หลังจากที่ได้อ่านเรื่องราวของหลายๆคนมามากแล้ว วันนี้ผมอยากจะแชร์เรื่องราวของผมบ้าง ก็เกี่ยวกับเรื่องของความ....ไม่รู้จะเรียกมันว่าอะไรดี หลังจากที่ผมได้เคยรักผู้หญิงคนนึงมากๆผมจึงรู้ว่าความรักเป็นอย่างไร ถึงไม่ทั้งหมดก็คงส่วนหนึ่ง ที่มันยังดีอยู่ (ในความรู้สึกนะ) หลายๆคนคงตามหารักแท้อยู่ ผมว่าผมเจอแล้วหล่ะครับ ต้องเกริ่นก่อนนะครับว่ารักครั้งแรก ในความคิดผมผมคิดว่ามันอาจจะไม่ใช่ความรักซะด้วยซ้ำ ผมคิดว่ามันคือครั้งแรกที่เราเคยชอบใครจริงๆมากกว่า แต่ก็พอรับรู้ถึงความรักนิดๆ จนวันนี้ผมรู้แล้วว่ารักคืออะไร
เข้าเรื่องกันเลยนะครับ ผมได้มาทำงานในร้านอินเทอร์เนต ร้านนึงในละแวกมหาลัยแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ไม่ต้องเดาครับ ผมไม่ใช่นักศึกษา และเธอคนนั้นก็ไม่ใช่นักศึกษาครับ ผมทำงานตั้งแต่ตอนเย็นจนถึงเช้าของอีกวันนึงมันเป็นแบบนี้มานานแล้วครับ คร่าวๆก็เข้ามา ปีครึ่งละครับ ชีวิตประจำวันก็ไม่มีอะไรมากครับเรียบง่าย ตื่นตอนบ่ายๆ กินข้าว ทำงาน ออกงาน กินข้าว แล้วก็นอน กินก็กินไกล้ๆ แถวนี้แหละครับ ของใช้ส่วนตัวก็ร้านค้าของชำไกล้ๆครับ
เรื่องมันก็เกิดที่ร้านขายของชำนี่แหละครับ ผมก็ไปอุดหนุนทุกวันวันละสองเวลา เช้า-เย็น ตอนเช้าก็จะมีป้ามีอายุคนนึง แล้วตอนเย็นก็มีเธอคนที่พูดถึง เราไม่เคยคุยกันซักครั้ง หมายถึงเรื่องอื่นนอกจาก "ของที่ซื้อทั้งหมด เท่าไหร่ครับ" มันเป็นแบบนี้มาปีกว่าแล้วโดยที่ผมไม่รู้เลยว่าผมชอบเธอแล้ว ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น ผมเริ่มรู้ว่าผมชอบเธอก็ตอนที่วันนึงสบู่ผมหมดครับ แล้วร้านเขาปิด!! ทำไงดีผมจะอาบน้ำยังไง ก็นอนไปแบบนั้นเลยหล่ะครับ นอนก็นอนไม่หลับ (มันเหนียวตัวนะใครจะไปนอนได้) ก็เลยถามตัวเองว่า ทำไมไม่ไปซื้อร้านอื่นหล่ะ ไกลเหรอ? ก็ไม่ไกลนี่นา!! แต่ไม่อยากไปร้านอื่นรู้แค่นั้น
พอผมรู้ว่าผมชอบเธอ รออะไรหล่ะครับผมเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก (ถึงจะไม่หล่อก็เถอะ) ก็เริ่มทักทายเธอจำไม่ได้แล้วว่าทักไปว่าอะไร นอกจากไอ่คำว่า "ชิ้นนี้กี่บาทครับ" ก็เริ่มแซวเธอบ้าง ผมเป็นคนขี้เล่นน่ะแอบติดตลกทุกอย่างที่พูดไป พอเห็นเธอเริ่มยิ้มเริ่มหัวเราะและยิงมุขกลับมาบ้าง ก็เริ่มคิดเข้าข้างตัวเองแล้วหล่ะครับว่า เธอคงชอบเราเหมือนกัน อย่างน้อยก็คงแบบลูกค้าที่อารมณ์ดี หลังจากนั้นเราก็เริ่มคุยกันครับ จากที่ซื้อของแล้วกลับเลย กลายเป็นยืนอ้อยอิ่ง ซื้อน้ำเย็นเปิดจิบกินไปจนไม่เย็นล่ะครับ เป็นแบบนี้อยู่สองอาทิตย์ครับ ผมจึงอยากหาช่องทางอื่นในการติดต่อเธอบ้างนอกจาก เดินไปซื้อของ เข้าใจมั้ยครับว่า เวลา 5-10 นาทีต่อวันมันไม่พอสำหรับการสานสัมพันธ์ ก็ทำเป็นเดินถือโทรศัพท์ไปเล่น facebook ไป เพราะเวลาไปทีไรเห็นเธอชอบนั่งเล่น Ipad น่าจะเป็นโอกาสที่ดี ก็เดินเข้าไปซื้อของปกติแล้วก็ทำตามแผนที่คิดไว้ครับ ยิงไปเลยครับ "เล่น face ด้วยหรอ" อย่างที่คิดไว้เลยครับคำตอบ "เชอะ ไม่ใช่คนบ้านนนอกนะย๊ะ ทำไมจะไม่เล่น" นี่แหละครับสิ่งที่ต้องการ 5555 ตามแผนต่อครับ "ไหนขอบ้างได้มั้ยอยากรู้ตอนสาวๆจะสวยแค่ไหนเชียว" เอ่อคือว่าพวกเรายังไม่แก่นะครับ 25 ปลายๆ ก็ยิงไปครับได้ผลผู้หญิงก็เหมือนเสือ (บางทีนะ) พูดไปขนาดนี้ก็เหมือนกระตุกหนวดเสือ ก็ต้องมียั๊วบ้างหล่ะ (อันที่จริงเธอสวยสำหรับผมอยู่แล้ว ไม่สวยจะชอบได้ไง) ได้ผลครับ เธอก็บอกว่า "เอาโทรศัพท์มาเด๋วจะ แอดให้" ใช้เวลาอยู่นานโขกว่าจะเจอกันในโลกโซเชี่ยล บอกก่อนเลยครับเธอเปิ่นภาษาอังกฤษมากนามสกุลผมเธอยังอ่านผิด แต่ผมก็ไม่ได้เก่งอะไร อ่านได้ แปลไม่ออก
ตอนนี้เราก็มี face กันแล้ว หลังจากนั้นเราก็เริ่มแชทกันครับ แชทกันมาเดือนนึงก็สนิทกันครับทุนเดิมคือเจอทุกวันมาปีกว่าละครับ ไม่ต้องสืบอะไรมากครับ วันๆนั่งก็ทักไปแล้วรอเธอตอบกลับมา เหมือนเด็กมัธยมไม่มีผิดจนวันนึง ผมก็บ่นขึ้นมาว่า "อยากกินหมูกระทะจัง ไม่ได้กินมานานมากแล้ว" อะไรเกิดขึ้นไม่รู้แต่ที่รู้ๆดีใจมาก เธอตอบกลับมา "ไปมั้ยจะไปเป็นเพื่อน" ไปสิครับเป็นโอกาสแรกที่ได้ทำอะไรแบบนี้กับคนที่เราชอบเรานัดเจอกันที่ร้านครับ แต่ผมไม่มีรถไปผมบอกเธอ เธอบอกให้ไปรับมั้ย เธอก็มารับผมครับ เราไปกินหมูกระทะด้วยกันยอมรับเลยนะครับว่าการกินหมูกระหน้าร้อนกับคนที่คุณชอบเป็นทางเลือกที่ไม่เวิร์คเท่าไหร่ มันร้อนมากครับ หน้างี้มันแผลบ ร้อนก็ร้อนแต่สุขใจมาก่อนครับ คือหมูกระทะที่เชียงใหม่ส่วนใหญ่จะเป็นบุฟเฟ่ห์ ครับกินไม่อั้นแต่ผมนี่กินนับชิ้นได้เลยครับ มัวแต่นั่งมองเธอกิน มันช่างมีความสุขเหลือเกิน
ได้เวลาสำคัญกับคำถามที่สำคัญอาจจะเปลี่ยนชีวิตได้เลยก็ว่าได้ครับ ก่อนจะขอคบกับเธอคำถามแรกก็ยิงไปก่อนเลยครับ "ถามจริงนะ มีแฟนหรือยัง" ในใจตอบไว้ให้ละครับเจอกันปีกว่าๆไม่เห็นเงาเลยในเฟสก็ไม่เห็น ไม่มีแน่นอน คำตอบที่ได้มา "มีก็เหมือนไม่มี" เปรี๊ยง!!! แสกหน้าเลยครับ เคยสั่ง KFC ชุดใหญ่แล้วไม่มีตังจ่ายมั้ยครับ อารมณ์นั้นเลยสั่งอย่างราชาแต่ไม่มีเงิน ตัวชาเลยครับทำอะไรไม่ถูก ด้วยความเป็นแมนครับเพื่อนที่ดีนิ่งไว้ครับ "ทำไมหล่ะมีถึงเหมือนไม่มี" ถามต่อครับ "ช่างเถอะกินต่อดีกว่าพูดแล้วเสียอารมณ์" ใครมันจะไปกินลงครับ มานั่งกินหมูกระทะหวานชื่นกะเมียชาวบ้าน แต่มองในแง่ดีเราก็ไม่ได้ทำอะไรไม่ดีนี่หว่า หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรครับ
ผ่านมาสองวันละครับ ก็คุยกันตามปกติไม่ได้สื่ออะไรนะครับถึงใครมาอ่านเจอก็ยังมีแต่ความสัมพันธ์เพื่อนอยูในแชทเต็มไปหมด ทำไรอยู่ กินข้าวยัง เหนื่อยป่ะวันนี้ แค่นี้นะ ฝันดีๆ พรุ่งนี้คุยกัน จนคืนนึงอำนาจความหิวมาทำเราเจอกัน ตอนนั้น ห้าทุ่ม ร้านเธอปิดแล้วหล่ะ เธอก็แชทมาว่า "หิวจะไปเซเว่นเอาไรมั้ย"
คือร้านที่ผมทำงานกับร้านค้าเธอไกล้กันแค่ 300 เมตรเองครับ ผมก็หิวเหมือนกัน "เอาดิฝากซื้อขนมปังหน่อย นมด้วยก็ดีนะ" เธอตอบ "จะให้ไปรับหรือจะเดินออกมาแล้วไปด้วยกัน" ในใจคิดถ้าใครเห็นเขาจะว่าไม่ดีเอา นี่มันดึกดื่นกลางคืนมืดตื๋อ ผู้ชายไปกับผู้หญิงเวลานี้สองต่อสองคิดเป็นอื่นไม่ได้ แต่ด้วยความบริสุทธ์ใจตอบกลับไปอย่างไว "มารับละกัน" ครับไม่ได้มีอะไรเกินเลยซะหน่อยจะกลัวอะไรแค่ติดรถไปซื้อของด้วย หลายครั้งที่เราทำแบบนี้ ผมมักจะเป็นคนจุดชนวนเสมอ หิวมั้ย กินไรหน่อยมั้ย ปล่อยท้องหิวแล้วนอนฝันร้ายนะ
ผ่านไปอีกเดือนก็คุยกันปกติแต่เริ่มสนิทมากขึ้นจนรู้ประวัติส่วนตัวบางเรื่อง โดยตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมจะถามเธอเสมอ ทุกวัน เหนื่อยมั้ย กินข้าวหรือยัง วันนี้เป็นไงบ้างมีอะไรเล่าให้ฟังมั้ย ปกติเธอจะเป็นคนทะเล้นขี้เล่น เหมือนกันกับผมน่ะแหละ แต่วันนี้เธอพูดน้อย น้อยมาก ผมก็เริ่มเป็นห่วงเธอได้แต่ถามเธอว่าเป็นอะไรไหม มีอะไรจะแชร์ไหม ได้นะรับฟังเสมอ เธอก็เริ่มเอ่ยอะไรบางอย่างมา "รู้สึกไหมว่าเราเจอกันช้าไป มันเป็นไปไม่ได้นะ" รู้สิครับรู้อยู่เต็มหัวใจ รู้ด้วยว่ามันเป็นไปไม่ได้ จะพูดอะไรไปก็ได้แต่คิดถึงคนของเขาว่าจะรู้สึกอย่างไร แต่ถ้าจะให้จากไปตอนนี้ผมเองก็ไม่ไหวเหมือนกัน ก็ตอบกลับไปด้วยอารมณ์ดีๆ "รู้ รู้สิ ทำไมจะไม่รู้ แต่ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่อย่างน้อยเราก้เป็นเพื่อนกันได้นะ อย่างน้อยเธอก็จะมีฉันในวันที่เธอไม่รู้จะคุยกับใครไง" ผมไม่รู้สิ่งที่พูดสิ่งที่ทำมันผิดไหมแต่ไม่ได้อะไรเกินเลยไปมากกว่านี้เลย นอกจากความคิด!! "ฉันมีลูกแล้วนะ"
...... หน้ามืด ไม่รู้ว่าทำไมถึงหน้ามืดหมดหวังมั้งครับเพราะแอบหวังเอาไว้ "เห้ย คนมีครอบครัวเข้าก็มีลูกกันทั้งนั้น เป็นอะไรป่าวเนี่ย" เธอก้พิมพ์ต่อ "ซักวันพี่คงเจอคนที่ดี ถ้ามีแล้วอย่าลืมบอกกันนะ" เหมือนเธอจะตัดพ้อเราแล้วหรือไง ทำไมผู้หญิงถึงชอบใช้คำพวกนี้มาตัดพ้อ ทั้งที่ใจจริงๆผมอยากจะบอกเธอเหลือเกินว่า ผมน่ะรักเธอมากแค่ไหนแต่ก็พูดออกมาไม่ได้มันผิดทุกตรงนั่นแหละครับ ผมก็ตอบเธอไป "ไม่มีที่ผ่านมาสองปียังไม่มีใครคงอีกนานคงจะเจอรักจริงๆ 555" หัวเราะกลบเกลื่อนไป "พี่อย่าเพิ่งมีใครนะถ้าพี่มีใครแล้ว เค้าคงเหงานะ"
ผมคงปล่อยให้เธอเหงาไม่ได้ อาจเป็นเพราะผมรักเธอแล้วมั้ง รักที่เป็นไปไม่ได้ "ฉันจะอยุ่ตรงนี้แหละ ไม่ไปไหนหรอกเป็นเพื่อนเธอนี่แหละ" มันเหมือนคำปฏิญาณที่ผูกมัดชีวิตผมไว้กับเธอ "พี่ว่าเค้าเห็นแก่ตัวมั้ย ทั้งที่มีทุกอย่างแล้ว แต่ยังไม่พอ"ผมก็ตอบเธอไป "ไม่นะ บางทีคนที่เขาเต็มใจทำอะไรให้ซักอย่าง ไม่ควรปฏิเสธ มันทำให้เขาเสียความรู้สึก ควรใช้คำว่า ขอบคุณค่ะ จะดีกว่ามั้ย" เธอก็ตอบกลับมาพร้อมไอคอนหน้ายิ้มในเฟสบุ้คว่า "ขอบคุณค่ะ
" แค่นี้ก้ดีใจละครับสำหรับตำแหน่งที่ผมยืนอยู่
วันนี้เธอชวนผมไปตลาดวันเสาร์ในเมืองเชียงใหม่ เธอถามผมว่าอยากได้อะไรมั้ย มีครับสิ่งที่ผมอยากได้จากเธอมีแค่อย่างเดียว คือสิ่งที่ผมหยิบขึ้นมาแล้วรับรู้ว่าเธอยังอยู่ในใจผมเสมอ ผมตอบเธอไปว่า ผมอยากได้แหวนซักวงผมจะเก็บไว้อย่างดี ทุกครั้งที่จะหยิบขึ้นมาดูมันจะเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางจิตใจ ให้ทุกครั้งที่เห็นแหวนวงนั้นแล้วคิดถึงเธอ วันเสาร์ที่จะถึงเนี่ยครับเราจะไปด้วยกัน ผมถามเธอกลับไปว่าแล้วอยากได้อะไรมั้ย ตอบแทนกับแหวนวงนั้น เธอถามว่า "ทำไมถึงพูดแบบนั้นจะไปไหน ทำไมต้องแลกกันเราไม่ได้ต้องการอะไรจากพี่เลยนะ ไม่เอา ไม่เอา ไม่ได้ต้องการอะไรเลย" ผมก็บอกเธอไปว่า "งั้นเอาเป็นว่าพี่จะทำทุกอย่างเพื่อเป็นความทรงจำที่ดีแล้วกัน" คือตัวผมเองไม่อยากผิดไปมากกว่านี้แล้ว เข้าใจว่าผู้หญิงที่ผมรักไม่ได้เข้ามาในชีวิตง่ายๆ แต่ทำไมเจอรักทั้งทีต้องเป็นแบบนี้ด้วย ผมรู้ผิดชอบชั่วดีคืออะไร แต่จะมีซักคนเข้าใจบ้างไหมว่ารักคืออะไร ผมผิดด้วยหรือที่ผมรัก
รักของผมที่มีให้เธอมีแต่ความบริสุทธ์ใจ ผมไม่ได้ต้องการให้เขามาอยู่กับผม ไม่ได้สนว่าเธอจะเป็นใคร ไม่ได้ต้องการอะไรเลย แค่ผมอยากรักของผมอยู่อย่างนี้ อยู่ตรงนี้มองเธอจากตรงนี้
คำถามที่ต้องการถามคือผมควรจากเธอไปมั้ย แน่นอนทุกคนควรจะบอกว่าคน
ๆอย่างที่มายุ่งกับเมียชาวบ้านสมควรไปตั้งนานแล้ว แต่จะมีใครไหมที่จะถามว่าผมเจ็บแค่ไหน ความรักมันเป็นอย่างนี้นี่เองยิ่งรักยิ่งเหมือนกัดลิ้นตัวเอง รักให้สุดแค่ไหนก็พร้อมที่จะขาดใจเมื่อนั้น ผมไม่รู้จริงๆ ผมเหนื่อย เหนื่อยเหลือเกิน แต่ก็พร้อมที่จะฟังคำด่าทอจากทุกคนเพราะผมรู้ตัวเองว่าผิด
แต่ผมเองก็อยากจะให้กำลังใจสำหรับคนที่มีรักผิดที่ผิดเวลา รักได้แต่อย่าเอามาเป็นของเรา รักในนิยามของ wrong time อย่างผม รักไม่ได้อยากจะครอบครอง รักนี้มีแต่ให้ พร้อมที่จะให้ทุกอย่าง แค่เธอคนนั้นรับไว้ก็ดีใจเหลือเกิน.....................................................
ขอโทษด้วยนะครับถ้าไม่เข้าตาใคร เพราะผมเองพิมพ์ออกมาตามเหตุการณ์และความรู้สึก น้ำตาไหลท่วมคีร์บอร์ดอยากให้คุณได้สัมผัสความรู้สึกที่มีรักพร้อมความทุกข์อย่างอิ่มเอมหัวใจ
...............................................................ความรักสวยงามเสมอ รักนี้คือการให้...................................................
รัก wrong time
เข้าเรื่องกันเลยนะครับ ผมได้มาทำงานในร้านอินเทอร์เนต ร้านนึงในละแวกมหาลัยแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ไม่ต้องเดาครับ ผมไม่ใช่นักศึกษา และเธอคนนั้นก็ไม่ใช่นักศึกษาครับ ผมทำงานตั้งแต่ตอนเย็นจนถึงเช้าของอีกวันนึงมันเป็นแบบนี้มานานแล้วครับ คร่าวๆก็เข้ามา ปีครึ่งละครับ ชีวิตประจำวันก็ไม่มีอะไรมากครับเรียบง่าย ตื่นตอนบ่ายๆ กินข้าว ทำงาน ออกงาน กินข้าว แล้วก็นอน กินก็กินไกล้ๆ แถวนี้แหละครับ ของใช้ส่วนตัวก็ร้านค้าของชำไกล้ๆครับ
เรื่องมันก็เกิดที่ร้านขายของชำนี่แหละครับ ผมก็ไปอุดหนุนทุกวันวันละสองเวลา เช้า-เย็น ตอนเช้าก็จะมีป้ามีอายุคนนึง แล้วตอนเย็นก็มีเธอคนที่พูดถึง เราไม่เคยคุยกันซักครั้ง หมายถึงเรื่องอื่นนอกจาก "ของที่ซื้อทั้งหมด เท่าไหร่ครับ" มันเป็นแบบนี้มาปีกว่าแล้วโดยที่ผมไม่รู้เลยว่าผมชอบเธอแล้ว ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น ผมเริ่มรู้ว่าผมชอบเธอก็ตอนที่วันนึงสบู่ผมหมดครับ แล้วร้านเขาปิด!! ทำไงดีผมจะอาบน้ำยังไง ก็นอนไปแบบนั้นเลยหล่ะครับ นอนก็นอนไม่หลับ (มันเหนียวตัวนะใครจะไปนอนได้) ก็เลยถามตัวเองว่า ทำไมไม่ไปซื้อร้านอื่นหล่ะ ไกลเหรอ? ก็ไม่ไกลนี่นา!! แต่ไม่อยากไปร้านอื่นรู้แค่นั้น
พอผมรู้ว่าผมชอบเธอ รออะไรหล่ะครับผมเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก (ถึงจะไม่หล่อก็เถอะ) ก็เริ่มทักทายเธอจำไม่ได้แล้วว่าทักไปว่าอะไร นอกจากไอ่คำว่า "ชิ้นนี้กี่บาทครับ" ก็เริ่มแซวเธอบ้าง ผมเป็นคนขี้เล่นน่ะแอบติดตลกทุกอย่างที่พูดไป พอเห็นเธอเริ่มยิ้มเริ่มหัวเราะและยิงมุขกลับมาบ้าง ก็เริ่มคิดเข้าข้างตัวเองแล้วหล่ะครับว่า เธอคงชอบเราเหมือนกัน อย่างน้อยก็คงแบบลูกค้าที่อารมณ์ดี หลังจากนั้นเราก็เริ่มคุยกันครับ จากที่ซื้อของแล้วกลับเลย กลายเป็นยืนอ้อยอิ่ง ซื้อน้ำเย็นเปิดจิบกินไปจนไม่เย็นล่ะครับ เป็นแบบนี้อยู่สองอาทิตย์ครับ ผมจึงอยากหาช่องทางอื่นในการติดต่อเธอบ้างนอกจาก เดินไปซื้อของ เข้าใจมั้ยครับว่า เวลา 5-10 นาทีต่อวันมันไม่พอสำหรับการสานสัมพันธ์ ก็ทำเป็นเดินถือโทรศัพท์ไปเล่น facebook ไป เพราะเวลาไปทีไรเห็นเธอชอบนั่งเล่น Ipad น่าจะเป็นโอกาสที่ดี ก็เดินเข้าไปซื้อของปกติแล้วก็ทำตามแผนที่คิดไว้ครับ ยิงไปเลยครับ "เล่น face ด้วยหรอ" อย่างที่คิดไว้เลยครับคำตอบ "เชอะ ไม่ใช่คนบ้านนนอกนะย๊ะ ทำไมจะไม่เล่น" นี่แหละครับสิ่งที่ต้องการ 5555 ตามแผนต่อครับ "ไหนขอบ้างได้มั้ยอยากรู้ตอนสาวๆจะสวยแค่ไหนเชียว" เอ่อคือว่าพวกเรายังไม่แก่นะครับ 25 ปลายๆ ก็ยิงไปครับได้ผลผู้หญิงก็เหมือนเสือ (บางทีนะ) พูดไปขนาดนี้ก็เหมือนกระตุกหนวดเสือ ก็ต้องมียั๊วบ้างหล่ะ (อันที่จริงเธอสวยสำหรับผมอยู่แล้ว ไม่สวยจะชอบได้ไง) ได้ผลครับ เธอก็บอกว่า "เอาโทรศัพท์มาเด๋วจะ แอดให้" ใช้เวลาอยู่นานโขกว่าจะเจอกันในโลกโซเชี่ยล บอกก่อนเลยครับเธอเปิ่นภาษาอังกฤษมากนามสกุลผมเธอยังอ่านผิด แต่ผมก็ไม่ได้เก่งอะไร อ่านได้ แปลไม่ออก
ตอนนี้เราก็มี face กันแล้ว หลังจากนั้นเราก็เริ่มแชทกันครับ แชทกันมาเดือนนึงก็สนิทกันครับทุนเดิมคือเจอทุกวันมาปีกว่าละครับ ไม่ต้องสืบอะไรมากครับ วันๆนั่งก็ทักไปแล้วรอเธอตอบกลับมา เหมือนเด็กมัธยมไม่มีผิดจนวันนึง ผมก็บ่นขึ้นมาว่า "อยากกินหมูกระทะจัง ไม่ได้กินมานานมากแล้ว" อะไรเกิดขึ้นไม่รู้แต่ที่รู้ๆดีใจมาก เธอตอบกลับมา "ไปมั้ยจะไปเป็นเพื่อน" ไปสิครับเป็นโอกาสแรกที่ได้ทำอะไรแบบนี้กับคนที่เราชอบเรานัดเจอกันที่ร้านครับ แต่ผมไม่มีรถไปผมบอกเธอ เธอบอกให้ไปรับมั้ย เธอก็มารับผมครับ เราไปกินหมูกระทะด้วยกันยอมรับเลยนะครับว่าการกินหมูกระหน้าร้อนกับคนที่คุณชอบเป็นทางเลือกที่ไม่เวิร์คเท่าไหร่ มันร้อนมากครับ หน้างี้มันแผลบ ร้อนก็ร้อนแต่สุขใจมาก่อนครับ คือหมูกระทะที่เชียงใหม่ส่วนใหญ่จะเป็นบุฟเฟ่ห์ ครับกินไม่อั้นแต่ผมนี่กินนับชิ้นได้เลยครับ มัวแต่นั่งมองเธอกิน มันช่างมีความสุขเหลือเกิน
ได้เวลาสำคัญกับคำถามที่สำคัญอาจจะเปลี่ยนชีวิตได้เลยก็ว่าได้ครับ ก่อนจะขอคบกับเธอคำถามแรกก็ยิงไปก่อนเลยครับ "ถามจริงนะ มีแฟนหรือยัง" ในใจตอบไว้ให้ละครับเจอกันปีกว่าๆไม่เห็นเงาเลยในเฟสก็ไม่เห็น ไม่มีแน่นอน คำตอบที่ได้มา "มีก็เหมือนไม่มี" เปรี๊ยง!!! แสกหน้าเลยครับ เคยสั่ง KFC ชุดใหญ่แล้วไม่มีตังจ่ายมั้ยครับ อารมณ์นั้นเลยสั่งอย่างราชาแต่ไม่มีเงิน ตัวชาเลยครับทำอะไรไม่ถูก ด้วยความเป็นแมนครับเพื่อนที่ดีนิ่งไว้ครับ "ทำไมหล่ะมีถึงเหมือนไม่มี" ถามต่อครับ "ช่างเถอะกินต่อดีกว่าพูดแล้วเสียอารมณ์" ใครมันจะไปกินลงครับ มานั่งกินหมูกระทะหวานชื่นกะเมียชาวบ้าน แต่มองในแง่ดีเราก็ไม่ได้ทำอะไรไม่ดีนี่หว่า หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรครับ
ผ่านมาสองวันละครับ ก็คุยกันตามปกติไม่ได้สื่ออะไรนะครับถึงใครมาอ่านเจอก็ยังมีแต่ความสัมพันธ์เพื่อนอยูในแชทเต็มไปหมด ทำไรอยู่ กินข้าวยัง เหนื่อยป่ะวันนี้ แค่นี้นะ ฝันดีๆ พรุ่งนี้คุยกัน จนคืนนึงอำนาจความหิวมาทำเราเจอกัน ตอนนั้น ห้าทุ่ม ร้านเธอปิดแล้วหล่ะ เธอก็แชทมาว่า "หิวจะไปเซเว่นเอาไรมั้ย"
คือร้านที่ผมทำงานกับร้านค้าเธอไกล้กันแค่ 300 เมตรเองครับ ผมก็หิวเหมือนกัน "เอาดิฝากซื้อขนมปังหน่อย นมด้วยก็ดีนะ" เธอตอบ "จะให้ไปรับหรือจะเดินออกมาแล้วไปด้วยกัน" ในใจคิดถ้าใครเห็นเขาจะว่าไม่ดีเอา นี่มันดึกดื่นกลางคืนมืดตื๋อ ผู้ชายไปกับผู้หญิงเวลานี้สองต่อสองคิดเป็นอื่นไม่ได้ แต่ด้วยความบริสุทธ์ใจตอบกลับไปอย่างไว "มารับละกัน" ครับไม่ได้มีอะไรเกินเลยซะหน่อยจะกลัวอะไรแค่ติดรถไปซื้อของด้วย หลายครั้งที่เราทำแบบนี้ ผมมักจะเป็นคนจุดชนวนเสมอ หิวมั้ย กินไรหน่อยมั้ย ปล่อยท้องหิวแล้วนอนฝันร้ายนะ
ผ่านไปอีกเดือนก็คุยกันปกติแต่เริ่มสนิทมากขึ้นจนรู้ประวัติส่วนตัวบางเรื่อง โดยตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมจะถามเธอเสมอ ทุกวัน เหนื่อยมั้ย กินข้าวหรือยัง วันนี้เป็นไงบ้างมีอะไรเล่าให้ฟังมั้ย ปกติเธอจะเป็นคนทะเล้นขี้เล่น เหมือนกันกับผมน่ะแหละ แต่วันนี้เธอพูดน้อย น้อยมาก ผมก็เริ่มเป็นห่วงเธอได้แต่ถามเธอว่าเป็นอะไรไหม มีอะไรจะแชร์ไหม ได้นะรับฟังเสมอ เธอก็เริ่มเอ่ยอะไรบางอย่างมา "รู้สึกไหมว่าเราเจอกันช้าไป มันเป็นไปไม่ได้นะ" รู้สิครับรู้อยู่เต็มหัวใจ รู้ด้วยว่ามันเป็นไปไม่ได้ จะพูดอะไรไปก็ได้แต่คิดถึงคนของเขาว่าจะรู้สึกอย่างไร แต่ถ้าจะให้จากไปตอนนี้ผมเองก็ไม่ไหวเหมือนกัน ก็ตอบกลับไปด้วยอารมณ์ดีๆ "รู้ รู้สิ ทำไมจะไม่รู้ แต่ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่อย่างน้อยเราก้เป็นเพื่อนกันได้นะ อย่างน้อยเธอก็จะมีฉันในวันที่เธอไม่รู้จะคุยกับใครไง" ผมไม่รู้สิ่งที่พูดสิ่งที่ทำมันผิดไหมแต่ไม่ได้อะไรเกินเลยไปมากกว่านี้เลย นอกจากความคิด!! "ฉันมีลูกแล้วนะ"
...... หน้ามืด ไม่รู้ว่าทำไมถึงหน้ามืดหมดหวังมั้งครับเพราะแอบหวังเอาไว้ "เห้ย คนมีครอบครัวเข้าก็มีลูกกันทั้งนั้น เป็นอะไรป่าวเนี่ย" เธอก้พิมพ์ต่อ "ซักวันพี่คงเจอคนที่ดี ถ้ามีแล้วอย่าลืมบอกกันนะ" เหมือนเธอจะตัดพ้อเราแล้วหรือไง ทำไมผู้หญิงถึงชอบใช้คำพวกนี้มาตัดพ้อ ทั้งที่ใจจริงๆผมอยากจะบอกเธอเหลือเกินว่า ผมน่ะรักเธอมากแค่ไหนแต่ก็พูดออกมาไม่ได้มันผิดทุกตรงนั่นแหละครับ ผมก็ตอบเธอไป "ไม่มีที่ผ่านมาสองปียังไม่มีใครคงอีกนานคงจะเจอรักจริงๆ 555" หัวเราะกลบเกลื่อนไป "พี่อย่าเพิ่งมีใครนะถ้าพี่มีใครแล้ว เค้าคงเหงานะ"
ผมคงปล่อยให้เธอเหงาไม่ได้ อาจเป็นเพราะผมรักเธอแล้วมั้ง รักที่เป็นไปไม่ได้ "ฉันจะอยุ่ตรงนี้แหละ ไม่ไปไหนหรอกเป็นเพื่อนเธอนี่แหละ" มันเหมือนคำปฏิญาณที่ผูกมัดชีวิตผมไว้กับเธอ "พี่ว่าเค้าเห็นแก่ตัวมั้ย ทั้งที่มีทุกอย่างแล้ว แต่ยังไม่พอ"ผมก็ตอบเธอไป "ไม่นะ บางทีคนที่เขาเต็มใจทำอะไรให้ซักอย่าง ไม่ควรปฏิเสธ มันทำให้เขาเสียความรู้สึก ควรใช้คำว่า ขอบคุณค่ะ จะดีกว่ามั้ย" เธอก็ตอบกลับมาพร้อมไอคอนหน้ายิ้มในเฟสบุ้คว่า "ขอบคุณค่ะ " แค่นี้ก้ดีใจละครับสำหรับตำแหน่งที่ผมยืนอยู่
วันนี้เธอชวนผมไปตลาดวันเสาร์ในเมืองเชียงใหม่ เธอถามผมว่าอยากได้อะไรมั้ย มีครับสิ่งที่ผมอยากได้จากเธอมีแค่อย่างเดียว คือสิ่งที่ผมหยิบขึ้นมาแล้วรับรู้ว่าเธอยังอยู่ในใจผมเสมอ ผมตอบเธอไปว่า ผมอยากได้แหวนซักวงผมจะเก็บไว้อย่างดี ทุกครั้งที่จะหยิบขึ้นมาดูมันจะเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางจิตใจ ให้ทุกครั้งที่เห็นแหวนวงนั้นแล้วคิดถึงเธอ วันเสาร์ที่จะถึงเนี่ยครับเราจะไปด้วยกัน ผมถามเธอกลับไปว่าแล้วอยากได้อะไรมั้ย ตอบแทนกับแหวนวงนั้น เธอถามว่า "ทำไมถึงพูดแบบนั้นจะไปไหน ทำไมต้องแลกกันเราไม่ได้ต้องการอะไรจากพี่เลยนะ ไม่เอา ไม่เอา ไม่ได้ต้องการอะไรเลย" ผมก็บอกเธอไปว่า "งั้นเอาเป็นว่าพี่จะทำทุกอย่างเพื่อเป็นความทรงจำที่ดีแล้วกัน" คือตัวผมเองไม่อยากผิดไปมากกว่านี้แล้ว เข้าใจว่าผู้หญิงที่ผมรักไม่ได้เข้ามาในชีวิตง่ายๆ แต่ทำไมเจอรักทั้งทีต้องเป็นแบบนี้ด้วย ผมรู้ผิดชอบชั่วดีคืออะไร แต่จะมีซักคนเข้าใจบ้างไหมว่ารักคืออะไร ผมผิดด้วยหรือที่ผมรัก
รักของผมที่มีให้เธอมีแต่ความบริสุทธ์ใจ ผมไม่ได้ต้องการให้เขามาอยู่กับผม ไม่ได้สนว่าเธอจะเป็นใคร ไม่ได้ต้องการอะไรเลย แค่ผมอยากรักของผมอยู่อย่างนี้ อยู่ตรงนี้มองเธอจากตรงนี้
คำถามที่ต้องการถามคือผมควรจากเธอไปมั้ย แน่นอนทุกคนควรจะบอกว่าคน ๆอย่างที่มายุ่งกับเมียชาวบ้านสมควรไปตั้งนานแล้ว แต่จะมีใครไหมที่จะถามว่าผมเจ็บแค่ไหน ความรักมันเป็นอย่างนี้นี่เองยิ่งรักยิ่งเหมือนกัดลิ้นตัวเอง รักให้สุดแค่ไหนก็พร้อมที่จะขาดใจเมื่อนั้น ผมไม่รู้จริงๆ ผมเหนื่อย เหนื่อยเหลือเกิน แต่ก็พร้อมที่จะฟังคำด่าทอจากทุกคนเพราะผมรู้ตัวเองว่าผิด
แต่ผมเองก็อยากจะให้กำลังใจสำหรับคนที่มีรักผิดที่ผิดเวลา รักได้แต่อย่าเอามาเป็นของเรา รักในนิยามของ wrong time อย่างผม รักไม่ได้อยากจะครอบครอง รักนี้มีแต่ให้ พร้อมที่จะให้ทุกอย่าง แค่เธอคนนั้นรับไว้ก็ดีใจเหลือเกิน.....................................................
ขอโทษด้วยนะครับถ้าไม่เข้าตาใคร เพราะผมเองพิมพ์ออกมาตามเหตุการณ์และความรู้สึก น้ำตาไหลท่วมคีร์บอร์ดอยากให้คุณได้สัมผัสความรู้สึกที่มีรักพร้อมความทุกข์อย่างอิ่มเอมหัวใจ
...............................................................ความรักสวยงามเสมอ รักนี้คือการให้...................................................