สงสารพวกองุ่นเปรี้ยว เล่นว่าวไปพลางๆ ก่อนน่ะ

ขนาดหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ขวัญใจเสื้อแดง ยังต้องเขียนชม  สงสารพวกองุ่นเปรี้ยวจัง  เล่นว่าวไปพลางๆ ก่อนน่ะ
ความจริงก็คือความจริงๆ  

อ้อ '''  ไม่ต้องเข้าด่าน่ะ ไม่เข้ามาอ่าน วันไหนอยากจะมาตั้งกระทู้ ก็จะเข้ามาตั้งเฉยๆ  แถวนี้เจ้าที่แรง

ไทยรัฐ ฉบับ  28  กันยายน  2558

ผลจากการเปลี่ยนรัฐมนตรีต่างประเทศ เป็น ดอน ปรมัตถ์วินัย ส่งผลให้การเดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ 70 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง ถ้าหากกระทรวงต่างประเทศ สามารถหาเสียงให้ประเทศไทย ได้เป็น 1 ใน 10 สมาชิกไม่ถาวร ของ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ UNSC สำเร็จ ชื่อเสียงของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็จะยิ่งโด่งดังเป็นที่นับหน้าถือตาของสังคมโลก จนมีคนอิจฉาเลยแหละ

พล.อ.ประยุทธ์ ไปร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติครั้งนี้ในฐานะ นายกรัฐมนตรีจากการปฏิวัติ แถมยังเป็น หัวหน้าคณะปฏิวัติ เสียด้วย ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีจากรัฐบาลเลือกตั้ง

หัวข้อการประชุมของสหประชาชาติครั้งนี้เป็นเรื่อง การพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อขจัดความยากจน และลดความเหลื่อมล้ำ ถือว่า เข้าทางประเทศไทย และ เข้าทาง พล.อ.ประยุทธ์ อย่างเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยทีเดียว สปีช ของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่แสดงในที่ประชุมยูเอ็น เขียนได้ยอดเยี่ยม ส่งผลให้ภาพลักษณ์ประเทศไทยในเวทีโลกค่อนข้างโดดเด่น จนลืมไปเลยว่ารัฐบาลไทยวันนี้เป็นรัฐบาลทหารที่มาจากการปฏิวัติ

ลองอ่านตัวอย่างสปีชเป็นแซมเปิลเสียหน่อยครับ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญในการสร้างโอกาสในสังคมและการเข้าถึงแหล่งทรัพยากรของประเทศอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ต้องการทิ้งใครไว้ข้างหลัง ไม่ต้องการให้สังคมไทยมีการใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง เบียดบังผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ สร้างความแตกต่าง แบ่งแยก เอารัดเอาเปรียบ จนเกิดความอยุติธรรม และนำไปสู่การทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นรากเหง้าแห่งปัญหาความขัดแย้งและความแตกแยกในสังคมไทยขณะนี้

บิ๊กตู่ ยังได้ประกาศถึง วิสัยทัศน์ประเทศไทย 2015–2020 ประเทศมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง ประชาคมยั่งยืน โดยใช้แนวทางการพัฒนาประเทศตามหลัก ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนและทั่วถึง บนหลักความพอประมาณ มีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกัน เพื่อเอาชนะความเสี่ยงและการเปลี่ยนแปลงต่างๆจากทั้งภายในและภายนอกประเทศ

และมีการเสริมสร้างพื้นฐานทางจิตใจ ของคนในชาติทุกระดับ ให้มีคุณธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต มีความรู้ที่เหมาะสม ดำเนินชีวิตด้วยความอดทนและรอบคอบ การแก้ไขความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม จะใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง เน้นการพึ่งพาตนเอง มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่เน้นวัตถุนิยม บริโภคนิยม ด้วยการสร้างรายได้ที่ปราศจากความรับผิดชอบต่อสังคมและส่วนรวม ปลูกฝังให้คนมีความสมดุล ระหว่างการผลิตกับการบริโภค มีจิตสำนึกที่เอื้ออาทร อยู่กับธรรมชาติอย่างกลมกลืน

ก็อย่างที่ผมเขียนชมไปว่า ผู้เขียนสปีชเขียนได้ยอดเยี่ยม ใครได้ฟังก็ทึ่งทั้งนั้น ก็ได้แต่หวังว่า เมื่อกลับมาแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินหน้าพัฒนาประเทศตามสปีชนี้ ถ้าทำได้จริงประเทศไทยจะพลิกจากหลังมือเป็นหน้ามือเลยทีเดียว

จากเวทียูเอ็น พล.อ.ประยุทธ์ มีโอกาสไปแสดงสปีชกับ สภาธุรกิจสหรัฐฯ—อาเซียน รวมทั้งตัวแทนบริษัทยักษ์ใหญ่ชั้นนำของสหรัฐฯ เช่น แกล็กโซสมิธไคลน์, ไฟร์เซอร์, ดิอาจิโอ, โคคาโคลา, ฟอร์ด มอเตอร์, เชฟรอน, เฟดเอ็กซ์, กูเกิล, ไอบีเอ็ม, ออราเคิล วีซ่า, มาสเตอร์การ์ด ไปจนถึงบริษัทบุหรี่ยักษ์ใหญ่อย่าง ฟิลิปส์ มอริส

พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันกับนักธุรกิจสหรัฐฯว่า จะเดินหน้าตามโรดแม็ป การเลือกตั้งจะมีขึ้นในปี 2560 เวลาที่มีอยู่จะใช้ในการปฏิรูปประเทศ และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ ควบคู่ไปกับการป้องกันและปราบปรามคอร์รัปชัน

สปีชทั้งหมดของ พล.อ.ประยุทธ์ ในงานนี้ สร้างคะแนนให้ประเทศไทยมากเลยทีเดียว แถมยังหยอดท้าย ทอดไมตรีกับสหรัฐฯ ในอนาคตไทยอาจตัดสินใจเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ หุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) ที่ สหรัฐฯ เป็นหัวเรือใหญ่ ด้วยประโยคหลังนี้ทำเอามะกันปลื้มเลยแหละ เพราะหมู่นี้ ไทยเอียงข้างจีน จนน่าเกลียด.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่