาได้สาม-สี่วัน วันสองวันแรก เราสังเกตุเห็นว่าเค้าเหมือนเริ่มมีแรงขึ้นมาบ้าง แววตาสดใสขึ้น แล้ววันศุกร์เราต้องไปทำงาน พอเลิกงานก็รีบกลับมาดูอาการเค้า กลับมาเจอสภาพเค้าอิดโรยอีกแล้ว แววตาสดใสหายไปอีกแล้ว ใจก็เริ่มหาย หวิวๆ ยังไงไม่รู้ แล้วเราก็ได้อยู่ด้วยกันอีกวันนึงคือวันเสาร์ที่ไม่ต้องไปทำงาน ได้อยู่กับเค้าทั้งวัน นั่งพูดนั่งคุยกัน ความรู้สึกมันเหมือนเราจะได้คุยกันอีกแค่ไม่กี่ประโยคแล้วนะ เวลามันน้อยเต็มที
แล้วค่ำคืนที่คิดว่าเค้าทรมานที่สุดคงมาถึง ในคืนวันเสาร์แทงเกิ้ลหายใจแบบเหนื่อย ๆ หายใจแรงมาก เหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจ ดูจากสภาพเค้าแล้ว เราก็คิดว่ายังไงก็คงไม่พ้นคืนนี้แน่ ในตอนนั้นคงต้องบอกตัวเองว่าได้เวลาร่ำลาแล้ว การพูดร่ำลากัน
"แทงเกิ้ล แม่รักหนูนะ พี่เกิ้ลเป็นที่รักของทุกคนนะ หลับให้สบายนะ ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกังวลอะไร" แล้วทุกคนก็พากันมาร่ำลาพี่เกิ้ล ในตอนนั้นเราไม่ได้หวังให้แทงเกิ้ลรอดเลยขอแค่ให้เค้าไปอย่างสบาย ไม่ทรมาน เพราะสุนัขที่ป่วยเป็นโรคไตเค้าบอกว่าเวลาตายจะทรมานมาก ไม่อยากนึงถึงว่าถ้าเวลานั้นมาถึงตรงหน้าเรา เราจะทำใจได้ไหม
เวลาแห่งการร่ำลาผ่านไปพี่เกิ้ลอยู่กับเราจนถึงเช้าวันอาทิตย์ ทุกคนทำใจยังไม่ได้ที่จะสูญเสียเค้าไป ฮึดสุดท้าย เราอุ้มเค้าว่าจะลองพาเค้าไปจุฬาดู พออุ้มเค้าขึ้นมาจากที่นอน เราก็ส่งน้องให้แฟนอุ้มต่อ พาน้องเดินออกมา แล้วภาพที่ทุกคนไม่อยากดู ไม่อยากให้มาถึงมันก็มา แทงเกิ้ลกำลังจะหมดลมหายใจ แฟนเลยวางเค้านอนในท่าที่สบาย การหายใจ 3 เฮือกใหญ่ๆ ลมหายใจสุดท้ายของแทงเกิ้ล ทุกคนปล่อยโฮออกมา ร้องไห้หนักกว่าทุกครั้ง
พูดชื่อเค้า จับเค้า กอดเค้า พี่เกิ้ล จากเราไปแล้ว ในเวลานั้นคงไม่ต้องพูดอะไร คิดว่าทุกท่านคงนึกภาพออกว่าสภาพจิตใจของเราเป็นอย่างไร
ผ่านมาจนถึงวันจันทร์ ที่ไปรับกระดูกเค้าไปลอยอังคาร พอเห็นกระดูกเค้าน้ำตาก็ปริ่ม ๆ ออกมา ไม่มีเนื้อหนังของเค้าอีกแล้ว ไม่มีแทงเกิ้ลอีกแล้ว จากกันตลอดกาล แต่แทงเกิ้ลจะอยู่ในใจของทุกคน
มาถึงส่วนท้ายนี้เราขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่กำลังจะประสบเหตุการณ์คล้ายกัน หรือ กำลังอยู่ในช่วงทรมานทั้งเจ้าของทั้งน้องหมา ขอให้สู้ ๆ เข้าไว้ ทำให้เต็มที่ใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้มาก เราไม่รู้ว่าเวลาสุดท้ายที่จะอยู่ด้วยกันมันจะมาเมื่อไหร่
เป็นกำลังใจให้ทุกท่านค่ะ
การจากไปตลอดกาลของ "แทงเกิ้ล"
ที่จะขอเล่าเรื่องราวน่าเศร้า การจากไปของสุนัขตัวโปรด
"แทงเกิ้ล" อิงลิชคอกเกอร์ตัวเมีย จากเราไปเพียงอายุ 4 ขวบ ด้วยโรคไต
แทงเกิ้ลรักษาตัวอยู่กับคุณหมอนับรวมราว ๆ 2 อาทิตย์ได้ จากทั้งโรงพยาบาลแรกและที่สอง กลับออกจากโรงพยาบาลมาอยู่ด้วยกันได้สี่วันเต็ม ๆ
พอหมดหนทางจากโรงพยาบาล เราก็ขอนำน้องกลับมาอยู่ด้วยกันดีกว่า ขอบอกตามตรงทุกครั้งที่ไปเยี่ยมเค้าที่โรงพยาบาล เวลาเห็นสภาพเค้าที่โดนเจาะนู่นนี่นั่น เค้าเจ็บจนไม่รู้จะเจ็บยังไงแล้ว แต่เราก็ต้องแข็งใจไว้ถ้าเพื่อเค้าจะหายและออกมาอยู่ด้วยกันได้อีกนานๆ แต่ก็โชคร้ายนะ อาการแทงเกิ้ลไม่ดีขึ้นเลย
จนตัดสินใจพาเค้ามาอยู่ด้วยกัน แต่เราก็ยังไม่หมดหวังในเมื่อแพทย์แผนปัจจุบันมันหมดหนทางแล้ว ก็คงต้องลองแผนโบราณบ้างแล้ว ไปอ่านตามในอินเตอร์เน็ต อ่านดูจากหลายๆ ท่าน ได้ลองป้อนน้ำหญ้าไผ่น้ำ บางท่านรอดปาฏิหาริย์ บางท่านโชคร้าย มาถึงเราก็ต้องลองดูมันเป็นทางสุดท้ายแล้วเผื่อปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้นกับแทงเกิ้ลอีกครั้ง ป้อนหญ้าไผ่น้ำมาได้สาม-สี่วัน วันสองวันแรก เราสังเกตุเห็นว่าเค้าเหมือนเริ่มมีแรงขึ้นมาบ้าง แววตาสดใสขึ้น แล้ววันศุกร์เราต้องไปทำงาน พอเลิกงานก็รีบกลับมาดูอาการเค้า กลับมาเจอสภาพเค้าอิดโรยอีกแล้ว แววตาสดใสหายไปอีกแล้ว ใจก็เริ่มหาย หวิวๆ ยังไงไม่รู้ แล้วเราก็ได้อยู่ด้วยกันอีกวันนึงคือวันเสาร์ที่ไม่ต้องไปทำงาน ได้อยู่กับเค้าทั้งวัน นั่งพูดนั่งคุยกัน ความรู้สึกมันเหมือนเราจะได้คุยกันอีกแค่ไม่กี่ประโยคแล้วนะ เวลามันน้อยเต็มที
แล้วค่ำคืนที่คิดว่าเค้าทรมานที่สุดคงมาถึง ในคืนวันเสาร์แทงเกิ้ลหายใจแบบเหนื่อย ๆ หายใจแรงมาก เหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจ ดูจากสภาพเค้าแล้ว เราก็คิดว่ายังไงก็คงไม่พ้นคืนนี้แน่ ในตอนนั้นคงต้องบอกตัวเองว่าได้เวลาร่ำลาแล้ว การพูดร่ำลากัน "แทงเกิ้ล แม่รักหนูนะ พี่เกิ้ลเป็นที่รักของทุกคนนะ หลับให้สบายนะ ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกังวลอะไร" แล้วทุกคนก็พากันมาร่ำลาพี่เกิ้ล ในตอนนั้นเราไม่ได้หวังให้แทงเกิ้ลรอดเลยขอแค่ให้เค้าไปอย่างสบาย ไม่ทรมาน เพราะสุนัขที่ป่วยเป็นโรคไตเค้าบอกว่าเวลาตายจะทรมานมาก ไม่อยากนึงถึงว่าถ้าเวลานั้นมาถึงตรงหน้าเรา เราจะทำใจได้ไหม
เวลาแห่งการร่ำลาผ่านไปพี่เกิ้ลอยู่กับเราจนถึงเช้าวันอาทิตย์ ทุกคนทำใจยังไม่ได้ที่จะสูญเสียเค้าไป ฮึดสุดท้าย เราอุ้มเค้าว่าจะลองพาเค้าไปจุฬาดู พออุ้มเค้าขึ้นมาจากที่นอน เราก็ส่งน้องให้แฟนอุ้มต่อ พาน้องเดินออกมา แล้วภาพที่ทุกคนไม่อยากดู ไม่อยากให้มาถึงมันก็มา แทงเกิ้ลกำลังจะหมดลมหายใจ แฟนเลยวางเค้านอนในท่าที่สบาย การหายใจ 3 เฮือกใหญ่ๆ ลมหายใจสุดท้ายของแทงเกิ้ล ทุกคนปล่อยโฮออกมา ร้องไห้หนักกว่าทุกครั้ง
พูดชื่อเค้า จับเค้า กอดเค้า พี่เกิ้ล จากเราไปแล้ว ในเวลานั้นคงไม่ต้องพูดอะไร คิดว่าทุกท่านคงนึกภาพออกว่าสภาพจิตใจของเราเป็นอย่างไร
ผ่านมาจนถึงวันจันทร์ ที่ไปรับกระดูกเค้าไปลอยอังคาร พอเห็นกระดูกเค้าน้ำตาก็ปริ่ม ๆ ออกมา ไม่มีเนื้อหนังของเค้าอีกแล้ว ไม่มีแทงเกิ้ลอีกแล้ว จากกันตลอดกาล แต่แทงเกิ้ลจะอยู่ในใจของทุกคน
มาถึงส่วนท้ายนี้เราขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่กำลังจะประสบเหตุการณ์คล้ายกัน หรือ กำลังอยู่ในช่วงทรมานทั้งเจ้าของทั้งน้องหมา ขอให้สู้ ๆ เข้าไว้ ทำให้เต็มที่ใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้มาก เราไม่รู้ว่าเวลาสุดท้ายที่จะอยู่ด้วยกันมันจะมาเมื่อไหร่
เป็นกำลังใจให้ทุกท่านค่ะ