ยาวหน่อยนะคะ ...

ขอบอกก่อนว่า ปกติเราเป็นคนไม่เหวี่ยง ไม่วีนนะคะ เรายอมคนในระดับนึง แต่อันนี้ทนไม่ไหวจริงๆค่ะ

เมื่อต้นเดือนกันยา เราได้แลกบ้านกับแม่สามีค่ะ เพราะแม่สามีต้องการกำจัดงบส่วนเกินออกไป และเรากำลังจะมีลูก บ้านแม่สามี มี2 ห้องนอนพอดีค่ะ เราเลยตกลงกันว่าจะเปลี่ยนบ้านกัน ก้ไปทำสัญญาแลกบ้านกัน อธิบายก่อนว่าคือห้องที่เราอยู่ห้องเดิมเป็น 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น+ห้องครัว 1 ห้องน้ำ และห้องเก็บรองเท้านะคะ
ส่วนบ้านแม่สามี มี 2 ห้องนอน 1 ห้องอาบน้ำ+ชักโครก 1 มีห้องครัว+ห้องนั่งเล่น ข้างล่างสุดเป็นชั้นใต้ดิน มีห้องเก็บของและ 1 ห้องน้ำ จะไม่มีที่อาบน้ำค่ะ
เดิมทีแม่สามีอยู่บ้านกับพ่อสามีแค่ 2 คนค่ะ แต่ต้องจ่ายค่าเช่าคนเดียว แล้วค่าน้ำมันรถ ค่าจิปาถะอื่นๆอีกค่ะ แม่สามีเลยยอมแลกง่ายๆ

พอถึงวันขนของ เรากับสามีขนของทุกอย่างออกมาจากบ้านเดิมเราหมดเลย ไม่เหลืออะไรไว้เลยค่ะ แล้วของที่บ้านแม่สามีจะเหลือเปียโนของพ่อสามี และตู้เก็บเสื้อแจคเกต และของจิปาถะอื่นๆ เราก้โอเคค่ะ ไม่มีปัญหา เพราะยังไงบ้านตอนนี้มันใหญ่กว่าห้องของเราอยู่แล้ว

แม่สามีบอกว่าให้ยุบบ่อปลาด้วย เพราะมีเด็ก มันไม่ดี เดี๋ยวเด็กตกลงไป คือถามว่าบ่อปลาลึกมั้ย ? ไม่คะ แค่หัวเข่า เดี๋ยวจะให้พ่อสามีมาเอาออกไป เพราะปลาเป็นของพ่อสามี แต่รอแล้วรอเล่า พ่อสามีก้ไม่มาเอาออก และอ้างต่างๆนานา ว่าไม่ว่าง ต้องทำงาน คือพ่อสามีทำงานกลางคืนค่ะ กลับถึงบ้านตอนตีสี่ครึ่ง พอตอนบ่ายจะออกไปรับแม่สามีแล้วก้ไปทานข้าวเที่ยงกัน กลับมาประมาณบ่าย 3 พ่อสามีก้อ้างว่าง่วง ต้องการที่จะนอนต่อ เราก้ไม่ว่าอะไร แต่พอเสาร์-อาทิตย์ ก้อ้างว่าปวดหัว อ้างไม่ว่าง แต่เอาเหล้าไปดื่มเหล้าจนเมา ช่วงกลางกันยา-ต้นตุลา สามีเราก้ไม่ว่างค่ะ ออกบ้านไปทำงาน 7 โมง กลับบ้านเที่ยงคืน และเสาร์-อาทิตย์ ก้ทำงานค่ะ ไม่มีเวลาว่าง จะให้เราไปนั่งยองๆข้างๆบ่อปลา มันก้ไม่ใช่ เรานั่งยองๆไม่ได้ ส่วนแม่สามีก้ขาไม่ดี นั่งยองๆก้ลำบาก เราก้บอกแม่สามีว่า ให้บอกพ่อสามีด้วยว่า มาเอาปลาไปได้แล้ว จะเอาไปไหนก้ไป เพราะถ้าไม่มาเอาตอนนี้ ก้ซื้ออาการปลามาด้วย อาหารปลาหมดแล้ว และมาเปลี่ยนน้ำบ่อปลาด้วย มันมีแต่ตะไคร่น้ำ น้ำดำ+เหม็น เดี๋ยวปลาตาย เราไม่อยากให้มีอะไรมาตายในบ้านตอนเราท้อง คือบอกไปยังไงพ่อสามีก้ไม่มาค่ะ จนแม่สามีโมโห เลยทำเอง วันแรกทำกับสามีค่ะ แล้วแม่สามีก้บ่นปวดขาเพราะตักปลา แล้วพวกเราก้เอาปลาไปให้ที่ขายปลากันค่ะ ให้ฟรีๆ วันที่ 2 เพื่อนเรามาบ้าน เพื่อนเรากับแม่สามีก้ช่วยกันทำค่ะ ส่วนเรานั่งเป็นกำลังใจให้ และให้สามีของเพื่อนขับรถพาไปส่งที่ร้านขายปลาร้านเดิมค่ะ

ทีนี้ตกมาอีกวันแม่สามีก้บอกพ่อสามีว่าเอาปลาไปให้ร้านขายปลาแล้วนะ มีตัวใหญ่ตัวเล็ก รวมๆกันแล้ว 50+ พ่อสามีก้โวยวายให้แม่สามีค่ะ ว่าเอาไปปล่อยทำไม หรือจะจะปล่อยก้ให้เอาไปขายไม่ใช่ให้ฟรี เพราะปลาตอนแรกซื้อมา ซื้อมาแพงมาก บ่นให้แม่สามีไม่พอ ตามมาบ่นเราถึงบ้านเลยค่ะ ว่าเรารู้เห็นเป็นใจ -"- เราเลยพูดกลับไปว่า เรารอนานแล้ว ถ้าไม่ทำตอนนี้จะทำตอนไหน แล้วอ้างมาเรื่อยๆไม่มาเอาสักทีอ่ะ ถ้าอยากเก็บไว้ ทำไมไม่มาทำตั้งแต่ทีแรก นี่ปล่อยให้เวลาล่วงมาเป็นเดือน ใครจะรอไหว ? อาหารปลาก้ไม่มี จะให้ปลาอดตายหรือไง พ่อสามีก้เหมือนไม่ยอม จะให้เรากับแม่สามีไปเอาปลามาคืน แต่เราก้ไม่ยอม สุดท้ายพ่อสามีกับแม่สามีก้ทะเลาะกัน

สุดท้ายเรื่องปลาจบไปแล้วคือ ปล่อยให้มันไปมีที่อยู้ใหม่ค่ะ เผื่อเจอเจ้าของดีๆ ไม่มีการไปรับกลับค่ะ !!

มาต่อกันเรื่องเปียโน
เปียโนตอนนี้เราเอาตั้งไว้ในห้องนอนอีกห้อง คือเราจะเอาทำเป็นห้องเด็กค่ะ แล้วเราก้ทยอยซื้อของมาให้ลูกเราแล้ว เราก้ต้องการที่จะซักแล้วเก็บเข้าตู้ค่ะ
~ขออธิบายสภาพห้องนิดนึง คือมันเป็นห้องนอน 1 ห้องนะคะ แล้วจะมีคล้ายๆห้องเสื้อผ้าเล็กๆอีกห้องนึง แต่ไม่มีประตูกั้นค่ะ~
เปียโนอยู่ในห้องเล็กๆค่ะ เราจะทำส่วนนั้นเป็นห้องเสื้อผ้า ที่เปลี่ยนผ้าอ้อมค่ะ เราซื้อที่เปลี่ยนผ้าอ้อมมาแล้วเรียบร้อย แต่ยังไม่ได้ประกอบค่ะ เพราะอย่างแรกต้องขนเปียโนออกไปก่อน และต้องทาสีใหม่ แล้วหลังจากนั้นค่อยประกอบตู้เปลี่ยนผ้าอ้อม ตู้เสื้อผ้า แต่พ่อสามีไม่ยอมมาขนเปียโนออกไปค่ะ อ้างแล้ว อ้างอีก ข้ออ้างเดิมๆ จนเราทนไม่ไหวบอกสามีไปว่า ถ้าไม่มาขน สามีก้ขนไปนะ แต่ขนไปไว้แค่หน้าบ้านพอ ให้เปียโนตากแดด ตากลม ตากฝน อยู่นั้นแหละ ของตัวเองยังไม่รับผิดชอบ จะให้คนอื่นมาเก็บให้ มันไม่ใช่เรื่อง สามีก้เอาคำพูดเราไปบอกแม่สามี และแม่สามีก้ไปบอกพ่อสามีต่อค่ะ แล้วสุดท้ายพ่อสามีก้ทะเลาะกับแม่สามีอีกแล้ว หาว่าเข้าข้างลูกสะไภ้ แม่สามีก้อธิบายว่า เราใกล้จะคลอดแล้ว มันต้องรีบจัดบ้านใหม่ เราต้องซักเสื้อผ้าลูกเข้าตู้ แต่ตู้มันทำอะไรไม่ได้ เพราะมีเปียโนขวางอยู่

เมื่อวานพ่อสามีเลยมาขนออกไปค่ะ แต่ทำท่าทางไม่พอใจใส่เรา เราก้เข้ามาอยู่ในห้องนอน แล้วปิดประตู ปิดธรรมดามากกกก เราเพลียด้วย ต้องการจะนอน ถ้าเปิดประตูไว้ตอนขนมันเสียงดังแน่ๆ ห้องนอนเราติดบันได พ่อสามีเลยเปิดประตู แล้วมาว่าเราว่า จะปิดประตูใส่ทำไม ไม่พอใจอะไรก้พูดกันดีๆ ไม่ต้องมาทำนิสัยแบบนี้ใส่ ไม่ชอบ เราก้เลยบอกว่า เราก้ไม่ชอบเหมือนกัน กับคนที่อ้างโน่น อ้างนี่ แล้วโยนความรับผิดชอบของตัวเองไปให้คนอื่น แบบนี้เค้าเรียกว่า ไม่มีความรับผิดชอบ แม่สามีเลยขึ้นมาบนห้องมาหาเรา แล้วบอกให้เรานอนพัก พ่อสามีก้ไปขนของ แต่ทำทุกอย่างเสียงดังมาก แล้วพูดประมาณว่า มันจะอะไรกันหนักกันหนากับอิของแค่นี้ กับอิแค่เปียโน สามีเลยบอกเถียงกับพ่อสามีไปอีกหนึ่งยก และตามด้วยแม่สามีอีกหนึ่งยก

เรื่องจบที่ พ่อสามีและสามีช่วยกันขนเปียโนออกไปค่ะ เรียบร้อยแล้ว

มาต่อกันเรื่องที่จอดรถ
ที่จอดรถมันเป็นโรงจอดอยู่ข้างบ้านค่ะ ไม่ได้อยู่ในตัวบ้าน แล้วมันต้องเสียค่าจอดรายเดือน แล้วส่วนนี้สามีเป็นคนจ่าย แต่พ่อสามีเอารถพ่อสามีมาจอดค่ะ สามีเลยเอารถจอดแถวๆบริเวรบ้านแทน สามีเลยไปเจรจาว่า จะเอารถมาจอดนะ ให้ไปหาที่จอดรถที่อื่น พ่อสามีก้มาว่าเราเลยจ้าา ว่าเราไปเป่าหูสามีเรื่องที่จอดรถ ปกติสามีไม่ใช่คนแบบนี้ สามีเลยบอกว่าไม่เกี่ยว แต่ถ้าจะจอดตรงนี้ ก้ให้จ่ายเงินเอง สามีจะไม่จ่ายให้ พ่อสามีก้บ่นว่ามันจะแพงอะไรนักหนากับอิแค่ที่จอดรถ เดี่ยวจ่ายให้ก้ได้ จะเอาเท่าไหร่ว่ามา สามีเลยบอกว่า ไปจอดอีกทีนึงสิ มันก้มีโรงจอดรถเหมือนกัน คือพ่อสามีรักรถมากค่ะไม่จอดตากแดด ตากลม ตากฝน รถต้องใหม่และสะอาดอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าไปอีกทีมันต้องทำเรื่องขอจอดรถอีก พ่อสามีก้ไม่อยากไป ก้เลยมาบ่นๆ เล็กๆน้อยๆ ก้ไม่ยอมกัน

สุดท้ายเรื่องนี้ไม่รู้จะจบยังไงค่ะ แต่เรื่องที่จอดรถเราไม่ยุ่งอยู่แล้วค่ะ

เราผิดมากมั้ยคะ ที่เหวี่ยงพ่อสามีไปขนาดนี้ ??
แว่วๆว่า พ่อสามีกับแม่สามี ทะเลาะกันเพราะเราด้วยค่ะ เพราะแม่สามีเข้าข้างเราตลอด
พ่อสามีเลยขู่ว่าจะแยกไปอยู่ที่อื่น ถ้าทุกคนยังเข้าข้างเราแบบนี้
แล้วสามีก้เหมือนจะดรอปความสนิทกับพ่อสามีลงไปด้วยค่ะ เหมือนเรามาทำครอบครัวคนอื่นแตกแยกเลย

ปล.พ่อสามี คือพ่อเลี้ยงนะคะ ไม่ใช่พ่อแท้ๆ