**** ขอแนะนำตัวก่อนน้ะครับ ผมชื่อคิม ****
ขอเล่าเรื่องก่อนน้ะครับ ...
ผมเป็นเด็กวัยรุ่นธรรมดา กินเหล้าเข้าผับ เมื่อประมาณต้นเดือน กุมภาพันธ์ 2558 ผมไปเที่ยวผับแห่งหนึ่ง แถวรัชดา ผมได้ทำกระเป๋าหาย แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร แจ้งหายบัตรหายทั้งบัตรประชาชน และบัตร ATM แล้วก็ทำใหม่ จนผมไม่ได้คิดอะไรใช้ชีวิตปกติ ...
เช้าวันหนึ่ง ต้นเดือนมีนาคม มีเพื่อนในเฟสบุ๊คผม อินบล็อคข้อความ โพสข้อความ ว่ามีคนเอารูปผมไปเปิด Facebook แล้วหลอกขายโทรศัพท์ โดยมีการใช้บัตรประชาชนที่ผมทำหายในผับในเดือนกุมภาพันธ์ใบนั้น ใช่ประกอบการขายโทรศัพท์นั้นด้วย เย็นวันนั้นผมก้ได้ไปแจ้งความเรื่องดังกล่าว แล้วลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน. บางเขน จากนั้นผมก็รายงาน Facebook ปลอมอันนั้น แล้วมันก็หายไป โดยที่ช่วงนั้นผมทำงานเป็นพนักงานร้านอาหาร จึงไม่ได้ตามเรื่องอะไรมาก
*** ผมยังสงสัยอยู่ว่าคนทีขโมยหรือเก็บกระเป๋าตังผมได้ จะรู้จักชื่อ Facebook ผมแล้วมาดึงรูปจาก Facebook ได้อย่างไรถ้าไม่รู้จักผม ***
ผมใช้ชีวิตตามปกติ จนมาถึงเดือน พฤษภาคม ก็มีเพื่อนผมส่งมาให้ผมดูอีกเรื่องนี้ แต่ผู้เสียหายในเรื่องนี้ ไม่ใช่คนเดิม แต่มีคนโดนเพิ่มอีก 3 คน ผม จึงไปแจ้งความเพิ่ม แล้วให้ลงบันทึกประจำวันเพิ่ม ที่ สน.บางเขน ที่เดิม ครั้งนี้ผมเริ่มเป็นกังวลมากขึ้น เพราะผู้ที่โดนหลอก เค้าโพสรูปผมประจานทั่ว Facebook ผมจึงค้นหา Facebook ที่ผู้โดนหลอกเค้าโพส ผลปรากฎว่า มีการสร้าง Facebook ปลอมเกิดขึ้นอีกแล้วครับ ผมจึงถามเพื่อนผมและคนที่ผมรู้จักทุกคน มีเพื่อนคนหนึ่งบอกให้ผมสังเกตุ เบอร์โทรที่เค้าหลอกขาย มาเปลี่ยบเทียบกับคนที่ผมรู้จัก ซึ่งเค้าเป็นเพื่อนของเพื่อนผมอีกที เค้าชื่อกัส (นามสมมุติ) กัสเป็นเพื่อนของเพื่อนผมอีกที ผลคือเบอร์โทรที่ Facebook ปลอมนั้นลง กับเบอร์โทรของกัสเหมือนกันทุกตัว แล้วเพื่อนผมก็เล่าให้ฟังว่ากัสมันเคยหลอกขายโทรศัพท์แบบนี้มาหลายครั้ง โดยใช่เลขบัญชีคนอื่น หรือรูปคนอื่นบ้าง ผมจึงมีความมันใจว่าใช่กัสแน่ จึงไปลงบันทึกเพิ่มเติม แต่ที่ผมคิดว่าแจ้งความไปแล้ว ลงบันทึกให้ก็จริง แต่ไม่มีความคืบหน้ากับเรื่องนี้ อาจจะเพราะผมไม่ใช่คนดัง หรือคนรวย เรื่องจึงไม่มีอะไรคืบหน้า ผมจึงตัดสินใจว่าจะไปเดินเรื่องด้วยตัวเอง
ผมได้ไปแจ้งเรื่องที่กระทรวงไอซีที ICT ที่ตึกTOT (ทีโอที)แจ้งวัฒนะ ทางเจ้าหน้าที่ก็สอบถามเรื่อง ผมก็เล่าอธิบายให้เจ้าหน้าที่ฟัง ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้พาผมไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เพื่อแจ้งความใหม่ ทางเจ้าหน้าที่ของกระทรวงกำบเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เช็ค ตำแหน่งที่ Facebookปลอมเปิดใช้ อยู่ที่เดี่ยวกับบ้านกัส คือแถวหนองจอก เช็คเบอร์โทรศัพท์ กับเฟสบุ๊คกัส ผมปรากฏว่าตรงกันทั้ง 3 Facebook คือเฟสปลอมที่เอารูปผมไปใช้ กับ Facebookของกัสอีก 2 อัน ตรงกันหมด เช็คทางธนาคารที่ผู้เสียหายบอกผมมา ทางเจ้าหน้าที่ก็ประสานกับธนาคาร ว่าผู้กระทำได้ถอนเงินจากบัญชีไปที่ ตู้ATM แถวหนองจอก ทางตำรวจบอกว่ายังไม่อยากให้เฟสปลอมนั้นถูกปิดลง เพราะถ้าปิดลงก็จะตามหาได้ยากขึ้น ผมจึงคิดว่าตำรวจคงตามคดีให้ผมได้ ผมจึงกลับบ้าน และใช้ชีวิตปกติ
ต้นเดือน สิงหาคม มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำหมายศาลมาให้ที่หน้าบ้าน ทางครอบครัวผมตกใจมาก เรียนผมไปยัง สน.ลาดพร้าว เพราะในหมายระบุว่าผมทำความผิด ผมจึงไปยัง สน.ลาดพร้าว มีผู้เสียหายรายหนึ่งเป็นอาจาร์ย มหาลัยแห่งหนึ่ง แจ้งความไว้ที่ สน.นี้ ว่าผมหลอกขายโทรศัพท์ แต่ผมก็ชี้แจ้งรายละเอียด ว่าผมบริสุทธิ์ ทางผู้เสียหายได้คุยกับผม ว่าเค้าไปเช็คกับเบอร์โทร ที่เค้าหลอกขาย ซึ่งเป็นเบอร์ใหม่ ที่ทาง คสช. ได้ทำก็คือลงทะเบียนซิม สิ่งที่ผมไม่ทราบจากอาจารย์ท่านนั้นคือ ผู้กระทำได้นำบัตรผมไปเปิดใช้บริการ เปิดในเครือข่าย TrueMove ซึ่งผมสงสัยว่าทำไมเวลาเปิดใช้ซิม กับคนที่ไปลงทะเบียบคนล้ะคนกัน แต่คุณกับเปิดให้เค้า ผมแปลกใจมากกับการกระทำนั้น วั้นนั้นผมไปให้ปากคำกับทางตำรวจ แล้วก็กลับ
จนกระทั่งเดือน ตุลาคมนี้ มีเหตุการณ์ เดิม คือมีผู้เสียหายออกมาประจานรูปผมอีก เพราะเข้าใจว่าเป็นผมกระทำ ผมอยากจะถามผู้ที่มีความรู้ทุกท่านครับ ว่าผมควรทำอย่างไรต่อไปกับเรื่องที่ ทางตำรวจก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า แต่คนร้ายที่กระทำก็ยังทำแบบนี้อยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งผมก้ไม่รู้จะทำอย่างไรดี จะติดต่อกับคนที่ชื่อกัสก้ไม่สามารถติดต่อได้เลย ถามเพื่อนก็ไม่มีใครติดต่อได้ โทรไปเบอร์ที่เค้าโพสขายก้ตัดสายตลอด ผมเดือดร้อนกับการกระทำแบบนี้มากเลยครับ มีผู้เสียหายบ้างท่านถึงกับขู่ทำร้ายผม พูดต่างๆนาๆ ว่าบุพการีผมซึ่งท่านไม่ทราบอะไรกับเหตุการณ์นี้เลยแม้แต่น้อย ผู้เสียหายที่เค้าโดยหลอกก็ลำบากไม่ได้น้อยกว่าผม
*** ขอความคิดเห็นด้วยน้ะครับ ถ้ามีผู้ที่รู้ว้าผมควรทำอย่างไร หรือไปแจ้ง หรือสามารถทำอะไรให้จับคนร้ายได้เร็วๆ กรุณาบอกด้วยน้ะครับ แล้วผมก็ขอใช้เรื่องผมนี้ เป็นอุทาหรณ์ ว่าเวลาทำเอกสารสำคัญหายควรแจ้งความทันที เวลาที่จะซื้อสิ่งของต่างๆ ควรตรวจสอบสินค้า หรือเห็นสินค้าก่อน หรือจ่ายปลายทางก็ได้ ไม่ควรเชื่อหรือโอนเงินไปโดยง่าย ขอฝากเป็นอุทาหรณ์ไว้ด้วยน้ะครับ ขอบคุณครับผม *******
โดนแอบอ้างรูปไปเปิด Facebook ปลอม แล้วหลอกขายโทรศัพท์
ขอเล่าเรื่องก่อนน้ะครับ ...
ผมเป็นเด็กวัยรุ่นธรรมดา กินเหล้าเข้าผับ เมื่อประมาณต้นเดือน กุมภาพันธ์ 2558 ผมไปเที่ยวผับแห่งหนึ่ง แถวรัชดา ผมได้ทำกระเป๋าหาย แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร แจ้งหายบัตรหายทั้งบัตรประชาชน และบัตร ATM แล้วก็ทำใหม่ จนผมไม่ได้คิดอะไรใช้ชีวิตปกติ ...
เช้าวันหนึ่ง ต้นเดือนมีนาคม มีเพื่อนในเฟสบุ๊คผม อินบล็อคข้อความ โพสข้อความ ว่ามีคนเอารูปผมไปเปิด Facebook แล้วหลอกขายโทรศัพท์ โดยมีการใช้บัตรประชาชนที่ผมทำหายในผับในเดือนกุมภาพันธ์ใบนั้น ใช่ประกอบการขายโทรศัพท์นั้นด้วย เย็นวันนั้นผมก้ได้ไปแจ้งความเรื่องดังกล่าว แล้วลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน. บางเขน จากนั้นผมก็รายงาน Facebook ปลอมอันนั้น แล้วมันก็หายไป โดยที่ช่วงนั้นผมทำงานเป็นพนักงานร้านอาหาร จึงไม่ได้ตามเรื่องอะไรมาก
*** ผมยังสงสัยอยู่ว่าคนทีขโมยหรือเก็บกระเป๋าตังผมได้ จะรู้จักชื่อ Facebook ผมแล้วมาดึงรูปจาก Facebook ได้อย่างไรถ้าไม่รู้จักผม ***
ผมใช้ชีวิตตามปกติ จนมาถึงเดือน พฤษภาคม ก็มีเพื่อนผมส่งมาให้ผมดูอีกเรื่องนี้ แต่ผู้เสียหายในเรื่องนี้ ไม่ใช่คนเดิม แต่มีคนโดนเพิ่มอีก 3 คน ผม จึงไปแจ้งความเพิ่ม แล้วให้ลงบันทึกประจำวันเพิ่ม ที่ สน.บางเขน ที่เดิม ครั้งนี้ผมเริ่มเป็นกังวลมากขึ้น เพราะผู้ที่โดนหลอก เค้าโพสรูปผมประจานทั่ว Facebook ผมจึงค้นหา Facebook ที่ผู้โดนหลอกเค้าโพส ผลปรากฎว่า มีการสร้าง Facebook ปลอมเกิดขึ้นอีกแล้วครับ ผมจึงถามเพื่อนผมและคนที่ผมรู้จักทุกคน มีเพื่อนคนหนึ่งบอกให้ผมสังเกตุ เบอร์โทรที่เค้าหลอกขาย มาเปลี่ยบเทียบกับคนที่ผมรู้จัก ซึ่งเค้าเป็นเพื่อนของเพื่อนผมอีกที เค้าชื่อกัส (นามสมมุติ) กัสเป็นเพื่อนของเพื่อนผมอีกที ผลคือเบอร์โทรที่ Facebook ปลอมนั้นลง กับเบอร์โทรของกัสเหมือนกันทุกตัว แล้วเพื่อนผมก็เล่าให้ฟังว่ากัสมันเคยหลอกขายโทรศัพท์แบบนี้มาหลายครั้ง โดยใช่เลขบัญชีคนอื่น หรือรูปคนอื่นบ้าง ผมจึงมีความมันใจว่าใช่กัสแน่ จึงไปลงบันทึกเพิ่มเติม แต่ที่ผมคิดว่าแจ้งความไปแล้ว ลงบันทึกให้ก็จริง แต่ไม่มีความคืบหน้ากับเรื่องนี้ อาจจะเพราะผมไม่ใช่คนดัง หรือคนรวย เรื่องจึงไม่มีอะไรคืบหน้า ผมจึงตัดสินใจว่าจะไปเดินเรื่องด้วยตัวเอง
ผมได้ไปแจ้งเรื่องที่กระทรวงไอซีที ICT ที่ตึกTOT (ทีโอที)แจ้งวัฒนะ ทางเจ้าหน้าที่ก็สอบถามเรื่อง ผมก็เล่าอธิบายให้เจ้าหน้าที่ฟัง ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้พาผมไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เพื่อแจ้งความใหม่ ทางเจ้าหน้าที่ของกระทรวงกำบเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เช็ค ตำแหน่งที่ Facebookปลอมเปิดใช้ อยู่ที่เดี่ยวกับบ้านกัส คือแถวหนองจอก เช็คเบอร์โทรศัพท์ กับเฟสบุ๊คกัส ผมปรากฏว่าตรงกันทั้ง 3 Facebook คือเฟสปลอมที่เอารูปผมไปใช้ กับ Facebookของกัสอีก 2 อัน ตรงกันหมด เช็คทางธนาคารที่ผู้เสียหายบอกผมมา ทางเจ้าหน้าที่ก็ประสานกับธนาคาร ว่าผู้กระทำได้ถอนเงินจากบัญชีไปที่ ตู้ATM แถวหนองจอก ทางตำรวจบอกว่ายังไม่อยากให้เฟสปลอมนั้นถูกปิดลง เพราะถ้าปิดลงก็จะตามหาได้ยากขึ้น ผมจึงคิดว่าตำรวจคงตามคดีให้ผมได้ ผมจึงกลับบ้าน และใช้ชีวิตปกติ
ต้นเดือน สิงหาคม มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำหมายศาลมาให้ที่หน้าบ้าน ทางครอบครัวผมตกใจมาก เรียนผมไปยัง สน.ลาดพร้าว เพราะในหมายระบุว่าผมทำความผิด ผมจึงไปยัง สน.ลาดพร้าว มีผู้เสียหายรายหนึ่งเป็นอาจาร์ย มหาลัยแห่งหนึ่ง แจ้งความไว้ที่ สน.นี้ ว่าผมหลอกขายโทรศัพท์ แต่ผมก็ชี้แจ้งรายละเอียด ว่าผมบริสุทธิ์ ทางผู้เสียหายได้คุยกับผม ว่าเค้าไปเช็คกับเบอร์โทร ที่เค้าหลอกขาย ซึ่งเป็นเบอร์ใหม่ ที่ทาง คสช. ได้ทำก็คือลงทะเบียนซิม สิ่งที่ผมไม่ทราบจากอาจารย์ท่านนั้นคือ ผู้กระทำได้นำบัตรผมไปเปิดใช้บริการ เปิดในเครือข่าย TrueMove ซึ่งผมสงสัยว่าทำไมเวลาเปิดใช้ซิม กับคนที่ไปลงทะเบียบคนล้ะคนกัน แต่คุณกับเปิดให้เค้า ผมแปลกใจมากกับการกระทำนั้น วั้นนั้นผมไปให้ปากคำกับทางตำรวจ แล้วก็กลับ
จนกระทั่งเดือน ตุลาคมนี้ มีเหตุการณ์ เดิม คือมีผู้เสียหายออกมาประจานรูปผมอีก เพราะเข้าใจว่าเป็นผมกระทำ ผมอยากจะถามผู้ที่มีความรู้ทุกท่านครับ ว่าผมควรทำอย่างไรต่อไปกับเรื่องที่ ทางตำรวจก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า แต่คนร้ายที่กระทำก็ยังทำแบบนี้อยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งผมก้ไม่รู้จะทำอย่างไรดี จะติดต่อกับคนที่ชื่อกัสก้ไม่สามารถติดต่อได้เลย ถามเพื่อนก็ไม่มีใครติดต่อได้ โทรไปเบอร์ที่เค้าโพสขายก้ตัดสายตลอด ผมเดือดร้อนกับการกระทำแบบนี้มากเลยครับ มีผู้เสียหายบ้างท่านถึงกับขู่ทำร้ายผม พูดต่างๆนาๆ ว่าบุพการีผมซึ่งท่านไม่ทราบอะไรกับเหตุการณ์นี้เลยแม้แต่น้อย ผู้เสียหายที่เค้าโดยหลอกก็ลำบากไม่ได้น้อยกว่าผม
*** ขอความคิดเห็นด้วยน้ะครับ ถ้ามีผู้ที่รู้ว้าผมควรทำอย่างไร หรือไปแจ้ง หรือสามารถทำอะไรให้จับคนร้ายได้เร็วๆ กรุณาบอกด้วยน้ะครับ แล้วผมก็ขอใช้เรื่องผมนี้ เป็นอุทาหรณ์ ว่าเวลาทำเอกสารสำคัญหายควรแจ้งความทันที เวลาที่จะซื้อสิ่งของต่างๆ ควรตรวจสอบสินค้า หรือเห็นสินค้าก่อน หรือจ่ายปลายทางก็ได้ ไม่ควรเชื่อหรือโอนเงินไปโดยง่าย ขอฝากเป็นอุทาหรณ์ไว้ด้วยน้ะครับ ขอบคุณครับผม *******