อายุ 30 ปี สูง 165 ซ.ม. น้ำหนัก 63 ก.ก. ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ครับ ออกกำลังกายบ้างเมื่อมีโอกาส ไม่ถึงกับบ่อย แต่ก็ไม่น้อย ปกติจะออกกำลังกายด้วยการเดิน+วิ่ง 30-40 นาที เล่นเวทบ้างเล็กๆ น้อยๆ ครับ

ส่วนการรับประทานอาหารปกติเป็นคนไม่ทานอาหารที่มันๆ อยู่แล้วครับ อาจจะไม่ได้เคร่งมาก (เช่นทานเบคอนบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทานบ่อยและเยอะ) หลังๆ มาก็พยายามทานพวกสลัด หรืออาหารที่ไม่ค่อยมีไขมัน

ยาประจำตัวจะมียาความดันขนาด 50 (ขออภัยครับจำหน่วยวัดไม่ได้) ซึ่งทานวันละ 1 เม็ดหลังอาหารเช้าครับ ทานมาได้ประมาณ 6-7 เดือนแล้วครับ

ตรวจสุขภาพทุกปีครับ (พอดีปีที่แล้วกับปีนี้ตรวจคนละที่กันครับ) ปีที่แล้วค่าตับก็ไม่เกิน (หรืออาจจะเกินนิดๆ หน่อยๆ จำไม่ได้แล้วครับ ซึ่งปีที่แล้วคุณหมอไม่ได้พูดถึงซึ่งถ้าเกินก็น่าจะเกินเล็กน้อยแบบที่ไม่ได้สำคัญมากครับ)

ปีนี้ไปตรวจสุขภาพ ทุกอย่างอยู่ในเกณฑ์หมดไม่มีอะไรเกินเกณฑ์ อาจจะมีคลอเรสตอรอลที่เกินมานิดหน่อย ตรวจได้ 201 (ค่าปกติไม่เกิน 200) แต่ปรากฎว่าค่าตับสูงมากครับ ตัวแรก 330 (ค่าปกติ 37) อีกตัวนึง 100 (ขออภัยผมจำไม่ได้ว่าตัวไหนเป็น SGOT ตัวไหนเป็น SGPT) หมอเลยสั่งให้อัลตร้าซาวน์ พร้อมกับตรวจเลือดหาไวรัสตับอักเสบเพิ่ม

ผลอัลตร้าซาวน์ปรากฏว่าตับปกติ ม้ามปกติ (ตอนแรกคุณหมอคิดว่าเส้นเลือดที่ส่งไปเลี้ยงตับ และม้ามอุดตัน) มีไขมันพอกตับบ้างแต่ก็ไม่เยอะ ส่วนผลตรวจเลือดที่ตรวจเพิ่มก็ไม่พบไวรัสตับอักเสบเลย คุณหมอก็เลยนัดอีกเดือนนึงมาเจาะเลือดซ้ำครับ และไม่ได้จ่ายยาอะไรให้

เท่าที่หาข้อมูลจาก internet ส่วนมากจะบอกว่าเคสแบบนี้น่าจะเป็นไขมันพอกตับ แต่ว่าจะทำให้สูงถึงขนาดนั้นได้เลยเหรอครับ เท่าที่อ่านดูคนที่เป็นก็จะสูงไม่เกิน 100 กันทั้งนั้นเลย

อยากขอคำแนะนำครับว่า
- สาเหตุที่ค่าตับสูงมากขนาดนี้เป็นเพราะอะไรครับ เกี่ยวกับยาความดันที่ทานประจำทุกวันหรือไม่ครับ แต่คุณหมอบอกว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับยาตัวนี้
- ควรดูแลรักษาตัวเองอย่างไรครับ เพื่อให้ค่าตับลงมาเป็นปกติ

ขอบคุณมากครับ