เนื้อในของหนังเรื่องสุดท้ายในชีวิตของปรมาจารย์ภาพยนตร์
สแตนลีย์ คูบริค ...สร้างมาจากนิยายของ
อาเธอร์ ชไนต์เลอร์ ในชื่อ
TRAUMNOVELLE …หากเอามุมมองของข้าพเจ้าที่มีต่อหนังเรื่องนี้และเป็นแฟนคูบริค ต้องบอกว่าชื่นชอบกว่าที่คิดไว้อย่างมาก หนังยังคงความเป็นคูบริคไว้จนต้องแอบยิ้มอยู่ในใจ ตลอดจนเนื้อเรื่องของคู่สามีภรรยาคู่หนึ่งที่เหมือนกำลังสงสัยเคลือบแคลงในชีวิตคู่ด้วยกัน กับฝีไม้ลายมือการแสดงของอดีตสามี-ภรรยาในอดีต
ทอม ครูซและ
นิโคล คิดแมน ที่แม้ฝ่ายหลังจะไม่ค่อยได้โชว์อะไรมากมายแต่ก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้หนังน่าจดจำ ที่เธอลงทุนเปลือยกายมีบทรักกับชายอื่นอย่างพิศวง ! และทอม ครูซ ที่เหมือนคุมหนังทั้งเรื่องไว้ การแสดงหนังของปรมาจารย์อย่างคูบริคก็นับว่าเป็นเกียรติอย่างอักโข เขาทั้งมีเสน่ห์และน่าเอาใจช่วย ไปจนถึงต้องรู้สึกตกตะลึงแบบเดียวกันกับเขาเมื่อความจริงในเรื่องถูกเฉลยตอนไคลแม็กซ์
หนังเรื่องนี้มีชื่อไทยว่า
“พิษราคะ” กับหน้าหนังที่สื่อให้เห็นถึงความรักกับการมีเซ็กซ์ที่ดูเรทดีวีดีบ้านเราแล้ว “ฉ20” ซึ่งนั้นอาจการันตีได้ว่า... หนังเรื่องนี้มีฉากรุนแรงทางด้านศีลธรรมมนุษย์อย่างแน่นอนซึ่งนั้นก็จริง แก่นหลักหนังมีฉากโป๊เปลือยแทบทั้งเรื่อง ตั้งแต่ผู้หญิงเปลือยนม เปลือยก้น ไปจนถึงเปลือยทั้งร่าง ...แต่ไฮไลต์เด็ดที่ข้าพเจ้านั้นจำติดตาก็คือฉากที่ทอม ครูซ ได้เข้าไปในอัครสถานอันลึกลับแล้วที่นั้นมีมีการจับคู่กันของชายและหญิง จับคู่กันเพื่อมีเซ็กซ์แบบวิตถาร ฉากเหล่านี้ข้าพเจ้ามองว่าไม่ได้ให้ความรู้สึกมีอารมณ์แต่อย่างใด แต่กลับสร้างความหวาดหวั่นแก่ข้าพเจ้าทุกครั้งที่ได้เห็นฉากร่วมรักกันในหนังและรู้สึกหัวใจสั่นเพราะภาพที่เห็นนั้นมันช่างราวกับเป็นภาพการประหารชีวิตอย่างโหดเหี้ยมของมนุษย์ ไม่ใช่เพราะข้าพเจ้าอ่อนไหวต่อโลกไม่เคยเห็นภาพคนร่วมรักกันแต่อย่างใด ...แต่เพราะตั้งแต่องค์ประกอบมุมกล้อง ไปจนถึงดนตรีประกอบภาพยนตร์ มันช่วยเร่งเร้าอารมณ์ส่วนลึกให้สัมผัสได้ว่า... นี้ไม่ใช่การร่วมรักกัน มันคือพิธีกรรมสังเวยบางอย่างที่น่าขนหัวลุกต่างหาก ! ซึ่งข้าพเจ้าได้ทั้งชอบและขนลุกไปตามๆ กันทำให้เข้าใจชื่อหนังเรื่องนี้ไปทันที
...แต่ข้าพเจ้าไม่ได้หมายความว่าหนังเรื่องนี้แก่นหลักพูดถึง “การเอากัน” แน่นอนนักทำหนังอย่างคูบริคไม่ทำอย่างนั้นแน่ เขายังคงความเป็นศิลปะในงานภาพยนตร์ หลายๆ อย่าง หลายๆ เหตุการณ์ หลายๆ คำพูด ...ล้วนสื่อและแฝงความหมายของมันไปในตัว ซึ่งข้าพเจ้านั้นก็ไม่สามารถรับรู้และตีความหมายได้แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาจนทำให้ดูไม่รู้เรื่อง การจัดฉาก องค์ประกอบของภาพยนตร์ที่ประณีต งดงาม มีความหมายตามสไตล์คูบริค ตลอดจนเห็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตั้งแต่การใช้กล้องสเตดิแคม การโฟกัสไปยังใบหน้าตัวละครที่เห็นอารมณ์อย่างเด่นชัด ไปจนถึงการระเบิดซูม ! ช่วยให้ข้าพเจ้าเพลิดเพลินไปกับหนังที่ยาว 159 เฉียด 2 ชั่วโมง 40 นาที อย่างไม่รู้สึกน่าเบื่อ ราวกับว่าดูหนังตลาด Main Streem ทั่วๆ ไป
Eyes Wide Shut เป็นหนังอีกเรื่องที่ข้าพเจ้ารู้สึกโปรดปรานและชื่นชอบ ตลอดจนสนุกสนาน บันเทิง ให้อารมณ์ลึกลับและปริศนาแฝงไว้อย่างน่าตื่นเต้น ทั้งยังมีความงดงามแฝงไว้ ความประณีตในการทำหนังของคูบริคที่เห็นอย่างได้ชัด การตีความหมายที่ผู้ชมจะได้รับ ข้าพเจ้ายังมองว่าท่านเป็นคนทำหนังที่ทั้งใส่ความเป็นอาร์ต ศิลปะชั้นสูง ปรัชญาเกินการตีความหมาย ได้ลงตัวไปกับความสนุกสนาน (อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัว) ...ตลอดจน Stanley Kubrick ท่านยังคงเป็นไอดอล บุคคลต้นแบบที่ข้าพเจ้ายึดเหนี่ยวไว้ในใจเสมอมา ทุกครั้งตลอดที่เห็นรูปท่านกำลังทำงานอยู่ในกองถ่ายสักเรื่อง ข้าพเจ้ารู้สึกเลยว่า... มีกำลังใจและฮึกเหิมอย่างบอกไม่ถูก
A++++++++
++หนังดี++ Stanley Kubrick's Eyes Wide Shut (1999)
เนื้อในของหนังเรื่องสุดท้ายในชีวิตของปรมาจารย์ภาพยนตร์ สแตนลีย์ คูบริค ...สร้างมาจากนิยายของอาเธอร์ ชไนต์เลอร์ ในชื่อ TRAUMNOVELLE …หากเอามุมมองของข้าพเจ้าที่มีต่อหนังเรื่องนี้และเป็นแฟนคูบริค ต้องบอกว่าชื่นชอบกว่าที่คิดไว้อย่างมาก หนังยังคงความเป็นคูบริคไว้จนต้องแอบยิ้มอยู่ในใจ ตลอดจนเนื้อเรื่องของคู่สามีภรรยาคู่หนึ่งที่เหมือนกำลังสงสัยเคลือบแคลงในชีวิตคู่ด้วยกัน กับฝีไม้ลายมือการแสดงของอดีตสามี-ภรรยาในอดีต ทอม ครูซและนิโคล คิดแมน ที่แม้ฝ่ายหลังจะไม่ค่อยได้โชว์อะไรมากมายแต่ก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้หนังน่าจดจำ ที่เธอลงทุนเปลือยกายมีบทรักกับชายอื่นอย่างพิศวง ! และทอม ครูซ ที่เหมือนคุมหนังทั้งเรื่องไว้ การแสดงหนังของปรมาจารย์อย่างคูบริคก็นับว่าเป็นเกียรติอย่างอักโข เขาทั้งมีเสน่ห์และน่าเอาใจช่วย ไปจนถึงต้องรู้สึกตกตะลึงแบบเดียวกันกับเขาเมื่อความจริงในเรื่องถูกเฉลยตอนไคลแม็กซ์
หนังเรื่องนี้มีชื่อไทยว่า “พิษราคะ” กับหน้าหนังที่สื่อให้เห็นถึงความรักกับการมีเซ็กซ์ที่ดูเรทดีวีดีบ้านเราแล้ว “ฉ20” ซึ่งนั้นอาจการันตีได้ว่า... หนังเรื่องนี้มีฉากรุนแรงทางด้านศีลธรรมมนุษย์อย่างแน่นอนซึ่งนั้นก็จริง แก่นหลักหนังมีฉากโป๊เปลือยแทบทั้งเรื่อง ตั้งแต่ผู้หญิงเปลือยนม เปลือยก้น ไปจนถึงเปลือยทั้งร่าง ...แต่ไฮไลต์เด็ดที่ข้าพเจ้านั้นจำติดตาก็คือฉากที่ทอม ครูซ ได้เข้าไปในอัครสถานอันลึกลับแล้วที่นั้นมีมีการจับคู่กันของชายและหญิง จับคู่กันเพื่อมีเซ็กซ์แบบวิตถาร ฉากเหล่านี้ข้าพเจ้ามองว่าไม่ได้ให้ความรู้สึกมีอารมณ์แต่อย่างใด แต่กลับสร้างความหวาดหวั่นแก่ข้าพเจ้าทุกครั้งที่ได้เห็นฉากร่วมรักกันในหนังและรู้สึกหัวใจสั่นเพราะภาพที่เห็นนั้นมันช่างราวกับเป็นภาพการประหารชีวิตอย่างโหดเหี้ยมของมนุษย์ ไม่ใช่เพราะข้าพเจ้าอ่อนไหวต่อโลกไม่เคยเห็นภาพคนร่วมรักกันแต่อย่างใด ...แต่เพราะตั้งแต่องค์ประกอบมุมกล้อง ไปจนถึงดนตรีประกอบภาพยนตร์ มันช่วยเร่งเร้าอารมณ์ส่วนลึกให้สัมผัสได้ว่า... นี้ไม่ใช่การร่วมรักกัน มันคือพิธีกรรมสังเวยบางอย่างที่น่าขนหัวลุกต่างหาก ! ซึ่งข้าพเจ้าได้ทั้งชอบและขนลุกไปตามๆ กันทำให้เข้าใจชื่อหนังเรื่องนี้ไปทันที
...แต่ข้าพเจ้าไม่ได้หมายความว่าหนังเรื่องนี้แก่นหลักพูดถึง “การเอากัน” แน่นอนนักทำหนังอย่างคูบริคไม่ทำอย่างนั้นแน่ เขายังคงความเป็นศิลปะในงานภาพยนตร์ หลายๆ อย่าง หลายๆ เหตุการณ์ หลายๆ คำพูด ...ล้วนสื่อและแฝงความหมายของมันไปในตัว ซึ่งข้าพเจ้านั้นก็ไม่สามารถรับรู้และตีความหมายได้แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาจนทำให้ดูไม่รู้เรื่อง การจัดฉาก องค์ประกอบของภาพยนตร์ที่ประณีต งดงาม มีความหมายตามสไตล์คูบริค ตลอดจนเห็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตั้งแต่การใช้กล้องสเตดิแคม การโฟกัสไปยังใบหน้าตัวละครที่เห็นอารมณ์อย่างเด่นชัด ไปจนถึงการระเบิดซูม ! ช่วยให้ข้าพเจ้าเพลิดเพลินไปกับหนังที่ยาว 159 เฉียด 2 ชั่วโมง 40 นาที อย่างไม่รู้สึกน่าเบื่อ ราวกับว่าดูหนังตลาด Main Streem ทั่วๆ ไป
Eyes Wide Shut เป็นหนังอีกเรื่องที่ข้าพเจ้ารู้สึกโปรดปรานและชื่นชอบ ตลอดจนสนุกสนาน บันเทิง ให้อารมณ์ลึกลับและปริศนาแฝงไว้อย่างน่าตื่นเต้น ทั้งยังมีความงดงามแฝงไว้ ความประณีตในการทำหนังของคูบริคที่เห็นอย่างได้ชัด การตีความหมายที่ผู้ชมจะได้รับ ข้าพเจ้ายังมองว่าท่านเป็นคนทำหนังที่ทั้งใส่ความเป็นอาร์ต ศิลปะชั้นสูง ปรัชญาเกินการตีความหมาย ได้ลงตัวไปกับความสนุกสนาน (อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัว) ...ตลอดจน Stanley Kubrick ท่านยังคงเป็นไอดอล บุคคลต้นแบบที่ข้าพเจ้ายึดเหนี่ยวไว้ในใจเสมอมา ทุกครั้งตลอดที่เห็นรูปท่านกำลังทำงานอยู่ในกองถ่ายสักเรื่อง ข้าพเจ้ารู้สึกเลยว่า... มีกำลังใจและฮึกเหิมอย่างบอกไม่ถูก
A++++++++