แก๊งแฮกเกอร์บัตรเอทีเอ็มโผล่อีก ตู้กดเงินแบงก์ไทยพาณิชย์ในปั๊ม ปตท. ย่านนนทบุรี ได้ไปร่วมแสนบาท เร่งตรวจกล้องวงจรปิด ขณะที่ผู้เสียหายตลาดโกลด์มาร์เก็ต ย่านประชานิเวศน์ 1 มียอดรวม 38 ราย
ความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้เสียหาย และติดตามกลุ่มมิจฉาชีพแก๊งแฮกเอทีเอ็มออกอาละวาด โดยลอบติดตั้งเครื่องสกิมเมอร์ (คัดลอกข้อมูลบัตรเอทีเอ็ม) และนำข้อมูลไปเบิกถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์ หน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ตลาดโกลด์มาร์เก็ต ย่านประชานิเวศน์ 1 กทม. ได้เงินไปร่วม 6 แสนบาท โดยเมื่อวันที่ 8 เมษายน นายพงษ์สิทธิ์ ชัยฉัตรพรสุข ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายบริหารการป้องกันอาชญากรรมและความปลอดภัย ธนาคารไทยพาณิชย์กล่าวว่า ธนาคารได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ติดต่อลูกค้าที่ได้รับความเสียหายเพื่อคืนเงินแล้ว โดยวันนี้จะสามารถคืนเงินให้กับลูกค้าได้ทุกราย อย่างไรก็ตาม พบว่ายังมีผู้เสียหายแจ้งความเพิ่มเติมเข้ามาอีก ซึ่งธนาคารยืนยันจะรับผิดชอบลูกค้าทุกรายตามมูลค่าเงินที่เสียหาย
ส่วนความคืบหน้าการติดตามแก๊งแฮกเกอร์ นายพงษ์สิทธิ์กล่าวว่า ธนาคารได้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด พบว่ามีชายคนหนึ่งมาติดตั้งกล้องขนาดเล็กที่ตู้เอทีเอ็มดังล่าว เพื่อคัดลอกข้อมูลของลูกค้าที่มาใช้บริการ คาดว่าจะเป็นชาวจีนหรือมาเลเซีย จึงได้ประสานไปยังตำรวจเพื่อติดตามคนร้ายต่อไป พร้อมทั้งได้ส่งภาพใบหน้าผู้ต้องสงสัยไปยังตำรวจภาคใต้ซึ่งเกิดเหตุลักษณะเดียวกันเพื่อติดตามคนร้ายแล้ว
นายพงษ์สิทธิ์กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังพบว่าเกิดกรณีเดียวกันที่ตู้เอทีเอ็มของไทยพาณิชย์ที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. ย่านนนทบุรี ขณะนี้ธนาคารอยู่ระหว่างการขอดูกล้องวงจรปิดบริเวณรอบข้าง เพื่อตรวจสอบหาคนร้ายว่าจะเป็นกลุ่มเดียวกับที่ตลาดประชานิเวศน์ 1 หรือไม่ โดยได้รับแจ้งข้อมูลว่ามีผู้เสียหายจากตู้ดังกล่าว มีการแจ้งความแล้ว 10 กว่าคน มูลค่าความเสียหายประมาณ 1 แสนกว่าบาท
ด้าน พ.ต.ท.ณัฐวัฒน์ เกศะรักษ์ หัวหน้าพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา จึงถึงวันนี้ (8 เม.ย.) มีผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น แล้ว 38 ราย มูลค่าความเสียหาย รวมกว่า 580,000 บาท ซึ่งผู้เสียหาย ทุกคนต่างให้การตรงกันว่านำบัตรเอทีเอ็มไปกดเงินบริเวณตลาดโกลด์มาร์เก็ต ย่านประชานิเวศน์ 1 ขณะเดียวกันฝ่ายสืบสวนยังได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้เสียหายที่ทำการตรวจสอบกับทางธนาคาร โดยพบว่าเงินถูกกดออกไปจากธนาคารในประเทศญี่ปุ่นด้วย
พ.ต.ท.ณัฐวัฒน์กล่าวอีกว่า นอกจากนั้นจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่เซเว่นอีเลฟเว่น ตลาดย่านประชานิเวศน์ 1 พบชายต้องสงสัยอายุประมาณ 20-25 ปี ผิวขาว ผมยาว สูงประมาณ 165-170 ซม. สะพายกระเป๋าเป้เดินเข้าไปเปิดด้านหลังตู้เอทีเอ็มที่อยู่ในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นสาขาดังกล่าว ซึ่งฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวมาสอบสวน และจะประสานกับธนาคารเจ้าของบัญชีที่ได้รับความเสียหาย เพื่อขอข้อมูลลูกค้าที่ถูกแฮกข้อมูลบัตรเอทีเอ็ม ส่งให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) ในการติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันที่ 10 เมษายนนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประชาชื่น จะเข้าร่วมประชุมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อวางกรอบแนวทางในการติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
...............
(ที่มา:มติชนรายวัน 9 เมษายน 2557)
แฮกตู้′เอทีเอ็ม′โผล่เมืองนนท์ กดไทยพาณิชย์ได้ไปร่วมแสน ผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้ว 10 ราย!?
ความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้เสียหาย และติดตามกลุ่มมิจฉาชีพแก๊งแฮกเอทีเอ็มออกอาละวาด โดยลอบติดตั้งเครื่องสกิมเมอร์ (คัดลอกข้อมูลบัตรเอทีเอ็ม) และนำข้อมูลไปเบิกถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์ หน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ตลาดโกลด์มาร์เก็ต ย่านประชานิเวศน์ 1 กทม. ได้เงินไปร่วม 6 แสนบาท โดยเมื่อวันที่ 8 เมษายน นายพงษ์สิทธิ์ ชัยฉัตรพรสุข ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายบริหารการป้องกันอาชญากรรมและความปลอดภัย ธนาคารไทยพาณิชย์กล่าวว่า ธนาคารได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ติดต่อลูกค้าที่ได้รับความเสียหายเพื่อคืนเงินแล้ว โดยวันนี้จะสามารถคืนเงินให้กับลูกค้าได้ทุกราย อย่างไรก็ตาม พบว่ายังมีผู้เสียหายแจ้งความเพิ่มเติมเข้ามาอีก ซึ่งธนาคารยืนยันจะรับผิดชอบลูกค้าทุกรายตามมูลค่าเงินที่เสียหาย
ส่วนความคืบหน้าการติดตามแก๊งแฮกเกอร์ นายพงษ์สิทธิ์กล่าวว่า ธนาคารได้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด พบว่ามีชายคนหนึ่งมาติดตั้งกล้องขนาดเล็กที่ตู้เอทีเอ็มดังล่าว เพื่อคัดลอกข้อมูลของลูกค้าที่มาใช้บริการ คาดว่าจะเป็นชาวจีนหรือมาเลเซีย จึงได้ประสานไปยังตำรวจเพื่อติดตามคนร้ายต่อไป พร้อมทั้งได้ส่งภาพใบหน้าผู้ต้องสงสัยไปยังตำรวจภาคใต้ซึ่งเกิดเหตุลักษณะเดียวกันเพื่อติดตามคนร้ายแล้ว
นายพงษ์สิทธิ์กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังพบว่าเกิดกรณีเดียวกันที่ตู้เอทีเอ็มของไทยพาณิชย์ที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. ย่านนนทบุรี ขณะนี้ธนาคารอยู่ระหว่างการขอดูกล้องวงจรปิดบริเวณรอบข้าง เพื่อตรวจสอบหาคนร้ายว่าจะเป็นกลุ่มเดียวกับที่ตลาดประชานิเวศน์ 1 หรือไม่ โดยได้รับแจ้งข้อมูลว่ามีผู้เสียหายจากตู้ดังกล่าว มีการแจ้งความแล้ว 10 กว่าคน มูลค่าความเสียหายประมาณ 1 แสนกว่าบาท
ด้าน พ.ต.ท.ณัฐวัฒน์ เกศะรักษ์ หัวหน้าพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา จึงถึงวันนี้ (8 เม.ย.) มีผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น แล้ว 38 ราย มูลค่าความเสียหาย รวมกว่า 580,000 บาท ซึ่งผู้เสียหาย ทุกคนต่างให้การตรงกันว่านำบัตรเอทีเอ็มไปกดเงินบริเวณตลาดโกลด์มาร์เก็ต ย่านประชานิเวศน์ 1 ขณะเดียวกันฝ่ายสืบสวนยังได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้เสียหายที่ทำการตรวจสอบกับทางธนาคาร โดยพบว่าเงินถูกกดออกไปจากธนาคารในประเทศญี่ปุ่นด้วย
พ.ต.ท.ณัฐวัฒน์กล่าวอีกว่า นอกจากนั้นจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่เซเว่นอีเลฟเว่น ตลาดย่านประชานิเวศน์ 1 พบชายต้องสงสัยอายุประมาณ 20-25 ปี ผิวขาว ผมยาว สูงประมาณ 165-170 ซม. สะพายกระเป๋าเป้เดินเข้าไปเปิดด้านหลังตู้เอทีเอ็มที่อยู่ในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นสาขาดังกล่าว ซึ่งฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวมาสอบสวน และจะประสานกับธนาคารเจ้าของบัญชีที่ได้รับความเสียหาย เพื่อขอข้อมูลลูกค้าที่ถูกแฮกข้อมูลบัตรเอทีเอ็ม ส่งให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) ในการติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันที่ 10 เมษายนนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประชาชื่น จะเข้าร่วมประชุมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อวางกรอบแนวทางในการติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
...............
(ที่มา:มติชนรายวัน 9 เมษายน 2557)