รพ รัฐ กับการรักษาคุณแม่ดิฉัน

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ชาว ppantip.com
ดิฉันอยากจะเล่า พร้อมกับขอความเห็นเพื่อนๆชาว pantip
ในเรื่องเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของคุณแม่ดิฉัน กับ คุณหมอ ที่ รพ. แห่งหนึ่ง (ไม่ทราบว่า จะเอ่ยชื่อได้ไหม)
เข้าเรื่องเลยนะคะ

    วันที่ 20 กย. 2558 คุณแม่ของดิฉัน มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เวียนศรีษะ และที่สำคัญ แขนซ้ายบวมใหญ่มากค่ะทางญาติ เลยนำส่งยังคลินิก ที่ไกล้ที่สุด คือคลินิกนี้มีหมอท่านหนึ่ง เป็นหมอที่ อาวุโส ทำงานในโรพยาบาล แล้ว มาเปิดคลินิกค่ะ ขออนุญาต ไม่เปิดเผยชื่อคุณหมอนะคะ เพราะ คุณหมอท่านนี้แหละค่ะ คือ ต้นเรื่องทั้งหมด  พอคุณหมอเห็น ประเมินอาการแล้ว ก็เขียนหนังสือ ส่งตัวคุณแม่ไปยังโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลรวจอาการเบื้องต้นแจ้งว่าความดันต่ำ ก็ให้ยากระตุ้นความดัน เจาะเลือดไปตรวจ ผลออกมาคือ คุณแม่ติดเชื้อในกระแสเลือด ให้นอน รพ  
    ค่ำวันนั้นเอง  บริเวณแขนซ้ายที่บวม มี น้ำเหลืองไหลออกตามรูขุมขน ดิฉันแจ้งพยาบาล พยาบาลมาดู ให้เอาผ้ารอง กลัวเปื้อนเตียงค่ะ หลังจากนั้นก็มีตุ่มใสๆ ขนาดใหญ่มาก 3 ตุ่ม คุณแม่ปวดมากจนนอนไม่หลับทั้งคืน
    21 กันยายน 2558 ดิฉันสอบถามพยาบาลว่า ไม่ล้างแผล ให้คุณแม่หรอ ได้รับคำตอบมาว่า “เดี๋ยวจัดการเองแหละ”
    ช่วงบ่าย ดิฉันเห็นคุณแม่ อ่อนเพลียมาก อาการแย่ลงจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด ถามพยาบาล เรื่องอาการ ได้รับคำตอบว่า คนไข้ติดเชื้อในกระแสเลือด หมอยังไม่ได้รักษานะ เพราะในชาร์ตไม่ระบุแผนการรักษาไว้เลย
    ดิฉันปรึกษาครอบครัว จ้งพยาบาลขอพบคุณหมอเจ้าของไข้ พยาบาลแจ้งว่า คุณหมอ ไม่เข้าค่ะ
    ตอนเย็นดิฉัน พร้อมกับลูกสาวแลละเพื่อน เข้าไปพบคุณหมอที่คลินิก (ที่ไปพบที่คลินิกเพราะ พยาบาลบอกว่า อยากพบหมอ ไปคลินิกเลย หมอไม่เข้า รพ.) ถึงคลินิก ยกมือสวัสดีตามปกติ และบอกว่า
ดิฉัน “สวัสดีค่ะ หนูมาปรึกษาอาการคุณแม่”
หมอ “อืม แล้วไง” น้ำเสียงห้วนๆ
ดิฉํน ถามถึงอาการแม่ หมอไม่ตอบ จะรักษายังไง หมอไม่ตอบ
เลยขอคำปรึกษาว่า กรณีนี้ จะเป็นไปได้ไหม ถ้าจะขอคุณหมอออกหนังสือส่งตัวคุณเม่ ไปรักษา ที่ รพ.อีกแห่ง เพราะคุณแม่ เคยรักษาที่นั่น คุณหมอตอบว่า
หมอ “คุณรู้ไหม ครั้งที่แล้ว ส่งตัวไป เสียงบประมาณ รพ ไปเท่าไหร่ ที่นี่รักษาได้ ต่อไป คุณม่ต้องมาพูดอะไรอีกแล้ว เอายังงี้ละกัน ผมจะรักษาแม่คุณครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ครั้งต่อไป มีไรไม่ต้องมารักษาอีก คุณไม่ต้องมาพูดอะไรทั้งนั้น เสียเวลาผมทำงาน” และ ย้ำว่า “ผมจะรักษาแม่คุณครั้งสุดท้ายละ เป็นอะไรอีกไม่ต้องมาอีกนะ”   พอดิฉันจะบอกว่า คือไม่ใช่ค่ะ หนูแค่มาปรึกษา โดนตะคอกว่า “ไม่ต้องมาพูดอะไรทั้งนั้น” และเดินหนีไป
ดิฉันก็กลับมา รพ. มาหาคุณแม่ คุณแม่บอกว่า เค้าไม่ให้ย้าย ก็ไม่ต้องย้าย ดิฉันก็ ตามนั้นค่ะ

ยังไม่หมดนะคะ เรื่องยังไมจบ
    วันที่ 22 หมอเข้ามาดูอาการค่ะ หมอถามว่า “แผลเน่าหรือยัง แผลเน่าค่อยย้ายนะ” และก็ไม่ได้พูดอะไรอีก และมีพยาบาลท่านหนึ่งมาถามว่า ตกลงจะย้ายมั้ย ดิฉํนถามความเห็น ว่า เอาไงดี สองจิตสองใจ ย้ายดีมั้ย พยาบาลท่านนี้ บอกว่า มันติดเชื้อในกระแสเลือดแล้วนะ หมอยังไม่มีแผนรักษาเลย ก็เลยตัดสินใจทันทีค่ะ ว่า ย้าย ก่อนจะย้าย พยาบาลมาทำแผลที่แขนค่ะ ครั้งแรกเลยที่มาทำแผลนะคะ
    หลังจากนั้น ดิฉันจ้างรถพยาบาล พร้อมพยาบาล นำคุณแม่มารักษา ที่ รพ.ใน กทม. ทันทีค่ะ
    15.00 น. ถึง รพ ต้องข้าคลินิกนอกเวลาค่ะ ตอนแรกหมอมีทีท่าจะไม่รับ หมอเห็นแม่ปุ๊บ พูดเลยว่า “ผมต้องรับรักษา ถ้าผมไม่รับรักษานี่คุณต้องฟ้องผมแน่ๆ ผมไม่อยากเสียอนาคต” และยังมีทีมแพทย์ มาบอกอีกว่า “นี่เค้ารักษาแล้วหรอ รักษาอะไรทำไมเป็นแบบนี้ ทำไมปล่อยให้คนไข้หนักแบบนี้ มาช้าอีกนิด ไม่ทันการแล้ว” พร้อมทั้งส่งตัวเข้าห้อง ICU และ ผ่าตัดแขนในคืนนั้นเลย เพราะ เชื้อ ลามเข้าเนื้อ และจะเข้ากระดูกแล้ว เข้ากระดูก คือ เสียชีวิต

ดิฉํนอยากทราบว่า คุณหมอทำถูกมั้ยค่ะ ไม่แจ้งอาการ ไม่แจ้งแผนการรักษา
กิริยาของคุณหมอทำแบบนี้ถูกมั้ยค่ะ
ดิฉันผิดมั้ย ที่ฏิเสธการรักษาจากที่นั่น มายัง รพ ใหม่
ถ้าต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย ดิฉํนจะต้องทำยังไงบ้างค่ะ
คือ รพ เดิม ไม่ยอมออกหนังสือส่งตัวให้ บอกอย่างเดียวว่า รักษาได้ ค่ะ
ค่าใช้จ่ายเลยมาลงที่ดิฉัน คนเดียว ือ มันสูงมากค่ะ รพ.ที่มารักษา เป็น รพ.รัฐ เหมือนกันค่ะ
แต่เค้าต้องการใบส่งตัวเท่านั้น ต้นสังกัดไม่ออกให้เลย ดิฉันต้องทำยังไงต่อไปค่ะ รบกวนเพื่อนๆ หน่อยค่ะ
ตอนนี้ คุณแม่ เข้าห้องผ่าตัดมา 2 รอบแล้ว และ เปิดแผลไว้ ยาว 30-40 ซม. ตั้งแต่วันที่ 22 จนวันนี้ 6 ตค.ค่ะ ยังไม่เย็บค่ะ คือหนักมาก
ทำไมเค้าถึงปล่อยคุณแม่เป็นแบบนี้ เลี้ยงไข้ไว้ทำไม ถ้าไม่ย้ายคือ ตาย ใช่ไหม

แม่คนเดียว ดิฉันรักษาได้ค่ะ ดูแลได้ค่ะ แต่ที่ดิฉันรับไม่ได้ คือดิฉันเป็นคนหาเช้ากินค่ำนะค่ะ
ดิฉันต้องมารับภาระหนีสิน อีกหลายปี ต้องเอาที่ดินไปจำนอง ต้องเอารถไปจำนำ
เพื่อเอาเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาล ทั้งๆที่ดิฉันไม่ได้ทำผิดเลย สถานการณ์แบบนี้ แม่ดิฉันทั้งคน เป็นใคร ใครก็ทำ ใช่มั้ยค่ะ ทั้งๆที่เป็นสิทธิ์ของคนไทยคนหนึ่งที่พึงจะได้รับการดูแลรักษาจากรัฐบาล อีกอย่าง มันเป็นเพียงเพราะการกระทำของหมอคนนึงที่ไม่มีจรรยาบรรณของความเป็นหมอเลย ไม่อยากให้คนอื่นต้องมาเจอแบบนี้ค่ะ ไม่อยากให้หมอคนนี้ สำคัญตัวเองผิด  จนทำให้คนอื่นสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก

ลองคิดดูนะคะ ถ้าดิฉันตัดสินใจช้าอีกนิดเดียว ดิฉันคงต้องเสียใจไปตลอดชีวิตแน่นอนค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่