บนสายน้ำแห่งชีวิตของชาวกรุงเทพฯ ณ ที่แห่งนี้คือท่าน้ำปากคลองตลาด
เดิมทีนั้นปากคลองตลาดไม่ได้เป็นตลาดค้าส่งดอกไม้ ที่หอมกรุ่นดังเช่นทุกวันนี้
ตรงกันข้าม กลับเต็มไปด้วยกลิ่นคาวคละคลุ้ง เพราะตลาดนี้เขาขายปลากันต่างหาก ตลาดค้าปลาที่นี่มีขนาดใหญ่มาก อิมพอร์ตมาจากแม่น้ำท่าจีน จังหวัดสมุทรสาคร ขนเข่งผ่านมาทางแม่น้ำเจ้าพระยามาสู่ “ปากคลองตลาด” แห่งนี้
ในยุคปี 2558 นี้ ได้มีการพัฒนาพื้นที่ริมน้ำ 300 เมตร เป็น ยอดพิมาน
“ปากคลองตลาด” ได้ชื่อว่าเป็นตลาดเก่าแก่ บนเกาะรัตนโกสินทร์ที่มีประวัติมาช้านาน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงโปรดฯ ให้ขุดคลองหลายสายมาตั้งแต่เริ่มสถาปนากรุงเทพฯ พระองค์ทรงโปรดฯ ให้ขุดคลองเล็กๆ สายหนึ่งที่ข้างวัดบูรณศิริอมาตยารามขึ้น ซึ่งคลองเล็กนี้เองที่ก่อให้เกิดชุมชนริมน้ำขนาดใหญ่ ที่สมัยก่อนเรียกว่า “คลองตลาด” อีกทั้งในย่านที่ไม่ไกลกันนี้ก็มีคลองขุดที่ฝั่งบางกอกมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2315 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสิน เรียกว่า"คลองใน" ซึ่งคลองทั้ง 2 แห่งนี้ ได้กลายมาเป็นตลาดสดแหล่งเดียวกันและยังคงเน้นการค้าปลาเป็นหลักมาจนถึงแผ่นดินของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่โปรดฯ เรียกตลาดนี้ว่า "ตะพานปลา" จนมาถึงระยะหนึ่งก็มีการย้ายตลาดค้าปลาไปยังตำบลวัวลำพอง หรือหัวลำโพงแทน ตลาดนี้จึงซบเซาลงอย่างมาก จนต้องแปรสภาพเป็นตลาดสดที่ค้าสินค้าประเภทผัก ผลไม้ และดอกไม้สด ปรากฏมาจนถึงทุกวันนี้แทน
ว่ากันว่า กล้วยไม้ตัดดอกของไทยส่งออกที่ 1 ของโลก...มูลค่า 2,600 ล้านบาท โดยประเทศไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกกล้วยไม้ตัดดอกอันดับหนึ่งของโลก โดยเฉพาะกล้วยไม้ตัดดอกเมืองร้อน รองลงมาคือ สิงคโปร์ มาเลเซีย นิวซีแลนด์ และประเทศในสหภาพยุโรปโดยเฉพาะอิตาลี
แต่วันนี้เราจะมาเดินเที่ยวกันที่ ตลาดยอดพิมาน ซึ่งได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามตั้งอยู่บนคุ้งน้ำที่สวยที่สุดของเจ้าพระยา เริ่มต้นเดินทางจากท่าเรือสาธร ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อ BTS สะพานตากสิน
เราเลือกที่จะมากับเรือทัวร์ เพราะราคาไม่แพงมาก ไม่ต้องเบียดเสียด
ฝนมามืดขนาดนี้เราจะรอดมั๊ยนะ
สะดวกมาก ๆ ค่ะ ที่ยอดพิมานมีท่าเรือถึง 3 ท่า
นั่งเรือมาพอพ้นสะพานพุทธก็เตรียมตัวลงได้เลยค่ะ
ขึ้นจากเรือมาได้ยินเสียงไวโอลินอยู่แผ่ว ๆ
ร้านรวงเรียงราย ยังมีไม่มาก แต่สินค้าแต่ละชนิดที่อยู่ ณ ที่นี้ถือว่าเป็นสินค้าระดับพรีเมียมเลยทีเดียว
ในที่สุดก็ฝนตกลงมาจนได้
เราเลือกที่จะนั่งหลบฝนที่ร้านนี้ค่ะ จัดร้านได้ละเอียดละออมาก ๆ
สมชื่อค่ะ ร้านสวยมาก
หน้าตา น่าทานมากค่ะ ลาเต้ ราคา 60 บาท
แต่ละโซนจะมีป้ายบอก มีร้านอะไรบ้าง
ฝนหยุดแล้ว ออกมาเดินเล่นปากคลองดีกว่า
ดอกไม้แปลก ๆ ก็สามารถหาได้ที่นี่มีเยอะเชียวค่ะ
เนื่องจากเป็นช่วงเย็น แต่ละร้านกำลังออกมาตั้งร้านกันเต็มถนนไปหมด
เราเดินกลับมาที่ยอดพิมานอีกครั้ง เพื่อจุดดูพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดของฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
ไม่ผิดหวังเลยค่ะ วันนี้ท้องฟ้าเป็นสีแดงส้ม เจิดจรัสหลังฝนจากไป
ควันจาง ๆ สีดำที่เห็นนั้นเกิดจากเพลิงใหม้บ้านไม้ที่ฝั่งธน ซอยสันติภาพ 17
เสียงรถดับเพลิงวิ่งกันเสียงดังไปหมด แต่ควันก็หายไปไม่ถึง 10 นาที ดับเพลิงทำงานรวดเร็วมาก ๆ ค่ะ
เราจึงได้ภาพนี้มาแทน
แม้จะมีร้านเปิดครบแล้วแต่คนยังไม่เยอะมาก อาจจะเป็นเพราะวันนี้เป็นวันไหว้พระจันทร์
กลางคืน ณ คุ้งน้ำแห่งนี้สามารถมองวิวได้สวยมาก ๆ อีกแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร
ภาพที่เก็บมาอาจจะไม่สวยเท่ากับการที่คุณได้เห็นด้วยตาตัวเอง
งดงามมากค่ะในยามค่ำคืน
ห้องน้ำสะอาดมาก ๆ ค่ะ เราเห็นเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดตลอดไม่หยุดเลย ทั้ง ๆ ที่ห้องน้ำก็ยังไม่ได้เลอะอะไรเลย แต่แอบงงนิด ๆ ว่าทำไมห้องน้ำหญิงมีโถฉี่ผู้ชายอยู่ด้วย
เดินมุ่งหน้าไปทางสะพานพุทธ 200 เมตร เราก็นั่งรถเมล์สายแปดกลับ ในราคา 9 บาท
รถออกบ่อยไม่ต้องรอนาน ถือว่าสะดวกสบายดี หรือจะเดินช๊อปต่อที่สะพานพุทธก็ดีเหมือนกันนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามชมค่ะ
ขอขอบคุณ ข้อความบางส่วนจากอินเตอร์เน็ท
[CR] จากตลาดดั้งเดิม สู่ตลาดยุคใหม่บนคุ้งน้ำแสนสวย "ยอดพิมาน"
เดิมทีนั้นปากคลองตลาดไม่ได้เป็นตลาดค้าส่งดอกไม้ ที่หอมกรุ่นดังเช่นทุกวันนี้
ตรงกันข้าม กลับเต็มไปด้วยกลิ่นคาวคละคลุ้ง เพราะตลาดนี้เขาขายปลากันต่างหาก ตลาดค้าปลาที่นี่มีขนาดใหญ่มาก อิมพอร์ตมาจากแม่น้ำท่าจีน จังหวัดสมุทรสาคร ขนเข่งผ่านมาทางแม่น้ำเจ้าพระยามาสู่ “ปากคลองตลาด” แห่งนี้
ในยุคปี 2558 นี้ ได้มีการพัฒนาพื้นที่ริมน้ำ 300 เมตร เป็น ยอดพิมาน
“ปากคลองตลาด” ได้ชื่อว่าเป็นตลาดเก่าแก่ บนเกาะรัตนโกสินทร์ที่มีประวัติมาช้านาน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงโปรดฯ ให้ขุดคลองหลายสายมาตั้งแต่เริ่มสถาปนากรุงเทพฯ พระองค์ทรงโปรดฯ ให้ขุดคลองเล็กๆ สายหนึ่งที่ข้างวัดบูรณศิริอมาตยารามขึ้น ซึ่งคลองเล็กนี้เองที่ก่อให้เกิดชุมชนริมน้ำขนาดใหญ่ ที่สมัยก่อนเรียกว่า “คลองตลาด” อีกทั้งในย่านที่ไม่ไกลกันนี้ก็มีคลองขุดที่ฝั่งบางกอกมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2315 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสิน เรียกว่า"คลองใน" ซึ่งคลองทั้ง 2 แห่งนี้ ได้กลายมาเป็นตลาดสดแหล่งเดียวกันและยังคงเน้นการค้าปลาเป็นหลักมาจนถึงแผ่นดินของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่โปรดฯ เรียกตลาดนี้ว่า "ตะพานปลา" จนมาถึงระยะหนึ่งก็มีการย้ายตลาดค้าปลาไปยังตำบลวัวลำพอง หรือหัวลำโพงแทน ตลาดนี้จึงซบเซาลงอย่างมาก จนต้องแปรสภาพเป็นตลาดสดที่ค้าสินค้าประเภทผัก ผลไม้ และดอกไม้สด ปรากฏมาจนถึงทุกวันนี้แทน
ว่ากันว่า กล้วยไม้ตัดดอกของไทยส่งออกที่ 1 ของโลก...มูลค่า 2,600 ล้านบาท โดยประเทศไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกกล้วยไม้ตัดดอกอันดับหนึ่งของโลก โดยเฉพาะกล้วยไม้ตัดดอกเมืองร้อน รองลงมาคือ สิงคโปร์ มาเลเซีย นิวซีแลนด์ และประเทศในสหภาพยุโรปโดยเฉพาะอิตาลี
แต่วันนี้เราจะมาเดินเที่ยวกันที่ ตลาดยอดพิมาน ซึ่งได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามตั้งอยู่บนคุ้งน้ำที่สวยที่สุดของเจ้าพระยา เริ่มต้นเดินทางจากท่าเรือสาธร ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อ BTS สะพานตากสิน
เราเลือกที่จะมากับเรือทัวร์ เพราะราคาไม่แพงมาก ไม่ต้องเบียดเสียด
ฝนมามืดขนาดนี้เราจะรอดมั๊ยนะ
สะดวกมาก ๆ ค่ะ ที่ยอดพิมานมีท่าเรือถึง 3 ท่า
นั่งเรือมาพอพ้นสะพานพุทธก็เตรียมตัวลงได้เลยค่ะ
ขึ้นจากเรือมาได้ยินเสียงไวโอลินอยู่แผ่ว ๆ
ร้านรวงเรียงราย ยังมีไม่มาก แต่สินค้าแต่ละชนิดที่อยู่ ณ ที่นี้ถือว่าเป็นสินค้าระดับพรีเมียมเลยทีเดียว
ในที่สุดก็ฝนตกลงมาจนได้
เราเลือกที่จะนั่งหลบฝนที่ร้านนี้ค่ะ จัดร้านได้ละเอียดละออมาก ๆ
สมชื่อค่ะ ร้านสวยมาก
หน้าตา น่าทานมากค่ะ ลาเต้ ราคา 60 บาท
แต่ละโซนจะมีป้ายบอก มีร้านอะไรบ้าง
ฝนหยุดแล้ว ออกมาเดินเล่นปากคลองดีกว่า
ดอกไม้แปลก ๆ ก็สามารถหาได้ที่นี่มีเยอะเชียวค่ะ
เนื่องจากเป็นช่วงเย็น แต่ละร้านกำลังออกมาตั้งร้านกันเต็มถนนไปหมด
เราเดินกลับมาที่ยอดพิมานอีกครั้ง เพื่อจุดดูพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดของฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
ไม่ผิดหวังเลยค่ะ วันนี้ท้องฟ้าเป็นสีแดงส้ม เจิดจรัสหลังฝนจากไป
ควันจาง ๆ สีดำที่เห็นนั้นเกิดจากเพลิงใหม้บ้านไม้ที่ฝั่งธน ซอยสันติภาพ 17
เสียงรถดับเพลิงวิ่งกันเสียงดังไปหมด แต่ควันก็หายไปไม่ถึง 10 นาที ดับเพลิงทำงานรวดเร็วมาก ๆ ค่ะ
เราจึงได้ภาพนี้มาแทน
แม้จะมีร้านเปิดครบแล้วแต่คนยังไม่เยอะมาก อาจจะเป็นเพราะวันนี้เป็นวันไหว้พระจันทร์
กลางคืน ณ คุ้งน้ำแห่งนี้สามารถมองวิวได้สวยมาก ๆ อีกแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร
ภาพที่เก็บมาอาจจะไม่สวยเท่ากับการที่คุณได้เห็นด้วยตาตัวเอง
งดงามมากค่ะในยามค่ำคืน
ห้องน้ำสะอาดมาก ๆ ค่ะ เราเห็นเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดตลอดไม่หยุดเลย ทั้ง ๆ ที่ห้องน้ำก็ยังไม่ได้เลอะอะไรเลย แต่แอบงงนิด ๆ ว่าทำไมห้องน้ำหญิงมีโถฉี่ผู้ชายอยู่ด้วย
เดินมุ่งหน้าไปทางสะพานพุทธ 200 เมตร เราก็นั่งรถเมล์สายแปดกลับ ในราคา 9 บาท
รถออกบ่อยไม่ต้องรอนาน ถือว่าสะดวกสบายดี หรือจะเดินช๊อปต่อที่สะพานพุทธก็ดีเหมือนกันนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามชมค่ะ
ขอขอบคุณ ข้อความบางส่วนจากอินเตอร์เน็ท