ผมขอคิดมุมกลับนะครับ
อาจจะมีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ก็ไม่เป็นไร
หากจะอ้างวาทกรรม "หนังอาบัติ เป็นการแสดงถึงความจริงของสังคม ให้คนดูใช้วิจารณญาณในการชมเอาเอง" เวลาต่อไปจะทำอะไร เราก็ต้องเอาด้านเสีย ด้านลบ ออกมาโชว์ด้วย ใช่หรือไม่ ให้คนดูใช้วิจารญาณเอาเอง เช่นการท่องเที่ยว เวลาทำ pr ก็ต้องเอาด้านมืดของสังคมไทย ออกมาโชว์ นักท่องเที่ยว ให้ดูแล้วเขาใช้วิจารณญาณเอาเอง หากจะใช้ตรรกะเดียวกัน หรือใช้วาทกรรมนี้
ประเทศไทย ประกอบไปด้วย 3 สถาบัน คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ในฐานะพุทธศาสนาก็เป็นหนึ่งในเสาหลัก ผมกลับมองว่า ไม่ค่อยได้รับการดูแล จากภาครัฐมากนัก ด้วยกรอบวัฒนธรรม เช่น ผู้นำศาสนาเป็นพระ ทำอะไรมากไม่ได้ กรอบมันเยอะ หากเอาเสาใดเสาหนึ่งของชาติ มาปู้ยี้ปู้ยำได้ นั่นแสดงว่าสถาบันใดสถาบันหนึ่งของชาติคลอนแคลนแล้ว บ่งบอกถึงความอ่อนแอ และขาดความสามัคคีของคนในชาติ
ข้อดีอย่างหนึ่งของการนับถือพุทธศาสนา ก็ตรงที่ศาสนิกได้สิทธิเสรีภาพในการนับถือ ไม่โดนกดหัวให้เชื่ออย่างบ้าคลั่ง บ้างก็อ้างสิทธิเสรีภาพเหมือนตะวันตก อย่าไปเอาวัฒนธรรมตะวันตก มาใช้กับวัฒนธรรมไทยนะครับ จริงอยู่ ในตะวันตก การทำหนังล้อเลียนศาสนา อาจจะถือว่าเป็นเรื่องปกติ มีวัฒนธรรมตะวันตกบางอย่างก็เอามาใช้กับบ้านเราไม่สนิทใจนัก เช่น ความผูกพันธ์กับพ่อแม่ตะวันตกไม่ค่อยมี ความกตัญญูที่ลูกหลานต้องเลี้ยงพ่อแม่ บางคนพ่อแม่ไปเยี่ยมลูก ไม่ได้นัด โดนลูกด่าก็มี อย่าเห็นอะไร ที่เป็นผลผลิตของฝรั่งจะดีไปหมด ในอเมริกา โบสถ์ร้างก็เยอะ พอๆกับวัดร้างในประเทศไทย เพราะคนหนุ่มสาว เริ่มจะไม่เชื่อศาสนาดั้งเดิมของตน แสวงหาความจริงของชีวิตทางฝั่งตะวันออก ปล่อยให้คนเฒ่าคนแก่ไปโบสถ์ คนไม่มีศาสนาก็เยอะเพิ่มคน คนเปลี่ยนศาสนาก็มี
อีกประการหนึ่ง โดยส่วนตัว ผมคิดว่าการแยกแยะชั่วดี การวิเคราะห์ การใช้วิจารญาณ ของเยาวชนไทย ก็ยังมีน้อย ยังไม่รู้จักดีชั่ว วิเคราะห์ได้จาก เด็กส่วนใหญ่ติดเกม ติดมือถือ ไม่มีความเคารพในพ่อแม่ มีวินัย ความรับผิดชอบในชีวิตต่ำกว่าเยาวชนในตะวันตก การศึกษาของประเทศไทยก็เกือบรั้งท้ายประเทศเพื่อนบ้าน เด็กจบ ป.ตรี ยังช่วยเหลือตัวเองยังไม่ได้เลย ยังต้องขอเงินพ่อแม่ใช้ กลุ่มวัยรุ่น คือกลุ่มเป้าหมายของหนังเรื่องนี้ แล้วคิดว่าเยาวชน จะมีวิจารญาณในการดูแล้ววิเคราะห์ คนชั่ว คนดี ออกจากศาสนาหรือ
ทุกสถาบัน ทุกศาสนา ทุกองค์กร มีด้านมืดหมด หากใช้ตรรกะ " หนังอาบัติ มันคือความจริงของสังคม คือด้านมืดของศาสนา" คนสร้างเขาคงไม่ได้มาคำนึงถึง คุณงามความดี จริยธรรมอะไรในสังคม เท่ากับเม็ดเงิน ที่เขาลงทุนไป ก็ไม่แปลกที่เขาจะระดมคนสนับสนุนให้ฉาย โดยไม่เซ็นเซอร์ เพราะหากตัด หรือเปลี่ยนแปลงบท นั่นก็หมายถึง ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น
ผมไม่ได้ศรัทธาศาสนาอย่างบ้าคลั่ง แต่อาจเป็นเพราะผมได้ประโยชน์จากคำสอนของศาสนาพุทธ เลยทำให้ผมเห็นคุณค่าของศาสนา เรื่องศาสนา เรื่องการเมือง สถาบันชาติ ศาสนา กษัตริย์ ถือว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ที่เราไม่ค่อยนำเอามาคุยกัน ในสังคมเปิด หากสังคมไทยปล่อยให้เขาเอาสถาบันหลักมาเล่นได้ ก็อาจจะเป็นภาพสะท้อนถึง ความอ่อนแอของชาวพุทธได้เป็นอย่างดี หากเป็นคนนอกศาสนา แน่นอนว่า เขามาผสมโรง เข้ามาด่า มาซ้ำเติมและจากไป เราจะเอาคำด่า คำซ้ำเติม ของคนนอก มาเป็นแรงบันดาลใจหรือ มีพระฝรั่งในประเทศไทย เยอะแยะมากมาย ที่ท่านตัดทางโลก เป็นนักธุรกิจ เป็นบุคคลากรที่มีคุณภาพ ทำไมสื่อ ไม่ไปเอาประวัติหรือทำหนังให้เป็นแง่คิด ทำให้คนรักศาสนา เลือกเอาคนที่มีคุณภาพ มาเป็นบุคคลากร เอามาเป็นแบบอย่างให้สังคม
แต่หากมองอีกศาสนาหนึ่งในประเทศไทย คงไม่มีใครคิดจะสร้าง ภาพยนตร์ ดูถูกผู้นำศาสนาของเขา แค่คิดก็เสียวสันหลังแล้ว ป่านนี้ผู้สร้างหนังอาจจะต้องตั้งโต๊ะแถลงข่าว ขอโทษ และหนังอาจจะโดนแบนโดยการยอมรับของผู้สร้างโดยดุษฎี โดยไร้ปากเสียงต่อต้าน ชาวพุทธครับ ลองตั้งสติให้ดีๆ มันจรรโลงชาติ ศาสนาหรือครับ แค่ยังไม่ฉาย ก็ทำให้เกิดความแตกสามัคคีในสถาบันศาสนาแล้ว ในเมืองไทยมีสิ่งดีงามๆเยอะแยะมากมาย ที่สร้างแล้ว จรรโลงใจ กระตุ้นให้คนมีคุณธรรม จริยธรรม ทำไมคนเราชอบเอาของเน่า ของเสีย มาอวดกัน ทำไมไม่เอาด้านสว่างเป็นสื่อบ้าง ด้านเสีย ด้านมืด มีทุกย่อมหญ้า มีทุกศาสนา ไม่บอกทุกๆคนก็รู้ เหมือนถ่านร้อน เราจำเป็นต้องสอนให้จับไหมครับ ถึงจะรู้ว่ามันร้อน การจะสอนให้คนเป็นคนดี เรียนรู้จากสิ่งดีๆ จากคนที่ดีๆ ได้ไหม เปลี่ยนความคิดใหม่ ทำไมต้องเรียนรู้จากสิ่งชั่วร้ายเสมอไป
ด้วยเหตุนี้ ใครจะสนับสนุนให้ฉาย ก็ไม่ว่ากัน แต่นี้คือเหตุผลของผม อาจจะเป็นส่วนเล็กๆ ที่ไม่อยากให้ฉาย แต่หากคิดว่า ฉายแล้ว ทำให้สังคมไทยน่าอยู่ขึ้น มันทำให้คนมีสติขึ้น ทำให้คนชั่วลดลง ทำให้คนในชาติรักกันมากขึ้น ทำให้สถาบันชาติ และศาสนามั่นคง เกรงกลัวบาปมากขึ้น มากกว่าจะช่วยทำให้ยอดจำหน่ายตั๋วลดลง ก็ไม่ว่ากัน เมื่อเขาลงทุนไปแล้ว ก็ต้องถึงเวลาเอาทุนคืน ชาวพุทธที่เข้าใจ เข้าถึงคำสอนจริงๆ ที่มีความรักในศาสนา ที่ได้ประโยชน์จากการปฎิบัติ ก็คงรู้สึกหดหู่ใจ กับชาวพุทธในสำเนาทะเบียนบ้าน ที่กวักมือให้คนนอกมาซ้ำเติมศาสนาตนเอง โดยอาศัยแค่กระแสไปตามสังคม แทนที่จะช่วยกันคิดหาวิธีแก้ไขปัญหา อย่าลืมว่า สังคมไทยถึงแม้จะเป็นอย่างไร ด่าง ดำ เช่นไร ก็ยังเป็นสังคมที่น่าอยู่ สงบ ยังคงเป็นสยามเมืองยิ้ม ผู้คนมีสัมมาคารวะ ก็เพราะอิทธิพลของพุทธศาสนา
เรื่องทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว มันคือหลักคำสอนในพระพุทธศาสนาอยู่แล้ว เมื่อทำดีก็ต้องได้ดี เมื่อทำชั่วก็ต้องได้รับผลชั่ว หากชาวพุทธ เป็นชาวพุทธจริงๆ ตามรอยบาทพระศาสดา อยากรู้ว่า อาบัติหรือผลจากการทำอาบัติเป็นอย่างไร ทำไมไม่เข้าไปอ่าน วินัยของพระหละครับ 227 ข้อ คุณจะได้ความรู้อีกมาก รับรู้ถึงสติปัญญาของพระพุทธเจ้าด้วย ลด ละ เลิกกิเลส รู้ว่าทรงบัญญัติอาบัติอย่างไร ให้เป็นกฎหมายปกครองสงฆ์ มีพุทธวิถีแก้ไขปัญหาอย่างไร มีธรรมะ สอดแทรกด้วย ตัวอย่างพระไม่ดี มีอยู่แล้ว ในพระวินัย เข้าไปอ่านบ้างเถอะครับ
ผมคนหนึ่ง ที่สนับสนุนให้แบน หนังอาบัติ
อาจจะมีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ก็ไม่เป็นไร
หากจะอ้างวาทกรรม "หนังอาบัติ เป็นการแสดงถึงความจริงของสังคม ให้คนดูใช้วิจารณญาณในการชมเอาเอง" เวลาต่อไปจะทำอะไร เราก็ต้องเอาด้านเสีย ด้านลบ ออกมาโชว์ด้วย ใช่หรือไม่ ให้คนดูใช้วิจารญาณเอาเอง เช่นการท่องเที่ยว เวลาทำ pr ก็ต้องเอาด้านมืดของสังคมไทย ออกมาโชว์ นักท่องเที่ยว ให้ดูแล้วเขาใช้วิจารณญาณเอาเอง หากจะใช้ตรรกะเดียวกัน หรือใช้วาทกรรมนี้
ประเทศไทย ประกอบไปด้วย 3 สถาบัน คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ในฐานะพุทธศาสนาก็เป็นหนึ่งในเสาหลัก ผมกลับมองว่า ไม่ค่อยได้รับการดูแล จากภาครัฐมากนัก ด้วยกรอบวัฒนธรรม เช่น ผู้นำศาสนาเป็นพระ ทำอะไรมากไม่ได้ กรอบมันเยอะ หากเอาเสาใดเสาหนึ่งของชาติ มาปู้ยี้ปู้ยำได้ นั่นแสดงว่าสถาบันใดสถาบันหนึ่งของชาติคลอนแคลนแล้ว บ่งบอกถึงความอ่อนแอ และขาดความสามัคคีของคนในชาติ
ข้อดีอย่างหนึ่งของการนับถือพุทธศาสนา ก็ตรงที่ศาสนิกได้สิทธิเสรีภาพในการนับถือ ไม่โดนกดหัวให้เชื่ออย่างบ้าคลั่ง บ้างก็อ้างสิทธิเสรีภาพเหมือนตะวันตก อย่าไปเอาวัฒนธรรมตะวันตก มาใช้กับวัฒนธรรมไทยนะครับ จริงอยู่ ในตะวันตก การทำหนังล้อเลียนศาสนา อาจจะถือว่าเป็นเรื่องปกติ มีวัฒนธรรมตะวันตกบางอย่างก็เอามาใช้กับบ้านเราไม่สนิทใจนัก เช่น ความผูกพันธ์กับพ่อแม่ตะวันตกไม่ค่อยมี ความกตัญญูที่ลูกหลานต้องเลี้ยงพ่อแม่ บางคนพ่อแม่ไปเยี่ยมลูก ไม่ได้นัด โดนลูกด่าก็มี อย่าเห็นอะไร ที่เป็นผลผลิตของฝรั่งจะดีไปหมด ในอเมริกา โบสถ์ร้างก็เยอะ พอๆกับวัดร้างในประเทศไทย เพราะคนหนุ่มสาว เริ่มจะไม่เชื่อศาสนาดั้งเดิมของตน แสวงหาความจริงของชีวิตทางฝั่งตะวันออก ปล่อยให้คนเฒ่าคนแก่ไปโบสถ์ คนไม่มีศาสนาก็เยอะเพิ่มคน คนเปลี่ยนศาสนาก็มี
อีกประการหนึ่ง โดยส่วนตัว ผมคิดว่าการแยกแยะชั่วดี การวิเคราะห์ การใช้วิจารญาณ ของเยาวชนไทย ก็ยังมีน้อย ยังไม่รู้จักดีชั่ว วิเคราะห์ได้จาก เด็กส่วนใหญ่ติดเกม ติดมือถือ ไม่มีความเคารพในพ่อแม่ มีวินัย ความรับผิดชอบในชีวิตต่ำกว่าเยาวชนในตะวันตก การศึกษาของประเทศไทยก็เกือบรั้งท้ายประเทศเพื่อนบ้าน เด็กจบ ป.ตรี ยังช่วยเหลือตัวเองยังไม่ได้เลย ยังต้องขอเงินพ่อแม่ใช้ กลุ่มวัยรุ่น คือกลุ่มเป้าหมายของหนังเรื่องนี้ แล้วคิดว่าเยาวชน จะมีวิจารญาณในการดูแล้ววิเคราะห์ คนชั่ว คนดี ออกจากศาสนาหรือ
ทุกสถาบัน ทุกศาสนา ทุกองค์กร มีด้านมืดหมด หากใช้ตรรกะ " หนังอาบัติ มันคือความจริงของสังคม คือด้านมืดของศาสนา" คนสร้างเขาคงไม่ได้มาคำนึงถึง คุณงามความดี จริยธรรมอะไรในสังคม เท่ากับเม็ดเงิน ที่เขาลงทุนไป ก็ไม่แปลกที่เขาจะระดมคนสนับสนุนให้ฉาย โดยไม่เซ็นเซอร์ เพราะหากตัด หรือเปลี่ยนแปลงบท นั่นก็หมายถึง ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น
ผมไม่ได้ศรัทธาศาสนาอย่างบ้าคลั่ง แต่อาจเป็นเพราะผมได้ประโยชน์จากคำสอนของศาสนาพุทธ เลยทำให้ผมเห็นคุณค่าของศาสนา เรื่องศาสนา เรื่องการเมือง สถาบันชาติ ศาสนา กษัตริย์ ถือว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ที่เราไม่ค่อยนำเอามาคุยกัน ในสังคมเปิด หากสังคมไทยปล่อยให้เขาเอาสถาบันหลักมาเล่นได้ ก็อาจจะเป็นภาพสะท้อนถึง ความอ่อนแอของชาวพุทธได้เป็นอย่างดี หากเป็นคนนอกศาสนา แน่นอนว่า เขามาผสมโรง เข้ามาด่า มาซ้ำเติมและจากไป เราจะเอาคำด่า คำซ้ำเติม ของคนนอก มาเป็นแรงบันดาลใจหรือ มีพระฝรั่งในประเทศไทย เยอะแยะมากมาย ที่ท่านตัดทางโลก เป็นนักธุรกิจ เป็นบุคคลากรที่มีคุณภาพ ทำไมสื่อ ไม่ไปเอาประวัติหรือทำหนังให้เป็นแง่คิด ทำให้คนรักศาสนา เลือกเอาคนที่มีคุณภาพ มาเป็นบุคคลากร เอามาเป็นแบบอย่างให้สังคม
แต่หากมองอีกศาสนาหนึ่งในประเทศไทย คงไม่มีใครคิดจะสร้าง ภาพยนตร์ ดูถูกผู้นำศาสนาของเขา แค่คิดก็เสียวสันหลังแล้ว ป่านนี้ผู้สร้างหนังอาจจะต้องตั้งโต๊ะแถลงข่าว ขอโทษ และหนังอาจจะโดนแบนโดยการยอมรับของผู้สร้างโดยดุษฎี โดยไร้ปากเสียงต่อต้าน ชาวพุทธครับ ลองตั้งสติให้ดีๆ มันจรรโลงชาติ ศาสนาหรือครับ แค่ยังไม่ฉาย ก็ทำให้เกิดความแตกสามัคคีในสถาบันศาสนาแล้ว ในเมืองไทยมีสิ่งดีงามๆเยอะแยะมากมาย ที่สร้างแล้ว จรรโลงใจ กระตุ้นให้คนมีคุณธรรม จริยธรรม ทำไมคนเราชอบเอาของเน่า ของเสีย มาอวดกัน ทำไมไม่เอาด้านสว่างเป็นสื่อบ้าง ด้านเสีย ด้านมืด มีทุกย่อมหญ้า มีทุกศาสนา ไม่บอกทุกๆคนก็รู้ เหมือนถ่านร้อน เราจำเป็นต้องสอนให้จับไหมครับ ถึงจะรู้ว่ามันร้อน การจะสอนให้คนเป็นคนดี เรียนรู้จากสิ่งดีๆ จากคนที่ดีๆ ได้ไหม เปลี่ยนความคิดใหม่ ทำไมต้องเรียนรู้จากสิ่งชั่วร้ายเสมอไป
ด้วยเหตุนี้ ใครจะสนับสนุนให้ฉาย ก็ไม่ว่ากัน แต่นี้คือเหตุผลของผม อาจจะเป็นส่วนเล็กๆ ที่ไม่อยากให้ฉาย แต่หากคิดว่า ฉายแล้ว ทำให้สังคมไทยน่าอยู่ขึ้น มันทำให้คนมีสติขึ้น ทำให้คนชั่วลดลง ทำให้คนในชาติรักกันมากขึ้น ทำให้สถาบันชาติ และศาสนามั่นคง เกรงกลัวบาปมากขึ้น มากกว่าจะช่วยทำให้ยอดจำหน่ายตั๋วลดลง ก็ไม่ว่ากัน เมื่อเขาลงทุนไปแล้ว ก็ต้องถึงเวลาเอาทุนคืน ชาวพุทธที่เข้าใจ เข้าถึงคำสอนจริงๆ ที่มีความรักในศาสนา ที่ได้ประโยชน์จากการปฎิบัติ ก็คงรู้สึกหดหู่ใจ กับชาวพุทธในสำเนาทะเบียนบ้าน ที่กวักมือให้คนนอกมาซ้ำเติมศาสนาตนเอง โดยอาศัยแค่กระแสไปตามสังคม แทนที่จะช่วยกันคิดหาวิธีแก้ไขปัญหา อย่าลืมว่า สังคมไทยถึงแม้จะเป็นอย่างไร ด่าง ดำ เช่นไร ก็ยังเป็นสังคมที่น่าอยู่ สงบ ยังคงเป็นสยามเมืองยิ้ม ผู้คนมีสัมมาคารวะ ก็เพราะอิทธิพลของพุทธศาสนา
เรื่องทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว มันคือหลักคำสอนในพระพุทธศาสนาอยู่แล้ว เมื่อทำดีก็ต้องได้ดี เมื่อทำชั่วก็ต้องได้รับผลชั่ว หากชาวพุทธ เป็นชาวพุทธจริงๆ ตามรอยบาทพระศาสดา อยากรู้ว่า อาบัติหรือผลจากการทำอาบัติเป็นอย่างไร ทำไมไม่เข้าไปอ่าน วินัยของพระหละครับ 227 ข้อ คุณจะได้ความรู้อีกมาก รับรู้ถึงสติปัญญาของพระพุทธเจ้าด้วย ลด ละ เลิกกิเลส รู้ว่าทรงบัญญัติอาบัติอย่างไร ให้เป็นกฎหมายปกครองสงฆ์ มีพุทธวิถีแก้ไขปัญหาอย่างไร มีธรรมะ สอดแทรกด้วย ตัวอย่างพระไม่ดี มีอยู่แล้ว ในพระวินัย เข้าไปอ่านบ้างเถอะครับ