สายการบินสีฟ้าแห่งยุโรปปฏิเสธการโหลดนมแม่
เพิ่งเดินทางไปต่างประเทศมาค่ะ พอดีพาลูกสาว 1.2ขวบไปเยี่ยมคุณยายที่อังกฤษ เลยตั้งใจพกนมแม่แช่แข็งไปกินขณะอยู่ที่โน่นประมาณ 10วัน ขนนมไป20ถุง ถุงละประมาณ5ออนซ์ เพราะตอนนี้ตัวเองแทบไม่มีนมแล้วกลัวลูกจะกินไม่พอ ก่อนเดินทางได้ทำการติดต่อกับสายการบินแล้วว่าต้องการนำนมแช่แข็งไปด้วย ไปปรึกษาการพนักงานในเรื่องกฏระเบียบในการขนส่ง เนื่องจากระยะเวลาการบินที่ค่อนข้างนาน (16ชม.รวมต่อเครื่อง และอีก2ชม.จากสนามบินไปที่พัก) จึงตัดสินใจใช้น้ำแข็งแห้งในการแพค ทางสายการบินขอให้แจ้งน้ำหนักและปริมาณน้ำแข็งแห้งซึ่งระบุไว้ไม่เกิน 2.5 กก.ต่อคน เราใช้ 2 กก. รวมน้ำหนักบรรจุภัณฑ์ทั้งหมด 6 กก. เราโทรแจ้งสายการบินถึงขนาดและน้ำหนักก่อนบิน 1 สัปดาห์และแจ้งว่าเราต้องการโหลดลงใต้ท้องเครื่องเนื่องจากหากถือขึ้นบนเครื่องอาจมีปัญหากับสนามบินที่ต่อเครื่องอีกครั้ง ทางสายการบินรับปากและบอกว่าจะดำเนินการให้
จนวันขึ้นเครื่อง เรารีบไปก่อนเวลาเพราะไม่อยากรีบร้อน ขณะทำการเชคอินกระเป๋า เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเกิดความผิดพลาดที่พนักงานของเค้าในไทย ไม่ได้ทำเรื่องแจ้งไปยังสำนักงานใหญ่ และการขนน้ำแข็งแห้งขึ้นเครื่องนั้นต้องเป็นไปตามกฏของการขนส่งวัตถุอันตราย แต่เนื่องจากทางสำนักงานใหญ่ไม่ได้รับแจ้งจึงไม่อนุญาตให้เรานำนมและน้ำแข็งแห้งกล่องนี้ขึ้นเครื่องไปด้วยได้
จริงอยู่สายการบินไม่ได้ปฏิเสธการขนส่งนม แต่นมแม่จะอยู่ได้อย่างไรหากในกล่องไม่มีความเย็น สายการบินไม่ได้พยายามช่วยเหลือมากนัก เพียงแค่กล่าวคำขอโทษ จนกระทั่งถึงเวลาขึ้นเครื่อง ตัวเราเองยังยืนอยู่หน้าเคาร์เตอร์เชคอินโดยไม่ได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด ทางสายการบินเสนอให้เปลี่ยนวันเดินทางแต่ด้วยความไม่สะดวกเราจึงไม่สามารถเลื่อนวันเดินทางได้ เรายืนร้องไห้อยู่หน้าเคาร์เตอร์ ตอนนั้นนึกไม่ออกเลยว่าถ้าลูกไม่มีนมกินจะทำยังไง
สุดท้ายเราตัดสินใจเอาน้ำแข็งแห้งออก ขอให้พนักงานเอาน้ำแข็งธรรมดามาใส่ให้ แล้วถือขึ้นเครื่องทั้งแบบนั้น
นมละลายก่อนถึงปลายทาง น้ำแข็งไม่สามารถให้ความเย็นได้ถึง 18 ชม. นมเสียยกลัง ลูกเราแพ้นมวัว การหานมทดแทนไม่ใช่เรื่องง่าย
เรื่องผ่านมาเกินสัปดาห์แล้ว จนทุกวันนี้เรายังไม่ได้รับการติดต่อกลับหรือเจตนาต้องการแสดงความรับผิดชอบของสายการบินเลย
ความผิดเล็กน้อยของพนักงานครั้งนี้ ส่งผลเสียกับสุขภาพของลูกเรา สำหรับความรู้สึกเราแล้วค่าชดเชยใดๆ ก็เทียบกันไม่ได้
ปล. เราไม่ได้รับการเสนอในการอัพเกรดที่นั่งแต่อย่างใด รวมถึงระหว่างเที่ยวบินไม่มีอาหารเด็กให้ตามที่ขอไว้ล่วงหน้าเช่นกัน
สายการบินปฏิเสธการโหลดนมแม่ เพราะความผิดพลาดของพนักงาน
เพิ่งเดินทางไปต่างประเทศมาค่ะ พอดีพาลูกสาว 1.2ขวบไปเยี่ยมคุณยายที่อังกฤษ เลยตั้งใจพกนมแม่แช่แข็งไปกินขณะอยู่ที่โน่นประมาณ 10วัน ขนนมไป20ถุง ถุงละประมาณ5ออนซ์ เพราะตอนนี้ตัวเองแทบไม่มีนมแล้วกลัวลูกจะกินไม่พอ ก่อนเดินทางได้ทำการติดต่อกับสายการบินแล้วว่าต้องการนำนมแช่แข็งไปด้วย ไปปรึกษาการพนักงานในเรื่องกฏระเบียบในการขนส่ง เนื่องจากระยะเวลาการบินที่ค่อนข้างนาน (16ชม.รวมต่อเครื่อง และอีก2ชม.จากสนามบินไปที่พัก) จึงตัดสินใจใช้น้ำแข็งแห้งในการแพค ทางสายการบินขอให้แจ้งน้ำหนักและปริมาณน้ำแข็งแห้งซึ่งระบุไว้ไม่เกิน 2.5 กก.ต่อคน เราใช้ 2 กก. รวมน้ำหนักบรรจุภัณฑ์ทั้งหมด 6 กก. เราโทรแจ้งสายการบินถึงขนาดและน้ำหนักก่อนบิน 1 สัปดาห์และแจ้งว่าเราต้องการโหลดลงใต้ท้องเครื่องเนื่องจากหากถือขึ้นบนเครื่องอาจมีปัญหากับสนามบินที่ต่อเครื่องอีกครั้ง ทางสายการบินรับปากและบอกว่าจะดำเนินการให้
จนวันขึ้นเครื่อง เรารีบไปก่อนเวลาเพราะไม่อยากรีบร้อน ขณะทำการเชคอินกระเป๋า เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเกิดความผิดพลาดที่พนักงานของเค้าในไทย ไม่ได้ทำเรื่องแจ้งไปยังสำนักงานใหญ่ และการขนน้ำแข็งแห้งขึ้นเครื่องนั้นต้องเป็นไปตามกฏของการขนส่งวัตถุอันตราย แต่เนื่องจากทางสำนักงานใหญ่ไม่ได้รับแจ้งจึงไม่อนุญาตให้เรานำนมและน้ำแข็งแห้งกล่องนี้ขึ้นเครื่องไปด้วยได้
จริงอยู่สายการบินไม่ได้ปฏิเสธการขนส่งนม แต่นมแม่จะอยู่ได้อย่างไรหากในกล่องไม่มีความเย็น สายการบินไม่ได้พยายามช่วยเหลือมากนัก เพียงแค่กล่าวคำขอโทษ จนกระทั่งถึงเวลาขึ้นเครื่อง ตัวเราเองยังยืนอยู่หน้าเคาร์เตอร์เชคอินโดยไม่ได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด ทางสายการบินเสนอให้เปลี่ยนวันเดินทางแต่ด้วยความไม่สะดวกเราจึงไม่สามารถเลื่อนวันเดินทางได้ เรายืนร้องไห้อยู่หน้าเคาร์เตอร์ ตอนนั้นนึกไม่ออกเลยว่าถ้าลูกไม่มีนมกินจะทำยังไง
สุดท้ายเราตัดสินใจเอาน้ำแข็งแห้งออก ขอให้พนักงานเอาน้ำแข็งธรรมดามาใส่ให้ แล้วถือขึ้นเครื่องทั้งแบบนั้น
นมละลายก่อนถึงปลายทาง น้ำแข็งไม่สามารถให้ความเย็นได้ถึง 18 ชม. นมเสียยกลัง ลูกเราแพ้นมวัว การหานมทดแทนไม่ใช่เรื่องง่าย
เรื่องผ่านมาเกินสัปดาห์แล้ว จนทุกวันนี้เรายังไม่ได้รับการติดต่อกลับหรือเจตนาต้องการแสดงความรับผิดชอบของสายการบินเลย
ความผิดเล็กน้อยของพนักงานครั้งนี้ ส่งผลเสียกับสุขภาพของลูกเรา สำหรับความรู้สึกเราแล้วค่าชดเชยใดๆ ก็เทียบกันไม่ได้
ปล. เราไม่ได้รับการเสนอในการอัพเกรดที่นั่งแต่อย่างใด รวมถึงระหว่างเที่ยวบินไม่มีอาหารเด็กให้ตามที่ขอไว้ล่วงหน้าเช่นกัน