ตามข่าวมาตั้งนาน ล่าสุดเพิ่งประกาศราคาออกมาเป็นทางการครับ สำหรับหุ้น IPO ของ TFG โดยราคาอยู่ที่หุ้นละ 1.95 บาท
ก่อนหน้านี้ ผมเห็นบางโบรกเค้าวิเคราะห์ว่า ราคาน่าจะอยู่ที่ประมาณ 2 บาทกว่า ซึ่งผมเคยได้แชร์ข้อมูลวิเคราะห์ของตัวนี้ไป ตอนเดือนที่แล้ว (
http://ppantip.com/topic/34024131)
พอเค้าประกาศราคาออกมา เห็นในเพจมีการอัพเดตข้อมูลใหม่ เลยนำมาฝากกันอีกรอบครับ
-----------------------------------------------------------------------------
TFG - ได้เวลาเอาเข้าตลาดเสียที เจ้าของใจกล้า ลดราคาจนเร้าใจขึ้นเยอะ
ผมได้เขียนถึง TFG มาก่อนหน้านี้แล้ว และบอกว่า ราคาจองน่าจะอยู่ที่ 2.10 บาท (ในหนังสือชี้ชวนขณะนั้นระบุราคาไว้ 2.10 - 2.30 บาท)
แต่วันนี้ได้ข้อมูลมาว่า มีการปรับลดราคาจองลง คาดว่าจะออกมาที่ 1.95 บาท และจะเปิดจองสัปดาห์หน้า
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมมีคนถามไถ่ถึงหุ้นตัวนี้เข้ามากันเยอะมาก เยอะกว่าหุ้นตัวอื่นๆ ทั้งๆที่หุ้นที่ทำ IPO ก็สูงถึง 1400 ล้านหุ้น ธุรกิจที่ทำก็ไม่ได้แปลกแหวกแนวอะไร เป็นธุรกิจที่ในตลาดก็มีบริษัทอื่นทำอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น CPF หรือ GFPT
ผมบอกตรงๆเลยว่า ตอนที่บอกว่าราคาจองจะออกมาที่ 2.10 บาท ผมยังตัดสินใจไม่ได้เลยว่าผมควรจะจองหุ้นตัวนี้หรือไม่?? เพราะแรกเริ่มเดิมทีผมคิดว่า ถ้าผมจองไปราคาเปิดก็คงจะไม่เกิน 2.50 บาท ซึ่งถือเป็นผลตอบแทนที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับหุ้น IPO ตัวอื่นๆ
แต่มันก็คงเป็นระดับที่โอเคแล้ว สำหรับหุ้น IPO ที่มีจำนวนมากขนาดนี้
อย่างไรก็ตาม พอมีการเลื่อน IPO ออกไปจากเหตุระเบิด มารอบนี้ได้ข่าวว่า มีการปรับลดราคาจองลงจาก 2.10 บาท เหลือแค่ 1.95 บาท จึงทำให้ต้องมาคิดทบทวนกันอีกรอบว่า มันน่าสนใจหรือไม่ อย่างไร??
**** ข้อมูลสำหรับตัดสินใจ *****
ข้อมูลทั่วไป ผมแนะนำให้เลื่อนลงไปอ่านได้จากที่ผมได้เขียนไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่วันนี้ผมจะมาเพิ่มเติมข้อมูลให้
- ธุรกิจของ TFG ไม่เหมือน CPF เพราะมีแค่ ไก่ กับ หมู ไม่มีกุ้ง ธุรกิจการแปรรูปอาหารของ TFG ก็เพิ่งเริ่ม โดยจะทำไส้กรอกยี่ห้อ ไทยอร่อย ในขณะที่ CPF ครบวงจรมากกว่า เพราะมีการแปรรูปเป็นอาหารขายด้วย
- เมื่อเทียบกับ GFPT ซึ่งมีแต่ไก่ ทาง TFG จะมีหมูด้วย ซึ่งมากกว่า GFPT
นั่นทำให้การเปรียบเทียบบริษัททั้ง 3 ไม่สามารถเทียบกันได้แบบตรงๆ
- TFG ยังแทบไม่มีรายได้จากส่วนการแปรรูปเนื้อสัตว์มาเป็นอาหาร ทำให้ผลประกอบการของบริษัทขึ้นตรงกับปริมาณการขาย และราคาขาย ซึ่งมีความผันผวนอยู่ตลอด ในขณะที่ CPF ที่มีการทำอาหารแปรรูปจะสามารถเพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ และลดความผันผวนของราคาหมู่ ไก่ กุ้งได้บ้าง (แต่ก็ไม่ได้มากนัก)
- TFG เน้นขาย "ไก่" เป็นหลัก และมีรายได้จาก ไก่ เป็นสัดส่วนถึงราว 65% ของรายได้ทั้งหมด ทำให้เวลาที่ตลาดไก่ดีขึ้นมา บริษัทก็ได้รับประโยชน์อย่างมาก โดยที่ไม่ต้องมีตัวถ่วงอย่างอื่น ในขณะที่ CPF แม้ไก่จะดี แต่กุ้งก็ยังไม่ฟื้น ทำให้กุ้งกลายเป็นตัวถ่วง
- หากเทียบกับ GFPT แล้ว หากไก่กลับมาดีจริง GFPT จะได้ประโยชน์มากสุด เพราะไม่มีสัตว์อื่นเลย ยกเว้นไก่
- นักวิเคราะห์มองว่าราคาไก่น่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วงไตรมาสที่ 1 - 2 ที่ผ่านมา จากภาวะ oversupply ในประเทศ ทำให้ราคาไก่ในประเทศปรับตัวลง นั่นเพราะภาคการส่งออกนั้นมีปัญหา เศรษฐกิจต่างประเทศที่ยังไม่ฟื้นดีนักทำให้ปริมาณการสั่งไก่ไม่ฟื้น แต่ผู้ผลิตผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก
ดังนั้น การนำเอาบริษัทเข้าจดทะเบียนในช่วงนี้ เป็นทางเลือกที่ดี เพราะมองว่าราคาไก่น่าจะค่อยๆปรับตัวดีขึ้นนับจากนี้
- เจ้าของปัจจุบันถือหุ้นใหญ่ใน TFG ถึง 100% การนำหุ้นเข้าจดทะเบียนครั้งนี้ เหตุหลักเพราะต้องการสร้าง profile ให้กับบริษัทของตน เพื่อให้เทียบกับ CPF GFPT ได้ จึงยอมลดสัดส่วนของตนเองลง โดยการขายหุ้น IPO
โดยส่วนตัวผมเชื่อว่า เจ้าของเดิมจะไม่ขายหุ้นส่วนที่ไม่ติด silent period ออกมา เพราะ TFG มีความเป็นธุรกิจครอบครัว เป็นธุรกิจของตระกูล การลดสัดส่วนการถือหุ้นโดยการเอาหุ้นเดิมมาขาย ไม่น่าจะเกิดขึ้น
- เงินที่ได้จากการทำ IPO จะเอาไปคืนหนี้บางส่วน เพื่อลดระดับ DE ratio ลง และนำไปใช้ในการสร้างโรงงานผลิตไส้กรอก ตามแผนการขยายเข้าสู่ธุรกิจอาหารแปรรูปจากเนื้อไก่
**** ข้อมูลเพิ่มเติม ได้สอบถามจากคนที่ได้รับแจก ไส้กรอกยี่ห้อ ไทยอร่อย คือต้องบอกว่า มันไม่ใช่ของที่จะมาขายในเกรดพรีเมี่ยม แต่น่าจะทำเพื่อขายตามตลาดนัดมากกว่า สรุปง่ายๆคือ มันไม่ค่อยอร่อย น่าจะมีส่วนผสมของแป้งเยอะ *****
***** ตรงนี้สำคัญมากนะครับ อ่านและพิจารณาใหัดีก่อนตัดสินใจจอง ******
TFG เข้าตลาดโดยใช้เกณฑ์ Market Cap นะครับ นั่นคือ มาร์เก็ตแคปถึงเกณฑ์ตลาดกำหนดก็สามารถเข้าจดทะเบียนได้
แต่ แต่ บริษัทมีผลการดำเนินงาน "ขาดทุน" ในครึ่งปีแรกของปี 2558 จำนวน 928 ล้านบาท อีกทั้งยังมี "ขาดทุนสะสม" ในงบดุลจำนวน 798.7 ล้านบาท
สาเหตุที่ทำให้บริษัทประสบปัญหาขาดทุน ก็เนื่องจาก ราคาไก่และหมูในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2558 นั้นลดต่ำลงอย่างมาก ทำให้บริษัทต้องมีการบันทึกขาดทุนจากสินค้าคงเหลือ รวมทั้งยอดขายลดต่ำลงด้วย
นอกจากนั้น การเตรียมพร้อมสำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์ (หลังจากที่ก่อนหน้านี้ขายในประเทศเป็นหลัก) ทำให้ต้องมีการปรับปรุงโรงงานเพื่อให้ได้มาตรฐานการส่งออก ส่งผลให้เกิดค่าเสื่อมราคาที่สูงขึ้น
โดยบริษัทคาดว่า ถ้าการปรับปรุงทุกอย่างแล้วเสร็จ และสามารถเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิตได้ ก็จะมาชดเชยส่วนขาดทุนดังกล่าวได้ในที่สุด
(ในแง่ของนักลงทุน จะเชื่อตามที่บริษัทแจ้งหรือไม่ ตัดสินกันเอาเอง)
**** ความเห็นส่วนตัว การบันทึกค่าใช้จ่ายจำนวนมากนี้ ทั้งๆที่รู้ว่าหุ้นกำลังจะเอาเข้าตลาด มันขัดกันอย่างมาก ถ้าเป็นบริษัทบางแห่ง จะแต่งงบให้สวย อะไรที่รอไปจ่ายหลังเข้าตลาดได้ก็เอาไว้ค่อยทำ เพราะทุกคนรู้ดีกว่า ถ้างบห่วย การเข้าตลาดอาจไม่ประสบความสำเร็จ
แต่ TFG กลับเลือกที่จะทำงบให้แย่ก่อนเข้าตลาด (ก่อนหน้านี้บริษัทไม่มีขาดทุนสะสม เพิ่งมาเกิดขึ้นในปี 2558) อาจจะเป็นเพราะ จากเดิมที่ทำเป็นธุรกิจครอบครัว ไม่ได้จดทะเบียน การทำบัญชีอาจมีบางส่วนที่ไม่ได้ตามมาตรฐานที่ควรเป็น เมื่อจะเข้าตลาด จึงจำเป็นต้องปรับการทำบัญชีให้เป็นมาตรฐานมากขึ้น โดยอะไรที่ผู้สอบบัญชีเห็นว่าควรต้องบันทึกขาดทุน ก็ต้องทำ
หรืออาจจะเป็นด้วยเหตุผลอื่น ก็แล้วแต่จะคาดเดากันไป
แต่ ถ้าคุณตัดสินใจจองหุ้นแล้ว คุณไม่มีสิทธิมาต่อว่า บริษัทขาดทุนจะเอาเข้าตลาดทำไม เพราะเขาแจ้งเอาไว้ในหนังสือชี้ชวนอย่างชัดเจนแล้ว ไม่ต่างกับตอน PACE และ ANAN
ถ้าคุณไม่อยากจองหุ้น IPO ที่ผลประกอบการขาดทุน ก็อย่าจอง ไม่ใช่จองไปก่อนหวังว่ามันอาจจะสร้างกำไรให้ แต่พอมันเปิดต่ำ ก็ออกมาร้องโวยวาย แบบนี้เรียกว่าโง่เอง โทษใครไม่ได้
***** ความเห็นส่วนตัว******
1.95 บาท เป็นการลดราคาที่ทำให้เกิดความเร้าใจขึ้นมาบ้าง แต่ตัวผมเองยังไม่ค่อยมั่นใจเลยว่าจะจองหุ้นตัวนี้หรือไม่
พูดกันตรงๆนะ ผมกลัวมันจะ "ต่ำจอง" ด้วยเหตุผลว่า เป็นหุ้นที่ทำ IPO จำนวนมาก และที่สำคัญก็คือ บริษัทยัง "ขาดทุน" อยู่ ซึ่งอาจมีความเป็นไปได้ที่ TFG อาจถูกกดราคาจนต่ำจอง เพื่อรอดูว่า รายได้ในอนาคตจะชดเชยยอดขาดทุนนี้ได้หรือไม่ เรารอซื้อตรงนั้นไม่ดีกว่าหรือ??
แต่อีกใจหนึ่งก็มองว่า ราคาที่นักวิเคราะห์หลายโบรกทำไว้ ก็ให้ราคาแถวๆ 2.50 - 2.90 บาท การทำ IPO ที่ 1.95 บาท ก็มีส่วนลดมากแล้วเหมือนกัน
เอาเป็นว่า ผมยังสองจิตสองใจอยู่ และผมไม่ขอฟันธงสำหรับตัวนี้ว่า ผมจะจองหรือเปล่า? นะครับ
แนะนำให้เข้าเวบตลาดแล้วอ่านหนังสือชี้ชวน แล้วค่อยตัดสินใจครับ
Cr.Wattana Stock Page
-----------------------------------------------------------------------------
ส่วนตัว ผมว่าเรื่องผลประกอบการของบริษัท มีผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุนอยู่แล้วครับ (รวมถึงตัวผมเองด้วย --") แล้วยิ่งเป็นหุ้น IPO นะ เรื่องกำไรขาดทุนนี่สำคัญเลย ส่วนราคาที่ประกาศมาผมว่าค่อนข้างน่าสนใจอยู่ (ถูกกว่าที่คิดไว้ตอนแรก)
แล้วเพื่อนๆ คิดว่าไงกันมั่งครับ กับ TFG ที่ราคานี้ ?
คิดว่า TFG กับราคา IPO ที่ประกาศมาหุ้นละ 1.95 บาท ถือว่าน่าสนใจมั้ยครับ !?!?!?
ก่อนหน้านี้ ผมเห็นบางโบรกเค้าวิเคราะห์ว่า ราคาน่าจะอยู่ที่ประมาณ 2 บาทกว่า ซึ่งผมเคยได้แชร์ข้อมูลวิเคราะห์ของตัวนี้ไป ตอนเดือนที่แล้ว (http://ppantip.com/topic/34024131)
พอเค้าประกาศราคาออกมา เห็นในเพจมีการอัพเดตข้อมูลใหม่ เลยนำมาฝากกันอีกรอบครับ
-----------------------------------------------------------------------------
TFG - ได้เวลาเอาเข้าตลาดเสียที เจ้าของใจกล้า ลดราคาจนเร้าใจขึ้นเยอะ
ผมได้เขียนถึง TFG มาก่อนหน้านี้แล้ว และบอกว่า ราคาจองน่าจะอยู่ที่ 2.10 บาท (ในหนังสือชี้ชวนขณะนั้นระบุราคาไว้ 2.10 - 2.30 บาท)
แต่วันนี้ได้ข้อมูลมาว่า มีการปรับลดราคาจองลง คาดว่าจะออกมาที่ 1.95 บาท และจะเปิดจองสัปดาห์หน้า
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมมีคนถามไถ่ถึงหุ้นตัวนี้เข้ามากันเยอะมาก เยอะกว่าหุ้นตัวอื่นๆ ทั้งๆที่หุ้นที่ทำ IPO ก็สูงถึง 1400 ล้านหุ้น ธุรกิจที่ทำก็ไม่ได้แปลกแหวกแนวอะไร เป็นธุรกิจที่ในตลาดก็มีบริษัทอื่นทำอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น CPF หรือ GFPT
ผมบอกตรงๆเลยว่า ตอนที่บอกว่าราคาจองจะออกมาที่ 2.10 บาท ผมยังตัดสินใจไม่ได้เลยว่าผมควรจะจองหุ้นตัวนี้หรือไม่?? เพราะแรกเริ่มเดิมทีผมคิดว่า ถ้าผมจองไปราคาเปิดก็คงจะไม่เกิน 2.50 บาท ซึ่งถือเป็นผลตอบแทนที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับหุ้น IPO ตัวอื่นๆ
แต่มันก็คงเป็นระดับที่โอเคแล้ว สำหรับหุ้น IPO ที่มีจำนวนมากขนาดนี้
อย่างไรก็ตาม พอมีการเลื่อน IPO ออกไปจากเหตุระเบิด มารอบนี้ได้ข่าวว่า มีการปรับลดราคาจองลงจาก 2.10 บาท เหลือแค่ 1.95 บาท จึงทำให้ต้องมาคิดทบทวนกันอีกรอบว่า มันน่าสนใจหรือไม่ อย่างไร??
**** ข้อมูลสำหรับตัดสินใจ *****
ข้อมูลทั่วไป ผมแนะนำให้เลื่อนลงไปอ่านได้จากที่ผมได้เขียนไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่วันนี้ผมจะมาเพิ่มเติมข้อมูลให้
- ธุรกิจของ TFG ไม่เหมือน CPF เพราะมีแค่ ไก่ กับ หมู ไม่มีกุ้ง ธุรกิจการแปรรูปอาหารของ TFG ก็เพิ่งเริ่ม โดยจะทำไส้กรอกยี่ห้อ ไทยอร่อย ในขณะที่ CPF ครบวงจรมากกว่า เพราะมีการแปรรูปเป็นอาหารขายด้วย
- เมื่อเทียบกับ GFPT ซึ่งมีแต่ไก่ ทาง TFG จะมีหมูด้วย ซึ่งมากกว่า GFPT
นั่นทำให้การเปรียบเทียบบริษัททั้ง 3 ไม่สามารถเทียบกันได้แบบตรงๆ
- TFG ยังแทบไม่มีรายได้จากส่วนการแปรรูปเนื้อสัตว์มาเป็นอาหาร ทำให้ผลประกอบการของบริษัทขึ้นตรงกับปริมาณการขาย และราคาขาย ซึ่งมีความผันผวนอยู่ตลอด ในขณะที่ CPF ที่มีการทำอาหารแปรรูปจะสามารถเพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ และลดความผันผวนของราคาหมู่ ไก่ กุ้งได้บ้าง (แต่ก็ไม่ได้มากนัก)
- TFG เน้นขาย "ไก่" เป็นหลัก และมีรายได้จาก ไก่ เป็นสัดส่วนถึงราว 65% ของรายได้ทั้งหมด ทำให้เวลาที่ตลาดไก่ดีขึ้นมา บริษัทก็ได้รับประโยชน์อย่างมาก โดยที่ไม่ต้องมีตัวถ่วงอย่างอื่น ในขณะที่ CPF แม้ไก่จะดี แต่กุ้งก็ยังไม่ฟื้น ทำให้กุ้งกลายเป็นตัวถ่วง
- หากเทียบกับ GFPT แล้ว หากไก่กลับมาดีจริง GFPT จะได้ประโยชน์มากสุด เพราะไม่มีสัตว์อื่นเลย ยกเว้นไก่
- นักวิเคราะห์มองว่าราคาไก่น่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วงไตรมาสที่ 1 - 2 ที่ผ่านมา จากภาวะ oversupply ในประเทศ ทำให้ราคาไก่ในประเทศปรับตัวลง นั่นเพราะภาคการส่งออกนั้นมีปัญหา เศรษฐกิจต่างประเทศที่ยังไม่ฟื้นดีนักทำให้ปริมาณการสั่งไก่ไม่ฟื้น แต่ผู้ผลิตผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก
ดังนั้น การนำเอาบริษัทเข้าจดทะเบียนในช่วงนี้ เป็นทางเลือกที่ดี เพราะมองว่าราคาไก่น่าจะค่อยๆปรับตัวดีขึ้นนับจากนี้
- เจ้าของปัจจุบันถือหุ้นใหญ่ใน TFG ถึง 100% การนำหุ้นเข้าจดทะเบียนครั้งนี้ เหตุหลักเพราะต้องการสร้าง profile ให้กับบริษัทของตน เพื่อให้เทียบกับ CPF GFPT ได้ จึงยอมลดสัดส่วนของตนเองลง โดยการขายหุ้น IPO
โดยส่วนตัวผมเชื่อว่า เจ้าของเดิมจะไม่ขายหุ้นส่วนที่ไม่ติด silent period ออกมา เพราะ TFG มีความเป็นธุรกิจครอบครัว เป็นธุรกิจของตระกูล การลดสัดส่วนการถือหุ้นโดยการเอาหุ้นเดิมมาขาย ไม่น่าจะเกิดขึ้น
- เงินที่ได้จากการทำ IPO จะเอาไปคืนหนี้บางส่วน เพื่อลดระดับ DE ratio ลง และนำไปใช้ในการสร้างโรงงานผลิตไส้กรอก ตามแผนการขยายเข้าสู่ธุรกิจอาหารแปรรูปจากเนื้อไก่
**** ข้อมูลเพิ่มเติม ได้สอบถามจากคนที่ได้รับแจก ไส้กรอกยี่ห้อ ไทยอร่อย คือต้องบอกว่า มันไม่ใช่ของที่จะมาขายในเกรดพรีเมี่ยม แต่น่าจะทำเพื่อขายตามตลาดนัดมากกว่า สรุปง่ายๆคือ มันไม่ค่อยอร่อย น่าจะมีส่วนผสมของแป้งเยอะ *****
***** ตรงนี้สำคัญมากนะครับ อ่านและพิจารณาใหัดีก่อนตัดสินใจจอง ******
TFG เข้าตลาดโดยใช้เกณฑ์ Market Cap นะครับ นั่นคือ มาร์เก็ตแคปถึงเกณฑ์ตลาดกำหนดก็สามารถเข้าจดทะเบียนได้
แต่ แต่ บริษัทมีผลการดำเนินงาน "ขาดทุน" ในครึ่งปีแรกของปี 2558 จำนวน 928 ล้านบาท อีกทั้งยังมี "ขาดทุนสะสม" ในงบดุลจำนวน 798.7 ล้านบาท
สาเหตุที่ทำให้บริษัทประสบปัญหาขาดทุน ก็เนื่องจาก ราคาไก่และหมูในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2558 นั้นลดต่ำลงอย่างมาก ทำให้บริษัทต้องมีการบันทึกขาดทุนจากสินค้าคงเหลือ รวมทั้งยอดขายลดต่ำลงด้วย
นอกจากนั้น การเตรียมพร้อมสำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์ (หลังจากที่ก่อนหน้านี้ขายในประเทศเป็นหลัก) ทำให้ต้องมีการปรับปรุงโรงงานเพื่อให้ได้มาตรฐานการส่งออก ส่งผลให้เกิดค่าเสื่อมราคาที่สูงขึ้น
โดยบริษัทคาดว่า ถ้าการปรับปรุงทุกอย่างแล้วเสร็จ และสามารถเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิตได้ ก็จะมาชดเชยส่วนขาดทุนดังกล่าวได้ในที่สุด
(ในแง่ของนักลงทุน จะเชื่อตามที่บริษัทแจ้งหรือไม่ ตัดสินกันเอาเอง)
**** ความเห็นส่วนตัว การบันทึกค่าใช้จ่ายจำนวนมากนี้ ทั้งๆที่รู้ว่าหุ้นกำลังจะเอาเข้าตลาด มันขัดกันอย่างมาก ถ้าเป็นบริษัทบางแห่ง จะแต่งงบให้สวย อะไรที่รอไปจ่ายหลังเข้าตลาดได้ก็เอาไว้ค่อยทำ เพราะทุกคนรู้ดีกว่า ถ้างบห่วย การเข้าตลาดอาจไม่ประสบความสำเร็จ
แต่ TFG กลับเลือกที่จะทำงบให้แย่ก่อนเข้าตลาด (ก่อนหน้านี้บริษัทไม่มีขาดทุนสะสม เพิ่งมาเกิดขึ้นในปี 2558) อาจจะเป็นเพราะ จากเดิมที่ทำเป็นธุรกิจครอบครัว ไม่ได้จดทะเบียน การทำบัญชีอาจมีบางส่วนที่ไม่ได้ตามมาตรฐานที่ควรเป็น เมื่อจะเข้าตลาด จึงจำเป็นต้องปรับการทำบัญชีให้เป็นมาตรฐานมากขึ้น โดยอะไรที่ผู้สอบบัญชีเห็นว่าควรต้องบันทึกขาดทุน ก็ต้องทำ
หรืออาจจะเป็นด้วยเหตุผลอื่น ก็แล้วแต่จะคาดเดากันไป
แต่ ถ้าคุณตัดสินใจจองหุ้นแล้ว คุณไม่มีสิทธิมาต่อว่า บริษัทขาดทุนจะเอาเข้าตลาดทำไม เพราะเขาแจ้งเอาไว้ในหนังสือชี้ชวนอย่างชัดเจนแล้ว ไม่ต่างกับตอน PACE และ ANAN
ถ้าคุณไม่อยากจองหุ้น IPO ที่ผลประกอบการขาดทุน ก็อย่าจอง ไม่ใช่จองไปก่อนหวังว่ามันอาจจะสร้างกำไรให้ แต่พอมันเปิดต่ำ ก็ออกมาร้องโวยวาย แบบนี้เรียกว่าโง่เอง โทษใครไม่ได้
***** ความเห็นส่วนตัว******
1.95 บาท เป็นการลดราคาที่ทำให้เกิดความเร้าใจขึ้นมาบ้าง แต่ตัวผมเองยังไม่ค่อยมั่นใจเลยว่าจะจองหุ้นตัวนี้หรือไม่
พูดกันตรงๆนะ ผมกลัวมันจะ "ต่ำจอง" ด้วยเหตุผลว่า เป็นหุ้นที่ทำ IPO จำนวนมาก และที่สำคัญก็คือ บริษัทยัง "ขาดทุน" อยู่ ซึ่งอาจมีความเป็นไปได้ที่ TFG อาจถูกกดราคาจนต่ำจอง เพื่อรอดูว่า รายได้ในอนาคตจะชดเชยยอดขาดทุนนี้ได้หรือไม่ เรารอซื้อตรงนั้นไม่ดีกว่าหรือ??
แต่อีกใจหนึ่งก็มองว่า ราคาที่นักวิเคราะห์หลายโบรกทำไว้ ก็ให้ราคาแถวๆ 2.50 - 2.90 บาท การทำ IPO ที่ 1.95 บาท ก็มีส่วนลดมากแล้วเหมือนกัน
เอาเป็นว่า ผมยังสองจิตสองใจอยู่ และผมไม่ขอฟันธงสำหรับตัวนี้ว่า ผมจะจองหรือเปล่า? นะครับ
แนะนำให้เข้าเวบตลาดแล้วอ่านหนังสือชี้ชวน แล้วค่อยตัดสินใจครับ
Cr.Wattana Stock Page
-----------------------------------------------------------------------------
ส่วนตัว ผมว่าเรื่องผลประกอบการของบริษัท มีผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุนอยู่แล้วครับ (รวมถึงตัวผมเองด้วย --") แล้วยิ่งเป็นหุ้น IPO นะ เรื่องกำไรขาดทุนนี่สำคัญเลย ส่วนราคาที่ประกาศมาผมว่าค่อนข้างน่าสนใจอยู่ (ถูกกว่าที่คิดไว้ตอนแรก)
แล้วเพื่อนๆ คิดว่าไงกันมั่งครับ กับ TFG ที่ราคานี้ ?