"พี สะเดิด" นักร้องแนวหน้าของวงการเพลงลูกทุ่งของไทย เผยอีกมุมของชีวิตที่รักในการศึกษาธรรมะ พอๆ กับการรักในเสียงดนตรี โดยน้อมนำคำสอนของพระพุทธศาสนามาใช้เป็นเข็มทิศในช่วงหนึ่งของชีวิตที่เคยทำไม่ดีให้กลับเข้าสู่เส้นทางที่ดีได้ด้วยธรรมะ
"ร็อกอีสาน ขานธรรม" หัวข้อบรรยายธรรม ตามโครงการยกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ ของซีพี ออลล์ งานนี้ "พี สะเดิด" หรือ พีรพัฒน์ สวัสดิ์มูล ได้มาร่วมขึ้นเวทีบรรยายธรรมะและแชร์ประสบการณ์เรื่องจริงด้านหนึ่งของชีวิต ก่อนที่จะพลิกผันมาได้ดิบได้ดีเช่นทุกวันนี้
สำหรับจุดเริ่มต้นที่ทำให้ศึกษาธรรม นักร้องขาร็อกลูกทุ่ง ย้อนอดีตให้ฟังว่า เขาเคยใช้ชีวิต กิน ดื่ม เที่ยวกลางคืน เพราะคิดว่าเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุด ได้เป็นนักร้องอาชีพ ได้เล่นดนตรี ใช้ชีวิตกลางคืนกับอยู่กับแสงสี และสุรา ซึ่งถือว่าเป็นช่วงที่ดื่มหนักมาก แม้จะเปิดอัลบั้มแรก แต่ชีวิตการทำงานก็ไม่รุ่งโรจน์ เพราะเงินหมด ส่วนงานก็ไม่ค่อย จนวันหนึ่งได้เจอเพื่อนที่เรียกได้ว่าเป็น กัลยาณมิตรชักนำให้เข้าวัด และได้พบกับหลวงพ่อทูล ขิปปปัญโญ ชีวิตจึงพบทางสว่าง
"ท่านได้แนะนำให้ปฏิบัติตามหลักธรรม มรรค 8 และ ศีล 5 แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น ด้วยความที่ช่วงนั้นตกอยู่ในห้วงของความทุกข์จึงคิดว่า ลองปฏิบัติตามที่หลวงพ่อแนะนำก็ไม่เสียหลาย เมื่อกลับมาถึงกรุงเทพฯ ก็เลิกทุกอย่าง หยุดดื่มเหล้า หยุดสูบบุหรี่ หยุดเที่ยวกลางคืนเดินหน้าทำหน้าที่ของตัวเอง ทำอัลบั้มใหม่ เดินสายทัวร์ โปรโมตเพลง โปรโมตอัลบั้ม และแล้วปาฏิหาริย์ก็มีจริง พออัลบั้มที่สองออกวางแผง ก็ได้รับการต้อนรับจากแฟนเพลงอย่างคาดไม่ถึง โดยเฉพาะเพลงสาวกระโปรงเหี่ยน ในอัลบัมนี้ดังมาก ทำให้กลับมาตั้งตัวได้ กลับมามีชื่อเสียงอีกครั้งหนึ่ง" เขาเล่า
ถือศีล 5 ดีอย่างไร นักร้องท่านนี้ บอกว่าเห็นผลชัดมาก ซึ่งการลด ละ เลิก อบายมุข ทำให้หยุดดื่ม หยุดสูบบุหรี่ ร่างกายที่เคยอ่อนแรง ขึ้นเวทีเล่นคอนเสิร์ตแทบไม่ไหว ก็กลับมาแข็งแรงมีพลังยืนเล่นคอนเสิร์ตต่อเนื่องได้นาน 2-3 ชั่วโมงได้ ทำให้เขามีกำลังใจปฏิบัติตนตามหลักธรรมะต่อเนื่องมาเรื่อยๆ
จากศีล 5 มาสู่มรรค 8 ที่หลวงพ่อสอน ทำให้ชีวิต คิดดี ทำดี เพียรดี พูดดี มีสัมมาอาชีพที่ดี มีความพยายาม มีสติที่ดี และถ้ายิ่งมีเวลานั่งสมาธิยิ่งทำให้ชีวิตดียิ่งๆ ขึ้นไปอีก เพราะจะทำให้ได้เจอแต่สิ่งดี ๆ
"วันหนึ่งถ้าคุณ เชื่อ และศรัทธา อะไรที่คิดว่ายาก มันจะง่ายลงทันที จากความกลัวอะไรหลายๆ อย่าง ก็จะทำให้เราไม่กลัวอุปสรรค มีความเพียร และมีสติผ่านมันไปได้ ผมเชื่อว่าทุกคนน่าจะเจอประสบการณ์อะไรที่ไม่ต่างจากผม บางคนอาจจะมากกว่าผมด้วยซ้ำไป แต่ถ้าลองศรัทธา ผมว่ามันมีพลังอะไรบางอย่างที่จะหนุน และชี้นำให้เราศรัทธา พร้อมก้าวไปสู่สิ่งที่ดีได้อย่างแน่นอน" นักร้องชื่อดังบอก ก่อนจะเผยต่อไปว่า
"ผมปฏิบัติตามหลักธรรม ทำให้ผมเจอในสิ่งที่ดี มีชีวิตที่ดี ผมเชื่อว่ามนุษย์เกิดมาเพื่อแก้ไขกันทุกคน แก้ไขไปในทางที่ดีขึ้น ปฏิหาริย์มีอยู่จริง ถ้าศรัทธาของเรามีอยู่จริง ขอให้มีจิตใจที่ตั้งมั่น เหมือนที่พระพุทธเจ้าบอก เกิดและดับ มันมีอยู่จริง ไม่ว่าจะชาติภพใดก็ตาม ขอให้บุญกุศลที่ทำมาส่งผลให้ทุกคนมีความสุข และสมหวังในสิ่งที่ปรารถนาทั้งทางโลก และทางธรรม"
ปัจจุบัน นักร้องหนุ่มตั้งใจจะใช้เสียงเพลง ช่วยบรรเลงธรรม ทุกครั้งที่ไปเล่นคอนเสิร์ตที่ไหนก็จะมีกิจกรรมให้แฟนๆ ได้ร่วมทำบุญด้วย เช่น ขายเสื้อ หรือชวนแฟนเพลงร่วมทำบุญกฐิน ไม่ว่าเป็นที่ประเทศไทย และต่างประเทศ โดยเงินทุกบาททุกสตางค์นำไปบูรณะวัด แจกเป็นทุนการศึกษาให้กับเยาวชน เช่นเดียวกันกับงานในครั้งนี้ เงินในตู้บริจาค เขาก็สมทบจัดทำหนังสือสวดมนต์เพื่อใช้ในโครงการต่อไป
ที่มา:
http://manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9580000111504
เปิดใจ "พี สะเดิด" เมื่อธรรมะฉุดขึ้นจากขุมนรก
"พี สะเดิด" นักร้องแนวหน้าของวงการเพลงลูกทุ่งของไทย เผยอีกมุมของชีวิตที่รักในการศึกษาธรรมะ พอๆ กับการรักในเสียงดนตรี โดยน้อมนำคำสอนของพระพุทธศาสนามาใช้เป็นเข็มทิศในช่วงหนึ่งของชีวิตที่เคยทำไม่ดีให้กลับเข้าสู่เส้นทางที่ดีได้ด้วยธรรมะ
"ร็อกอีสาน ขานธรรม" หัวข้อบรรยายธรรม ตามโครงการยกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ ของซีพี ออลล์ งานนี้ "พี สะเดิด" หรือ พีรพัฒน์ สวัสดิ์มูล ได้มาร่วมขึ้นเวทีบรรยายธรรมะและแชร์ประสบการณ์เรื่องจริงด้านหนึ่งของชีวิต ก่อนที่จะพลิกผันมาได้ดิบได้ดีเช่นทุกวันนี้
สำหรับจุดเริ่มต้นที่ทำให้ศึกษาธรรม นักร้องขาร็อกลูกทุ่ง ย้อนอดีตให้ฟังว่า เขาเคยใช้ชีวิต กิน ดื่ม เที่ยวกลางคืน เพราะคิดว่าเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุด ได้เป็นนักร้องอาชีพ ได้เล่นดนตรี ใช้ชีวิตกลางคืนกับอยู่กับแสงสี และสุรา ซึ่งถือว่าเป็นช่วงที่ดื่มหนักมาก แม้จะเปิดอัลบั้มแรก แต่ชีวิตการทำงานก็ไม่รุ่งโรจน์ เพราะเงินหมด ส่วนงานก็ไม่ค่อย จนวันหนึ่งได้เจอเพื่อนที่เรียกได้ว่าเป็น กัลยาณมิตรชักนำให้เข้าวัด และได้พบกับหลวงพ่อทูล ขิปปปัญโญ ชีวิตจึงพบทางสว่าง
"ท่านได้แนะนำให้ปฏิบัติตามหลักธรรม มรรค 8 และ ศีล 5 แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น ด้วยความที่ช่วงนั้นตกอยู่ในห้วงของความทุกข์จึงคิดว่า ลองปฏิบัติตามที่หลวงพ่อแนะนำก็ไม่เสียหลาย เมื่อกลับมาถึงกรุงเทพฯ ก็เลิกทุกอย่าง หยุดดื่มเหล้า หยุดสูบบุหรี่ หยุดเที่ยวกลางคืนเดินหน้าทำหน้าที่ของตัวเอง ทำอัลบั้มใหม่ เดินสายทัวร์ โปรโมตเพลง โปรโมตอัลบั้ม และแล้วปาฏิหาริย์ก็มีจริง พออัลบั้มที่สองออกวางแผง ก็ได้รับการต้อนรับจากแฟนเพลงอย่างคาดไม่ถึง โดยเฉพาะเพลงสาวกระโปรงเหี่ยน ในอัลบัมนี้ดังมาก ทำให้กลับมาตั้งตัวได้ กลับมามีชื่อเสียงอีกครั้งหนึ่ง" เขาเล่า
ถือศีล 5 ดีอย่างไร นักร้องท่านนี้ บอกว่าเห็นผลชัดมาก ซึ่งการลด ละ เลิก อบายมุข ทำให้หยุดดื่ม หยุดสูบบุหรี่ ร่างกายที่เคยอ่อนแรง ขึ้นเวทีเล่นคอนเสิร์ตแทบไม่ไหว ก็กลับมาแข็งแรงมีพลังยืนเล่นคอนเสิร์ตต่อเนื่องได้นาน 2-3 ชั่วโมงได้ ทำให้เขามีกำลังใจปฏิบัติตนตามหลักธรรมะต่อเนื่องมาเรื่อยๆ
จากศีล 5 มาสู่มรรค 8 ที่หลวงพ่อสอน ทำให้ชีวิต คิดดี ทำดี เพียรดี พูดดี มีสัมมาอาชีพที่ดี มีความพยายาม มีสติที่ดี และถ้ายิ่งมีเวลานั่งสมาธิยิ่งทำให้ชีวิตดียิ่งๆ ขึ้นไปอีก เพราะจะทำให้ได้เจอแต่สิ่งดี ๆ
"วันหนึ่งถ้าคุณ เชื่อ และศรัทธา อะไรที่คิดว่ายาก มันจะง่ายลงทันที จากความกลัวอะไรหลายๆ อย่าง ก็จะทำให้เราไม่กลัวอุปสรรค มีความเพียร และมีสติผ่านมันไปได้ ผมเชื่อว่าทุกคนน่าจะเจอประสบการณ์อะไรที่ไม่ต่างจากผม บางคนอาจจะมากกว่าผมด้วยซ้ำไป แต่ถ้าลองศรัทธา ผมว่ามันมีพลังอะไรบางอย่างที่จะหนุน และชี้นำให้เราศรัทธา พร้อมก้าวไปสู่สิ่งที่ดีได้อย่างแน่นอน" นักร้องชื่อดังบอก ก่อนจะเผยต่อไปว่า
"ผมปฏิบัติตามหลักธรรม ทำให้ผมเจอในสิ่งที่ดี มีชีวิตที่ดี ผมเชื่อว่ามนุษย์เกิดมาเพื่อแก้ไขกันทุกคน แก้ไขไปในทางที่ดีขึ้น ปฏิหาริย์มีอยู่จริง ถ้าศรัทธาของเรามีอยู่จริง ขอให้มีจิตใจที่ตั้งมั่น เหมือนที่พระพุทธเจ้าบอก เกิดและดับ มันมีอยู่จริง ไม่ว่าจะชาติภพใดก็ตาม ขอให้บุญกุศลที่ทำมาส่งผลให้ทุกคนมีความสุข และสมหวังในสิ่งที่ปรารถนาทั้งทางโลก และทางธรรม"
ปัจจุบัน นักร้องหนุ่มตั้งใจจะใช้เสียงเพลง ช่วยบรรเลงธรรม ทุกครั้งที่ไปเล่นคอนเสิร์ตที่ไหนก็จะมีกิจกรรมให้แฟนๆ ได้ร่วมทำบุญด้วย เช่น ขายเสื้อ หรือชวนแฟนเพลงร่วมทำบุญกฐิน ไม่ว่าเป็นที่ประเทศไทย และต่างประเทศ โดยเงินทุกบาททุกสตางค์นำไปบูรณะวัด แจกเป็นทุนการศึกษาให้กับเยาวชน เช่นเดียวกันกับงานในครั้งนี้ เงินในตู้บริจาค เขาก็สมทบจัดทำหนังสือสวดมนต์เพื่อใช้ในโครงการต่อไป
ที่มา: http://manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9580000111504