สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
อันนี้ตอบในฐานะคนที่เคยเกือบจะได้เข้าร่วมไอเซค แต่เข้าร่วม WAT และเป็นความคิดเห็นส่วตัวนะคะ
1.เงิน
WAT เสียเยอะกว่าจริง แต่มีโอกาสได้คืน โดยการทำงานซึ่งเเน่นอน ขาดทุนบ้าง กำไรบ้าง ในขนาดที่ไอเซค คือเสียเงินล้วนๆ ไม่สามารถทำงานที่ได้รับเงินได้(เราเข้าใจถูกไหม) ฉะนั้นเงินที่เสียไป คือเสียเลย แต่ตรงนี้คนที่ไม่มายเรื่องเงินก็โอเค ไม่ต้องมาคำนึงถึง
2.กิจกรรมที่ไปทำ
โอเค WAT ส่วนใหญ่งานหนักจริง แต่ เราทำงาน = เราได้เงิน เป็นรูปธรรม มีสัญญาว่าชม.เท่าไหร่ๆ ว่าไป พอได้เงินมันทำให้เรามีสภาพคล่อง บริหารเงินได้ เป็นการฝึกตรงนี้อีก
ในขนาดที่ไอเซค เป็นอาสาสมัคร อันนี้ต้องเข้าใจ เราว่าไม่ใช่ทุกคนจะมีจิตสาธารณะ อย่างให้เราไปสอนหนังสือเด็กเราก็ทำไม่ได้ เราไม่ได้ชอบทำกิจกรรมอะไรแบบนี้ ผลตอบแทนคือ อะความภาคภูมิใจละ ฉันเป็นอาสาสมัคร หรือสองอาหาร หรืออะไรก็ว่าไป ซึ่งส่วนตัวเราเองไม่โอเคกับอะไรเเบบนี้เท่าไหร่ ทำครั้งสองครั้งได้ เเต่ให้ทำตลอดคิดก่อน สะดวกใจที่จะรับเป็นเงินเเล้วเอาเงินไปจัดการเองดีกว่า
3.ฝึกภาษา
เราคิดว่าจะไปกับ WAT หรือไอเซค เรื่องจะได้มากได้น้อยมันอยู่ที่ตัวบุคคล คนมันจะไม่ฝึก ต่อให้ล้อมรอบด้วยฝรั่งมันก็ไม่ฝึก คนที่มันจะฝึกต่อให้อยู่คนเดียวมันก็สรรหา วิธีฝึกได้ อันนี้เรา No comment
4.รู้สึกไอเซคจะมีศาสนาเข้ามาเกี่ยวนิดๆ หรือเปล่า ? อันนี้ไม่มั่นใจเพราะตอนนั้นเราเข้าไปฟัง มีการอ่านพระคัมภีร์ ซึ่งเราไม่โอเค แต่ WAT สู้ชีวิตเองล้วนๆ คนอื่นอาจมองว่าลำบาก เเต่เรามองว่ามันเป็นการ challenge ตัวเอง สนุกไปกับมัน เราอาจจะชอบเเนวนี้ด้วยเเหละ
เราว่าไม่มีอะไรมันดีหรือเเย่ไม่กว่ากันหรอก อยู่ที่ว่าคนจะชอบเเบบไหนมากกว่า : )
1.เงิน
WAT เสียเยอะกว่าจริง แต่มีโอกาสได้คืน โดยการทำงานซึ่งเเน่นอน ขาดทุนบ้าง กำไรบ้าง ในขนาดที่ไอเซค คือเสียเงินล้วนๆ ไม่สามารถทำงานที่ได้รับเงินได้(เราเข้าใจถูกไหม) ฉะนั้นเงินที่เสียไป คือเสียเลย แต่ตรงนี้คนที่ไม่มายเรื่องเงินก็โอเค ไม่ต้องมาคำนึงถึง
2.กิจกรรมที่ไปทำ
โอเค WAT ส่วนใหญ่งานหนักจริง แต่ เราทำงาน = เราได้เงิน เป็นรูปธรรม มีสัญญาว่าชม.เท่าไหร่ๆ ว่าไป พอได้เงินมันทำให้เรามีสภาพคล่อง บริหารเงินได้ เป็นการฝึกตรงนี้อีก
ในขนาดที่ไอเซค เป็นอาสาสมัคร อันนี้ต้องเข้าใจ เราว่าไม่ใช่ทุกคนจะมีจิตสาธารณะ อย่างให้เราไปสอนหนังสือเด็กเราก็ทำไม่ได้ เราไม่ได้ชอบทำกิจกรรมอะไรแบบนี้ ผลตอบแทนคือ อะความภาคภูมิใจละ ฉันเป็นอาสาสมัคร หรือสองอาหาร หรืออะไรก็ว่าไป ซึ่งส่วนตัวเราเองไม่โอเคกับอะไรเเบบนี้เท่าไหร่ ทำครั้งสองครั้งได้ เเต่ให้ทำตลอดคิดก่อน สะดวกใจที่จะรับเป็นเงินเเล้วเอาเงินไปจัดการเองดีกว่า
3.ฝึกภาษา
เราคิดว่าจะไปกับ WAT หรือไอเซค เรื่องจะได้มากได้น้อยมันอยู่ที่ตัวบุคคล คนมันจะไม่ฝึก ต่อให้ล้อมรอบด้วยฝรั่งมันก็ไม่ฝึก คนที่มันจะฝึกต่อให้อยู่คนเดียวมันก็สรรหา วิธีฝึกได้ อันนี้เรา No comment
4.รู้สึกไอเซคจะมีศาสนาเข้ามาเกี่ยวนิดๆ หรือเปล่า ? อันนี้ไม่มั่นใจเพราะตอนนั้นเราเข้าไปฟัง มีการอ่านพระคัมภีร์ ซึ่งเราไม่โอเค แต่ WAT สู้ชีวิตเองล้วนๆ คนอื่นอาจมองว่าลำบาก เเต่เรามองว่ามันเป็นการ challenge ตัวเอง สนุกไปกับมัน เราอาจจะชอบเเนวนี้ด้วยเเหละ
เราว่าไม่มีอะไรมันดีหรือเเย่ไม่กว่ากันหรอก อยู่ที่ว่าคนจะชอบเเบบไหนมากกว่า : )
ความคิดเห็นที่ 2
In short, it's different target groups.
AISEC originally started from internship. You have to go through the process like language test, interview matching..
To match a company in the US, you would need a very good profile. NOW I'm talking about internship -- not volunteer.
Volunteer is just an extra activity later that charges the fee.
AISEC internship ==>you may have to pay returned airfare. I said "may" because if the trainee did a good job, they
might get refund plus bonus (cash in hand).
You can't compare AIESEC to WAT, as they're different story. AIESEC is non profit organization run by business students.
You don't go flipping hamburgers or change the bed sheet. (don't get me wrong. I don't look down on the jobs).
I just want to point out that you need certain qualifications to get match with AIESEC. You will work in a real business
company, taken care by Human Resource Dept and health + fringe benefit included. So you could guess which working
condition is better.
With AIESEC, you will meet with local students who hosted you plus the other international trainees. They go to work,
to conference and other local activities. You have to come with language proficiency, not go there and hope to start
learning English.
I don't see any wrong with WAT. I think it's an opportunity for some people who might be less qualified to join other
programs to follow their dreams. Everyone might want to go to Chiang Mai. Those who have money can fly with Thai
Airways in 50 min , those who have less can take a bus for some hours. In the end, they both reach their destination.
People just have to choose the programs that fit their qualifications and money in their pockets.
;=)
AISEC originally started from internship. You have to go through the process like language test, interview matching..
To match a company in the US, you would need a very good profile. NOW I'm talking about internship -- not volunteer.
Volunteer is just an extra activity later that charges the fee.
AISEC internship ==>you may have to pay returned airfare. I said "may" because if the trainee did a good job, they
might get refund plus bonus (cash in hand).
You can't compare AIESEC to WAT, as they're different story. AIESEC is non profit organization run by business students.
You don't go flipping hamburgers or change the bed sheet. (don't get me wrong. I don't look down on the jobs).
I just want to point out that you need certain qualifications to get match with AIESEC. You will work in a real business
company, taken care by Human Resource Dept and health + fringe benefit included. So you could guess which working
condition is better.
With AIESEC, you will meet with local students who hosted you plus the other international trainees. They go to work,
to conference and other local activities. You have to come with language proficiency, not go there and hope to start
learning English.
I don't see any wrong with WAT. I think it's an opportunity for some people who might be less qualified to join other
programs to follow their dreams. Everyone might want to go to Chiang Mai. Those who have money can fly with Thai
Airways in 50 min , those who have less can take a bus for some hours. In the end, they both reach their destination.
People just have to choose the programs that fit their qualifications and money in their pockets.
;=)
แสดงความคิดเห็น
ทำไม นศ.ไม่เลือกโครงการ Aiesec ทั้งๆที่ได้อะไรๆ ไม่น้อยกว่า WAT
เผื่อ Aiesec จะเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งของนักศึกษา แทนการไป Work and Travel
ก่อนจะเปรียบเทียบ อยากแจงข้อมูลให้ทราบว่าไอเซค คืออะไร
ไอเซคเป็นโครงการที่บริหารจัดการโดยนักศึกษาในมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วโลก
โดยไอเซคจะเน้นในเรื่องของการพัฒนาศักยภาพความเป็นผู้นำ ดูเหมือนอะไรก็ไม่รู้
แต่มันมีอะไรมากกว่านั้น โดยสำหรับคนที่ทำงานในชุมนุมไอเซค ซึ่งอาจเปรียบเหมือนเป็น เอเจนซี่
แบบโครงการเวิร์คแอนทราเวล ประมาณนั้น จะมีหลายฝ่ายๆ คอยบริหารจัดการ ทั้งดูแลคนที่จะไปต่างประเทศ
ทั้งจะดูแลคนที่จะเข้ามาทำโปรเจคในไทย ดูแลเรื่องการหาคนสนับสนุนโครงการ ซึ่งการทำงานก็เหมือนการทำงานใน
องค์กรองค์หนึ่ง นักศึกษาได้จำลองการทำงานจริงๆ อันนี้เป็นในส่วนของชุมนุม
ส่วนอีกส่วนคือ คนที่เข้าร่วมโปรเจค
โดยโปรเจคจะมี 2 รูปแบบ คือ แบบเป็นอาสาสมัคร กับ แบบไปฝึกงาน
ซึ่งที่เราจะเปรียบเทียบต่อไปนี้เป็นแบบ อาสาสมัคร
อย่างแรกเลย
ค่าโครงการ
ไอเซคเสียค่าโครงการประมาณ 10,000 บาท
ในขณะที่ WAT เสียประมาณ 50,000 บาท (ข้อมูลล่าสุด สยองมาก เห็นตัวเลขแล้วต้องกุมหัวคิดใหม่เลย)
อย่างที่สอง
ความหลากหลายของประเทศ
ไอเซค ไปได้ทั่วโลกมาก ทั้ง เอเชีย ก็ได้แก่พวก เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน จีน เป็นต้น
ยุโรปกลาง ยุโรปตะวันออก เช่น ฮังการี ยูเครน โปแลนด์ ลัทเวีย บัลแกเรีย สโลวาเกีย โรมาเนีย ลิทัวเนีย สาธารณรัฐเชค เป็นต้น
ยุโรปใต้ อิตาลี กรีซ (เท่าทีนึกออก)
ยุโรปตะวันตกก็มี เช่น นอร์เว เยอรมันนี เป็นต้น
รวมถึง รัสเซีย ส่วนอินเดียนี่มีวีซ่าสำหรับคนมาร่วมโปรเจคไอเซคเลยทีเดียว
ในทวีปอัฟริกาก็มีเช่นกัน ด้านลาตินอเมริกาก็ บราซิล และอะไรอีกไม่รู้จำไม่ได้
ในขณะที่ Work and Travel สามารถไปได้แค่ที่ USA ที่เดียว
อย่างที่สาม
ค่าใช้จ่าย
ไอเซค นอกเหนือจากค่าโครงการ สิ่งที่ ผู้เข้าร่วมโครงการต้องเสีย คือ ค่าเดินทาง ค่าเอกสารต่างๆ
ซึ่งค่าเดินทางจะแพงหรือไม่แพงก็ขึ้นอยู่กับประเทศที่เราไป
แล้วค่าเครื่องบิน เราสามารถเลือกสายการบินถูกๆ เลือกวันเวลาที่ถูกที่สุดได้ (555)
ค่าบ้านเราไม่ต้องเสีย เพราะ เค้ามีที่พักให้เรา บางโปรเจคอาจจะได้นอนกับโฮส
บ้างอาจจะได้แชร์บ้านกับเพื่อนๆ จากประเทศอื่น หรือบ้างอาจจะเเชร์หอพัก แต่ค่าที่พัก คือ ฟรี
ส่วนค่าอาหาร ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับโครงการ บางโครงการ จะมีอาหารให้เราสามมื้อ บ้างก็มีให้หนึ่งมื้อ
แต่ส่วนใหญ่ เสาร์ อาทิตย์จะต้องออกไปหากินเอง 555
ส่วนพวกค่าเดินทางท่องเที่ยว ก็ออกเอง แต่ส่วนใหญ่เราจะได้ในราคานักศึกษา นอกจากนี้ยังมีนักศึกษาเจ้าถิ่น
คอยดูแล พาไปเที่ยว ได้กลุ่มเพื่อนมหาลัยวัยเดียวกันอีกมากมาย จากทั่วโลก
ในกรณีเรา เราได้ทั้งเพื่อนจาก ฮ่องกง บราซิล แคนาดา ปากีสถาน อิตาลี นอร์เว ไซปรัส รวมถึงคนฮังการีเอง
เรื่องค่าใช้จ่าย เราไปฮังการี 2 เดือน เที่ยว เชค ต่ออีก 1 สัปดาห์ เราเสียค่าใช้จ่ายทั้งหมดไปประมาณ 80,000 บาท
ถือว่าคุ้มมากๆ ในความรู้สึกเรา
ในขณะที่ WAT ต้องจ่ายค่าบ้าน ค่าอาหารเองทุกอย่าง แถมบางครั้ง ถ้าช่วงที่คนไปทำงานเยอะ ก็ต้องถูกลดชั่วโมง
แถมจะหางานที่สองก็ลำบากมากๆ คือค่าใช้จ่าย ยากที่จะได้เท่าทุน หรือได้กำไรกลับมา
อย่างน้อยก็ต้องจ่ายไป 70,000-80,000 บาท ซึ่งก็พอๆกับการไปโครงการไอเซค
ถ้าจะบอกว่าไปเอาประสบการณ์ .. . ลองอ่านข้อดีของไอเซค แล้วพิจารณาดูอีกที...
อย่างที่สี่
การฝึกภาษา
ส่วนใหญ่คนที่ทำโปรเจคในประเทศที่เราไปจะพูดภาษาอังกฤษได้ดี ถึงดีมาก ถ้ายิ่งเราไปอยู่เป็นกลุ่มๆ มีเมท
เราหลีกเลี่ยงการใช้ภาษาอังกฤษไม่ได้เลย แถมยังต้องใช้ตลอดเวลา ทั้งตอนทำโปรเจค ทั้งตอนก่อนนอน
คือ อย่างน้อย ก็พูดคล่องขึ้นแน่ๆ นอกจากนี้ แต่ละโปรเจคที่ไป มั่นใจได้เลยว่า ส่วนใหญ่ เราจะเป็นคนไทยคนเดียวในนั้น 5555
หรือถ้ามากสุดก็ สองสามคน แต่หาได้น้อยมาก เพราะเวลาเค้าคัดเราเข้าร่วมโปรเจค เค้าจะจำกัดคนจากประเทศต่างๆ
เช่น รับคนจากประเทศไทยมาแล้วหนึ่งคน เค้าจะไม่รับอีก
ในขณะที่ WAT ถึงจะไปอยู่ในถิ่นเจ้าของภาษา .. . แต่ก็แล้วไง ถ้าเอาแต่อยู่กับคนไทย ไม่ฝึกพูด
เอาแต่เงียบ แชร์บ้านอยู่กันกับแต่คนไทย ถ้าอยากได้ภาษา ไปไอเซคก็ได้ไม่แพ้กัน
อย่างที่ห้า
ลักษณะงาน
อย่างที่บอกไปว่างานที่ไปคือ อาสาสมัคร โดยคำว่าอาสาสมัครเนี่ยก็มีงานหลายรูปแบบเช่นกัน
บางโครงการอาจไปดูแลเด็กเล็ก สอนภาษาเด็ก บางโครงการอาจไปนำเสนอวัฒนธรรมไทยให้เด็กวัยรุ่นประเทศอื่นๆได้รู้จัก
บ้างก็จัดกิจกรรมค่ายให้เด็กในประเทศนั้น บ้างก็ทำโปรเจคนำเสนอเรื่องการป้องกันโรค สุขภาพ หรืออื่นๆ
รูปแบบงานอาสาที่เราไปทำ มันได้พัฒนาเราในหลายๆด้าน ทั้งกระบวนการคิด การทำงานเป็นทีม การทำงานกับคนต่างชาติต่างภาษา
ต่างวัฒนธรรม ทักษะการพูด การพรีเซนต์ ซึ่งทั้งหมดทำในภาษาอังกฤษ หลายคนอาจคิดว่ายาก
ท้อตั้งแต่เห็นรูปแบบงานแล้ว แต่จริงๆมันไม้ได้ยากอะไรขนาดนั้น มองให้มันเป็นอะไรที่ท้าทาย ให้มันช่วยพัฒนาศักยถาพของเราแทน
ในขณะที่ WAT งานส่วนใหญ่จะเป็น การใช้แรงงาน
ซึ่งไม่ได้หมายความว่าไม่ดี มันก็สนุกไปอีกแบบ ได้ลองงานแปลกๆที่ไม่เคยทำ
อย่างเป็น ไลฟ์การ์ด ทำงานในสวนสนุก ทำงานในสนามเบสบอล ทำงานโรงแรม คาสิโน
แต่ถ้าอยากลองไปพัฒนาศักยภาพตัวเอง ไม่ได้กะไปเพื่อหาเงินอย่างเดียว (ซึ่งจริงๆส่วนใหญ่ก็หาไม่คุ้มต้นทุนหรอก)
ลองไปไอเซคดูไหม ?
ในฐานะคนที่เคยไปมาก่อน เราเชียร์ขาดใจ 5555
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีข้อเสียนะ ก็มีบ้างเป็นปกติ
เช่นเรื่อง จุกจิก เล็กๆน้อย เรื่องจดหมายเชิญ เรื่องโครงการตอนไปถึงมีปัญหา
ไป WAT กีปัญหาเหมือนกัน
ปล. ไม่ได้เป็นสมาชิกไอเซค แต่อยากนำเสนอมากๆ เป็นโครงการนักศึกษาที่ไม่เอากำไร
แถมผู้ร่วมโครงการยังได้มีโอกาสไปหาประสบการณ์ต่างแดน + ท่องเที่ยว
ในประเทศแปลกๆ ที่น้อยคนนักจะได้ไป ถือว่าเป็น อีกโครงการหนึ่งที่น่าสนใจ ไม่แพ้ WAT เลย
หรืออาจจะมากกว่าด้วยในความคิดเรา
(เรื่องค่าโครงการ 50000 บ้าไปแล้ววววว)
ปล. 2 คนที่ไปโครงการในประเทศแถบยุโรป ส่วนใหญ่ ทัวร์ยุโรป ระหว่างโปรเจคและหลังโปรเจคกันทั้งนั้น 555
ประมาณว่าขอวีซ่าเชงเก้นมาแล้ว ต้องใช้ให้คุ้ม คือ ไปไอเซคก็ได้เที่ยวเหมือนกันนะเออ