คนจนไม่มีเงินสู้คดี ต้องทำไงหรือสุดท้ายก็ตกเป็นผู้ต้องหาใช่ไหม?? ไหนความยุติธรรม??

กระทู้คำถาม
**เมื่อเกิดเรื่องขึ้นดิฉันไม่ได้ได้หยุดนิ่งพยายามกระตือรือร้นที่จะสู้เพื่อเเสดงความบริสุทธิ์ของตัวเอง พอมีหมายเรียกครั้งที่ 1 ก็ได้ไปแสดงตัวเเละให้การต่อเจ้าหน้าที่ เเต่วันนี้สู้จนถึงจะขึ้นศาล รอว่าจะสั่งฟ้องหรือป่าว เเต่สิ่งที่เกิดคือ ท่านที่เป็นผู้รู้กฎหมายได้โทรมาเพื่อเเนะนำเเละเเจ้งประมาณว่าให้ดิฉันที่ตกเป็นผู้ต้องหาให้ชดใช้ในสิ่งที่ฉ้กโกงเขามา โดยการจ่ายเงินหรือคืนโทรศัพท์ให้เเก่ผู้เสียหาย เเละอีกข้อที่ท่านได้เสนอมาคือ สู้คดีต่อเเต่การสู้คดีเพื่อหาความบริสุทธิ์นั้นต้องเสียทั้งเงินทั้งเวลา เเละท่านก้อพยายามพูดให้ดิฉันยอมจำนน เเละจ่ายตังให้กลับผู้เสียหาย ดิฉันบอกฉันไม่ได้ทำทำไมจะต้องจ่าย เเละอีกอย่างก็ไม่ได้มีอาชีพขายโทรศัพท์ จะเอาที่ไหนมาคืน เคยพูดไปว่าถ้าจ่ายเเล้วเรื่องจบไม่มาอีกจะจ่ายเเต่ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เเต่ขอเเบ่งจ่าย เเต่ผู้เสียหายไม่ยอมให้เเบ่งจ่ายเพราะกลัวไม่ได้เงิน ท่านเลยเเนะนำว่าให้เเม่ไปหากู้ยืมมาเพื่อจะให้ชดใช้เเก่ผู้เสียหาย  ดิฉันมีงานทำประจำ เงินเดือน หมื่นนิดๆๆ เจอคำนี้จากท่าน ถึงกับอึ้งเพราะผู้รู้กฎหมายทำไมถึงไม่ช่วยจับคนร้ายตัวจริงจากรูปหรือหลักฐานที่ท่านไปสืบมาได้เเต่ทำไมถึงต้องให้เราทั้งๆๆที่ไม่ได้ทำต้องตกเป็นผู้ต้องหาทั้งๆๆที่ไม่ได้ทำ ไม่เข้าใจนี่หรือคือสิ่งที่ช่วยประชาชนคนจนที่ไม่มีเงิน หากใครมีข้อเสนนอหรือเเนะนำว่าต้องทำไงต่อ วอนช่วยด้วยค่ะ เพราะไม่เคยเจอเเบบนี้ คนร้ายเอาเงินไปใช้เงินสบายไม่ยอมตามจับ เเต่คนที่โดนเเอบอ้างกับต้องมาชดใช้ เเถมมีคดีติดตัวอีก กฎหมายประเทศไทย คุณผู้รู้กฎหมายช่วยอ่ะไรประชาชนได้  ทำไมต้องเเกล้งประชาชนคนจนด้วย ไม่ยุติธรรมเลย
ตามที่พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเเห่งหนึ่ง ได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ข้าพเจ้า ว่า  ร่วมกันฉ้อโกง เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2558 จึงร้องขอความเป็นธรรมต่อพนักงานสอบสวนในประเด็นต่อไปนี้
1.    เมื่อประมาณกลางเดือนมิถุนายน ๒๕๕๘ มีเอกสารได้แก่ สมุดบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่ 240-xxxxxxx และบัตร  ATM  (โดยระบุรหัสบัตร ATM ไว้หลังสมุดบัญชีดังกล่าว) สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (ก๊อปปี้สี และก๊อปปี้ขาวดำ) รายการเดินบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา เลขที่  397-xxxxxxxxx ของข้าพเจ้าได้หายไป โดยหายที่บริเวณทางเดินเท้าห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สาขาบางรัก เวลาประมาณ 18.00 น.  จากนั้นประมาณปลายเดือนมิถุนายน ๒๕๕๘ ข้าพเจ้าจึงมาตรวจสอบและทราบว่าเอกสารดังกล่าวข้างต้นได้หายไป ข้าพเจ้าจึงมอบอำนาจให้นาย สิทธวีร์ ผึ่งผดุง  ไปแจ้งความว่าเอกสารดังกล่าวหายไปต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจลุมพินี เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2558 รายละเอียดปรากฏตามสำเนารายงานประจำวันแจ้งความเอกสารหายเอกสารหมายเลข 1 ซึ่งในวันดังกล่าวข้าพเจ้าติดงานไม่สามารถมาแจ้งความด้วยตัวเองได้   อันเป็นการแจ้งความไว้ก่อนวันที่ผู้เสียหายจะถูกคนร้ายหลอกลวงเอาทรัพย์ไป หลังจากนั้นวันที่ 17 กรกฎาคม 2558 ประมาณเวลา 20.00 น. ข้าพเจ้าได้รับแจ้งจากน้องชาย ซึ่งเป็นน้องชายของข้าพเจ้า ว่าได้มีผู้เสียหายได้เพิ่มเพื่อนทางเฟสบุ๊คของ น้องชาย แล้วบอกว่าข้าพเจ้าได้โกงเงินค่าโทรศัพท์ที่ซื้อขายกันผ่านอินเตอร์เน็ตไป โดยบุคคลที่แจ้งน้องชายมานั้น คือ   นายเมธี   จินาติ๊บ ข้าพเจ้าจึงแจ้งให้น้องชายให้เบอร์โทรศัพท์ของข้าพเจ้า แก่นายเมธี จินาติ๊บ เพื่อจะสอบถามรายละเอียดที่เกิดขึ้น เมื่อข้าพเจ้าได้ทราบเรื่องแล้วว่ามีคนร้ายที่นำเอกสารและ สมุดบัญชี พร้อมบัตร ATM ที่ข้าพเจ้าได้แจ้งหายไว้ก่อนที่จะเกิดเหตุคดีนี้ไปหลอกลวงผู้เสียหายรายอื่นว่าเป็นข้าพเจ้าที่ขายโทรศัพท์มือถือและให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของข้าพเจ้าและได้ใช้บัตร ATM ของข้าพเจ้าไปกดเอาเงินของผู้เสียหายไป ข้าพเจ้าจึงรีบเดินทางไปที่ สน. ลุมพินี เพื่อยืนยันในความบริสุทธิ์ของข้าพเจ้าและได้แจ้งความร้องทุกข์กับบุคคลที่ไม่ทราบชื่อ ที่ได้นำเอกสาร สมุดบัญชี และบัตร ATM ของข้าพเจ้าที่เอาไปใช้หลอกลวงซื้อขายโทรศัพท์ และนำบัตร ATM ของข้าพเจ้าไปใช้กดเงินที่ได้มาจากการหลอกลวงผู้เสียหาย   เป็นเหตุให้ข้าพเจ้าได้รับความเสียหายรายละเอียดปรากฏตามรายงานบักทึกประจำวัน บันทึกคำให้การของข้าพเจ้า เอกสารหมายเลข 2 และ 3   และเหตุที่ในวันที่ข้าพเจ้าทราบว่าเอกสารหายและไม่ได้แจ้งอายัดบัตร ATM  และสมุดบัญชี จนเป็นเหตุให้คนร้ายนำไปใช้ในการหลองลวงผู้เสียหายและนำบัตร ATM ของข้าพเจ้าไปใช้กดเงินที่ได้มาจากการหลอกลวงผู้เสียหาย เนื่องจากสมุดบัญชีและบัตร ATM ดังกล่าวข้าพเจ้าไม่ค่อยได้ใช้ จึงไม่ได้แจ้งอายัดบัตรในวันนั้น ประกอบกับเงินคงเหลือในบัญชีไม่มี รายละเอียดปรากฏตามรายการเดินบันชี เอกสารหมายเลข 4 และข้าพเจ้าได้แจ้งความไว้เป็นหลักฐานแล้วว่าเอกสารดังกล่าวนั้นหายไป ข้าพเจ้าจึงไม่ได้แจ้งทางธนาคารเพื่ออายัดบัตร
              2. เมื่อข้าพเจ้าได้รับแจ้งจากน้องชาย ก็ได้ไปติดต่อที่ธนาคารเจ้าของบัญชี  เพื่อขอรายการเดินบัญชีเลขที่ 240-2-27548-1  และเมื่อได้รายการเดินบัญชีแล้วข้าพเจ้าได้โทรเช็คทาง call center ของธนาคารไทยพาณิช เพื่อตรวจสอบว่าบุคคลที่นำบัตร ATM ของข้าพเจ้าที่ทำหายนั้น นำไปกดเงินที่ตู้ไหน  ที่ตั้งของแต่ละตู้  และเมื่อข้าพเจ้าไปรายละเอียดที่ตั้งของตู้ ATM  ตามรายการเดินบัญชี ดังนี้                                                                                    
๑.    เมื่อวันที่ 25-06-2015  เวลา 20.41 น.  กดตู้กสิกร  รหัสตู้ S1A5201  :  ตู้หน้าสาขากสิกร ถนนสุขสวัสดิ์ ตู้ที่2 แขวง/เขต จอมทอง
๒.    เมื่อวันที่ 11-07-2015 เวลา 09.55 น. กดตู้กสิกร รหัสตู้ S1A5389 :  ตู้หน้าเซเว่น คอนโดไอวีริเวอร์
๓.    เมื่อวันที่ 11-07-2015 เวลา 15.33 น. กดตู้ ธนาคารไทยพาณิชย์  รหัสตู้  8299 : ตู้หน้าสาขาธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบิ๊กซีราชบูรณะ ชั้น 1
๔.    เมื่อวันที่ 12-07-2015 เวลา 18.21 น. กดตู้กสิกร  รหัสตู้ S1A1703  : ตู้หน้า family mart สาขาดาวคะนอง
๕.    เมื่อวันที่ 13-07-2015 เวลา 17.35 น. กดตู้กสิกร รหัสตู้ S1A5389 :  ตู้หน้าเซเว่น คอนโดไอวีริเวอร์
๖.    เมื่อวันที่ 13-07-2015 เวลา 18.51 น.  กดตู้กสิกร  รหัสตู้ S1A9461 : บิ๊กซี ราชบูรณะ
๗.    เมื่อวันที่ 15-07-2015  เวลา 18.41 น. กดตู้กรุงเทพ รหัสตู้ S764B195C493 : บิ๊กซี บางปะกอก    ชั้น 3
๘.    เมื่อวันที่ 17-07-2015 เวลา 14.16 น. กดตู้กสิกร  รหัสตู้ S1A7827 : ร้านทองจิตนา ตลาดบางประแก้ว สุขสวัสดิ์ เขตจอมทอง
๙.    เมื่อวันที่ 17-07-2015 เวลา 17.22 น. กดตู้ ธนาคารไทยพาณิชย์   หน้า เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ ชั้น 4  เมเจอร์พระราม 2
รายละเอียดปรากฏตามข้อมูลการใช้บัตร  ATM  เอกสารหมายเลข  5
ซึ่งตามวันและเวลาที่คนร้ายได้นำบัตร ATM ของข้าพเจ้าไปกดเงินนั้น ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าตามวันเวลาดังกล่าวข้าพเจ้าได้ทำงานอยู่ที่ บริษัท  เวิลดิ์แอร์ โลจิสติกส์ จำกัด โดยมีวันและเวลาในการมาทำงานที่ชัดเจน รายละเอียดปรากฏตามเอกสารหมายเลข 6 จากนั้นข้าพเจ้าจึงได้รีบเข้าไปติดต่อกับทางธนาคารเจ้าของบัญชี เพื่อขอดูกล้องวงจรปิด และพบว่าเป็นชายไม่ทราบชื่อที่ได้นำบัตร ATM ของข้าพเจ้าไปกดเงิน ข้าพเจ้าจึงได้ขอรูปภาพนั้นกับทางธนาคารฯ แต่ทางธนาคารฯแจ้งว่าไม่สามารถให้ข้อมูลได้โดยทางธนาคารฯแจ้งว่าถ้าจะนำรูปและข้อมูลออกไปได้จะต้องมีหนังสือจากพนักงานสอบสวนไปขอข้อมูลดังกล่าว  ซึ่งในประเด็นนี้ข้าพเจ้าจึงขอความเป็นธรรมต่อพนักงานอัยการขอให้แจ้งพนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมโดยขอให้พนักงานสอบสวนมีหนังสือสอบถามไปยังธนาคารเจ้าของบัญชีเพื่อขอให้ตรวจสอบข้อมูลในภาพว่าเป็นใคร อยู่ที่ไหน ชื่ออะไร เพื่อให้ได้ตัวคนร้ายที่ก่อเหตุคดีนี้ตัวจริงมาดำเนินคดีต่อไป โดยในส่วนของข้อมูลดังกล่าวนั้นข้าพเจ้าได้แจ้งให้พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ได้ทราบแล้วซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการสอบสวนของพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี
                 3.ข้าพเจ้าได้ข้อมูลการสนทนาทางไลน์จากผู้เสียหาย ปรากฏว่ามี สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน, หน้าสมุดบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่ 240-xxxxxxxxx สาขาเทสโก้ โลตัส ฟอร์จูน ทาวน์ บัญชีเงินฝากประเภทออมทรัพย์ และสำเนาทะเบียนบ้าน ของข้าพเจ้าที่ข้าพเจ้าได้แจ้งหายไว้ เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2558 ปรากฏว่า พบไลน์ :ID : timeme005 และ เบอร์โทร 095-5840728  ซึ่งคนร้ายได้แสดงให้ผู้เสียหายได้เห็นและ      ใช้ในการติดต่อหลอกลวงเพื่อเอาเงินของผู้เสียหายไป  และไลน์ :ID : timeme005 และ เบอร์โทร 095-5840728  ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าไม่ใช่ของข้าพเจ้าแต่อย่างใด รายละเอียดปรากฏตามเอกสารแสดงการสนทนาทางไลน์เอกสารหมายเลข 7 ข้าพเจ้าจึงร้องขอความเป็นธรรมต่อพนักงานอัยการแจ้งให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบไลน์ :ID : timeme005 และ เบอร์โทร 095-5840728 ว่าเป็นบุคคลใด เนื่องจากข้าพเจ้าได้ไปตรวจสอบที่ ทรูมูฟ แล้วปรากฏว่าเป็นเบอร์แบบลงทะเบียนของระบบ ทรูมูฟ ซึ่งมีข้อมูลของคนร้ายที่ได้นำไปลงทะเบียน แต่ข้าพเจ้าไม่สามารถขอข้อมูลได้เนื่องจากต้องมีหนังสือจากพนักงานสอบสวนมาขอข้อมูลดังกล่าว ข้าพเจ้าจึงร้องขอความเป็นธรรมมายังพนักงานอัยการเพื่อสอบสวนเพิ่มเติม โดยให้มีหนังสือไปยังบริษัท ทรูมูฟ เพื่อตรวจสอบ หมายเลขโทรศัพท์ 095-5840728 และไลน์ ID ดังกล่าวว่าเป็นของบุคคลใด ซึ่งในประเด็นนี้น่าจะสามารถนำไปสู่การหาตัวคนร้ายที่แท้จริงได้
                 4.สำหรับรูปที่ปรากฏใน ทามไลน์ ที่ปรากฏว่าเป็นรูปของข้าพเจ้านั้น อาจเป็นเพราะว่าคนร้ายอาจจะค้นหารูปภาพที่ข้าพเจ้าใช้เป็น โปรไฟล์หน้าเฟสบุ๊ค โดยการค้นหาจากชื่อ-นามสกุลจริงตามบัตรประจำตัวประชาชนของข้าพเจ้า แล้วเมื่อค้นพบรูป คนร้ายน่าจะตัดต่อรูปภาพโดยการก๊อปปี๊จากโปรไฟล์หน้าเฟสบุ๊คของข้าพเจ้า มาใช้เป็นรูปหน้าโปรไฟล์ในระบบไลน์เพื่อใช้ติดต่อหลอกลวงผู้เสียหาย ซึ่งในประเด็นนี้ข้าพเจ้าจึงร้องขอความเป็นธรรมมายังพนักงานอัยการ เพื่อให้พนักงานสอบสวนช่วยดำเนินการตรวจสอบว่าบุคคลใดได้กระทำการดังกล่าวจนเป็นเหตุให้ข้าพเจ้าได้รับความเสียหายและต้องตกเป็นผู้ต้องหาคดีอาญา
                  5. ข้าพเจ้าขอเรียนชี้แจงและยืนยันในความบริสุทธิ์ของข้าพเจ้าว่าข้าพเจ้าไม่ใช่คนร้ายในคดีนี้และข้าพเจ้าไม่เคยรู้จักหรือเป็นมิจฉาชีพที่ร่วมกับคนร้ายในคดีนี้ในการหลอกลวงผู้เสียหาย ซึ่งจะเห็นได้ว่าหากข้าพเจ้าเป็นคนร้ายที่ร่วมกับบุคคลอื่นหลอกลวงผู้เสียหายจริง ข้าพเจ้าคงไม่ใช้บัตรประชาชนและสมุดบัญชีธนาคารฯที่ปรากฏชื่อ ที่อยู่ และภาพใบหน้าของข้าพเจ้าเพื่อเป็นหลักฐานในการมัดตัวข้าพเจ้า โดยลักษณะในการหลอกลวงของคนร้ายนั้นจะใช้สมุดบัญชี และ บัตรประชาชนของข้าพเจ้าในการหลอกลวงเพื่อปกปิดตัวคนร้ายที่กระทำความผิดและเพื่อให้ผู้เสียหายที่พบเห็นนั้นหลงเชื่อได้ง่ายว่าข้าพเจ้าเป็นคนขายโทรศัพท์ว่ามีตัวบุคคลที่ปรากฏในเอกสารแน่นอน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่