Eyes Wide Shut พิษราคะ (1999) เมื่อทอม ครูซ คิดนอกใจ นิโคล คิดแมน

 เป็นหนังเชิงศิลป์ชั้นสูง ภาพ ดนตรีประกอบ ฉาก บทสนทนา มันมีอะไรที่ทำให้คนดูคิดตามและตีความของหนังได้หลายมุมมอง มีผลงานชิ้นเอกชิ้นสุดท้ายของผู้กำกับมากฝีมืออย่าง Stanley Kubrick (The Shining) ก่อนจากลาโลกไป ซึ่งเรื่องนี้แกก็ร่วมแสดงในบทสมทบด้วย

 หนังเรื่องนี้ทำให้คนดูอินไปมากกว่าเดิม เพราะ พระนางในหนัง นอกจอ ณ ตอนนั้น ได้แต่งงานกันมา 9 ปีแล้ว ซุปเปอร์สตาร์อย่าง Tom Cruise และ Nicole Kidman สิงห์เตี้ยกับแม่สาวขายาว ซึ่งเป็นผลงานที่ทั้งคู่แสดงร่วมกันมีครั้งที่สาม ก่อนหน้าเรื่องนี้ ก็แสดงคู่กันในเรื่อง Days Of Thunder (1990) และ Far And Away (1992)

 หนังเรื่องนี้เป็นหนังแนว Drama, Thriller, Mystery, Erotic ซึ่งหนังขึ้น Rate R มีฉากรุนแรงและวาบวิวแน่นอน แต่ก็ไม่ได้มีมากถึงขนาดฉากเซ็กซ์รุนแรงเท่าเรื่อง Fifty Shade Of Grey นะ 

 หนังเล่าเรื่องของสองสามีภรรยาที่กำลังมีปัญหาด้านความสัมพันธ์ต่อกัน เริ่มห่างเหินกัน เวลาไปงานเลี้ยงต่างๆก็ตีหน้าทำเป็นรักกัน ลับหลังทั้งคู่ก็พยายามหาคนอื่นมาเป็นคู่รักแทน จนเมื่อครั้งหนึ่งภรรยาของพระเอกในเรื่องมาเปิดเผยความจริงว่า นางอยากจะเคยเสียตัวให้กับนายทหารเรือคนหนึ่งที่นางแอบมองมานานและอยากมีอะไรด้วย รวมถึงอยากทิ้งพระเอกไปอยู่ทหารเรือหนุ่มคนนี้

 ฟังแล้วพี่ทอม ครูซ ได้แต่เก็บอาการแสดงสีหน้าทั้งแค้นและผิดหวัง แต่ก็ไม่ได้ทำร้ายอะไรต่อเมียที่ลั่นวาจาออกมาแบบนี้ ไม่นานหลังจากนั้น พระเอกแกก็คิดนอกใจเมียแกอยู่หลายครั้งแต่ใจนึงก็ไม่อยากทำ แกเลยปล่อยไป แล้วพระเอกได้ไปพบกับเพื่อนเก่าของเขาซึ่งเป็นนักเปียโน ทั้งคู่ได้พูดคุยย้อนรำลึกความหลัง จนเพื่อนของเขาได้พูดถึงเรื่องงานที่เขาถูกจ้างไปทำ ณ สถานที่ลึกลับแห่งหนึ่ง นอกตัวเมือง

 เพื่อนของเขาต้องไปเล่นเปียโนที่นั่นโดนถูกมัดตาไว้ ห้ามมองรอบสถานที่นั่นเป็นอันขาด เพียงบรรเลงเพลงโน๊ตตัวเดิมๆ ฟังเพี้ยนๆไป จนกว่าจะจบพิธีกรรมอะไรสักอย่าง ฟังแค่นี้ก็เริ่มขนหัวลุกแล้ว สำหรับคนอื่นคงไม่อยากจะเข้าไปที่นั่น แต่พี่ทอมแกเกิดสนใจอยากไปที่นั่น

 แต่สถานที่ที่ไปนั่นเพื่อนของแกบอกไว้ว่า ต้องใส่ชุด costom + mask หน้าแปลกๆไปด้วย พอพระเอกไปถึงสถานที่แห่งนั้น เขาต้องพบกับภาพหลอนๆติดตา กับฝูงคนแปลกหน้านับร้อยชีวิตแต่งชุดคอสตูมใส่หน้ากากแปลกๆเหมือนที่เขาใส่อยู่ตอนนี้ พิธีกรรมคล้ายบูชาเทพหรือซาตาน ดูวังเวงและหลอน ไม่นานหลังจากเสร็จพิธี พระเอกแกก็เห็นพิธีกรรมต่อคือ การมีเซ็กซ์หมู่ ที่ไม่ได้ชวนให้เกิดอารมณ์ทางเพศเลย ออกแนววิตถาร ทำเพื่อสนองต่อซาตานหรือสิ่งลี้ลับ มากกว่า ทำเพื่อสนองกาม 

 พระเอกนั่นกลับถูกดึงไปในที่ ที่ไม่ควรไป หลังจากคืนนั้นเขาพบว่าเขาถูกบุคคลลึกลับสะกดรอยตาม เพื่อนนักเปียโนของเขาหายตัวไปอย่างลึกลับ เพื่อนสาวปริศนาในพิธีกรรมเมื่อคืนก่อนก็พูดจากับเขาแปลกๆ เหมือนแฝงนัยยะอะไรให้เขาครุ่นคิดตลอด แถมยังมีจดหมายลึกลับส่งมาเตือนเขาอีก ให้อยู่ห่างออกไปจากสถานที่แห่งนี้ มิเช่นนั้น ครอบครัวของเขาจะเดือดร้อน รวมถึงอาชีพการงานของพระเอกด้วย แล้วพระเอกจะทำยังไงต่อไปถึงจะหลุดพ้ยจากกลุ่มคนลึกลับนี้!!

 หนังยาวถึง 159 นาที เน้นพูดสนทนา และมีฉากที่ชวนหลอนตาอยู่หลายฉาก ไม่ได้มีฉากที่ต้องแอ็คชั่น วิ่งหนี ไล่ล่าพวกฆาตกรโรคจิต แบบหนังแนวทริลเลอร์เรื่องอื่นๆ มันให้อารมณ์ความสงสัย งง ไปตามสถานการณ์ตามที่พระเอกเจอ หนังถึงเน้นบทสนทนาแต่บทพูดของแต่ละตัวละครมันฟังแล้วไม่น่าเบื่อ ชวนให้คิดตามด้วยซ้ำว่า ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ที่พระเอกเจอมีแค่ความฝัน หรือ ภาพหลอนรึเปล่า บุคคลเหล่านั้นต้องการอะไรจากพระเอก มันจะมีประเด็นอย่างนี้ วนเวียนแทบทั้งเรื่องให้คนดูคิดและสงสัยตาม

 ทอม ครูซ และ นิโคล คิดแมน แสดงได้ดีตามมาตรฐานการแสดงของเขาทั้งคู่ แต่เรื่องนี้ ทอม ครูซ คือเด่นกว่านิโคล ทั้งการแสดง และตัวบท เราดูและรู้สึกถึงความคิดอันสับสนวุ่นวายและรู้สึกเสียใจกับตัวละครนี้ได้ไม่ยาก ถ้าถูกเมียมาบอกความจริงอย่างนั้น คนทุกคนก็มีความคิดและอารมณ์สับสนอยู่ในหัวเหมือน ทอม ครูซ ในเรื่องนี้แหละ แต่บางฉากพี่แกก็ over acting ไปนิด...เลยดูมากไปนะ บางฉาก

 ดนตรีประกอบทั้งเรื่องมีไม่มาก เน้นการถ่ายฉากช่วงค่ำคืนของเมือง New York City เปล่าเปลี่ยว ดูผู้คนเดินอยู่เยอะแต่ดูเหงาๆชอบกล บอกไม่ถูก เสียงเปียโนกดคีย์ซ้ำๆชวน สงสัยและขนหัวลุกตาม ซึ่งมันเข้าไปโทนหนังมากครับ

 หนังไม่ได้ลงทุนด้าน
โปรดักชั่นอะไรมากมาย นอกจากสองนักแสดงนำนะ ค่าตัวแพงทั้งคู่ ถ่ายทำวนเวียนอยู่ในสถานที่ไม่กี่ที่
บ้านพระเอก-งานเลี้ยง-คฤหาสน์ลึกลับ-ที่ทำงานพระเอก วนอยู่สี่ที่ แต่ทำให้คนดู ดูแล้วอินกับตัวละครที่เดินทางไปสถานที่นั่นๆ เพราะ มันมีจุดประสงค์และความน่าสนใจของมัน 

 โดยรวมเป็นหนังแนวลึกลับ ทริลเลอร์ แฝงนัยยะบวกความเป็นหนังอีโรติคนิดๆ ที่ดูแล้วลงตัว และชวนหลอนได้ตามสถานการณ์ และตอนจบของหนังก็สามารถตีความได้หลากหลายแง่มุมของคนดู โดยรวม ผมว่าเรื่องนี้สนุกและดีครับ ผมให้ 8.5/10 

 รีวิวโดย เจสัน ตอง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่