สวัสดีค่ะ ไม่รู้ว่าตั้งชื่อกระทู้ได้ตรงกับเรื่องที่จะเล่าหรือเปล่า
ขอเริ่มเล่าว่าเราเสียใจกับความรักที่ไม่สมหวังที่เราเป็นกันได้แค่พีน้องกันเท่านั้นมาประมาณปีกว่า
จนกระทั่งเราได้เจอเธอคนนี้
ก่อนอื่นต้องบอกว่าเราเพิ่งย้ายมาจากโรงเรียนหญิงล้วนแห่งหนึ่ง
มายังโรงเรียนสห...แน่นอนว่าเราไม่ชินกับการวางตัวกับผู้ชาย เพื่อนที่เรามีจึงมีแต่เพื่อนผู้หญิงอยู่ดี
เราเริ่มรู้จักกัน 'เธอ' เพราะว่าเราเรียนห้องศิลป์คำนวณด้วยกัน
ตอนนั้นเราไม่ได้สนใจอะไรเค้าเลยด้วยซ้ำถึงแม้ว่าจะเรียนห้องเดียวกัน
เด็กใหม่ที่ย้ายโรงเรียนมาอย่างเราพอเเรียนเสร็จก็รีบกลับบ้าน
ทุกเดือนที่โรงเรียนของเราจะมีให้ย้ายที่นั่งเพื่อนักเรียนทุกคนจะได้รู้จักกัน
แต่แล้วเราก็ได้คุยกับเค้ามากขึ้น...มากขึ้น เมื่อครูให้เรานั่งคู่กัน
พอมานึกดูเราเริ่มชอบเค้าตอนไหนก็จำไม่ได้แล้ว
เราคุยกันเกือบทุกเรื่องถึงแม้ว่าครูจะให้ย้ายที่เราก็จะแลกที่เพื่อนย้ายมานั่งด้วยกันเสมอ
เรากลายเป็นคนกลับบ้านช้าเพราะมัวอยู่โรงเรียน
ครั้งนึงเราก็ปรึกษาเค้าว่า ถ้าเค้าชอบเพื่อนตัวเอง...เค้าจะบอกเพื่อนปะว่าเค้าชอบ
มันไม่ได้สำคัญที่คำตอบว่าเค้าตอบว่าอะไรแต่เค้าเอาแต่ถามว่าเราชอบใคร
เค้าถามเรามาอีกหลายครั้งว่าเราชอบใครแต่เราก็ปฏิเสธไม่บอกไปตลอด
บางครั้งสิ่งที่เค้าทำกับเราก็ดูเหมือนว่าเค้าพร้อมจะเปิดใจให้เราเสมอ
สิ่งที่เค้าพูดบางครั้งเหมือนว่าจะรู้ว่าเราชอบเค้า
จนมาวันนึง...วันนั้นคิดไว้ว่าเราต้องบอกชอบเค้าให้ได้ เรารอทั้งวันจนเลิกเรียน
เราก็บอกเค้าไปว่าเราชอบเค้า ตอนนั้นบอกชอบไปขอโทษไปเพราะคิดมาตลอดว่าเราไม่ควรชอบเค้า
เค้าก็บอกว่าไม่เป็นไร ความรักมันห้ามกันไม่ได้อยู่แล้ว
แน่นอนว่าเช้ามาทุกอย่างก็เปลี่ยนไปห่างหายกันไปในทันที ถึงแม้ว่าเราอยู่ห้องเดียวกันแต่ก็ไม่ได้คุยกันเลย
ที่เค้าพูดว่าไม่เป็นไรเพราะไม่อยากให้เราเสียใจสินะ
เวลาผ่านไปประมาณสองเดือนจากวันนั้น
เราก็กลับมาคุยกัน...ใครเป็นคนเริ่มทักก่อนก็จำไม่ได้แล้ว
ให้ทายว่าเรายังชอบเค้าอยู่ไหม แน่นอน...เรายังชอบเค้า
แต่การกลับมาคุยกันเราก็พยายามทำทุกอย่างที่ทำให้เค้าคิดว่าเราเลิกชอบเค้าแล้ว
แล้วนั่นแหละ...เราก็ได้กลับมาเป็นเพื่อนเหมือนเดิม
ใช้เวลาอยู่หลายเดือนเหมือนกันนะ ถึงเราสองคนจะปรับจูนกันใหม่ได้
และแน่นอน...เราก็ได้คอยรับฟังสารทุกข์สุกดิบ และ ฟังว่าเค้าชอบใครอยุ่
ชอบคนนั้นอยู่....ชอบนั้นอยู่.....(มันก้องอยู่ในหัวตลอดเวลา)
ยิ่งได้ฟังก็ยิ่งรู้ว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่เค้าจะชอบเราคือคนที่เค้าชอบเป็นคนที่เก่งและสวยมากจนเค้า...คนที่เราชอบ ก็รักมาก
เฮ้ย แต่เรื่องมันไม่ได้รักสามเศร้าง่ายขนาดนั้น คือคนที่เค้าชอบนั้น...ชอบคนอื่น...ซะแล้ว
เวลาเห็นเค้าเศร้า...เราก็เศร้าตามไปด้วยนะแต่ไม่ได้แสดงออกให้เค้ารู้หรอก
เสียดายที่เราไม่ใช่คนพูดเก่งอะไร เราก็ไม่รู้จะสรรหาคำอะไรมาปลอบเค้า
เราเข้าใจเค้านะ เพราะเราก็เศร้าไม่ใช่น้อยที่คนที่เราชอบไม่ได้ชอบเราแต่เราก็บังคับให้เค้าชอบเราไม่ได้นี่เนาะ
เราไม่อยากให้เค้ารู้สึกโดดเดี่ยวเพราะเค้าค่อนข้างมีเพื่อนน้อย
เราเป็นห่วงเค้ามาก บางทีอยากไปดูแลที่บ้านเลยนะแต่ไม่ได้อะ
จากวันนั้น...จนวันนี้สองปีกว่า
และเรากลายเป็นเพื่อนสนิทกันแบบไปไหนไปกัน
และเค้าก็ยังชอบคนนั้นอยู่
และเราก็ยังชอบเค้าอยู่เหมือนกัน
เราก็ใกล้จะเรียนจบแยกย้ายเข้ามหาลัยกันแล้ว...ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง
อยากให้รู้ว่าเพื่อนคนนี้ยังอยากฟังเรื่องราวของเธอเสมอ
ขอโทษ...ที่ไม่ใช่ผู้ที่ให้คำแนะนำได้ดีนัก และขอโทษ...ที่โกหกว่าไม่ได้ชอบแล้ว
เราจะยังอยู่เคียงข้างเธอเสมอนะ....กุ้ง
ขอโทษผู้อ่านที่หลงมาอ่านที่ทนอ่านมาจนจบ
ความรักของเราก็คงเหมือนอีกหลายคนแต่เราก็แค่อยากบันทึกไว้เผื่อวันนึงเราไม่รู้สึกแบบนี้แล้ว
จะได้จำได้ว่าครั้งนึงเราเคยชอบกุ้งมากแค่ไหน
ความรักของฉันยังไม่ทันเริ่ม...ก็ต้องจบลงเสียแล้ว
ขอเริ่มเล่าว่าเราเสียใจกับความรักที่ไม่สมหวังที่เราเป็นกันได้แค่พีน้องกันเท่านั้นมาประมาณปีกว่า
จนกระทั่งเราได้เจอเธอคนนี้
ก่อนอื่นต้องบอกว่าเราเพิ่งย้ายมาจากโรงเรียนหญิงล้วนแห่งหนึ่ง
มายังโรงเรียนสห...แน่นอนว่าเราไม่ชินกับการวางตัวกับผู้ชาย เพื่อนที่เรามีจึงมีแต่เพื่อนผู้หญิงอยู่ดี
เราเริ่มรู้จักกัน 'เธอ' เพราะว่าเราเรียนห้องศิลป์คำนวณด้วยกัน
ตอนนั้นเราไม่ได้สนใจอะไรเค้าเลยด้วยซ้ำถึงแม้ว่าจะเรียนห้องเดียวกัน
เด็กใหม่ที่ย้ายโรงเรียนมาอย่างเราพอเเรียนเสร็จก็รีบกลับบ้าน
ทุกเดือนที่โรงเรียนของเราจะมีให้ย้ายที่นั่งเพื่อนักเรียนทุกคนจะได้รู้จักกัน
แต่แล้วเราก็ได้คุยกับเค้ามากขึ้น...มากขึ้น เมื่อครูให้เรานั่งคู่กัน
พอมานึกดูเราเริ่มชอบเค้าตอนไหนก็จำไม่ได้แล้ว
เราคุยกันเกือบทุกเรื่องถึงแม้ว่าครูจะให้ย้ายที่เราก็จะแลกที่เพื่อนย้ายมานั่งด้วยกันเสมอ
เรากลายเป็นคนกลับบ้านช้าเพราะมัวอยู่โรงเรียน
ครั้งนึงเราก็ปรึกษาเค้าว่า ถ้าเค้าชอบเพื่อนตัวเอง...เค้าจะบอกเพื่อนปะว่าเค้าชอบ
มันไม่ได้สำคัญที่คำตอบว่าเค้าตอบว่าอะไรแต่เค้าเอาแต่ถามว่าเราชอบใคร
เค้าถามเรามาอีกหลายครั้งว่าเราชอบใครแต่เราก็ปฏิเสธไม่บอกไปตลอด
บางครั้งสิ่งที่เค้าทำกับเราก็ดูเหมือนว่าเค้าพร้อมจะเปิดใจให้เราเสมอ
สิ่งที่เค้าพูดบางครั้งเหมือนว่าจะรู้ว่าเราชอบเค้า
จนมาวันนึง...วันนั้นคิดไว้ว่าเราต้องบอกชอบเค้าให้ได้ เรารอทั้งวันจนเลิกเรียน
เราก็บอกเค้าไปว่าเราชอบเค้า ตอนนั้นบอกชอบไปขอโทษไปเพราะคิดมาตลอดว่าเราไม่ควรชอบเค้า
เค้าก็บอกว่าไม่เป็นไร ความรักมันห้ามกันไม่ได้อยู่แล้ว
แน่นอนว่าเช้ามาทุกอย่างก็เปลี่ยนไปห่างหายกันไปในทันที ถึงแม้ว่าเราอยู่ห้องเดียวกันแต่ก็ไม่ได้คุยกันเลย
ที่เค้าพูดว่าไม่เป็นไรเพราะไม่อยากให้เราเสียใจสินะ
เวลาผ่านไปประมาณสองเดือนจากวันนั้น
เราก็กลับมาคุยกัน...ใครเป็นคนเริ่มทักก่อนก็จำไม่ได้แล้ว
ให้ทายว่าเรายังชอบเค้าอยู่ไหม แน่นอน...เรายังชอบเค้า
แต่การกลับมาคุยกันเราก็พยายามทำทุกอย่างที่ทำให้เค้าคิดว่าเราเลิกชอบเค้าแล้ว
แล้วนั่นแหละ...เราก็ได้กลับมาเป็นเพื่อนเหมือนเดิม
ใช้เวลาอยู่หลายเดือนเหมือนกันนะ ถึงเราสองคนจะปรับจูนกันใหม่ได้
และแน่นอน...เราก็ได้คอยรับฟังสารทุกข์สุกดิบ และ ฟังว่าเค้าชอบใครอยุ่
ชอบคนนั้นอยู่....ชอบนั้นอยู่.....(มันก้องอยู่ในหัวตลอดเวลา)
ยิ่งได้ฟังก็ยิ่งรู้ว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่เค้าจะชอบเราคือคนที่เค้าชอบเป็นคนที่เก่งและสวยมากจนเค้า...คนที่เราชอบ ก็รักมาก
เฮ้ย แต่เรื่องมันไม่ได้รักสามเศร้าง่ายขนาดนั้น คือคนที่เค้าชอบนั้น...ชอบคนอื่น...ซะแล้ว
เวลาเห็นเค้าเศร้า...เราก็เศร้าตามไปด้วยนะแต่ไม่ได้แสดงออกให้เค้ารู้หรอก
เสียดายที่เราไม่ใช่คนพูดเก่งอะไร เราก็ไม่รู้จะสรรหาคำอะไรมาปลอบเค้า
เราเข้าใจเค้านะ เพราะเราก็เศร้าไม่ใช่น้อยที่คนที่เราชอบไม่ได้ชอบเราแต่เราก็บังคับให้เค้าชอบเราไม่ได้นี่เนาะ
เราไม่อยากให้เค้ารู้สึกโดดเดี่ยวเพราะเค้าค่อนข้างมีเพื่อนน้อย
เราเป็นห่วงเค้ามาก บางทีอยากไปดูแลที่บ้านเลยนะแต่ไม่ได้อะ
จากวันนั้น...จนวันนี้สองปีกว่า
และเรากลายเป็นเพื่อนสนิทกันแบบไปไหนไปกัน
และเค้าก็ยังชอบคนนั้นอยู่
และเราก็ยังชอบเค้าอยู่เหมือนกัน
เราก็ใกล้จะเรียนจบแยกย้ายเข้ามหาลัยกันแล้ว...ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง
อยากให้รู้ว่าเพื่อนคนนี้ยังอยากฟังเรื่องราวของเธอเสมอ
ขอโทษ...ที่ไม่ใช่ผู้ที่ให้คำแนะนำได้ดีนัก และขอโทษ...ที่โกหกว่าไม่ได้ชอบแล้ว
เราจะยังอยู่เคียงข้างเธอเสมอนะ....กุ้ง
ขอโทษผู้อ่านที่หลงมาอ่านที่ทนอ่านมาจนจบ
ความรักของเราก็คงเหมือนอีกหลายคนแต่เราก็แค่อยากบันทึกไว้เผื่อวันนึงเราไม่รู้สึกแบบนี้แล้ว
จะได้จำได้ว่าครั้งนึงเราเคยชอบกุ้งมากแค่ไหน