สวัสดีคะ กระทู้ที่เท่าไหร่ จำไม่ได้ แต่พันธ์ุทิพย์เหมือนเป็นที่ปรึกษาอะคะ คิดอะไรไม่ออกหรือเครียดก็จะมาคุยในพันธุ์ทิพย์ มีเรื่องจะปรึกษาแม่ๆ หรือใครก็ได้คะที่พร้อมจะให้คำปรึกษา เกรินก่อนนะคะครอบครัวเราเป็นครอบครัวเมืองคะที่พ่อแม่ทำงานลูกฝากตายายเลี้ยง ครอบครัวชั้นเหมือนกัน แต่จะสับสนนิดตรงที่ว่า สามีอยู่กทมเราอยู่ชลบุรีกลับบ้านทุกอาทิตย์และทุกวันหยุดและลูกอยู่ระยอง นานๆสามีจะมาบ้านเดือนนึงก็สองครั้งได้เค้าแทบจะไม่ได้เจอลูกเลย ลูกอยู่ระยองนะคะ แต่จะว่าเป็นลูกเค้าก็ไม่ใช่เพราะเค้าไม่ใช่พ่อแท้ๆ แต่รับเลี้ยงแต่เด็กแจ้งเกิดว่าสามีเป็นพ่อลูกก็คิดว่าเค้าคือพ่อแท้ๆ แต่อย่างว่าเมื่อไม่ใช่ลูกแท้ๆเค้าก็คงไม่ได้ผูกพันอะไรถึงจะเห็นตั้งแต่เกิดก็เถอะ เค้าจึงไม่พยายามไปหาลูกซึ่งก่อนหน้านี้ที่เราจะมีลูกเค้าก็เป็นแบบนี้นะคะ ดูว่าระยะทางไม่ไกลกันแต่ด้วยงานของเค้าำให้เราไม่ค่อยได้เจอกัน งงไหมละคะ (คือสามีเป็นแฟนเก่าที่เลิกกันไปชั้นมีใหม่และท้องผู้ชายทิ้งไปสามีเลยกลับมาขอดูแลและรับเป็นพ่อ..คนดีเหลือเกินไม่เล่ารายละเอียดละกันนะคะ)
ต่อคะคือจะปรึกษาว่าเราควรเอาลูกวัยสองขอบครึ่งมาเลี้ยงเองไหมคือกลัวเค้าขาดความอบอุ่นนะคะอยากให้เค้าได้อยู่กะแม่ได้เจอพ่อบ่อยๆ เพราะระยะทางจากกทมมาชลมันใกล้กว่า อย่างน้อยก็เดือนละ 2 ครั้ง ที่จะได้เจอกัน แต่ไม่ใช่ตายายเลี้ยงไม่ดีนะคะเค้ารักหลานมาก แต่เค้าชอบมีอารมย์หงุดหงิดและทะเลาะเถียงกันเสมอเสมอ บางครั้งตาหงุดหงิดอาจจะตวาดหลานบ้างในเวลาที่โมโหทั้งๆตัวเล็กเพียงแค่อ๊วกเพราะไม่สบาย อันนี้เราว่าไม่ถูก แต่ไม่บ่อยหรอกคะ นานๆทีแต่เรื่องเถียงกันนี้ทุกวัน เรากลัวว่าเมื่อโตขึ้นตายายอาจจะตีเค้าเวลาที่โมโห เค้าอารมย์ร้อนนะคะขี้หงุดหงิดทั้งคู่ เพราะเราจำตอนเด็กได้แม่เรา(ยาย)หรือพ่อ(ตา) มักจะตีเราแรงเวลาโมโหเสมอหรือเราทำอะไรผิดสายยางไม้แขวนนี้โดนหมดคะ แต่ไม่ใช้ตายายดูแลไม่ดีนะคะดีมากรักมากด้วย จะเสียเรื่องเดียวคือ การตี เรื่องอารมย์ อ้ออีกอย่าง แม่เราตอนเด็กๆเราจำได้มักจะโดนบังคับให้ทำโน่นนี่ประจำ เรากลัวลูกเราโดนแบบนั้น
แต่เราก็มีแต่อีกด้วยเราต้องอยู่คนเดียวที่ชล ทำงานเป็นเซลเวลามันไม่เปะบางทีมีนัดลูกค้าเวลานี้กลัวว่าจะไปรับลูกจากโรงเรียนไม่ได้จะเอามาเรียนเตรียมอนุบาลนะคะบางทีก็เลิกเย็นมากกลัวเค้าจะไม่ได้กินอยู่สบายถ้าอยู่กะตายายกินอิ่มนอนหลับอยู่สบายแน่นอนเพราะยายจะดูแล เรื่องอาหารการกินเสื้อผ้าอาภรณ์อย่างดี แต่อยู่กะเราคงไม่แบบนั้น คิดไม่ตกเลยคะทำไงยังไงดีเอาลูกมาก็กลัวลำบากให้ตายายเลี้ยงก็กลัวเป็นเด็กก้าวแบบเราเพราะโดนตีโดนตวาดด้วยอารมย์แต่โตมาเราควบคุมอารมย์ได้แล้วไม่มีก้าวร้าวละ จะเอายังไงกับลูกดี หรือรอให้เค้าโตซักป.1ค่อยเอามาดูแลเองรึยังไงดีคะ...เฮ้อขอคำปรึกษาหน่อยคะ
คิดไม่ตกว่าจะเอาลูกมาอยู่ด้วยหรืออยู่กับตายายดี
ต่อคะคือจะปรึกษาว่าเราควรเอาลูกวัยสองขอบครึ่งมาเลี้ยงเองไหมคือกลัวเค้าขาดความอบอุ่นนะคะอยากให้เค้าได้อยู่กะแม่ได้เจอพ่อบ่อยๆ เพราะระยะทางจากกทมมาชลมันใกล้กว่า อย่างน้อยก็เดือนละ 2 ครั้ง ที่จะได้เจอกัน แต่ไม่ใช่ตายายเลี้ยงไม่ดีนะคะเค้ารักหลานมาก แต่เค้าชอบมีอารมย์หงุดหงิดและทะเลาะเถียงกันเสมอเสมอ บางครั้งตาหงุดหงิดอาจจะตวาดหลานบ้างในเวลาที่โมโหทั้งๆตัวเล็กเพียงแค่อ๊วกเพราะไม่สบาย อันนี้เราว่าไม่ถูก แต่ไม่บ่อยหรอกคะ นานๆทีแต่เรื่องเถียงกันนี้ทุกวัน เรากลัวว่าเมื่อโตขึ้นตายายอาจจะตีเค้าเวลาที่โมโห เค้าอารมย์ร้อนนะคะขี้หงุดหงิดทั้งคู่ เพราะเราจำตอนเด็กได้แม่เรา(ยาย)หรือพ่อ(ตา) มักจะตีเราแรงเวลาโมโหเสมอหรือเราทำอะไรผิดสายยางไม้แขวนนี้โดนหมดคะ แต่ไม่ใช้ตายายดูแลไม่ดีนะคะดีมากรักมากด้วย จะเสียเรื่องเดียวคือ การตี เรื่องอารมย์ อ้ออีกอย่าง แม่เราตอนเด็กๆเราจำได้มักจะโดนบังคับให้ทำโน่นนี่ประจำ เรากลัวลูกเราโดนแบบนั้น
แต่เราก็มีแต่อีกด้วยเราต้องอยู่คนเดียวที่ชล ทำงานเป็นเซลเวลามันไม่เปะบางทีมีนัดลูกค้าเวลานี้กลัวว่าจะไปรับลูกจากโรงเรียนไม่ได้จะเอามาเรียนเตรียมอนุบาลนะคะบางทีก็เลิกเย็นมากกลัวเค้าจะไม่ได้กินอยู่สบายถ้าอยู่กะตายายกินอิ่มนอนหลับอยู่สบายแน่นอนเพราะยายจะดูแล เรื่องอาหารการกินเสื้อผ้าอาภรณ์อย่างดี แต่อยู่กะเราคงไม่แบบนั้น คิดไม่ตกเลยคะทำไงยังไงดีเอาลูกมาก็กลัวลำบากให้ตายายเลี้ยงก็กลัวเป็นเด็กก้าวแบบเราเพราะโดนตีโดนตวาดด้วยอารมย์แต่โตมาเราควบคุมอารมย์ได้แล้วไม่มีก้าวร้าวละ จะเอายังไงกับลูกดี หรือรอให้เค้าโตซักป.1ค่อยเอามาดูแลเองรึยังไงดีคะ...เฮ้อขอคำปรึกษาหน่อยคะ